ใครล้มละลายบ้าง...อยากทราบวิธีการสร้างกำลังใจ

กระทู้คำถาม
ใครถูกฟ้องหรือเป็นหนี้ ล้มละลายบ้างคะ อยากรู้วิธีการสร้างกำลังใจ หรือประสบการณ์ชีวิตที่ต้องดิ้นรนหรือความคิดของแต่ละคนที่อยู่ในสภาวะล้มละลายคะ ช่วยชี้แนะหน่อยนะคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 22
ส่วนตัวไม่เคยอยู่ในภาวะล้มละลายทางเครดิต  คือไม่ถึงกับถูกศาลฟ้องล้มละลาย  เพราะระดับธุรกิจไม่ได้ใหญ่โตขนาดนั้น  แต่ก็เจ๊งธุรกิจนั้นแหละ  เคยอยู่ในภาวะล้มละลายทางการเงิน  จากมีเงินระดับ 7 หลัก  กลับมาเหลือเงินสดทั้งเนื้อทั้งตัวสองสามแสน   มีหนี้ที่ต้องผ่อนบ้านตอนนั้นเดือนละ 5 หมื่นบาท  มีหนี้จากการหมุนเงินผ่านบัตรเครดิตอีก 5 ใบ(หมุนเงินมาใส่ธุรกิจที่ขาดสภาพคล่อง  เพราะไม่มีเงินสด  ไม่ได้เอามาใช้จ่ายฟุ่มเฟือย)  หนี้บัตรรวมๆแล้วเกือบล้าน  ไม่ได้ชักดาบเลยซักบาท  จ่ายเต็มครบ  เป็นลูกหนี้ชั้นดีมาก   55555  

เราไม่เคยขอกำลังใจจากใคร  ไม่เคยเรียกร้องใครให้มาสงสาร  เป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก  ซืึ่งมันอาจจะไม่ใช่ข้อดีเท่าไหร่  คิดเองทำเองสู้เองคนเดียว  ไม่เคยขอเงินใครมาเติม   ที่บ้านครอบครัวไม่มีใครรู้ว่าเรากำลังถังแตก(ไม่ได้เกาะพ่อแม่กิน  เราแยกบ้านออกมาอยู่เองต่างหาก  แต่ก็อยู่ใกล้กันมากๆ)  เพราะเราก็ใช้ชีวิตปกติ  คือไม่อยากทำตัวให้พ่อแม่ต้องเป้นห่วง  อีกอย่างคือ   เราหน้ามันบาง  ไม่กล้าที่จะขอความช่วยเหลืออะไรจากใคร  และคิดว่า  ตอนนั้นอีโก้เราสูงมาก  ด้วยอายุที่ัยังน้อยแล้วคิดว่ากรูแน่มาก  และยอมรับไม่ได้ว่าเราผิดพลาดอย่างแรง  คิดว่าตัวเองเก่งไม่น่าพลาดได้ขนาดนั้นเลย   ถ้าคนไม่สังเกตจะไม่รู้เลยว่า  ชีวิตตอนนั้นเรามีอะไรเปลี่ยนแปลงไป   อดทนมากกว่าจะรอดมาได้ใช้เวลา 3-4 ปี  กระอักเลือดจะอ๊วกเหมือนกัน  ปัจจุบันดีดกลับมาในระดับที่พออยู่พอกินเลี้ยงตัวเองได้สบายๆ  ไม่มีหนี้  แต่ยังไม่ถึงขนาดร่ำรวยอะไร

เราแยกปัญหาออกเป็น 2 อย่าง คือ  ปัญหาทางใจกับปัญหาทางธุรกิจ   สิ่งที่เจอมาส่วนตัวเราคิดว่า  ปัญหาทางใจแก้ยาก  เราเองอาจจะมีปัญหาไม่เหมือนคนอื่น  คือเราคิดว่าเราเป้นกรณีที่เป็นคนเก่งล้มดัง  มันล้มแล้วหงายท้องลงไปนอนนับเลย   คนมันจะคิดมาก  นอนไม่หลับอะไรแบบนั้น  ก็ต้องพยายามทำให้จิตใจสงบ  ต้องอ่านหนังสือธรรมมะแยะๆ  อย่างตัวเราก่อนนอนจะพยายาม  ฟังพระเทศน์  หรืออ่านธรรมมะก่อนนอน  อ่านๆไปเรื่อยๆจนกว่าจะง่วง  เพื่อไม่ให้สมองไปคิดเรื่องลบๆ   เพราะไม่อย่างนั้นมันจะคิดอะไรไปเรื่อยๆแล้วจิตจะตก  จำได้ว่าตอนนั้นเครียดขนาดว่า  ฟังเพลงที่เคยชื่นชอบมากๆแล้วมันฟังไม่เพราะ  ฟังไม่เข้าหูเลย   จะเล่นดนตรีแก้เซ็ง  ก็เล่นไม่ได้  นั่งเล่นกดคีย์ไป  เสียงเพลงช่วยอะไรไม่ได้เลย  เพราะจิตใจมันคิดไปตลอดว่า  จะหมุนเงินรอบหน้ายังไงดี  ฮาาาาาา   โชคดีมากๆที่เมืองไทยเป็นเมืองศาสนาพุทธ   ธรรมมะช่วยได้จริงๆ  ไม่ต้องไปหายานอนหลับ  ไม่ต้องไปพึ่งที่ปรึกษา  แค่ไปเหมาหนังสือธรรมท่านพุทธทาสของสำนักพิมพ์อัมรินทร์มาให้หมด  เป็นเล่มเล็กๆมีหลายเล่มแล้วนั่งอ่านไปเรื่อยๆ  ตอบปัญหาทางใจได้หมด

ส่วนปัญหาทางธุรกิจ  ให้มองปัญหาที่ละจุด  ค่อยๆแก้ไปที่ละข้อ   เลือกลำดับก่อนหลัง  ความสำคัญอันไหนมาก่อน  ต้องเขียนลงไปเป็นฉากๆเลย  ว่าต้องทำอะไรมั๊ง  เพื่อจะแก้ปมไปที่ละข้อ  เรื่องการเงินต้องใจเย็นๆ  เราเองเป็นคนที่  ชอบศึกษาหาความรู้ทางหนังสือมากกว่าที่จะไปปรึกษาใคร  อย่างเรื่องปัญหาทางเงินเราก็อ่านหนังสือ  แยะมาก  อ่านหมดแทบจะทุกเล่มที่มีวางขาย  แล้วเอาแต่ละข้อมาปรับใช้กับตัวเอง

สิ่งสำคัญที่ทำให้ผ่านช่วงยากลำบากมาได้  คือ  ทัศนะคติในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง  และมีวินัยในตัวเองสูงมาก  เราไม่กินเหล้า  ไม่ดับทุกข์ด้วยอบายมุขทุกประเภท  ไม่ออกไปเที่ยวไหนตอนกลางคืน  มันเปลื้องเงิน  นอนอยู่บ้านอ่านหนังสือ  ฟังเทศน์  ออกกำลังกาย  พยายามทำร่างกายให้แข็งแรง  เพื่อที่จะต่อสู้ต้องใช้สมองแยะ  

ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป  ต้องยอมรับในความผิดพลาดของตัวเองทั้งหมด  อย่าโทษโน่นนี้นั้น  ทุกอย่างที่ผิดพลาด  ต้องเขียนออกมาให้หมด  ว่ามันโดนอะไรเข้าไปตรงไหน  แล้วแก้ให้ตรงจุดๆที่เราทำผิด  เรียกว่าเราล้มครั้งเดียว  เราแก้นิสัยเสียๆตัวเองเกือบได้หมด  ทุกวันนี้การดำเนินชีวิตเปลี่ยนแนวคิดไปจากเดิมค่อนข้างมาก  เพราะการล้มในตอนที่เรายังอายุน้อย  มันดีอย่างที่เรามีเวลาแก้ตัว   ในขณะที่ชีวิตยังมีพลังงานต่อสู้แยะ

อีกเรื่องคือ  การล้มแล้วจะลุกขึ้นมาใหม่  มันจะมีปัญหาทั้งจากตัวเองและจากคนรอบข้าง  ยิ่งถ้าคุณเสียเครดิตแบบล้มละลายทางศาลด้วย  และมันจะยากกว่าการเดินรอบแรกก่อนที่จะล้ม   แน่นอนว่าปัญหาทางใจ  มันจะหลอกหลอนติดกับตัวเราไปซักพัก   เราจะกลัวที่จะล้มอีกครั้ง  การตัดสินใจทำอะไรหลังจากล้มแล้วมันจะยากขึ้น  จะขาดความมั่นใจมากๆที่จะทำอะไรใหม่ๆ  เพราะกลัวจะโดนอีกรอบ  อันนี้ต้องพยายามดึงตัวเองออกจากวังวนความกลัว  สิ่งที่เราทำคือ  เราจะพยายามศึกษาทุกสิ่งทุกอย่างให้ละเอียดรอบครอบเท่าที่จะทำได้  และพยายามเริ่มต้นให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้  ความผิดพลาดจากความไม่รู้จะต้องเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด   หลังจากล้มแล้ว  สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ  ต้องทำอะไรเล้กๆ  แต่คิดให้มันใหญ่ๆไว้ก่อน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่