ด้วยการที่ต้องการจะ เสกสรรค์ปั้นแต่ง "คู่กรรม" ให้เป็นหนังอาร์ต ของใครต่อใครหลายคน ผมเลยอยากจะรู้ ที่บอกว่า"อาร์ต" มันไปซ่อนอยู๋ส่วนไหนของหนัง...
สิ่งที่คนดูส่วนใหญ่ รับไม่ได้กับภาพยนต์เรื่องนี้ คือ "ภาพองค์รวมทั้้งหมด"ของภาพยนต์ การที่จะสร้างภาพยนต์สักเรื่องหนึ่งแล้ว แล้วให้คนซื้อตั๋วเขาไปชม...แล้วทำออกมาแบบนี้ มันคุ้มกับค่าตั๋วไหม...(ซึ่งไม่ใช่ถูกๆ....)
แค่บทพูดของตัวประกอบฝ่ายไทย...บทพูดยังกับออกมา
ท่องอาขยานหน้าห้องเรียนสมัยเรียนประถม..แค่ฉากแรก...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่มีตัวแสดงมายืนของยาแก้มาลาเรียที่บันได ไม่รู้ว่าผู้กำกับปล่อยผ่านออกมาได้อย่างไร... บทการท่องอาขยานมีเป็นสิบฉากในหนัง แสดงถึงการทำงานอย่างสุกเอาเผากิน...อย่างนี้หรือจะเรียกว่า "หนังอาร์ต" อาร์ต แปลว่า "ศิลปะ" แต่การกำกับของผู้กำกับ ไม่รู้ว่าเป็น "ศิลปะแขนงไหน จะคิดว่าสร้างออกมาอย่างไรก็ได้ คนก็จะแห่กันไปดู...เพราะมีพระเอกเป็นตัวชูโรง...
ดูถูกความคิดตนเองเกินไปหรือเปล่า
การแสดงของพระเอกถือว่ายอดเยี่ยม....(น่าเป็นความสามารถส่วนบุคคล) แต่การที่ภาพยนต์เรื่องหนึ่งจะดีได้นั้น....พระเอกแสดงได้ดีเพียงคนเดียว....มันก็คงไปไม่รอด...เสียดายโอกาส เสียดายการแสดงของณเดชน์ เสียดายวรรณกรรม เสียดายความคาดหวังของผู้ชม เสียดายที่สุดคือ เสียดายตังค์และเวลาได้เข้าไปชม
อยากให้บอก...คนจะที่เข้าไปชมความเป็น "อาร์ต"ของภาพยนต์ หน่อยว่า ฉากไหน ซีนไหน จะต้องตีความในเชิงสัญลักษณ์ของภาพยนต์อย่างไร....ถึงจะกระจ่างแจ้ง...ถึงความเป็น "อาร์ต"
มิฉะนั้นก็เป็นการ
ส่งแมงเม่าบินเข้ากองไฟ เอาเงินเอาทองไปเสียให้กับความมักง่ายของผู้กำกับและค่ายหนัง โดยที่ยังไม่มีการย้อนสำนึกทบทวน ...เสียแล้วก็เสียไป...คราวหน้าก็จะเอาใหม่อีก
ดู "คู่กรรม" อย่างไรให้เป็นหนังอาร์ต ช่วยบอกหน่อย
สิ่งที่คนดูส่วนใหญ่ รับไม่ได้กับภาพยนต์เรื่องนี้ คือ "ภาพองค์รวมทั้้งหมด"ของภาพยนต์ การที่จะสร้างภาพยนต์สักเรื่องหนึ่งแล้ว แล้วให้คนซื้อตั๋วเขาไปชม...แล้วทำออกมาแบบนี้ มันคุ้มกับค่าตั๋วไหม...(ซึ่งไม่ใช่ถูกๆ....)
แค่บทพูดของตัวประกอบฝ่ายไทย...บทพูดยังกับออกมาท่องอาขยานหน้าห้องเรียนสมัยเรียนประถม..แค่ฉากแรก...[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ไม่รู้ว่าผู้กำกับปล่อยผ่านออกมาได้อย่างไร... บทการท่องอาขยานมีเป็นสิบฉากในหนัง แสดงถึงการทำงานอย่างสุกเอาเผากิน...อย่างนี้หรือจะเรียกว่า "หนังอาร์ต" อาร์ต แปลว่า "ศิลปะ" แต่การกำกับของผู้กำกับ ไม่รู้ว่าเป็น "ศิลปะแขนงไหน จะคิดว่าสร้างออกมาอย่างไรก็ได้ คนก็จะแห่กันไปดู...เพราะมีพระเอกเป็นตัวชูโรง...ดูถูกความคิดตนเองเกินไปหรือเปล่า
การแสดงของพระเอกถือว่ายอดเยี่ยม....(น่าเป็นความสามารถส่วนบุคคล) แต่การที่ภาพยนต์เรื่องหนึ่งจะดีได้นั้น....พระเอกแสดงได้ดีเพียงคนเดียว....มันก็คงไปไม่รอด...เสียดายโอกาส เสียดายการแสดงของณเดชน์ เสียดายวรรณกรรม เสียดายความคาดหวังของผู้ชม เสียดายที่สุดคือ เสียดายตังค์และเวลาได้เข้าไปชม
อยากให้บอก...คนจะที่เข้าไปชมความเป็น "อาร์ต"ของภาพยนต์ หน่อยว่า ฉากไหน ซีนไหน จะต้องตีความในเชิงสัญลักษณ์ของภาพยนต์อย่างไร....ถึงจะกระจ่างแจ้ง...ถึงความเป็น "อาร์ต"
มิฉะนั้นก็เป็นการ ส่งแมงเม่าบินเข้ากองไฟ เอาเงินเอาทองไปเสียให้กับความมักง่ายของผู้กำกับและค่ายหนัง โดยที่ยังไม่มีการย้อนสำนึกทบทวน ...เสียแล้วก็เสียไป...คราวหน้าก็จะเอาใหม่อีก