คู่กรรม โดย เรียว กิตติกร : คนดูหนังมีหัวใจของคุณ ผู้กำกับหนังมีเหตุผลของเขา :โก-อัง น้อยนิดมหาศาล เรารักนาย...

พื้นเพ จขกท  :  ไม่เคยอ่านนิยายคู่กรรม  เคยดูหนัง 2 เวอร์ชั่น  วรุฒ-จินตหรา , เบิร์ด -อุ๋ม  ส่วนละครไม่ได้ติดตามมากนัก   ความรู้สึกส่วนตัว ไม่ตรึงใจกับเรื่องราวความรักของคู่กรรมสักเท่าไหร่



บทความนี้ไม่เชิงเป็นการ รีวิว  แต่เป็นความรู้สึกส่วนลึกของผู้เขียน




เพิ่งกลับมาจากดูหนังเรื่อง คู่กรรม โดย เรียว กิตติกร  

รู้สึกประทับใจมาก  แต่สิ่งที่ยากคือ จะสื่อให้คนอื่นรู้ได้อย่างไรว่าทำไมถึงชอบหนังเรื่องนี้ (มาก) เพราะเรากลับคิดไม่เหมือนคนอื่นๆ  ดูแล้วเข้าใจทุกอย่างว่าทำไมถึงโดนด่า  มันเป็นหนังที่จะถูกคนดูโห่ได้อย่างง่ายๆ...ด้วยหลายๆเหตุผล

เป็นหนังที่เหมาะสำหรับคนชอบ "ของแปลก" พวก หนังอาร์ต หนังเซอร์ เท่านั้น (แต่ก็ไม่รับประกันว่าคอหนังอาร์ตทุกคนจะชอบ)

    คู่กรรม ฉบับ เรียว กิตติกร จะเรียกว่าเป็นการตีความใหม่ดูจะไม่ถูกต้องนัก  แต่เป็นการดึงเนื้อเรื่องในบทประพันธ์มาเพียงน้อยนิด  และสร้างรูปแบบภาพยนตร์ของตัวเองขึ้นมาโดยอิงบทประพันธ์มากกว่า  เป็นทั้งการคารวะและยั่วล้อ   แต่จะเป็นการย่ำยีบทประพันธ์อย่างที่ถูกกล่าวหาหรือไม่   สำหรับคนที่รักวรรณกรรมเรื่องคู่กรรมอาจรู้สึกเช่นนั้น  แต่สำหรับคนนอกอย่างฉัน   การที่หนังเรื่องนี้ทำให้ฉันซาบซึ้งได้  ฉันไม่เรียกว่าการย่ำยี   เพราะมันทำให้คนที่ไม่ชอบนิยายรักที่มีพระเอกนางเอกแบบอุดมคติอย่างฉันรู้สึกรักและอยากเข้าไปสัมผัสนิยายเรื่องนี้ผ่านตัวอักษรดูสักครั้ง  

  คู่กรรมของเรียว กิตติกร  สร้างตัวละครโกโบริ-อังศุมาลินใหม่ให้กลายเป็น "คนธรรมดา" ไม่ใช่ "พระเอก-นางเอกในอุดมคติ"  ทั้งคู่ดูไร้เดียงสามากกว่าจะเป็นตัวละครที่เปี่ยมอุดมการณ์และเต็มไปด้วยปมขัดแย้งในใจแบบที่นิยายชอบสร้างขึ้น    เรียวล้มรูปแบบโครงสร้างเก่าๆและสร้างโลกเฉพาะของเขาขึ้นมา    สงครามในคู่กรรมฉบับนี้ช่างน่าขันยิ่งนัก เพราะเป็นภาพที่แสนจะขัดแย้งกับความอ่อนเยาว์ไร้เดียงสาของโกโบริและอังศุมาลิน   ไม่เพียงแต่ทั้งคู่จะไร้เดียงสาเรื่องสงคราม-การเมือง  ในเรื่อง "ความรัก" ก็ยังเป็นแค่เพียงเด็กน้อย...

  เนื้อหาในคู่กรรมฉบับนี้ไม่ได้ถูกขับเน้นมากนัก  สิ่งที่เด่นกว่าคือ "รูปแบบ"  น่าจะเรียกได้ว่าหนังเรื่องคู่กรรมโดย  เรียว กิตติกร เป็นหนังที่รับใช้รูปแบบมากกว่าจะรับใช้เนื้อหาซับซ้อนใดๆ   หนังมีทั้งส่วนผสมของการ์ตูนญี่ปุ่น  ละครโทรทัศน์  และหนังอาร์ต  ขณะที่ดูหนังมีกลิ่นอายของหนังแนวอาร์ตอย่าผู้กำกับ เป็นเอก รัตนเรือง, อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ,หรือหนังเชิดชูรูปแบบอย่าง ฟ้าทะลายโจร ของวิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง    แต่เนืองจากรูปแบบของเรียว กิตติกร ยังคงไม่เข้าที่นัก  ดูประดักประเิดิดน่าขันในหลายๆครั้ง   แต่ถึงอย่างไรก็ยังน่าสนใจ ถ้าเขาจะพัฒนาลักษณะงานของตัวเองในครั้งต่อไป   แต่ที่ทำให้งานของเรียว กิตติกรชิ้นนี้ไม่เข้ากลุ่มหนังอาร์ตเฮ้าส์ได้อย่างสนิทใจ   เพราะมันดูก้ำกึ่งว่าจะเป็นงานตลาดหรืองานทดลองกันแน่   โดยตัวหนังคู่กรรมเองก็มีการประชาสัมพันธ์ว่าเป็นหนังแนวตลาดตามที่ทุกคนเข้าใจ แต่แท้จริงแล้วมันคือหนังที่ "เซอร์เกือบเต็มขั้น"


  การแสดงของนางเอกหน้าใหม่  ริชชี่  อรเณศ  ดีบาคาเดส  ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากนั้น  ต้องเรียกว่าเธอตกอยู่ในสถานะ "แพะ" อย่างแท้จริง  ทั้งความเป็นคู่กรรม บทอังศุมาลิน ซุปเปอร์สตาร์ณเดชน์   ทั้งยังการผูกโยงเรื่องผู้จัดการดาราและเส้นสาย     ทั้งรูปแบบใหม่ของหนังที่คนไม่เข้าใจ     ในสายตาของฉัน  เธอไม่ใช่ส่วนที่เลวร้ายของหนังเลย   จริงๆเธอมีลักษณะที่ "เชื่อมโยง"และ "รับใช้รูปแบบหนัง"ที่คุณเรียวสร้างขึ้นด้วยซ้ำ     สิ่งที่น่าเสียดายคือการแสดงออกทางสายตาในหลายฉาก มันช่างว่างเปล่าและไม่สื่อความหมาย   ถ้าผู้กำกับจะเคี่ยวกรำเธออีกสักนิด คงจะทำให้หนังสมบูรณ์ขึ้นมาก     ส่วน ณเดชน์  ฉันไม่คิดว่าเขาจะ"ปล่อยของ"มากมายอย่างที่แฟนคลับเชิดชู  ด้วยบทไม่ได้เปิดโอกาสให้เขาแสดงอารมณ์ซับซ้อนอะไรมากมายนัก   แต่การทำหน้าที่ของเขาก็ไม่มีจุดใดให้ตำหนิ ทั้งการทุ่มเทและเอาใจใส่ในบท และวิธีการพูด     แต่สุดท้ายแล้วไม่ใช่ณเดชน์ที่ทำให้ฉันเกิดอาการซาบซึ้ง ซึม จุกในอก  แต่เป็นการแสดงของนางเอกในตอนท้ายสุด  การกำกับมุมภาพในห้วงเวลานั้น   เหมือนฝัน...เหมือนความตาย...เหมือนการตื่น...  

ตลอดเวลาที่ดูหนังเรื่องนี้ฉันไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งหรือพึงพอใจฉากไหนเป็นพิเศษ   ฉัน “รู้สึก” กับมันก็เมื่อหนังดำเนินมาถึงฉากจบ…  หนังเรื่องนี้ใช้วิธีในแบบของหนังอาร์ตหลายๆเรื่องที่ดำเนินเรื่องโดยตัดทอนอารมณ์ดราม่าให้น้อยที่สุด    เสนอเรื่องราวต่างๆเหมือนภาพผ่านที่ไม่สลักสำคัญ    แต่สร้างอารมณ์โหยหาและหวนคิดถึงภาพเก่าๆในตอนที่หนังจบลง

  บทความของฉันอาจจะดูเป็นการ "อวย" หนังเรื่องคู่กรรม ของ เรียว กิตติกร    แต่ฉันคิดว่ามันคือการ "ไล่แขก" มากกว่า  แค่เปรียบเทียบว่ามีกลิ่นของเป็นเอกและคุณเจ้ย อภิชาติพงศ์ คนก็คงอยากจะหลีกไกลแล้ว   ใครเลยจะอยากดูหนังแปลกๆประหลาดๆ รสชาติแปร่งไม่คุ้นเคยที่ใช้นิยายอมตะยอดฮิตอย่างคู่กรรม... สิ่งที่อยากบอกผู้กำกับ คุณเรียว กิตติกร คือ  แม้ว่าใครๆจะก่นด่าและไม่เข้าใจงานของคุณ  แต่ฉันอยากบอกว่า "เรารักนาย"  คู่กรรม : เรียว กิตติกร   คู่กรรมฉบับที่ฉันชอบที่สุด...



แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่