'ยิ่งลักษณ์'เสียใจเหตุลอบวางระเบิดรองผู้ว่าฯยะลา ย้ำ"เฉลิม" กำลังจะลงชายแดนใต้
เมื่อเวลา 09.15น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ของนายอิศรา ทองธวัช รองผู้ว่าฯยะลา และป้องกันจังหวัดยะลา จนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีเสียงวิจารณ์ว่าคนร้ายยกระดับความรุนแรงมากขึ้น ว่า ยังไม่อยากสรุปให้แบบนั้น แต่เรียนว่ารู้สึกเสียใจกับเ...หตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้กำชับเจ้าหน้าที่ทางยุทธวิธีในการดูแลความปลอดภัยทั้งส่วนของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ จ.ยะลา ให้มากขึ้น และจากเหตุการณ์นี้ทำให้เราต้องมาพูดคุยกันว่าจะมีวิธีดูแลความปลอดภัยในพื้นที่อย่างไรและเราต้องระวังให้มากขึ้น ขณะเดียวกันต้องสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วย ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ของนายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย ทำให้ตนถือโอกาสพูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิตไปแล้ว
เมื่อถามว่า ขวัญกำลังใจของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างไร หลังเกิดเหตุรุนแรงต่อเนื่องกับเจ้าหน้าที่ ทั้งเหตุคนร้ายอุ้มทหารนาวิกโยธินและทำร้ายจนเสียชีวิต จนถึงทำร้ายรองผู้ว่าฯจ.ยะลา น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ยังมีขวัญและกำลังใจดี แต่ในบางพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่เฉพาะก็ต้องลงไปให้กำลังใจและดูแลเรื่องเครื่องมือต่างๆ โดยเพิ่มในส่วนที่จำเป็นมากขึ้น เช่น รถยนต์ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่มากขึ้น ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องต้องกลับไปประเมินและดูว่ามีอะไรที่ยังดูแลเจ้าหน้าที่ได้ไม่ครบ และจะกำชับนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ์ รมว.มหาดไทย และฝ่ายความมั่นคงลงพื้นที่ไปดูแลอย่างใกล้ชิดให้มากขึ้น
เมื่อถามว่า ถึงเวลาที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ดูแลรับผิดชอบภาพรวมการแก้ปัญหาภาคใต้จะลงพื้นที่ด้วยตัวเอง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ก็ควรจะลงไป ท่านเองก็เตรียมจะลงไปอยู่แล้ว และวันนี้ได้ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอด เพราะเรามีสถานที่ติดตามสถานการณ์อยู่แล้ว เพราะการลงพื้นที่บางครั้งก็เป็นข้อดี แต่บางครั้งก็น่ากังวลใจด้วยเช่นกัน หากลงไปเป็นคณะใหญ่อาจทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนักและมาดูแลมากขึ้น และทุกวันนี้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยต่างๆ สามารถติดตามละเชื่อมการประสานงานได้ทุกกลุ่มอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงข้อสังเกตว่า ถึงแม้รัฐบาลจะพูดคุยกับแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น แต่ทำไมยังเกิดเหตุการณ์รุนแรงต่อเนื่อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้นำประเด็นมารวมกัน เพราะการที่สภาความมั่นคง(สมช.)ของไทย ไปพบกับแกนนำนั้น เป็นเพียงการเริ่มต้นที่พูดคุย ยังไม่เข้าสู่การเจรจาใดๆทั้งสิ้น ดังนั้นยังไม่มีอะไรที่เป็นจุดเริ่มต้น ส่วนเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดจากความขัดแย้งที่มีมานานนั้น การพูดคุยเพียงครั้งหรือสองครั้งอาจยังไม่ทำให้เกิดความไว้วางใจ เปรียบเหมือนกับคนที่มีความไม่เข้าใจที่ตรงกันมาเป็นเวลานานและฝังอยู่ในความรู้สึกจนเกิดความน้อยใจ เมื่อเจอกันก็ต้องพูดคุยให้เกิดความสบายใจกันก่อนแล้วถึงเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปคือการเจรจา ตอนนี้ยืนยันว่ายังเป็นการพูดคุยกันเท่านั้น อย่างไรก็ตามแม้จะพูดคุยแต่มาตรการดูแลความสงบยังต้องทำต่อไป
ต่อข้อถามว่า รัฐบาลยืนยันที่จะใช้แนวทางพูดคุยต่อไปแม้จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นในพื้นที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เรามองว่าเป็นทางหนึ่ง แต่ไม่ใช่ว่าเป็นทางเดียวแล้วเราจะไปหวังยึดทางนี้ว่าจะแก้ได้ ซึ่งในหลายที่ในหลายประเทศไม่ได้ใช่เวลาแค่ครั้งสองครั้งแล้วจะแก้ปัญหาจบ แต่ถือเป็นหนึ่งในวิธีแก้ปัญหา โดยที่การสร้างความเข้าใจและพัฒนาพื้นที่ก็ต้องอยู่เหมือนเดิม ต้องทำทุกทางที่มีโอกาสจะแก้ปัญหา
เมื่อถามกรณีที่ฝ่านค้านมองว่าพูดคุยสันติภาพของรัฐบาลถือว่าล้มเหลวเพราะยังเกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่อยู่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวย้ำว่า ไม่ใช่การเจรจา แต่พูดคุย เรายังไม่ได้เริ่มขั้นตอนเจรจาเลย ไม่อยากให้ด่วนสรุปแบบนั้นและอยากให้กำลังใจคนทุกส่วน เพราะถ้ามองอีกมุมคนในพื้นที่ก็ขานรับ นานาประเทศก็ขานรับกับวิธีการพูดคุยอย่างสงบ เราจึงต้องเดินหน้าและคิดว่าจะสร้างความเข้าใจอย่างไรมากกว่า
คมชัดลึก
ท่าน เฉลิม จะลงใต้แล้วครับ
เมื่อเวลา 09.15น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ของนายอิศรา ทองธวัช รองผู้ว่าฯยะลา และป้องกันจังหวัดยะลา จนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีเสียงวิจารณ์ว่าคนร้ายยกระดับความรุนแรงมากขึ้น ว่า ยังไม่อยากสรุปให้แบบนั้น แต่เรียนว่ารู้สึกเสียใจกับเ...หตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้กำชับเจ้าหน้าที่ทางยุทธวิธีในการดูแลความปลอดภัยทั้งส่วนของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ จ.ยะลา ให้มากขึ้น และจากเหตุการณ์นี้ทำให้เราต้องมาพูดคุยกันว่าจะมีวิธีดูแลความปลอดภัยในพื้นที่อย่างไรและเราต้องระวังให้มากขึ้น ขณะเดียวกันต้องสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วย ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ของนายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย ทำให้ตนถือโอกาสพูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิตไปแล้ว
เมื่อถามว่า ขวัญกำลังใจของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างไร หลังเกิดเหตุรุนแรงต่อเนื่องกับเจ้าหน้าที่ ทั้งเหตุคนร้ายอุ้มทหารนาวิกโยธินและทำร้ายจนเสียชีวิต จนถึงทำร้ายรองผู้ว่าฯจ.ยะลา น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ยังมีขวัญและกำลังใจดี แต่ในบางพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่เฉพาะก็ต้องลงไปให้กำลังใจและดูแลเรื่องเครื่องมือต่างๆ โดยเพิ่มในส่วนที่จำเป็นมากขึ้น เช่น รถยนต์ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่มากขึ้น ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องต้องกลับไปประเมินและดูว่ามีอะไรที่ยังดูแลเจ้าหน้าที่ได้ไม่ครบ และจะกำชับนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ์ รมว.มหาดไทย และฝ่ายความมั่นคงลงพื้นที่ไปดูแลอย่างใกล้ชิดให้มากขึ้น
เมื่อถามว่า ถึงเวลาที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ดูแลรับผิดชอบภาพรวมการแก้ปัญหาภาคใต้จะลงพื้นที่ด้วยตัวเอง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ก็ควรจะลงไป ท่านเองก็เตรียมจะลงไปอยู่แล้ว และวันนี้ได้ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอด เพราะเรามีสถานที่ติดตามสถานการณ์อยู่แล้ว เพราะการลงพื้นที่บางครั้งก็เป็นข้อดี แต่บางครั้งก็น่ากังวลใจด้วยเช่นกัน หากลงไปเป็นคณะใหญ่อาจทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนักและมาดูแลมากขึ้น และทุกวันนี้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยต่างๆ สามารถติดตามละเชื่อมการประสานงานได้ทุกกลุ่มอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงข้อสังเกตว่า ถึงแม้รัฐบาลจะพูดคุยกับแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น แต่ทำไมยังเกิดเหตุการณ์รุนแรงต่อเนื่อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้นำประเด็นมารวมกัน เพราะการที่สภาความมั่นคง(สมช.)ของไทย ไปพบกับแกนนำนั้น เป็นเพียงการเริ่มต้นที่พูดคุย ยังไม่เข้าสู่การเจรจาใดๆทั้งสิ้น ดังนั้นยังไม่มีอะไรที่เป็นจุดเริ่มต้น ส่วนเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดจากความขัดแย้งที่มีมานานนั้น การพูดคุยเพียงครั้งหรือสองครั้งอาจยังไม่ทำให้เกิดความไว้วางใจ เปรียบเหมือนกับคนที่มีความไม่เข้าใจที่ตรงกันมาเป็นเวลานานและฝังอยู่ในความรู้สึกจนเกิดความน้อยใจ เมื่อเจอกันก็ต้องพูดคุยให้เกิดความสบายใจกันก่อนแล้วถึงเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปคือการเจรจา ตอนนี้ยืนยันว่ายังเป็นการพูดคุยกันเท่านั้น อย่างไรก็ตามแม้จะพูดคุยแต่มาตรการดูแลความสงบยังต้องทำต่อไป
ต่อข้อถามว่า รัฐบาลยืนยันที่จะใช้แนวทางพูดคุยต่อไปแม้จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นในพื้นที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เรามองว่าเป็นทางหนึ่ง แต่ไม่ใช่ว่าเป็นทางเดียวแล้วเราจะไปหวังยึดทางนี้ว่าจะแก้ได้ ซึ่งในหลายที่ในหลายประเทศไม่ได้ใช่เวลาแค่ครั้งสองครั้งแล้วจะแก้ปัญหาจบ แต่ถือเป็นหนึ่งในวิธีแก้ปัญหา โดยที่การสร้างความเข้าใจและพัฒนาพื้นที่ก็ต้องอยู่เหมือนเดิม ต้องทำทุกทางที่มีโอกาสจะแก้ปัญหา
เมื่อถามกรณีที่ฝ่านค้านมองว่าพูดคุยสันติภาพของรัฐบาลถือว่าล้มเหลวเพราะยังเกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่อยู่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวย้ำว่า ไม่ใช่การเจรจา แต่พูดคุย เรายังไม่ได้เริ่มขั้นตอนเจรจาเลย ไม่อยากให้ด่วนสรุปแบบนั้นและอยากให้กำลังใจคนทุกส่วน เพราะถ้ามองอีกมุมคนในพื้นที่ก็ขานรับ นานาประเทศก็ขานรับกับวิธีการพูดคุยอย่างสงบ เราจึงต้องเดินหน้าและคิดว่าจะสร้างความเข้าใจอย่างไรมากกว่า
คมชัดลึก