ตั้งเเต่หนังโปรโมตใหม่ๆ ยอมรับว่าไม่เคยคิดที่จะดูเลยคู่กงคู่กรรมอะไรเนี่ย
บวกกับกระเเสลบที่เข้ามาอย่างหนักหน่วง ถ้าเปรียบเป็นมวยก็เหมือนต่อยทั้งสลบ
เเต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่บอกก่อนว่า ไปดูก่อนมั้ย อยู่นอกสนามอย่าพึ่งพูดเหมือนตาเห็น
เจอประโยคนี้เข้าไป จากที่คิดว่าไม่อยากดูเเล้ว มันเเย่ชัวร์ๆ กลายเป็นความอยากที่จะพิสูจน์ด้วยตัวเอง
เเต่อยู่ดีๆ มีกระเเสมาอีกทางว่ามันเป็นหนังดีนะ มันอาร์ต ไอ้เราก็ อ้าวเฮ้ย ตกลงมันยังไงกัน
ทำให้เราเลยได้เหตุผลก้อนโตเลย เพื่อบอกตัวเองว่าเราจะดูคู่กรรมเเน่นอน เพราะหนังอาร์ตส่วนมากที่เราเคยดูมันก็ไม่สนุก
เเต่มันจะรู้สึกถึงอารมณ์เเปลกๆได้ในตัวเอง
..ขอออกตัวก่อนว่า ไม่เคยดู ไม่เคยอ่าน ไม่ว่าจะเวอร์ไหนใครทำ รู้เเค่โกโบริเป็นญี่ปุ่น เเละเค้าตาย..
(สปอยล์กระจายนะครับ)
หนังเริ่มขึ้นด้วยความน่ารักกุ๊กกิ๊กมีทำเป็นการ์ตูนเสียงเพลงบรรเลงพาใจให้รู้สึกสดใสมากๆ ความสดใสก็บรรเลงมาเรื่อยๆ
จนถึงฉากที่โกโบริยืนคุยกะเเม่อังหน้าบ้าน อยู่ดีๆเพลงบรรเลงก็หยุดกึก เเทนที่เข้ามาด้วยความเงียบ ต่อฉับพลันด้วยเสียงโทนต่ำ
ที่สั่นสะเทือนค่อยๆคืบคลานเข้ามา ..มันเป็นเสียงของเครื่องบินรบ
!!!เชื่อมั้ยในวินาทีนั้นอยู่ดีๆผมน้ำตลาคลอ ผมรู้สึกเหมือนกับว่า ความสดใสในชีวิตทั้งหมดมันกำลังจะหายไป มันทะมึนๆ อึดอัดบอกไม่ถูก!!!
หลังจากนั้นอารมณ์ก็โดนกดมาอย่างต่อเนื่อง หนังดำเนินผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหมือน เอามือกรีดหนังสือ เสียงดัง พรืบๆๆ
จากหน้าที่4 ข้ามมาหน้าที่300 มาถึงฉากที่พ่อมาคุยกับเเม่อังทำความเข้าใจเรื่องเเต่งงานกับพ่อโกโบริ
ซึ่งตรงนี้หลายคนงงว่าเอาเวลาไปรักกันตอนไหน ในฉากนี้ผมเเอบเห็นการสื่อสารจากเรียวถึงสิ่งที่เค้าอยากจะบอก
ในฉากนี้กล้องเเทบจะชนกับนาฟึกาเเขวนอยู่เเล้ว เหลือมุมให้เรามองเข้าห้องไปดูพ่อกับนางเอกคุยกันได้ไม่ถึงครึ่งจอ
เเต่กลับโฟกัสไปที่คนในห้อง ขณะที่นาฬิกาซึ่งเกะกะอยู่ถูกเบลอจนเห็นเลข2ลางๆ เหมือนเรียวต้องการจะสื่อสารว่า
สำหรับความรักของคน2คนเวลามากน้อยมันไม่สำคัญอะไรเลย ความรู้สึกผมตอนนี้วิญญาณผมหลุดเข้าไปในหนังเรียบร้อยเเล้ว
เรียกได้ว่าตกอยู่ในพวังกู่ไม่กลับ
มาถึงฉากที่เเม่อังยืนบนสะพานพุธ เธอยืนเหมือนในโลกนี้มีเเค่เธอคนเดียว ในขณะที่ผู้คนมากมายผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อโกโบริเห็นเเม่อัง เค้าได้พยายามเข้าไปอยู่ในโลกของเธอ หนังเเทนอารมณ์ด้วยการหยุดนิ่งทั้งคู่ไว้อย่างนั้น
เเต่เเม่อังก็พยายามไม่ยอมรับให้พระเอกเข้ามา ยื้อยุดกันจนระเบิดลงจนได้
วินาทีนั้นเองฝุ่นควันเข้ามาเเทนที่ปิดกั้นโลกจากการมองเห็นทั้งหมดเหลือเเค่เค้าเเละเธอสองคน
เเล้วเสียงอู้เเหลมคล้ายอาการหูดับก็ตามมา คือเราไม่ทราบว่า ผกก.จะสื่อว่าใครหูดับ
เเต่ที่เเน่ๆผมรู้สึกว่าตัวเองหูดับ ผมไม่สามารถได้ยินสิ่งที่เค้าสองคนพูดกันได้
มันเหมือนกับว่าโลกใบนี้ได้เหลือเเค่เค้าสองคนเเล้วจริงๆ เป็นโลกที่ผมเข้าไปไม่ได้
ตบท้ายอารมณ์ช๊อตนี้ด้วยการให้อะไรสักอย่างค่อยๆโรยลงมาอย่างสวยงาม
เเต่พอนางเอกรู้สึกตัวได้บนจักรยาน ทุกอย่างได้หายไปฉับพลัน เธอได้กั่นช่องว่างระหว่างทั้งคู่อีกครั้ง
เมื่อทั้งคู่ได้เเต่งงานกัน เมื่อส่งตัวเข้าห้องหอ ทั้งคู่นั่งอยู่ภายในห้องโดยมองเห็นทะลุกระจกประตูได้ โดยประตูเปิดอยู่เเง้มๆ
เเล้วเเบ่งทั้งคู่ไปคนละฝั่ง คล้ายจะสื่อว่านางเอกยังไม่เปิดใจให้เต็มที่ ซึ่งซีนที่มีสิ่งกีดขวางเเสดงอารมณ์ถึงความปิดกั้นมีเยอะมากๆ
มันทำให้เรารู้สึกอึดอัดสุดๆทำไมไม่โผล่หน้ามาคุยกันโล่งๆว้า
พูดถึงฉากที่หลายคนชื่นชอบกัน คือฉากขืนใจนั่นเองตัวเรา รู้สึกว่ามันกลมกล่อม นุ่มลึกมากๆ
ทุกกริยาถ้าทางเต็มไปด้วยความหมาย ไม่รู้สึกเเปลกเเต่อย่างได เหมือนว่าโกโบริต้องการดึงให้เเม่อังเข้ามาหาตนบ้าง
ประมาณว่าเปิดใจรับเราได้เเล้ว เเต่พอทำไม่ได้โกโบริก็ต้องเป็นฝ่ายเข้าหาตามเดิม ถูไถเเสดงออกถึงความหลงไหลหัวปักหัวปัม
เเม่อังก็ยังเเสดงเบสิคทางกายที่บอกถึงการปิดกั้นโดยการชันเข่าเเล้วซุกหัวไว้ในเเขน
โกโบริยังอ้อนไม่หยุดจนเธอชิ้วนี้ลงมา ราวกับว่าเธอเป็นผู็อยู่เบื้องสูงอย่าริบังอาจขึ้นมา..เราไม่ยอมนะ
ไอ้นี่ก็ยังไต่ขึ้นไปอีกสุดท้ายมันก็ออดอ้อนจนได้
มาถึงฉากไคลเเมกซ์ โกโบริกำลังจะตาย เห้ยสุดยอดคิดได้ไง ในตอนนี้เองที่นางเอกได้ยอมเปิดใจ ฝนก็เริ่มสาดเทลงมาอย่างรุนเเรง
ราวกับว่ากำเเพงภายในใจของนางเอกพลังครืนลงมา
เเล้วมาเจอพระเอกอยู่ในฉากเก๋ๆ อยู่บนกองผูเขาโดยโผล่มาครึงตัว เรารู้สึกสงสารพระเอกขึ้นมาจับใจ
ภาพที่ออกมามันสะเทือนอารมณ์สุดๆเหมือนตลอดเรื่องพระเอกต้องเเบกรับสิ่งต่างๆราวกับว่าตัวเองอยู่ไต้กองเศษซากที่ถาโถม
เเต่พอยามไกล้ตาย ก็เหมือนตัวเองจะได้หลุดพ้นจากเเรงกระเเทกสิ่งที่มันกดทับตัวเองมาทั้งหมด
ติดอยู่เเค่ครึ่งตัวก็จะได้กลับขึ้นฟ้าเเล้ว นี่เป็นโอกาสสุดท้ายเเล้วนะที่เเม่อังจะได้เปิดใจอย่างเเท้จริง
ซึ่งตอนนี้คนดูอย่างเราระทมระทวยใจเเทบขาดเเล้ว เมื่อทุกอย่างจบลงเรารู้อย่างเดียวว่า สวยงาม ซึมลึก หนักหน่วง
จริงๆเรียวใส่รายละเอียดมาเยอะเยะมากมาย เราว่าเค้าพิถีพิถันในงานมากๆเลย
---อย่างฉาก ที่ช่วงก่อนวนัสเข้ามา ที่ท่าน้ำบ้านเเม่อังจะมีเเต่ฉากที่ฉายเรือญี่ปุ่นจอดอยู่ พอมีข่าววนัส
เเอบเห็นที่ถ้าน้ำกลายเป็นเรือไทยจอดเเทน มันเหมือนการเเทนอารมณ์โลเลของนางเอก
---ฉากจับมือหลังได้กันตอนจะไปหลบระเบิด พระเอกยื่นมือไปในท่าคว่ำมือเมื่อนางเอกยื่นมือตอบรับ ก็เป็นนัยยะ
เเสดงถึงความยอมโอนอ่อนของนางเอก
---ตอนเเม่อังคุยกับวนัส พอวนัสหังหลังให้เเม่อัง เเล้วข้างหน้าวนัสเกิดมีเเสงเเฟร์จากกล้องเป็นจุดขาวกลางภาพ สื่อถึงจุดหมายบางอย่างที่เกี่ยวกับตัววนัส
---เเล้วก็บทพูด เหตผลของคุณ หัวใจของผมอะไรนี่ จะเห็นว่า มีเสียงในใจนางเอกตามมาอีก1รอบ
เเสดงว่าประโยคนี้มันเข้าไปทำปฏิกริยาในใจเธอเเล้ว
---ฉากขับเรือสวนเรือขนศพ เราเห็นอารมณ์ผู้กดขี่กับผู้ถูกกดขี่
---มีฉากที่นายใหญ่มาคุยกับโกโบริอีกเรื่องการเเต่งงานที่มีคนจูงม้าอยู่ด้านหลัง เปรียบเหมือน โกโบริเป็นม้า เเต่คงเป็นการจูงที่โกโบริเต็มใจ
---รวมถึงการใช้ขนาดตัวม้าที่ไม่เท่ากันขณะโกโบรขี่คู่ไปกับนายใหญ่เพื่อเเสดงวรรณณะ
ซึ่งทั้งหมดเราเห็นว่ารายละเอียดมันเยอะมากเราไม่สามารถหาได้หมดในรอบเดียว
ที่เราเเหม่งๆก็มีเเค่การเเสดงของตัวละครบางตัว เเต่เราไม่ถือ เรายังเเอบคิดบ้าๆเลยว่าเรียวเเอบใช้วิธิการของตัวละครชื่อ Big dan
ในO Brother, Where Art Thouหรือปล่าว โดยใช้สิ่งที่ไม่ดีทำให้ตัวละครมีตัวตนในสังคม คงไม่มีใครค้านว่าตอนนี้น้องริชชี่ไม่เป็นที่รู้จักในสังคม อีกเหตุผลก็อาจจะเป็นการเอาความผิดปรกติต่างๆของตัวละครที่มันควรจะเป็นอยู่ในมาตรฐานมาเล่นกับอารมณ์คนในเเง่ต่างๆ
เราว่าประเด็นใหญ่ๆที่หนังเอามาเล่นเลยคือเกี่ยวกับการเปิดใจ เเต่ช่างมันเถอะ อย่าสนใจเเนวคิดตามประสาคนบ้าอย่างเราเลย
สุดท้ายอยากบอกเรียวว่า เรารักหนังเรื่องนี้มากๆๆนาคๆๆ
ก่อนนี้ที่เรามีอคติไปก่อนที่จะได้เปิดใจต้องขอโทษสุดหัวใจ เราผิดไปเเล้ว
....เเต่เราก็คงไม่ต่างจากเเม่อังละนะที่อย่างน้อยก็ยังได้เปิดใจก่อนจะสายเกินไป......
..@@คู่กรรม ผมว่าผมเห็นอะไรบางอย่างนะ(ตีความหนังฉบับคนบ้า สปอยล์หมดใส้หมดพุง)@@..
บวกกับกระเเสลบที่เข้ามาอย่างหนักหน่วง ถ้าเปรียบเป็นมวยก็เหมือนต่อยทั้งสลบ
เเต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่บอกก่อนว่า ไปดูก่อนมั้ย อยู่นอกสนามอย่าพึ่งพูดเหมือนตาเห็น
เจอประโยคนี้เข้าไป จากที่คิดว่าไม่อยากดูเเล้ว มันเเย่ชัวร์ๆ กลายเป็นความอยากที่จะพิสูจน์ด้วยตัวเอง
เเต่อยู่ดีๆ มีกระเเสมาอีกทางว่ามันเป็นหนังดีนะ มันอาร์ต ไอ้เราก็ อ้าวเฮ้ย ตกลงมันยังไงกัน
ทำให้เราเลยได้เหตุผลก้อนโตเลย เพื่อบอกตัวเองว่าเราจะดูคู่กรรมเเน่นอน เพราะหนังอาร์ตส่วนมากที่เราเคยดูมันก็ไม่สนุก
เเต่มันจะรู้สึกถึงอารมณ์เเปลกๆได้ในตัวเอง
..ขอออกตัวก่อนว่า ไม่เคยดู ไม่เคยอ่าน ไม่ว่าจะเวอร์ไหนใครทำ รู้เเค่โกโบริเป็นญี่ปุ่น เเละเค้าตาย..
(สปอยล์กระจายนะครับ)
หนังเริ่มขึ้นด้วยความน่ารักกุ๊กกิ๊กมีทำเป็นการ์ตูนเสียงเพลงบรรเลงพาใจให้รู้สึกสดใสมากๆ ความสดใสก็บรรเลงมาเรื่อยๆ
จนถึงฉากที่โกโบริยืนคุยกะเเม่อังหน้าบ้าน อยู่ดีๆเพลงบรรเลงก็หยุดกึก เเทนที่เข้ามาด้วยความเงียบ ต่อฉับพลันด้วยเสียงโทนต่ำ
ที่สั่นสะเทือนค่อยๆคืบคลานเข้ามา ..มันเป็นเสียงของเครื่องบินรบ
!!!เชื่อมั้ยในวินาทีนั้นอยู่ดีๆผมน้ำตลาคลอ ผมรู้สึกเหมือนกับว่า ความสดใสในชีวิตทั้งหมดมันกำลังจะหายไป มันทะมึนๆ อึดอัดบอกไม่ถูก!!!
หลังจากนั้นอารมณ์ก็โดนกดมาอย่างต่อเนื่อง หนังดำเนินผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหมือน เอามือกรีดหนังสือ เสียงดัง พรืบๆๆ
จากหน้าที่4 ข้ามมาหน้าที่300 มาถึงฉากที่พ่อมาคุยกับเเม่อังทำความเข้าใจเรื่องเเต่งงานกับพ่อโกโบริ
ซึ่งตรงนี้หลายคนงงว่าเอาเวลาไปรักกันตอนไหน ในฉากนี้ผมเเอบเห็นการสื่อสารจากเรียวถึงสิ่งที่เค้าอยากจะบอก
ในฉากนี้กล้องเเทบจะชนกับนาฟึกาเเขวนอยู่เเล้ว เหลือมุมให้เรามองเข้าห้องไปดูพ่อกับนางเอกคุยกันได้ไม่ถึงครึ่งจอ
เเต่กลับโฟกัสไปที่คนในห้อง ขณะที่นาฬิกาซึ่งเกะกะอยู่ถูกเบลอจนเห็นเลข2ลางๆ เหมือนเรียวต้องการจะสื่อสารว่า
สำหรับความรักของคน2คนเวลามากน้อยมันไม่สำคัญอะไรเลย ความรู้สึกผมตอนนี้วิญญาณผมหลุดเข้าไปในหนังเรียบร้อยเเล้ว
เรียกได้ว่าตกอยู่ในพวังกู่ไม่กลับ
มาถึงฉากที่เเม่อังยืนบนสะพานพุธ เธอยืนเหมือนในโลกนี้มีเเค่เธอคนเดียว ในขณะที่ผู้คนมากมายผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อโกโบริเห็นเเม่อัง เค้าได้พยายามเข้าไปอยู่ในโลกของเธอ หนังเเทนอารมณ์ด้วยการหยุดนิ่งทั้งคู่ไว้อย่างนั้น
เเต่เเม่อังก็พยายามไม่ยอมรับให้พระเอกเข้ามา ยื้อยุดกันจนระเบิดลงจนได้
วินาทีนั้นเองฝุ่นควันเข้ามาเเทนที่ปิดกั้นโลกจากการมองเห็นทั้งหมดเหลือเเค่เค้าเเละเธอสองคน
เเล้วเสียงอู้เเหลมคล้ายอาการหูดับก็ตามมา คือเราไม่ทราบว่า ผกก.จะสื่อว่าใครหูดับ
เเต่ที่เเน่ๆผมรู้สึกว่าตัวเองหูดับ ผมไม่สามารถได้ยินสิ่งที่เค้าสองคนพูดกันได้
มันเหมือนกับว่าโลกใบนี้ได้เหลือเเค่เค้าสองคนเเล้วจริงๆ เป็นโลกที่ผมเข้าไปไม่ได้
ตบท้ายอารมณ์ช๊อตนี้ด้วยการให้อะไรสักอย่างค่อยๆโรยลงมาอย่างสวยงาม
เเต่พอนางเอกรู้สึกตัวได้บนจักรยาน ทุกอย่างได้หายไปฉับพลัน เธอได้กั่นช่องว่างระหว่างทั้งคู่อีกครั้ง
เมื่อทั้งคู่ได้เเต่งงานกัน เมื่อส่งตัวเข้าห้องหอ ทั้งคู่นั่งอยู่ภายในห้องโดยมองเห็นทะลุกระจกประตูได้ โดยประตูเปิดอยู่เเง้มๆ
เเล้วเเบ่งทั้งคู่ไปคนละฝั่ง คล้ายจะสื่อว่านางเอกยังไม่เปิดใจให้เต็มที่ ซึ่งซีนที่มีสิ่งกีดขวางเเสดงอารมณ์ถึงความปิดกั้นมีเยอะมากๆ
มันทำให้เรารู้สึกอึดอัดสุดๆทำไมไม่โผล่หน้ามาคุยกันโล่งๆว้า
พูดถึงฉากที่หลายคนชื่นชอบกัน คือฉากขืนใจนั่นเองตัวเรา รู้สึกว่ามันกลมกล่อม นุ่มลึกมากๆ
ทุกกริยาถ้าทางเต็มไปด้วยความหมาย ไม่รู้สึกเเปลกเเต่อย่างได เหมือนว่าโกโบริต้องการดึงให้เเม่อังเข้ามาหาตนบ้าง
ประมาณว่าเปิดใจรับเราได้เเล้ว เเต่พอทำไม่ได้โกโบริก็ต้องเป็นฝ่ายเข้าหาตามเดิม ถูไถเเสดงออกถึงความหลงไหลหัวปักหัวปัม
เเม่อังก็ยังเเสดงเบสิคทางกายที่บอกถึงการปิดกั้นโดยการชันเข่าเเล้วซุกหัวไว้ในเเขน
โกโบริยังอ้อนไม่หยุดจนเธอชิ้วนี้ลงมา ราวกับว่าเธอเป็นผู็อยู่เบื้องสูงอย่าริบังอาจขึ้นมา..เราไม่ยอมนะ
ไอ้นี่ก็ยังไต่ขึ้นไปอีกสุดท้ายมันก็ออดอ้อนจนได้
มาถึงฉากไคลเเมกซ์ โกโบริกำลังจะตาย เห้ยสุดยอดคิดได้ไง ในตอนนี้เองที่นางเอกได้ยอมเปิดใจ ฝนก็เริ่มสาดเทลงมาอย่างรุนเเรง
ราวกับว่ากำเเพงภายในใจของนางเอกพลังครืนลงมา
เเล้วมาเจอพระเอกอยู่ในฉากเก๋ๆ อยู่บนกองผูเขาโดยโผล่มาครึงตัว เรารู้สึกสงสารพระเอกขึ้นมาจับใจ
ภาพที่ออกมามันสะเทือนอารมณ์สุดๆเหมือนตลอดเรื่องพระเอกต้องเเบกรับสิ่งต่างๆราวกับว่าตัวเองอยู่ไต้กองเศษซากที่ถาโถม
เเต่พอยามไกล้ตาย ก็เหมือนตัวเองจะได้หลุดพ้นจากเเรงกระเเทกสิ่งที่มันกดทับตัวเองมาทั้งหมด
ติดอยู่เเค่ครึ่งตัวก็จะได้กลับขึ้นฟ้าเเล้ว นี่เป็นโอกาสสุดท้ายเเล้วนะที่เเม่อังจะได้เปิดใจอย่างเเท้จริง
ซึ่งตอนนี้คนดูอย่างเราระทมระทวยใจเเทบขาดเเล้ว เมื่อทุกอย่างจบลงเรารู้อย่างเดียวว่า สวยงาม ซึมลึก หนักหน่วง
จริงๆเรียวใส่รายละเอียดมาเยอะเยะมากมาย เราว่าเค้าพิถีพิถันในงานมากๆเลย
---อย่างฉาก ที่ช่วงก่อนวนัสเข้ามา ที่ท่าน้ำบ้านเเม่อังจะมีเเต่ฉากที่ฉายเรือญี่ปุ่นจอดอยู่ พอมีข่าววนัส
เเอบเห็นที่ถ้าน้ำกลายเป็นเรือไทยจอดเเทน มันเหมือนการเเทนอารมณ์โลเลของนางเอก
---ฉากจับมือหลังได้กันตอนจะไปหลบระเบิด พระเอกยื่นมือไปในท่าคว่ำมือเมื่อนางเอกยื่นมือตอบรับ ก็เป็นนัยยะ
เเสดงถึงความยอมโอนอ่อนของนางเอก
---ตอนเเม่อังคุยกับวนัส พอวนัสหังหลังให้เเม่อัง เเล้วข้างหน้าวนัสเกิดมีเเสงเเฟร์จากกล้องเป็นจุดขาวกลางภาพ สื่อถึงจุดหมายบางอย่างที่เกี่ยวกับตัววนัส
---เเล้วก็บทพูด เหตผลของคุณ หัวใจของผมอะไรนี่ จะเห็นว่า มีเสียงในใจนางเอกตามมาอีก1รอบ
เเสดงว่าประโยคนี้มันเข้าไปทำปฏิกริยาในใจเธอเเล้ว
---ฉากขับเรือสวนเรือขนศพ เราเห็นอารมณ์ผู้กดขี่กับผู้ถูกกดขี่
---มีฉากที่นายใหญ่มาคุยกับโกโบริอีกเรื่องการเเต่งงานที่มีคนจูงม้าอยู่ด้านหลัง เปรียบเหมือน โกโบริเป็นม้า เเต่คงเป็นการจูงที่โกโบริเต็มใจ
---รวมถึงการใช้ขนาดตัวม้าที่ไม่เท่ากันขณะโกโบรขี่คู่ไปกับนายใหญ่เพื่อเเสดงวรรณณะ
ซึ่งทั้งหมดเราเห็นว่ารายละเอียดมันเยอะมากเราไม่สามารถหาได้หมดในรอบเดียว
ที่เราเเหม่งๆก็มีเเค่การเเสดงของตัวละครบางตัว เเต่เราไม่ถือ เรายังเเอบคิดบ้าๆเลยว่าเรียวเเอบใช้วิธิการของตัวละครชื่อ Big dan
ในO Brother, Where Art Thouหรือปล่าว โดยใช้สิ่งที่ไม่ดีทำให้ตัวละครมีตัวตนในสังคม คงไม่มีใครค้านว่าตอนนี้น้องริชชี่ไม่เป็นที่รู้จักในสังคม อีกเหตุผลก็อาจจะเป็นการเอาความผิดปรกติต่างๆของตัวละครที่มันควรจะเป็นอยู่ในมาตรฐานมาเล่นกับอารมณ์คนในเเง่ต่างๆ
เราว่าประเด็นใหญ่ๆที่หนังเอามาเล่นเลยคือเกี่ยวกับการเปิดใจ เเต่ช่างมันเถอะ อย่าสนใจเเนวคิดตามประสาคนบ้าอย่างเราเลย
สุดท้ายอยากบอกเรียวว่า เรารักหนังเรื่องนี้มากๆๆนาคๆๆ
ก่อนนี้ที่เรามีอคติไปก่อนที่จะได้เปิดใจต้องขอโทษสุดหัวใจ เราผิดไปเเล้ว
....เเต่เราก็คงไม่ต่างจากเเม่อังละนะที่อย่างน้อยก็ยังได้เปิดใจก่อนจะสายเกินไป......