พึ่งรู้สึกดีในการที่ซื้อของแพง (กว่าร้านที่ขายกันถูกๆตามท้องตลาด ) ก็คราวนี้ละครับ

กระทู้สนทนา
ผมมีเรื่องอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้ประสบกับตัวเองมาให้ท่านๆฟังครับ ท่านอาจจะได้ข้อมูล ข้อคิด ในการตัดสินใจซื้อของหรือใช้บริการจากร้านที่ว่าขายของถูกๆตามท้องตลาด เปรียบเทียบกับในห้างใหญ่ๆ เช่น ร้านพลังซื้อ หรือ ร้านผู้เชียวชาญเรื่่องบ้าน
ในที่นี้ผมซื้อของจากร้านใกล้บ้านร้านเดียวมาตลอด ผมจึงเอาร้านที่ผมซื้อมาเปรียบเทียบ ร้านอื่นอาจจะดีกว่านี้หรืออย่างไรไม่ขอกล่าวถึงและพาดพิงครับ

Note เพื่อทำความเข้าใจก่อนอ่านน๊ะครับ
- นี่คือความตั้งใจที่อยากจะบอกว่ารู้สึกดีได้ยังไง และเกิดอะไรขึ้น
- เรื่องทั้งหมดมาจากอารมณ์และความรู้สึกของผู้เขียนล้วนๆ
- เป็นเรื่องที่เล่าสู่กันฟัง ไม่ได้ต้องการอะไรนอกเหนือกว่านั้น
- เล่าให้ฟังครับ โปรดพิจารณาด้วยสติ
- ไม่ได้โจมตีร้านค้าด้วยจิตใจที่เอนเอียง ทุกเรื่องที่จะเขียนคือเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เคยมีคนกล่าวไว้ว่า " ตราบใดที่เรายังติยังว่าท่าน ในข้อบกพร่องในตัวท่าน แสดงว่าเรายังอยากจะคบค้ากับท่านต่อ เพราะไม่เช่นนั้นเราจะเงียบๆและหายไปจากชีวิตท่าน คงจะง่ายกว่า "
- ถ้าบุคคลที่ผมจะเขียนถึงบังเอิญเข้ามาอ่าน อยากจะปรับปรุงการบริการก็ถือว่าดีกับตัวท่านเอง

ผมขอตั้งชื่อเรื่องที่ผมจะเล่าว่า " ตู้เย็นหรรษา "

เรื่องมีอยู่ว่าผมจะซื้อตู้เย็นใหม่ซักเครื่อง อยากได้เป็น Mitsu เลยลองหาข้อมูลรุ่น ยี้ห้อ ร้านค้าที่น่าสนใจในอินเทอร์เนท แต่ในใจผมก็มีร้านที่ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าประจำอยู่แล้วเพราะใกล้บ้าน แต่อยากลองดูราคากับของแถมร้านอื่นใกล้เคียง ผมอยู่แถวเกษตร จากการค้นหาก็ได้มาอีกสองร้านแถวรามอินทรากับท่าน้ำนนท์ ผลปรากฏว่าราคาเท่ากันที่ 22500 บาท ผมเลยลองโทรเข้าไปุถามที่บริษัท Mitsu ก็ได้ราตามาใกล้ๆกัน สุดท้ายโทรเข้าไปที่ ร้านผู้เชียวชาญเรื่่องบ้าน สาขาลาดพร้าว ปรากฏว่าราคาแพงกว่าที่อื่นอยู่ 2000 บาท สรุปเลยคิดว่าสั่งที่ร้านเดิมเจ้าประจำใกล้บ้านดีกว่า ส่งของก็ใกล้ ทั้งๆที่ช่วงที่ค้นหาข้อมูล ได้เจอหลายกระทู้ติเรื่องการบริการของร้านใกล้บ้านผมในห้องชายคาของ Pantip แต่ผมก็ยังอยากจะลองดูอีกซักครั้งเพราะไม่เคยเจอกับตัวเอง จึงฟังหูไว้หูมาตลอด
สรุปค่าให้จ่ายที่ตกลงกัน ราคาตู้เย็น 22500 + ค่ารูดบัตรเครดิต 300 รวมทั้งสิ้น 22800 บาท และต้องมัดจำเพื่อสั่งของ.

ข้างล่างนี้คือรายละเอียดตั้งแตาวันแรกจนถึงวันสุดท้าย

วันที่ 19 มีนาช่วงเย็นเลยโทรไปสอบถามที่ร้าน แต่ทางร้านให้เบอร์ผู้หญิงคนหนึ่งมาบอกว่าเป็นเจ้านายดูแลเรื่องนี้โดยตรง ผมเลยโทรไป เขาบอกว่าเขายุ่งและไม่อยู่ร้าน ให้บอกรุ่นที่จะสั่งมาแล้วเดี๋ยวจะโทรกลับมาบอกรายละเอียด

วันที่ 20 รอจนเย็นก็ไม่มีใครโทรมา ผมเลยโทรไป ปรากฏว่าคุณผู้หญิงบอกว่าร้านหยุดวันนี้ เดี๋ยวหาข้อมูลแล้วจะโทรกลับ สรุปวันนี้เลยไม่ได้เรื่องอะไร

วันที่ 21 ผมโทรกลับไปใหม่และบอกว่าไม่เห็นโทรกลับมาเลย เขาบอกว่ายุ่ง ลืม ก็เลยคุยรายละเอียดกันใหม่ และพอดีกับที่ผมต้องการเปลี่ยนจากรุ่นที่สอบถามไว้ตอนแรกด้วย สรุปเรื่องรุ่นเสร็จ ผมก็แจ้งว่าจะเอาสีดำ เพราะทางคุณผู้หญิงคนนี้บอกว่ามีแต่ต้องมีเงินมัดจำ เพราะเป็นสีที่ขายยาก
สรุปโอนเงินมัดจำไป 2000 ผมเลยถามว่าจะส่งของได้วันไหน คุณผู้หญิงเขาบอกว่า วันที่ 26 ผมก็ย้ำว่าต้องแน่นอนน๊ะเพราะผมจะลางานเพื่อรอรับตู้เย็น เพราะต้องรูดบัตรเครดิตในวันที่ส่ง และจะได้อยู่ย้ายตู้เก่าออกไปด้วย ซักพักผมนึกขึ้นได้ว่าที่ผมเคยคุยกับทาง Mitsu และ Mitsu บอกว่ารุ่นนี้ไม่มีสีดำ ผมเลยต้องโทรกลับไปหาคุณผู้หญิงบอกว่ารุ่นนี้ไม่น่าจะมีสีดำ เขาเลยบอกว่าเดี๋ยวเช็คอีกที สุดท้ายสรุปว่าสีดำไม่มีเลยเอาแสตนเลส ต้องเพิ่มเงินอีก 1000 บาท จากราคา 21500 เป็น 22500 บาท

วันที่ 22-25 ไม่มีการติดต่อสื่อสารใดๆ

วันที่ 26 บ่ายๆก็ยังไม่มีใครโทรมา สรุปว่าผมต้องโทรกลับไปที่ร้านอีกเรื่องการจัดส่งตู้เย็น ที่ร้านให้คำตอบว่าเขายังไม่เอาของมาส่งเลย ผมเลยถามว่าเราคุยกันแล้วใช่ไหม ว่าผมต้องหยุดงานเพื่อมารอจ่ายเงินให้ร้านคุณ ทางร้านบอกว่าเดี๋ยวเช็คอีกที ตอนนี้โทรไปหาคุณผู้หญิงที่รับเรื่องไม่รับโทรศัพท์แล้วไม่โทรกลับด้วย สุดท้ายมีคนจากทางร้านโทรมาบอกว่าเดี๋ยวเอารถไปเอาของมาให้ และนัดส่งวันนี้ 19:00
และแล้วสิ่งที่คาดฝันก็เกิดขึ้น ร้านโทรมาบอกว่า รถเอาของยังไม่กลับมาเลย เขาแวะส่งของแถวที่ไปเอาตู้เย็นของผมก่อน สุดเซ็ง ลางาน ตู้เย็นไม่ได้ ไม่ได้สนใจความจำเป็นของคนอื่นเลย นัดไม่เป็นนัด เอาคำว่าขอโทษมาเป็นเครื่องมือหากิน พอลูกค้ามีปัญหาก็จะได้บอกได้ว่าขอโทษแล้ว พูดดีแล้ว แต่การกระทำไม่ได้สนใจอะไรเลยนอกจากผลประโยชน์ตัวเอง
สรุปว่า นัดส่งอีกที 28 เพราะร้านหยุด 27

วันที่ 28 นัดส่งของเวลา 19:30 ของมาตรงเวลามาก แต่ก็โทรมาหาผมตอน 18:50 คิดว่าจะไม่โทรซะแล้ว
พอกลับมาถึงก็เจอพนักงานส่งของพอดี น้องๆเขาก็ยกลงจากรถ และก็ยกตู้เย็นในแนวนอน หัวคนท้ายคนซึ่งผมไม่ทราบว่าถูกวิธีไหม กำลังกังวลเรื่องยกอยู่ดีๆ เสียงดังตุ๊บ ผมหันกลับไปดู เห็นเชือกขาด ตู้เย็นตกลงพื้น สุดเซ็ง แต่ไม่รู้จะว่าอะไรได้ เขาก็ไม่บอกอะไร ผมก็คิดว่ารอมานานแล้วอย่ามีปัญหาดีกว่า จะได้ใช้ๆซะที แต่ปรากฏว่าขึ้นมาถึงห้อง เปิดกล่อง ตูัเย็นบุบ....!
ท้ายสุดก็เลยส่งคืน และผมก็โทรหาคุณผู้หญิง คุณผู้หญิงบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวเคลมได้ ผมเลยถามว่าแล้วจะได้เมื่อไหร่ คุณผู้หญิงบอกว่าวันจันทร์ แต่เดี๋ยวจะหาจากร้านอื่นให้ อาจจะได้วันเสาร์แต่ไม่รับปาก

วันที่ 29-31 มีนา ไม่มีการติดต่อสื่อสารใดๆจากทางร้าน

วันที่ 1 เมษา วันนัดส่งของ แต่ไม่มีการติดต่อสื่อสารใดๆจากร้าน สุดท้ายผมต้องโทรไปถามคุณผู้หญิงว่าจะเอายังไง คำตอบที่ได้คือของยังไม่มา ไม่รู้จะทำยังไง และก็รีบพูดเหตุผล 108 เหมือนเคยพูดอยู่บ่อยๆ พูดแบบไม่เว้นช่องให้ลูกค้าพูด ผมจะบอกว่าวิธีนี้มันใช้ไม่ได้ผลหลอกและจะยิ่งทำให้ลูกค้าอารมณ์เสียอีก ผมก็ถามว่าไม่ได้ทำไมไม่โทรมาบอก คำตอบคือยุ่ง ผมไม่อยากฟังอะไรมากกว่านี้เลยถามว่าตกลงของจะได้เมื่อไหร่ คำตอบคือน่าจะพรุ่งนี้รอดูอีกที ผมถามว่าทำไมบอกเวลาที่แน่นอนไม่ได้ เพราะถ้าอย่างนี้ผมไปไหนไม่ได้ต้องไปรอรับตู้เย็นทุกวันจนกว่าจะมา คุณผู้หญิงก็บอกว่ากำหนดไม่ได้ขึ้นอยู่กับของมาส่งเมื่อไหร่ ผมไม่ได่้อยู่วงการณ์นี้เลยไม่ทราบว่าเขาทำงานกันแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้วหรือเปล่า สรุปรอดู 2 เมษา

วันที่ 2 เมษา เหตุการณ์เดิมๆก็กลับมาอีกคือ ไม่มีการโทรติดต่อมาเลย จนผมทนไม่ไหวเลยโทรไปตอนบ่ายๆและถามว่าจะมาส่งของกี่โมง คนทางร้านตอบว่ายังไม่รู้ ของยังไม่มา ผมเลยบอกว่าผมต้องการคำตอบวันนี้ว่าของผมจะได้เมื่อไหร่ วันที่ 4 รับประกันว่าได้แน่นอนได้ไหม ผมต้องการเวลาที่แน่นอน ไม่ใช่ว่าแบบเอาสบายตัวเอง ว่ามาเมื่อไหร่เดี๋ยวโทรมาบอก มืออาชีพเขาไม่น่าจะทำกัน  ผมบอกว่าถ้าร้านไม่สามารถหามาส่งได้ก็คืนเงินมัดจำมา ทางร้านก็เลยบอกว่าเดี๋ยวไปเช็คให้ หลังจากนั้นประมาณ 30 นาที ทางร้านได้โทรกลับมาและบอกว่ารับปากไม่ได้ว่าจะได้ของวันที่ 4 เมษาแน่นอน เพราะต้องไปรับของต่อเขามาอีกที และเหมือนว่าของเขาจะไม่มี และบอกว่าให่ผมลองรอถึงวันที่ 4 เมษาดูถ้าของไม่มาก็จะคืนเงินให้ ผมเลยบอกว่าถ้าน้องพูดแบบนี้ไม่ต้องรอถึง 4 เมษาหรอก เอาเงินคืนมาวันนี้เลยดีกว่า จบๆกันไป

หลังจากที่จบเรื่องกับทางร้านประะจำของผม ผมเลยมองหาที่พึ่งใหม่ที่มีความเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ และที่สำคัญตอบได้ว่าจะส่งของผมได้วันไหน ผมเลยโทรไปที่ร้านพลังซื้อสาขาลาดพร้าว ซแต่ทางร้านบอกว่าสาขาเล็กๆไม่มีตู้เย็นรุ่นนี้เขามาขายให้ลองไปถามที่ห้างใหญ่ๆ ผมเลยนึกได้ว่าผมเคยโทรสอบถามที่ ร้านผู้เชียวชาญเรื่่องบ้าน แต่ตอนนั้นราคาสูงเลยไม่ได้สนใจ แต่มาตอนนี้ราคาสูงก็เอาเพราะอยากให้มันจบ...

ผมเลยโทรไปที่ ร้านผู้เชียวชาญเรื่่องบ้าน สาขารัชดา ซึ่งผมคิดว่าผมเคยโทรไปคุยกับเขา ซึ่งผมจำผิดจริงๆแล้วผมคุยกับสาขาลาดพร้าว ผลปรากฏว่า ส่วนลดต่างจากที่เคยคุยไว้ที่สาขาลาดพร้าว ซึ่งผมก็แปลกใจว่าทำไมมันไม่เหมือนกัน...!!!!
ช่วงนั้นผมก็ขับรถอยู่บนทางด่วน เอกมัย - รามอินทรา และคิดว่าทำไมส่วนลดไม่เหมือนกันทั้งที่เป็นห้างใหญ่ และผมจะไปซื้อที่ไหนที่มันไม่ไกลและออกนอกเส้นทาง ........ ขับรถผ่านแยกลาดพร้าวหางตาเห็นอะไรแว๊บๆๆ เฮ้ย....มันมี ร้านผู้เชียวชาญเรื่่องบ้านที่เลียบทางด่วนเอกมัย - รามอินทรา นี่น่าทำไมเราลืม ผมเลยหาเบอร์โทรศัพท์เก่าที่บันทึกไว้แล้ทำการโทรหาทันที ผลปรากฏว่ามีโปรที่น่าสนใจกว่าที่อื่นมากเลย คือ ราคาตั้ง 24500 บาท ลด 4% ผ่อน 0% 3เดือน แถมพัดลมตั้งพื่นตัวสูง 1 ตัว สรุปคือ 24500 - 980 = 23520 บาทคือยอดที่ต้องจ่าย แต่ถ้ามีบัตรเครดิตของร้านลดเพิ่มอีก 3% ถ้าเทียบกับราคาร้านข้างนอกที่ 22800 บาท ต่างกันอยู่แค่ 720 บาทแต่ผมได้พัดลมมาแทน ผมรับได้กับราคาที่แพงกว่านิดหน่อย ผมคิดว่าถ้าผมโทรมาที่นี่ตั้งแต่แรกก็น่าจะได้ใช้ตู้เย็นไปแล้ว

สำหรับผมอันนี้คือข้อมูลใหม่และที่พึงรู้เลยว่า ร้านผู้เชียวชาญเรื่่องบ้าน แต่ละสาขา promotion ไม่เหมือนกัน ต้องโทรเช็คให้ดี

ผมเลยขับลงจากทางด่วนและ U-Turn กลับไปที่ร้านผู้เชียวชาญเรื่่องบ้านที่เลียบทางด่วนเอกมัย - รามอินทรา ปรากฏว่าได้เห็นของจริงตัวเป็นๆหลายๆยี่ห้อ เลยทำให้หว่นไหวและสับสน สุดท้ายคุยกับน้องที่ดูแลเรื่อง inverter เลยทำให้อยากลองขึ้นมา ประกอบกับ Promotion เร้าใจราคาเกือบเทียบเท่าร้านข้างนอก ผมเลยเปลี่ยนใจไปลองเล่น Hitachi inverter สรุปคือ ราคาตั้ง - 4200 + 0% 3เดือน + บัตรส่วนลด 250 บาท นัดส่งของวันจันทร์นี้ เขายืนยันการส่งแน่นอนและทำงานเป็นระบบ จ่ายแพงกว่านิดหน่อย แต่รับได้และถือว่าน่าพอใจในการบริหารจัดการ

สรุปข้อดีและข้อเสียในความคิดของผม
ร้านประจำของผม
- ผมคิดว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาถ้าซื้อของที่มีอยู่ใน Stock ของร้านเอง
- ยังซื้อได้ถ้าไม่ต้องการการบริการอะไรมาก แค่มีของ เอามาส่ง จ่ายเงิน จบ...ง่ายๆ รูดบัตรที่บ้านก็ได้ สะดวกมากครับ
- ถ้าบริหารจัดการการทำงานให้ดีกว่านี้จะดีมากๆ อันนี้แบบว่ายังขายได้ มีลูกค้าตกหล่นไปบ้างไม่เป็นไรหรอก. ถ้าสังเกตุดูดีๆผมต้องโทรหาตลอด ร้านไม่เคยใส่ใจที่จะโทรมาหาลูกค้าที่มีปัญหาเท่าที่ควร ประมาณว่ายุ่งตลอด. ถ้ามีบริหารจัดการดีก็จะไม่ยุ่งตลอด ไม่ลืม ไม่ต้องอดข้าว ได้กินข้าวตามกำหนดเวลา ชีวิตจะมีความสุขมากขึ้น ผมไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์กระทู้นี้
- คำพูดถือว่าสำคัญ ควรจะทำในสิ่งที่พูดไว้ให้ได้หรือว่าถ้าไม่ได้ก็ทำให้ดีที่สุด แต่จากที่ผ่านมาผมยังไม่เห็นเท่าที่ควร

ร้านผู้เชียวชาญเรื่่องบ้าน
- ต้องเช็ค promotion ให้ดีก่อน โทรไปถามหลายๆสาขาใกล้บ้านถ้ามี เพราะส่วนต่างที่ได้มันเยอะพอควร
- ควรสอบถามรายละเอียดสินค้าและรายละเอียดของ promotion ให้ชัดเจน
- คนขายชอบลืมว่ามีอะไรที่สามารถทำให้ราคาลดได้อีกบ้าง เพราะฉะนั้นถามหลายๆทีและให้เขาลองคิดดูดีๆ ว่าเอาอะไรมาลดได้อีกไหม
- ได้เห็นของจริงๆก่อนซื้อ ไม่ใช่ว่าดูจากกระดาษแล้วก็ซื้อเลย
- มีเวลาจัดส่งที่แน่นอน ถึงว่าอาจจะมีเหตุสุดวิสัย แต่อันนั้นเราเข้าใจได้
- การพูดจาที่ดีและสุภาพ ถึงแม้ว่าบางครั้งเวลาเกิดปัญหาจะตอบเลี่ยงๆเหมือนกับร้านข้างนอกก็ตาม โดยรวมถือว่าดีกว่าครับ
- ของรับประกันสองอาทิตย์ ถ้ามีปัญหาเปลี่ยนให้เลย จากปะรสบการณ์ บางเคสอาจจะมีการอกกกำลังกันบ้าง แต่ก็ได้ของเปลี่ยน ถือว่ารับได้ครับ

สุดท้ายนี้ ผมต้องขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาอันมีค่ามาอ่านกระทู้ที่ไม่ค่อยได้สาระอะไร และหนักไปในทางบ่นของผม เรื่องทั้งหมดก็เลยเป็นที่มาว่า " พึ่งรู้สึกดีในการที่ซื้อของแพงกว่าร้านที่ขาย(ถูก) ตามท้องตลาด "

พระธรรมคุ้มครอง
๔ เมษายน ๒๕๕๖
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่