บมจ.ล็อกซเล่ย์ (LOXLEY)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้ขายเงินลงทุนบางส่วนที่ถืออยู่ในบริษัทร่วมในกลุ่มบริษัทบลูสโคปสองแห่งคือ บริษัท บลูสโคป สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (BST) และ บริษัท บลูสโคป ไลสาจท์ (ประเทศไทย) จำกัด (BLT) ภายในเดือนมีนาคม 2556 โดยผู้ซื้อได้แก่ เอนเอส บลูสโคป โฮลดิ้งส์ ไทยแลนด์ พีทีอี ลิมิเต็ด (NSBH) และ เอนเอส บลูสโคป ไลสาจท์ สิงคโปร์ พีทีอี ลิมิเต็ด (NSBL)
ทั้งนี้ การจำหน่ายเงินลงทุนใน BST จำนวน 1,250,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 5 ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของ BST ในราคาขายหุ้นละ 461.60 บาท รวมเป็นเงิน 577,000,000 บาท และจำหน่ายเงินลงทุนใน BLT จำนวน 300,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 5 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ BLT ในราคาขายหุ้นละ 243.33 บาท รวมเป็นเงิน 73,000,000 บาท รวมการจำหน่ายเงินลงทุนในสองบริษัทข้างต้น คิดเป็นราคาทั้งสิ้น 650,000,000 บาท
ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ คือ บริษัทฯมีเงินทุนเพิ่มขึ้นสำหรับการลงทุนในโครงการใหม่ๆ รวมทั้งเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่มบริษัทฯ นอกจากนี้ ราคาขายข้างต้นเป็นราคาที่สูงกว่าทั้งราคาทุนและราคาตามบัญชี ซึ่งทำให้บริษัทฯมีกำไรจากการขายเงินลงทุนโดยประมาณตามงบการเงินเฉพาะกิจการที่ 460 ล้านบาท
http://www.ryt9.com/s/iq10/1618799 ที่มา
LOXLEY โกยกำไรกว่า 214 ลบ.หลังตัดขายหุ้น บ.ร่วมทุน 2 แห่ง
ทั้งนี้ การจำหน่ายเงินลงทุนใน BST จำนวน 1,250,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 5 ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของ BST ในราคาขายหุ้นละ 461.60 บาท รวมเป็นเงิน 577,000,000 บาท และจำหน่ายเงินลงทุนใน BLT จำนวน 300,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 5 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ BLT ในราคาขายหุ้นละ 243.33 บาท รวมเป็นเงิน 73,000,000 บาท รวมการจำหน่ายเงินลงทุนในสองบริษัทข้างต้น คิดเป็นราคาทั้งสิ้น 650,000,000 บาท
ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ คือ บริษัทฯมีเงินทุนเพิ่มขึ้นสำหรับการลงทุนในโครงการใหม่ๆ รวมทั้งเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่มบริษัทฯ นอกจากนี้ ราคาขายข้างต้นเป็นราคาที่สูงกว่าทั้งราคาทุนและราคาตามบัญชี ซึ่งทำให้บริษัทฯมีกำไรจากการขายเงินลงทุนโดยประมาณตามงบการเงินเฉพาะกิจการที่ 460 ล้านบาท
http://www.ryt9.com/s/iq10/1618799 ที่มา