อาหมัด ซาฮิด ฮามิดี
รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - มาเลเซียเตรียมซื้อเครื่องบินขับไล่เพิ่มเติมอีก 18 ลำ ภายในปี 2015 เพื่อนำมาแทนที่ฝูงเครื่องบินขับไล่เดิมซึ่งมีเครื่อง “มิก-29” ของรัสเซียเป็นแกนหลัก และมีอายุการใช้งานยาวนานโดยล่าสุดรัฐบาลเสือเหลืองประกาศขึ้นบัญชี 5 บริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ที่อยู่ในข่ายการพิจารณา
คำแถลงของอาหมัด ซาฮิด ฮามิดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแดนเสือเหลือง ในวันพฤหัสบดี (28) ระบุว่า ตัวเลือกของมาเลเซียในการเสริมเขี้ยวเล็บครั้งนี้ประกอบไปด้วย เครื่องบินขับไล่ยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน จากสหราชอาณาจักร, เครื่องบินขับไล่ ซาบ เจเอเอส-39 กริเพนจากสวีเดน, เครื่องบินขับไล่ ดัสโซลต์ ราฟาลจากฝรั่งเศส, เอฟ/เอ 18 อี/เอฟ ซูเปอร์ ฮอร์เน็ต จากบริษัทโบอิ้งของสหรัฐฯ รวมถึงเครื่องบินขับไล่ซูคอย ซู-30 จากรัสเซีย
รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซียเปิดเผยข่าวการเสริมเขี้ยวลับทางอากาศดังกล่าว ระหว่างเข้าร่วมงานมหกรรมแสดงสินค้าด้านการเดินเรือและอวกาศนานาชาติที่เกาะลังกาวี โดยยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดตัวเลขงบประมาณที่แน่นอนที่จะนำมาใช้ในโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ครั้งนี้ และคาดว่าการตัดสินใจอนุมัติจัดซื้อขั้นสุดท้ายจะมีขึ้นหลังการเลือกตั้งทั่วไปที่คาดว่านายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค อาจประกาศในช่วงสิ้นเดือนเมษายนนี้
ขณะที่แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมอาวุธระหว่างประเทศ เผยว่า การจัดซื้อฝูงบินขับไล่ของมาเลเซียอาจต้องใช้งบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งในมุมมองของรัฐบาลกัวลาลัมเปอร์แล้วถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าเครื่องบินขับไล่ที่มาเลเซียมีอยู่ในความครอบครองขณะนี้ ไม่มีศักยภาพพอที่จะปกป้องประเทศจากภัยคุกคามใหม่ๆ ได้ โดยเฉพาะข้อพิพาทกับจีนเกี่ยวกับพื้นที่หลายส่วนในทะเลจีนใต้ และภัยคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ที่กำลังคุกคามความมั่นคงต่อรัฐซาบาห์บนเกาะบอร์เนียว
เอฟ/เอ 18 อี/เอฟ ซุปเปอร์ ฮอร์เน็ต จากบริษัทโบอิ้งของสหรัฐฯ
ยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน
ดัสโซลต์ ราฟาลจากฝรั่งเศส
ซาบ เจเอเอส-39 กริเพนจากสวีเดน
ซูคอย ซู-30 จากรัสเซีย
Credit:
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000037904
มาเลเซียประกาศซื้อเครื่องบินรบ 18 ลำเสริมเขี้ยวเล็บภายในปี 2015
อาหมัด ซาฮิด ฮามิดี
รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - มาเลเซียเตรียมซื้อเครื่องบินขับไล่เพิ่มเติมอีก 18 ลำ ภายในปี 2015 เพื่อนำมาแทนที่ฝูงเครื่องบินขับไล่เดิมซึ่งมีเครื่อง “มิก-29” ของรัสเซียเป็นแกนหลัก และมีอายุการใช้งานยาวนานโดยล่าสุดรัฐบาลเสือเหลืองประกาศขึ้นบัญชี 5 บริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ที่อยู่ในข่ายการพิจารณา
คำแถลงของอาหมัด ซาฮิด ฮามิดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแดนเสือเหลือง ในวันพฤหัสบดี (28) ระบุว่า ตัวเลือกของมาเลเซียในการเสริมเขี้ยวเล็บครั้งนี้ประกอบไปด้วย เครื่องบินขับไล่ยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน จากสหราชอาณาจักร, เครื่องบินขับไล่ ซาบ เจเอเอส-39 กริเพนจากสวีเดน, เครื่องบินขับไล่ ดัสโซลต์ ราฟาลจากฝรั่งเศส, เอฟ/เอ 18 อี/เอฟ ซูเปอร์ ฮอร์เน็ต จากบริษัทโบอิ้งของสหรัฐฯ รวมถึงเครื่องบินขับไล่ซูคอย ซู-30 จากรัสเซีย
รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซียเปิดเผยข่าวการเสริมเขี้ยวลับทางอากาศดังกล่าว ระหว่างเข้าร่วมงานมหกรรมแสดงสินค้าด้านการเดินเรือและอวกาศนานาชาติที่เกาะลังกาวี โดยยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดตัวเลขงบประมาณที่แน่นอนที่จะนำมาใช้ในโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ครั้งนี้ และคาดว่าการตัดสินใจอนุมัติจัดซื้อขั้นสุดท้ายจะมีขึ้นหลังการเลือกตั้งทั่วไปที่คาดว่านายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค อาจประกาศในช่วงสิ้นเดือนเมษายนนี้
ขณะที่แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมอาวุธระหว่างประเทศ เผยว่า การจัดซื้อฝูงบินขับไล่ของมาเลเซียอาจต้องใช้งบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งในมุมมองของรัฐบาลกัวลาลัมเปอร์แล้วถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าเครื่องบินขับไล่ที่มาเลเซียมีอยู่ในความครอบครองขณะนี้ ไม่มีศักยภาพพอที่จะปกป้องประเทศจากภัยคุกคามใหม่ๆ ได้ โดยเฉพาะข้อพิพาทกับจีนเกี่ยวกับพื้นที่หลายส่วนในทะเลจีนใต้ และภัยคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ที่กำลังคุกคามความมั่นคงต่อรัฐซาบาห์บนเกาะบอร์เนียว
เอฟ/เอ 18 อี/เอฟ ซุปเปอร์ ฮอร์เน็ต จากบริษัทโบอิ้งของสหรัฐฯ
ยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน
ดัสโซลต์ ราฟาลจากฝรั่งเศส
ซาบ เจเอเอส-39 กริเพนจากสวีเดน
ซูคอย ซู-30 จากรัสเซีย
Credit: http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000037904