ขุนโจรแห่งเขาเนียซัวเปาะ
เกยเตียน.....นายพรานพวกมาก
ตอนที่ ๒ แค้นที่ได้ชำระ
"เล่าเซี่ยงชุน"
นางโกวตัวซอได้ทราบคำบอกเล่าของ งักหัวผู้เป็นอาของสามีโดยละเอียดว่า
".....เมื่อเวลาวานนี้เขาส่งคนโทษมาสองคน ถามดูรู้ว่าเป็นญาติกัน คนทั้งสองนั้นชื่อเกยเตียน เกยโป มอไทก๋งกับมอตงหงีพาลพาโลด้วยเรื่องยิงเสือตาย แล้วซ้ำใส่ความว่าเป็นผู้ร้ายเข้าตีปล้นเอาเงินทองสิ่งของ แล้วจับตัวมาส่งผู้รักษาเมือง มอตงหงีเอาเงินทองมาบนบาน ปรารถนาจะให้สองคนพี่น้องตายที่ในคุก การเรื่องนี้มอไทก๋งแกล้งใส่ความเอาเปล่า ๆ ครั้นจะช่วยแก้ไขก็ตัวคนเดียว จึงได้มาบอกพี่น้องทั้งหลายให้รู้...."
นางก็โกรธบอกว่า
"...เกยเตียน เกยโป น้องข้าพเจ้าไม่มีความผิด เหตุใดมอไทก๋งจึงมาคิดร้ายดังนี้...."
แล้วก็ใช้ให้คนไปตาม ซึงซิน ผู้สามี ซึ่งไปเที่ยวเดินเล่นให้กลับมาสนทนากับงักหัว ปรึกษาหาหนทางที่จะช่วยเหลือน้องชาย ซึงซินก็สั่งจัดโต๊ะสุราอาหารมาเลี้ยงดูงักหัว และมอบเงินให้เอาไปแจกจ่ายแก่ผู้คุม เพื่อจะได้ลดหย่อนผ่อนปรนให้สองพี่น้องมีความสบายบ้าง แล้วก็ให้ งักหัวกลับไประวังรักษาสองคนนี้ไว้ก่อน ตนเองจะคิดหาทางแก้ไขภายหลัง
ซึงซินก็ปรึกษากับนางโกวตัวซอว่ามอไทก๋ง เป็นคนมั่งมีทรัพย์สินมาก เจ้าเมืองและกรมการเมืองก็เป็นพวกพ้องเขา จะทำประการใดดี นางโกวตัวซอก็ว่าจะเข้าไปแย่งชิงเอาตัวสองพี่น้อง ในเวลาค่ำวันนี้ก็ได้ แต่ซึงซินแย้งว่าพวกเราน้อยเห็นจะไม่สำเร็จ ต้องไปบอกอาหลานอีกสองคนมาช่วยจึงจะสมปรารถนา นางโกวตัวซอก็ซักว่า สองอาหลานนั้นคือผู้ใด
ซึงซินก็เล่าว่า โจวเอี๋ยน เป็นอา โจวยุน เป็นหลาน ปู่และบิดาเป็นขุนนางผู้ใหญ่อยู่ในเมืองไลจิว ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองนี้ ทั้งสองคนเป็นผู้มีฝีมือในเพลงอาวุธ ใจซื่อตรงดีมิได้เข้าด้วยผู้ผิด มีบ้านอยู่ที่เขาเตงหุนซัวมานานหลายปี
แล้วซึงซินก็เดินทางไปเชิญญาติทั้งสองมาปรึกษากันที่บ้านของตน เมื่อได้จัดโต๊ะสุราอาหารมาเลี้ยงกันตามธรรมเนียมแล้ว ซึงซินก็เล่าความเรื่องเกยเตียนกับเกยโปถูกใส่ความ และขอร้องว่า
"......น้องไปเชิญพี่ทั้งสองมาช่วยคิดอ่านว่า จะยกพวกพ้องไปตีหักแย่งชิงเอาเกยเตียนเกยโปออกมาจากคุก ในเวลาค่ำวันนี้ พี่ทั้งสองจะเห็นประการใด...."
โจวเอี๋ยนบอกว่า
".....เรามีพวกพ้องอยู่ประมาณเก้าสิบ ที่ไว้ใจได้สักยี่สิบคน นอกนั้นเห็นจะไว้ใจไม่ได้ ด้วยน้อยตัวนัก ประการหนึ่งถ้าไปแย่งชิงเอามาได้ พวกทหารคงจะยกกองทัพไปรบกวน แต่เรามีที่สำนักอยู่แห่งหนึ่งไม่แจ้งว่าท่านจะยอมไปหรือไม่...."
ซึงซินก็ว่า
"....ถ้าช่วยสองคนออกมาได้ จะไปที่สำนักไหนน้องก็ยอมทุกอย่าง...."
โจเอี๋ยนจึงบอกว่า
".....ที่เขาเนียซัวเปาะนั้นแหละดี ด้วย ซ้องกั๋ง กับ เตียวไก่ เป็นนายใหญ่อยู่ที่นั่น พวกพ้องของเราไปอยู่กับซ้องกั๋งนานแล้วชื่อ เอียหลิม คนหนึ่ง เต็งฮุย คนหนึ่ง เจียะย้ง คนหนึ่ง ชอบพอรักใคร่กันมาก ถ้าไปสามิภักดิ์แล้วไม่มีผู้ใดรบกวน....."
นางโกวตัวซอก็เห็นด้วย โจวยุนจึงถามว่า
"...ยังอีกข้อหนึ่งก็สำคัญนัก ถ้าพวกเราไปตีหักแย่งชิงเอาเกยเตียน เกยโป ออกมา แม้นพวกทหารไล่ติดตามจะทำประการใด....."
ซึงซินว่า
".....ข้อนั้นไม่เป็นไร ข้าพเจ้ายังมีพี่อีกคนหนึ่ง เป็นขุนนางที่หัดว่าฝ่ายทหาร มีฝีมือเข้มแข็ง เคยปราบปรามพวกโจรอยู่เนือง ๆ จะไปบอกให้มาช่วยป้องกัน....."
โจวเอี๋ยนก็ว่าเขาเป็นขุนนางที่ไหนจะคิดมาเข้าด้วย ซึงซินก็ว่าจะไปล่อลวงมาพูดจาเกลี้ยกล่อมให้ยอมจนได้ จากนั้นก็ชวนกันกินโต๊ะเสพสุราอยู่จนดึก จึงจัดที่นอนให้สองอาหลานพักอาศัยอยู่ที่โรงเตี๊ยมนั้น
พอถึงเช้าวันรุ่งขึ้น ซึงซินสั่งให้คนใช้จัดเกี้ยวเข้าไปในเมืองเตงจิว บอกกับ ซึงลิบ และพี่สะใภ้ว่า บัดนี้นางโกวตัวซอภรรยาของตนป่วยมาก ขอเชิญพี่ทั้งสองไปพูดความลับกันสักหน่อย คนใช้ก็ไปที่บ้านซึงลิบแจ้งความตามคำสั่งทุกประการ ซึงลิบกับภรรยาก็ตกใจ รีบแต่งตัวถือทวนขึ้นเกี้ยว มาถึงบ้านซึงซินโดยมิได้ชักช้า
เมื่อพบหน้าน้องชายและน้องสะใภ้ก็เห็นเป็นปกติดี ไม่มีอาการเจ็บป่วยแต่อย่างใด ครั้นไต่ถามดูนางโกวตัวซอบอกว่าไม่ได้ป่วยไข้สิ่งใด แต่เป็นการเจ็บใจที่น้องชายสองคนถูกใส่ความ แล้วก็เล่าเรื่องแต่ต้นจนปลายให้ฟังทุกประการ และบอกว่าจะคิดอ่านไปแย่งชิงคนทั้งสองมา แล้วจะพากันไปสามิภักดิ์กับ ซ้องกั๋ง ที่เขาเนียซัวเปาะ กลัวพี่ทั้งสองจะได้ความลำบาก จึงเชิญมาบอกให้ทราบก่อน
ซึงลิบก็ว่าตนเป็นขุนนางจะร่วมมือด้วยไม่ได้ นางโกวตัวซอก็ฉวยกระบี่ลุกขึ้นยืน บอกว่าถ้าไม่ยอมก็จะได้เห็นฝีมือกัน ก่อนที่จะลาไป ซึงซินกับโจวเอี๋ยนและโจวยุนที่อยู่ด้วยกัน ก็ฉวยอาวุธคู่มือไว้ทุกคน ซึงลิบตกใจไม่รู้ที่จะคิดประการใด ต้องจำใจยอมร่วมมือด้วย แล้วทั้งหมดก็ปรึกษาหารือกันถึง แผนการที่จะทำต่อไป
เช้าวันรุ่งขึ้น โจวยุนกับพรรคพวกที่ไว้ใจได้ประมาณยี่สิบคน ก็มารวมกับพรรคพวกของซึงซินอีกห้าสิบคน เอาอาวุธซ่อนไว้ในเสื้อ เข้าไปคอยทีอยู่ใกล้คุก นางโกวตัวซอก็แต่งตัวซอมซ่อเป็นคนจน เอาอาวุธซ่อนไว้ในเสื้อ ถือห่ออาหารเข้าไปที่ประตูคุกซึ่งงักหัวยืนรออยู่ ทั้งสองทำเป็นไม่รู้จักกัน ขออนุญาตเอาอาหารไปส่งให้นักโทษสองพี่น้อง งักหัวก็เปิดประตูให้นางเข้าไป พอดี เปากิด ซึ่งรับสินบนจากมอไทก๋งให้ฆ่านักโทษสองพี่น้องมาถึง ร้องถามว่าหญิงคนนั้นเอาอาหารมาส่งผู้ใด อย่าให้เข้าไปในคุก งักหัวจึงรับเอาอาหารที่จัดมา เปิดประตูคุกเข้าไปให้เกยเตียนเกยโปกิน แล้วผู้คุมก็ปิดประตูคุกเสีย งักหัวก็บอกสองพี่น้องให้เตรียมตัว นางโกวตัวซอจะมาช่วยแล้ว
ฝ่ายซึงลิบกับซึงซิน ก็เข้าไปหน้าประตูร้องเรียกให้เปิด ผู้คุมก็แจ้งแก่เปากิดว่าซึงลิบขุนนางฝ่ายทหารมาเรียกให้เปิดประตูคุก เปากิดว่าซึงลิบเป็นขุนนางฝ่ายบู๊ไม่เกี่ยวข้องกันไม่ต้องเปิดให้ ซึงลิบจึงพังประตูเข้าไป ผู้คุมก็ร้องอื้ออึงขึ้น เปากิดก็ตกตลึงอยู่กับที่ นางโกวตัวซอซึ่งอยู่ใกล้ก็ชักกระบี่ออกไล่ฟันเปากิดจนต้องเผ่นหนีไป
โจวเอี๋ยนกับโจวยุนก็คุมพรรคพวกกรูกันเข้าไปในคุก งักหัวเข้าช่วยนักโทษสองพี่น้อง หักโซ่ตรวนขื่อคาออก แล้ววิ่งตามเปากิดไป เอาคาที่งัดออก ตีถูกเปากิดศรีษะแตกตาย นางโกวตัวซอก็ไล่ฆ่าฟันผู้คุมตายไปหลายคน แล้วทั้งหมดก็ล่าถอยออกจากคุก เดินไปตามถนนในตลาด ซึงลิบก็ขึ้นม้าถือเกาทัณฑ์กำกับมาข้างหลัง ผู้คนในเมืองไม่มีใครกล้าขัดขวาง ต่างก็เข้าบ้านปิดประตูเงียบหมด
เกยเตียนและเกยโป กับพี่น้องเหล่านั้นก็หนีออกจากเมืองไปรวมพลอยู่ที่บ้านของ ซึงซิน รับบุตรภรรยาและค
รอบครัว ทรัพย์สินสิ่งของขึ้นบรรทุกเกวียน จะเดินทางไปเขาเนียซัวเปาะ เกยเตียนกับเกยโปก็ขอไปแก้แค้นมอไทก๋งกับบุตรชายให้สิ้นเวรกันเสีย ซึงลิบจึงให้ซึงซิน กับงักหัวคุมครอบครัวทั้งหมดเดินทางล่วงหน้าไปก่อน ส่วนตนเองกับพี่น้องทั้งสองและโจวเอี๋ยน โจวยุน คุมไพร่พลที่เหลือเดินทางไปบ้านมอไทก๋ง
เมื่อไปถึงก็เจอสองพ่อลูกกำลังกินโต๊ะ เสพสุราพูดจาเล่นกันอยู่ พวกของเกยเตียนก็พังประตูบ้านเข้าไปฆ่า มอไทก๋ง มอตงหงี และบุตรภรรยาญาติพี่น้องที่อยู่ในบ้านนั้นตายหมดทั้งครอบครัว แล้วก็ค้นหาทรัพย์สมบัติเงินทองสิ่งของมีค่า รวบรวมขึ้นเกวียน และจุดไฟเผาบ้านเรือนเสีย พรรคพวกที่ไปต่างก็ขึ้นม้าที่ยึดเอามาได้จากในบ้าน คุมเกวียนเดินทางไปประมาณสามสิบลี้ก็สมทบกับครอบครัว มุ่งหน้าไปยังเขาเนียซัวเปาะ ตามแผนที่ได้วางไว้
ซึงลิบกับญาติพี่น้องเดินทางมาหลายวันใกล้จะถึงตำบลเขาเนียซัวเปาะ ก็แวะพักอยู่ใต้ร่มไม้ใกล้โรงสุราแห่งหนึ่ง เจ้าของโรงออกมาดู โจวเอี๋ยนจำได้ว่าเป็น เจียะย้ง พวกเขาเนียซัวเปาะที่รู้จักกัน จึงพาไปพบกับ โงวหยง กุนซือของกลุ่มโจรเขาเนียซัวเปาะ แล้วก็เลยช่วยกันปราบปรามพวกบ้านจอกเกจึง ซึ่งเป็นศัตรูกับพวกเขาเนียซัวเปาะ จนได้ชัยชนะมีความชอบ ได้เป็นนายโจรมีอันดับในที่สุด
เกยเตียน นายพรานมือฉมังของเมืองเตงจิว ซึ่งได้รอดชีวิตมา ด้วยฝีมือของพี่สาวกับพี่เขยและญาติพี่น้องทั้งหลาย จึงทำให้ขบวนการโจรกลุ่มนี้ มีพลพรรคเพิ่มขึ้นอีกมากมายหลายสิบคน และได้เป็นกำลังสำคัญต่อการดำเนินงานต่าง ๆ ต่อไปในภายหน้า อีกนาน.
##########
นิตยสารโล่เงิน
พฤศจิกายน ๒๕๔๑
วางเมื่อ ๒๗ มี.ค.๕๖ เวลา ๐๘.๐๗
เกยเตียน...นายพรานพวกมาก (๒)
เกยเตียน.....นายพรานพวกมาก
ตอนที่ ๒ แค้นที่ได้ชำระ
"เล่าเซี่ยงชุน"
นางโกวตัวซอได้ทราบคำบอกเล่าของ งักหัวผู้เป็นอาของสามีโดยละเอียดว่า
".....เมื่อเวลาวานนี้เขาส่งคนโทษมาสองคน ถามดูรู้ว่าเป็นญาติกัน คนทั้งสองนั้นชื่อเกยเตียน เกยโป มอไทก๋งกับมอตงหงีพาลพาโลด้วยเรื่องยิงเสือตาย แล้วซ้ำใส่ความว่าเป็นผู้ร้ายเข้าตีปล้นเอาเงินทองสิ่งของ แล้วจับตัวมาส่งผู้รักษาเมือง มอตงหงีเอาเงินทองมาบนบาน ปรารถนาจะให้สองคนพี่น้องตายที่ในคุก การเรื่องนี้มอไทก๋งแกล้งใส่ความเอาเปล่า ๆ ครั้นจะช่วยแก้ไขก็ตัวคนเดียว จึงได้มาบอกพี่น้องทั้งหลายให้รู้...."
นางก็โกรธบอกว่า
"...เกยเตียน เกยโป น้องข้าพเจ้าไม่มีความผิด เหตุใดมอไทก๋งจึงมาคิดร้ายดังนี้...."
แล้วก็ใช้ให้คนไปตาม ซึงซิน ผู้สามี ซึ่งไปเที่ยวเดินเล่นให้กลับมาสนทนากับงักหัว ปรึกษาหาหนทางที่จะช่วยเหลือน้องชาย ซึงซินก็สั่งจัดโต๊ะสุราอาหารมาเลี้ยงดูงักหัว และมอบเงินให้เอาไปแจกจ่ายแก่ผู้คุม เพื่อจะได้ลดหย่อนผ่อนปรนให้สองพี่น้องมีความสบายบ้าง แล้วก็ให้ งักหัวกลับไประวังรักษาสองคนนี้ไว้ก่อน ตนเองจะคิดหาทางแก้ไขภายหลัง
ซึงซินก็ปรึกษากับนางโกวตัวซอว่ามอไทก๋ง เป็นคนมั่งมีทรัพย์สินมาก เจ้าเมืองและกรมการเมืองก็เป็นพวกพ้องเขา จะทำประการใดดี นางโกวตัวซอก็ว่าจะเข้าไปแย่งชิงเอาตัวสองพี่น้อง ในเวลาค่ำวันนี้ก็ได้ แต่ซึงซินแย้งว่าพวกเราน้อยเห็นจะไม่สำเร็จ ต้องไปบอกอาหลานอีกสองคนมาช่วยจึงจะสมปรารถนา นางโกวตัวซอก็ซักว่า สองอาหลานนั้นคือผู้ใด
ซึงซินก็เล่าว่า โจวเอี๋ยน เป็นอา โจวยุน เป็นหลาน ปู่และบิดาเป็นขุนนางผู้ใหญ่อยู่ในเมืองไลจิว ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองนี้ ทั้งสองคนเป็นผู้มีฝีมือในเพลงอาวุธ ใจซื่อตรงดีมิได้เข้าด้วยผู้ผิด มีบ้านอยู่ที่เขาเตงหุนซัวมานานหลายปี
แล้วซึงซินก็เดินทางไปเชิญญาติทั้งสองมาปรึกษากันที่บ้านของตน เมื่อได้จัดโต๊ะสุราอาหารมาเลี้ยงกันตามธรรมเนียมแล้ว ซึงซินก็เล่าความเรื่องเกยเตียนกับเกยโปถูกใส่ความ และขอร้องว่า
"......น้องไปเชิญพี่ทั้งสองมาช่วยคิดอ่านว่า จะยกพวกพ้องไปตีหักแย่งชิงเอาเกยเตียนเกยโปออกมาจากคุก ในเวลาค่ำวันนี้ พี่ทั้งสองจะเห็นประการใด...."
โจวเอี๋ยนบอกว่า
".....เรามีพวกพ้องอยู่ประมาณเก้าสิบ ที่ไว้ใจได้สักยี่สิบคน นอกนั้นเห็นจะไว้ใจไม่ได้ ด้วยน้อยตัวนัก ประการหนึ่งถ้าไปแย่งชิงเอามาได้ พวกทหารคงจะยกกองทัพไปรบกวน แต่เรามีที่สำนักอยู่แห่งหนึ่งไม่แจ้งว่าท่านจะยอมไปหรือไม่...."
ซึงซินก็ว่า
"....ถ้าช่วยสองคนออกมาได้ จะไปที่สำนักไหนน้องก็ยอมทุกอย่าง...."
โจเอี๋ยนจึงบอกว่า
".....ที่เขาเนียซัวเปาะนั้นแหละดี ด้วย ซ้องกั๋ง กับ เตียวไก่ เป็นนายใหญ่อยู่ที่นั่น พวกพ้องของเราไปอยู่กับซ้องกั๋งนานแล้วชื่อ เอียหลิม คนหนึ่ง เต็งฮุย คนหนึ่ง เจียะย้ง คนหนึ่ง ชอบพอรักใคร่กันมาก ถ้าไปสามิภักดิ์แล้วไม่มีผู้ใดรบกวน....."
นางโกวตัวซอก็เห็นด้วย โจวยุนจึงถามว่า
"...ยังอีกข้อหนึ่งก็สำคัญนัก ถ้าพวกเราไปตีหักแย่งชิงเอาเกยเตียน เกยโป ออกมา แม้นพวกทหารไล่ติดตามจะทำประการใด....."
ซึงซินว่า
".....ข้อนั้นไม่เป็นไร ข้าพเจ้ายังมีพี่อีกคนหนึ่ง เป็นขุนนางที่หัดว่าฝ่ายทหาร มีฝีมือเข้มแข็ง เคยปราบปรามพวกโจรอยู่เนือง ๆ จะไปบอกให้มาช่วยป้องกัน....."
โจวเอี๋ยนก็ว่าเขาเป็นขุนนางที่ไหนจะคิดมาเข้าด้วย ซึงซินก็ว่าจะไปล่อลวงมาพูดจาเกลี้ยกล่อมให้ยอมจนได้ จากนั้นก็ชวนกันกินโต๊ะเสพสุราอยู่จนดึก จึงจัดที่นอนให้สองอาหลานพักอาศัยอยู่ที่โรงเตี๊ยมนั้น
พอถึงเช้าวันรุ่งขึ้น ซึงซินสั่งให้คนใช้จัดเกี้ยวเข้าไปในเมืองเตงจิว บอกกับ ซึงลิบ และพี่สะใภ้ว่า บัดนี้นางโกวตัวซอภรรยาของตนป่วยมาก ขอเชิญพี่ทั้งสองไปพูดความลับกันสักหน่อย คนใช้ก็ไปที่บ้านซึงลิบแจ้งความตามคำสั่งทุกประการ ซึงลิบกับภรรยาก็ตกใจ รีบแต่งตัวถือทวนขึ้นเกี้ยว มาถึงบ้านซึงซินโดยมิได้ชักช้า
เมื่อพบหน้าน้องชายและน้องสะใภ้ก็เห็นเป็นปกติดี ไม่มีอาการเจ็บป่วยแต่อย่างใด ครั้นไต่ถามดูนางโกวตัวซอบอกว่าไม่ได้ป่วยไข้สิ่งใด แต่เป็นการเจ็บใจที่น้องชายสองคนถูกใส่ความ แล้วก็เล่าเรื่องแต่ต้นจนปลายให้ฟังทุกประการ และบอกว่าจะคิดอ่านไปแย่งชิงคนทั้งสองมา แล้วจะพากันไปสามิภักดิ์กับ ซ้องกั๋ง ที่เขาเนียซัวเปาะ กลัวพี่ทั้งสองจะได้ความลำบาก จึงเชิญมาบอกให้ทราบก่อน
ซึงลิบก็ว่าตนเป็นขุนนางจะร่วมมือด้วยไม่ได้ นางโกวตัวซอก็ฉวยกระบี่ลุกขึ้นยืน บอกว่าถ้าไม่ยอมก็จะได้เห็นฝีมือกัน ก่อนที่จะลาไป ซึงซินกับโจวเอี๋ยนและโจวยุนที่อยู่ด้วยกัน ก็ฉวยอาวุธคู่มือไว้ทุกคน ซึงลิบตกใจไม่รู้ที่จะคิดประการใด ต้องจำใจยอมร่วมมือด้วย แล้วทั้งหมดก็ปรึกษาหารือกันถึง แผนการที่จะทำต่อไป
เช้าวันรุ่งขึ้น โจวยุนกับพรรคพวกที่ไว้ใจได้ประมาณยี่สิบคน ก็มารวมกับพรรคพวกของซึงซินอีกห้าสิบคน เอาอาวุธซ่อนไว้ในเสื้อ เข้าไปคอยทีอยู่ใกล้คุก นางโกวตัวซอก็แต่งตัวซอมซ่อเป็นคนจน เอาอาวุธซ่อนไว้ในเสื้อ ถือห่ออาหารเข้าไปที่ประตูคุกซึ่งงักหัวยืนรออยู่ ทั้งสองทำเป็นไม่รู้จักกัน ขออนุญาตเอาอาหารไปส่งให้นักโทษสองพี่น้อง งักหัวก็เปิดประตูให้นางเข้าไป พอดี เปากิด ซึ่งรับสินบนจากมอไทก๋งให้ฆ่านักโทษสองพี่น้องมาถึง ร้องถามว่าหญิงคนนั้นเอาอาหารมาส่งผู้ใด อย่าให้เข้าไปในคุก งักหัวจึงรับเอาอาหารที่จัดมา เปิดประตูคุกเข้าไปให้เกยเตียนเกยโปกิน แล้วผู้คุมก็ปิดประตูคุกเสีย งักหัวก็บอกสองพี่น้องให้เตรียมตัว นางโกวตัวซอจะมาช่วยแล้ว
ฝ่ายซึงลิบกับซึงซิน ก็เข้าไปหน้าประตูร้องเรียกให้เปิด ผู้คุมก็แจ้งแก่เปากิดว่าซึงลิบขุนนางฝ่ายทหารมาเรียกให้เปิดประตูคุก เปากิดว่าซึงลิบเป็นขุนนางฝ่ายบู๊ไม่เกี่ยวข้องกันไม่ต้องเปิดให้ ซึงลิบจึงพังประตูเข้าไป ผู้คุมก็ร้องอื้ออึงขึ้น เปากิดก็ตกตลึงอยู่กับที่ นางโกวตัวซอซึ่งอยู่ใกล้ก็ชักกระบี่ออกไล่ฟันเปากิดจนต้องเผ่นหนีไป
โจวเอี๋ยนกับโจวยุนก็คุมพรรคพวกกรูกันเข้าไปในคุก งักหัวเข้าช่วยนักโทษสองพี่น้อง หักโซ่ตรวนขื่อคาออก แล้ววิ่งตามเปากิดไป เอาคาที่งัดออก ตีถูกเปากิดศรีษะแตกตาย นางโกวตัวซอก็ไล่ฆ่าฟันผู้คุมตายไปหลายคน แล้วทั้งหมดก็ล่าถอยออกจากคุก เดินไปตามถนนในตลาด ซึงลิบก็ขึ้นม้าถือเกาทัณฑ์กำกับมาข้างหลัง ผู้คนในเมืองไม่มีใครกล้าขัดขวาง ต่างก็เข้าบ้านปิดประตูเงียบหมด
เกยเตียนและเกยโป กับพี่น้องเหล่านั้นก็หนีออกจากเมืองไปรวมพลอยู่ที่บ้านของ ซึงซิน รับบุตรภรรยาและค
รอบครัว ทรัพย์สินสิ่งของขึ้นบรรทุกเกวียน จะเดินทางไปเขาเนียซัวเปาะ เกยเตียนกับเกยโปก็ขอไปแก้แค้นมอไทก๋งกับบุตรชายให้สิ้นเวรกันเสีย ซึงลิบจึงให้ซึงซิน กับงักหัวคุมครอบครัวทั้งหมดเดินทางล่วงหน้าไปก่อน ส่วนตนเองกับพี่น้องทั้งสองและโจวเอี๋ยน โจวยุน คุมไพร่พลที่เหลือเดินทางไปบ้านมอไทก๋ง
เมื่อไปถึงก็เจอสองพ่อลูกกำลังกินโต๊ะ เสพสุราพูดจาเล่นกันอยู่ พวกของเกยเตียนก็พังประตูบ้านเข้าไปฆ่า มอไทก๋ง มอตงหงี และบุตรภรรยาญาติพี่น้องที่อยู่ในบ้านนั้นตายหมดทั้งครอบครัว แล้วก็ค้นหาทรัพย์สมบัติเงินทองสิ่งของมีค่า รวบรวมขึ้นเกวียน และจุดไฟเผาบ้านเรือนเสีย พรรคพวกที่ไปต่างก็ขึ้นม้าที่ยึดเอามาได้จากในบ้าน คุมเกวียนเดินทางไปประมาณสามสิบลี้ก็สมทบกับครอบครัว มุ่งหน้าไปยังเขาเนียซัวเปาะ ตามแผนที่ได้วางไว้
ซึงลิบกับญาติพี่น้องเดินทางมาหลายวันใกล้จะถึงตำบลเขาเนียซัวเปาะ ก็แวะพักอยู่ใต้ร่มไม้ใกล้โรงสุราแห่งหนึ่ง เจ้าของโรงออกมาดู โจวเอี๋ยนจำได้ว่าเป็น เจียะย้ง พวกเขาเนียซัวเปาะที่รู้จักกัน จึงพาไปพบกับ โงวหยง กุนซือของกลุ่มโจรเขาเนียซัวเปาะ แล้วก็เลยช่วยกันปราบปรามพวกบ้านจอกเกจึง ซึ่งเป็นศัตรูกับพวกเขาเนียซัวเปาะ จนได้ชัยชนะมีความชอบ ได้เป็นนายโจรมีอันดับในที่สุด
เกยเตียน นายพรานมือฉมังของเมืองเตงจิว ซึ่งได้รอดชีวิตมา ด้วยฝีมือของพี่สาวกับพี่เขยและญาติพี่น้องทั้งหลาย จึงทำให้ขบวนการโจรกลุ่มนี้ มีพลพรรคเพิ่มขึ้นอีกมากมายหลายสิบคน และได้เป็นกำลังสำคัญต่อการดำเนินงานต่าง ๆ ต่อไปในภายหน้า อีกนาน.
##########
นิตยสารโล่เงิน
พฤศจิกายน ๒๕๔๑
วางเมื่อ ๒๗ มี.ค.๕๖ เวลา ๐๘.๐๗