ผมเคยบอกมานานแล้วครับ...ใครที่เคยทำงานกับไอ้แม้ว น่าจะรู้ดี...พอหมดประโยชน์ โดนถีบทิ้ง...
พรรคเพื่อไทยออกคำสั่งตั้งรองโฆษกพรรคชุดใหม่ จัดวาง “ครูมานิตย์-อนุสรณ์-อนุตตมา” คนของ “ติ๊งเหล่” พรึ่บ ส่วน “จิรายุ” ตกกระป๋อง เหตุผู้ใหญ่ไม่พอใจปากไวพูด “ส่งเสาไฟฟ้า” ก็ชนะ ทำ “พงศพัศ” แพ้เลือกตั้ง เจ้าตัวโต้ไม่ใช่ โอดถูกป้ายสี “ภูมิธรรม” เมิน ถูกมองเป็นเด็ก “สุดารัตน์” ชี้พรรคนิ่งนอนใจเกินไป ทั้งที่มีศัตรูอยู่มาก
วันนี้ (21 มี.ค.) มีรายงานว่า นายจารุพงค์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ออกคำสั่งพรรคเพื่อไทย ที่ 005/2556 เรื่อง ยกเลิกและแต่งตั้งรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า เพื่อให้การประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของพรรค ทั้งทางด้านสังคมและการเมือง ตลอดจนแนวนโยบายของพรรคต่อสาธารณชน ให้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสอดคล้องกับสถานการณ์ จึงอาศัยอำนาจตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ยกเลิกคำสั่งเดิม และแต่งตั้งรองโฆษกพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ ได้แก่ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย, นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.อุตสาหกรรม และนางสาวอนุตตมา อมรวิวัฒน์ เลขานุการ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีผลตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการปรับเปลี่ยนรองโฆษกพรรคในครั้งนี้ เพราะทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคเห็นว่า ที่ผ่านมาการตอบโต้ชี้แจงข้อกล่าวหาของฝ่ายตรงข้ามยังดีไม่เท่าที่ควร จึงมีการเปลี่ยนแปลงโดยให้นายครูมานิตย์ เป็นตัวแทนของ ส.ส.กลุ่มภาคอีสาน ชี้แจงในลักษณะลูกทุ่ง เข้าใจง่าย พร้อมกับแต่งตั้งนายอนุสรณ์ ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มเสื้อแดง และปลอบใจที่อกหักจากตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีหน้าที่ตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามในลักษณะ ถึงลูกถึงคน ส่วนนางสาว อนุตตมา จะออกมาชี้แจงในบทบาทเชิงวิชาการ
สำหรับทีมรองโฆษกชุดเดิมนั้น ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต ได้รับการเลื่อนชั้นขึ้นไปเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ในส่วนของนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทยนั้น ถูกปลด เพราะผู้ใหญ่ไม่พอใจที่ปากไว ไประบุว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พรรคเพื่อไทยถึงจะส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ ซึ่งกลายเป็นประเด็นให้ฝ่ายตรงข้ามหยิบยกมาโจมตี ต้องเสียเวลาชี้แจง และมีการมองว่าเป็นสาเหตุหนึ่งในการพ่ายแพ้ของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงศเจริญ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย
รายงานข่าวอีกด้านหนึ่ง เปิดเผยว่า เหตุที่นายจิรายุ ต้องพ้นจากตำแหน่งรองโฆษกพรรคเพื่อไทย เกิดจากความขัดแย้งภายใน แกนนำพรรคบางคนไม่พอใจเพราะนายจิรายุ มักมีท่าทีสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตบ้านเลขที่ 111 ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ทั้งที่มีข้อตกลงกันภายในแล้วว่า พล.ต.อ.พงศพัศ จะมาเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคเพื่อไทย และยังให้สัมภาษณ์เชิงสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงวาทะ “ส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ” ซึ่งเป็นการกล่าวอ้างคำพูด พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สไกป์มาประชุมร่วมกับ ส.ส. ส.ก. และ ส.ข. ของพรรคเพื่อไทย ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค ช่วงก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ทำให้แนวทางการหาเสียงของพรรคเป็นไปด้วยความยากลำบาก ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้นายจิรายุถูกปลดออก นอกจากนี้ การที่พรรคได้แต่งตั้งรองโฆษกพรรคเพิ่มอีก 3 คน ทั้งหมดล้วนเป็นคนใกล้ชิดนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ขณะนี้กำลังมีบทบาทอย่างสูงภายในพรรคในหลายๆ เรื่อง
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาคณะยุทธศาสตร์และประชาสัมพันธ์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้ทำการปรับปรุงทีมงานโฆษกให้เข้มข้นขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์การเมืองที่เข้มข้นขึ้นเป็นลำดับเช่นกัน เราวางยุทธศาสตร์ว่าจะไม่ให้ประชาชนเข้าใจผิดในสาระสำคัญ ไม่ยอมให้ประชาชนไม่ชอบพรรคเพื่อไทยด้วยความเข้าใจผิด ท่ามกลางยุคข้อมูลข่าวสาร โซเชียลมีเดีย เราจะไม่ปล่อยข้อกล่าวหาผ่านไปแม้แต่เรื่องเดียว จะชี้แจงผ่านทั้งทีมโฆษกรัฐบาล และโฆษกพรรค ตามที่นายงสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีบัญชา
“สงครามข่าว การบิดเบือน กัดเซาะ กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เช่นการปล่อยข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำให้น้ำมันแพง เพราะมีหุ้นในปตท. ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง ตระกูลชินวัตรมีหุ้นก็เพียงน้อยนิด และก็ขายไปแล้ว เราได้บทเรียนการบิดเบือนจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. วันนี้ต้องมาวางแผนการทำงาน และบางเรื่องที่สำคัญก็ต้องหาเจ้าภาพมารับผิดชอบ” นายนพดล กล่าว
อีกด้านหนึ่ง ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์นายจิรายุ ถึงกรณีคำสั่งปลดจากตำแหน่งรองโฆษกพรรคเพื่อไทยในวันนี้ โดยกล่าวว่า ตนมีเจตนาไปก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือนแล้ว ว่าต้องการลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวไปทำงานในสภาฯ อย่างเต็มตัว ขณะที่วิปรัฐบาลก็ต้องการให้ช่วยงานในสภาฯ เพราะมีความเหมาะสมกว่าคนอื่นๆ อย่างโฆษกพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้มาอภิปรายในสภาฯ อย่างเช่นตน
เมื่อถามว่า สาเหตุที่ถูกปลดเพราะเคยระบุว่า ส่งเสาไฟฟ้าก็ชนะในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ใช่หรือไม่ นายจิรายุ กล่าว่า ไม่ใช่ เป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก และตัวเองได้ชี้แจงไปแล้วหลายครั้งว่าเป็นเพียงคำถามชี้นำ บวกกับมีการใส่ร้ายป้ายสีเพิ่มขึ้น ซึ่งหากนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย จะเชื่อก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเขา เพราะมีอำนาจแต่งตั้งบุคคลที่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งในพรรค ทั้งนี้เรื่องเสาไฟฟ้าคงไม่ใช่ปัญหาหากจะมีปัญหาก็เพราะเป็นเด็กคุณหญิง (คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์) และก่อนการเลือกตั้งตนก็ได้เป็นผู้เสนอชื่อ วันนี้พรรคเพื่อไทยต้องสามัคคี และต้องมีความแข็งแรงเพื่อต่อสู้กับศัตรูข้างนอก ที่จะต้องเผชิญปัญหาอีกมากมาย
“วันนี้พรรคเพื่อไทยชนะแล้วจึงมีการปรับเปลี่ยนทีมโฆษกใหม่โดยเน้นงานทางด้านวิชาการ ทางกลุ่มเสื้อแดง และแบบลูกทุ่งเพื่อเข้าถึงชาวบ้านได้ โดยไม่ต้องใช้ทีมโฆษกแนวรุกอย่างที่ตัวเองเคยทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ที่ต้องใช่ทักษะในเชิงรุกมากเป็นพิเศษ ส่วนจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือไม่ ตนคิดว่า พรรคเพื่อไทยนิ่งนอนใจเกินไปเพราะสถานการณ์ตอนนี้มีศัตรูอยู่มากมาย ซึ่งไม่สามารถวางใจได้” นายจิรายุ กล่าว
ปล.สมน้ำหน้า....เชื่อผมหรือยัง....เอิ๊ก ๆ ๆ
หมดประโยชน์..ก็ถีบทิ้ง...เอิ๊ก ๆ ๆ
พรรคเพื่อไทยออกคำสั่งตั้งรองโฆษกพรรคชุดใหม่ จัดวาง “ครูมานิตย์-อนุสรณ์-อนุตตมา” คนของ “ติ๊งเหล่” พรึ่บ ส่วน “จิรายุ” ตกกระป๋อง เหตุผู้ใหญ่ไม่พอใจปากไวพูด “ส่งเสาไฟฟ้า” ก็ชนะ ทำ “พงศพัศ” แพ้เลือกตั้ง เจ้าตัวโต้ไม่ใช่ โอดถูกป้ายสี “ภูมิธรรม” เมิน ถูกมองเป็นเด็ก “สุดารัตน์” ชี้พรรคนิ่งนอนใจเกินไป ทั้งที่มีศัตรูอยู่มาก
วันนี้ (21 มี.ค.) มีรายงานว่า นายจารุพงค์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ออกคำสั่งพรรคเพื่อไทย ที่ 005/2556 เรื่อง ยกเลิกและแต่งตั้งรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า เพื่อให้การประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของพรรค ทั้งทางด้านสังคมและการเมือง ตลอดจนแนวนโยบายของพรรคต่อสาธารณชน ให้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสอดคล้องกับสถานการณ์ จึงอาศัยอำนาจตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ยกเลิกคำสั่งเดิม และแต่งตั้งรองโฆษกพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ ได้แก่ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย, นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.อุตสาหกรรม และนางสาวอนุตตมา อมรวิวัฒน์ เลขานุการ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีผลตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการปรับเปลี่ยนรองโฆษกพรรคในครั้งนี้ เพราะทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคเห็นว่า ที่ผ่านมาการตอบโต้ชี้แจงข้อกล่าวหาของฝ่ายตรงข้ามยังดีไม่เท่าที่ควร จึงมีการเปลี่ยนแปลงโดยให้นายครูมานิตย์ เป็นตัวแทนของ ส.ส.กลุ่มภาคอีสาน ชี้แจงในลักษณะลูกทุ่ง เข้าใจง่าย พร้อมกับแต่งตั้งนายอนุสรณ์ ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มเสื้อแดง และปลอบใจที่อกหักจากตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีหน้าที่ตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามในลักษณะ ถึงลูกถึงคน ส่วนนางสาว อนุตตมา จะออกมาชี้แจงในบทบาทเชิงวิชาการ
สำหรับทีมรองโฆษกชุดเดิมนั้น ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต ได้รับการเลื่อนชั้นขึ้นไปเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ในส่วนของนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทยนั้น ถูกปลด เพราะผู้ใหญ่ไม่พอใจที่ปากไว ไประบุว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พรรคเพื่อไทยถึงจะส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ ซึ่งกลายเป็นประเด็นให้ฝ่ายตรงข้ามหยิบยกมาโจมตี ต้องเสียเวลาชี้แจง และมีการมองว่าเป็นสาเหตุหนึ่งในการพ่ายแพ้ของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงศเจริญ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย
รายงานข่าวอีกด้านหนึ่ง เปิดเผยว่า เหตุที่นายจิรายุ ต้องพ้นจากตำแหน่งรองโฆษกพรรคเพื่อไทย เกิดจากความขัดแย้งภายใน แกนนำพรรคบางคนไม่พอใจเพราะนายจิรายุ มักมีท่าทีสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตบ้านเลขที่ 111 ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ทั้งที่มีข้อตกลงกันภายในแล้วว่า พล.ต.อ.พงศพัศ จะมาเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคเพื่อไทย และยังให้สัมภาษณ์เชิงสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงวาทะ “ส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ” ซึ่งเป็นการกล่าวอ้างคำพูด พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สไกป์มาประชุมร่วมกับ ส.ส. ส.ก. และ ส.ข. ของพรรคเพื่อไทย ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค ช่วงก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ทำให้แนวทางการหาเสียงของพรรคเป็นไปด้วยความยากลำบาก ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้นายจิรายุถูกปลดออก นอกจากนี้ การที่พรรคได้แต่งตั้งรองโฆษกพรรคเพิ่มอีก 3 คน ทั้งหมดล้วนเป็นคนใกล้ชิดนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ขณะนี้กำลังมีบทบาทอย่างสูงภายในพรรคในหลายๆ เรื่อง
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาคณะยุทธศาสตร์และประชาสัมพันธ์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้ทำการปรับปรุงทีมงานโฆษกให้เข้มข้นขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์การเมืองที่เข้มข้นขึ้นเป็นลำดับเช่นกัน เราวางยุทธศาสตร์ว่าจะไม่ให้ประชาชนเข้าใจผิดในสาระสำคัญ ไม่ยอมให้ประชาชนไม่ชอบพรรคเพื่อไทยด้วยความเข้าใจผิด ท่ามกลางยุคข้อมูลข่าวสาร โซเชียลมีเดีย เราจะไม่ปล่อยข้อกล่าวหาผ่านไปแม้แต่เรื่องเดียว จะชี้แจงผ่านทั้งทีมโฆษกรัฐบาล และโฆษกพรรค ตามที่นายงสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีบัญชา
“สงครามข่าว การบิดเบือน กัดเซาะ กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เช่นการปล่อยข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำให้น้ำมันแพง เพราะมีหุ้นในปตท. ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง ตระกูลชินวัตรมีหุ้นก็เพียงน้อยนิด และก็ขายไปแล้ว เราได้บทเรียนการบิดเบือนจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. วันนี้ต้องมาวางแผนการทำงาน และบางเรื่องที่สำคัญก็ต้องหาเจ้าภาพมารับผิดชอบ” นายนพดล กล่าว
อีกด้านหนึ่ง ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์นายจิรายุ ถึงกรณีคำสั่งปลดจากตำแหน่งรองโฆษกพรรคเพื่อไทยในวันนี้ โดยกล่าวว่า ตนมีเจตนาไปก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือนแล้ว ว่าต้องการลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวไปทำงานในสภาฯ อย่างเต็มตัว ขณะที่วิปรัฐบาลก็ต้องการให้ช่วยงานในสภาฯ เพราะมีความเหมาะสมกว่าคนอื่นๆ อย่างโฆษกพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้มาอภิปรายในสภาฯ อย่างเช่นตน
เมื่อถามว่า สาเหตุที่ถูกปลดเพราะเคยระบุว่า ส่งเสาไฟฟ้าก็ชนะในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ใช่หรือไม่ นายจิรายุ กล่าว่า ไม่ใช่ เป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก และตัวเองได้ชี้แจงไปแล้วหลายครั้งว่าเป็นเพียงคำถามชี้นำ บวกกับมีการใส่ร้ายป้ายสีเพิ่มขึ้น ซึ่งหากนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย จะเชื่อก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเขา เพราะมีอำนาจแต่งตั้งบุคคลที่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งในพรรค ทั้งนี้เรื่องเสาไฟฟ้าคงไม่ใช่ปัญหาหากจะมีปัญหาก็เพราะเป็นเด็กคุณหญิง (คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์) และก่อนการเลือกตั้งตนก็ได้เป็นผู้เสนอชื่อ วันนี้พรรคเพื่อไทยต้องสามัคคี และต้องมีความแข็งแรงเพื่อต่อสู้กับศัตรูข้างนอก ที่จะต้องเผชิญปัญหาอีกมากมาย
“วันนี้พรรคเพื่อไทยชนะแล้วจึงมีการปรับเปลี่ยนทีมโฆษกใหม่โดยเน้นงานทางด้านวิชาการ ทางกลุ่มเสื้อแดง และแบบลูกทุ่งเพื่อเข้าถึงชาวบ้านได้ โดยไม่ต้องใช้ทีมโฆษกแนวรุกอย่างที่ตัวเองเคยทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ที่ต้องใช่ทักษะในเชิงรุกมากเป็นพิเศษ ส่วนจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือไม่ ตนคิดว่า พรรคเพื่อไทยนิ่งนอนใจเกินไปเพราะสถานการณ์ตอนนี้มีศัตรูอยู่มากมาย ซึ่งไม่สามารถวางใจได้” นายจิรายุ กล่าว
ปล.สมน้ำหน้า....เชื่อผมหรือยัง....เอิ๊ก ๆ ๆ