ยิ่งลักษณ์ ยิ่งอยู่นานวัน ยิ่งเหนือชั้น

คอลัมน์ สามัญสำนึก

โดย ชลิต กิติญาณทรัพย์

ใครที่ไปเยี่ยมชมนิทรรศการ Thailand 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลก ณ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ แล้วคุณจะมองเห็นความเปลี่ยนแปลงของวิถีดำเนินชีวิตของคนไทยในอนาคต ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา หรือนับตั้งแต่โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกของรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์

แล้วคุณจะประจักษ์ด้วยสายตาตัวเองว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีวิสัยทัศน์และการบริหารงานที่เหนือกว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หลายขุม

ไล่เรียงกันมาตั้งแต่แผนป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาครอบคลุมกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จังหวัดรายทางแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งรัฐบาลได้จัดให้มีการซักซ้อมใหญ่เหมือนจริงเพื่อจะได้รู้ข้อบกพร่องช่องโหว่ของการปฏิบัติงานได้ดำเนินการไปแล้วเมื่อปีที่แล้ว และโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระยะกลางและระยะยาวมูลค่า 3.5 แสนล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืนจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้

จนกระทั่งมาถึงนิทรรศการ Thailand 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลก แผนการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ หรือเส้นทางคมนาคมทั้งระบบขนส่งสินค้า และขนส่งคนของเมืองไทยทั้งหมด เพื่อลดต้นทุนการผลิตและทวงคืนเวลาของทุกคนที่เสียไปกับท้องถนนให้กลับคืนสู่สถาบันครอบครัว และแผนเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท วางแผ่หลาให้ทุกคนได้สัมผัส

Thailand 2020 เปรียบเสมือนแม่เหล็กก้อนใหญ่ที่ดึงดูดบริษัทต่างประเทศจากทั่วทุกทวีป ให้มาร่วมประมูลแข่งขันนำเสนอเทคโนโลยีที่ดีที่สุดสำหรับเมืองไทย แค่ประเทศจีนเพียงประเทศเดียวน่าจะมีอย่าง 4 บริษัทเอกชนเข้าร่วมแจม

อาทิ ไชน่า เรลเวย์ คอนสตรั๊คชั่น ไชน่า เรลเวย์ เน็ตเวิร์ค เป็นต้น ไม่ต้องพูดบริษัทเอกชนญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส อื่น ๆ ล้วนแต่อยากเป็นผู้กำชัยชนะครั้งนี้ทั้งสิ้น

ไม่เพียงแต่เท่านี้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้ลงนามความร่วมมือ

กับประเทศพม่าไปแล้ว เพื่อผลักดันโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย และเขตพัฒนาอุตสาหกรรมสำคัญ ท่าเรือน้ำลึกทวายจะเป็นศูนย์กลางขนถ่ายสินค้าแห่งใหม่ของเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเป็นประตูส่งที่สำคัญของจีนตอนใต้ กล่าวโดยรวมแล้วพม่า ไทย จีน ลาว จะได้ผลประโยชน์มากที่สุดจากโครงการนี้

ไม่เพียงแต่เท่านี้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์กำลังศึกษาหาวิถีทางเพื่อรองรับการเคลื่อนย้ายกองทัพนักลงทุนของญี่ปุ่นจากประเทศจีนมาเมืองไทย ซึ่งจะเป็นการเดินทัพครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ รัฐบาลกำลังเล็งหาสถานที่และระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานไว้รองรับ วางแผนพัฒนาเฉกเช่นเดียวกับโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก

ทั้งหมดนี้ล้วนอยู่เหนือความคาดหมายของพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคพวก

นายอภิสิทธิ์และพรรคพวกพยายามที่จะชูปมเด่น "ฝีปาก" เพื่อลบปมด้อย "มันสมอง" ของตัวเองทำงานด้วยวิธีทำลายล้าง สร้างกระแสคัดค้าน ต่อต้าน ทุกวิถีทาง และยืมจมูกคนอื่นหายใจนั้น "ตกยุค" แล้ว

กรณีทวงคืน ปตท.ของรสนา โตสิตระกูล, พ.ท.รัฐเขต แจ้งจำรัส, นายมานพ ก้าวสมบูรณ์ กับกรณีเครือข่ายสุราษฎร์ธานี เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน ประท้วงการให้สัมปทานขุดเจาะสำรวจน้ำมันในอ่าวไทยของกระทรวงพลังงาน และอีกหลายขบวนการที่จะเริ่มปรากฏตัวนั้น จะมีความเชื่อมโยงสอดประสานกับเส้นทางเดินของประชาธิปัตย์หรือไม่

หรือจะสอดคล้องดวงดาวตามคำทำนายของผู้เชี่ยวชาญโหราศาสตร์ท่านหนึ่งบอกไว้ เดือนเมษายนหลังสงกรานต์ มีดาวร้ายราหูกับเสาร์เข้ามาป้วนเปี้ยนดวงเมืองตลอด

คืน 13 ต่อเช้า 14 เมษายน จะเกิดจันทร์ดับที่ราศีเมษต่อราศีมีน นอกจากนี้ ยังมีอังคารเข้ามาร่วมขบวนการปลายราศีมีนกับราศีเมษด้วย

จาก Prachachat Online
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1363792245&grpid=no&catid=02&subcatid=0200
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่