น่าจะสังเกตุออก ถึงเกมบังคับ ของ กกต.

การขว้างหินถามทาง ของ กกต. ในกรณี “รับไปก่อน และอาจสอยทีหลัง” น่าจะมีข้อสังเกตุได้ว่า สาเหตุที่ต้องรับไปก่อน เพราะภายในกำหนด (๓๐ วัน) ไม่มีข้อมูลหลักฐานเพียงพอ ถึงการกระทำต้องห้าม ของผู้สมัคร รวมทั้งคณะ  และถ้าหลังจากนี้มีหลักฐานของการกระทำต้องห้าม กกต. ก็สามารถที่จะยื่นให้ ศาล เป็นผู้พิจารณาพิพาษาการกระทำต้องห้าม ให้เป็นที่สิ้นสุดได้ครับ

๑.) การประกาศ “รับไปก่อน” ของ กกต. น่าจะมิได้หมายถึงว่า ภายในกำหนด (๓๐ วัน) ยังไม่สามารถหาข้อสรุป ถึงการกระทำต้องห้ามของผู้สมัคร แต่อย่างเดียวเท่านั้น แต่ส่วนสำคัญ ที่ กกต. ยังไม่เคยแถลงก็คือ ในขณะประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง เป็นหลักฐานยืนยันถึงการบริหารการเลือกตั้ง ของ กกต. เป็นไปโดยชอบธรรม โดยทันทีไปโดยปริยายครับ

๒.) หลังจาก การบริหาร กรณีเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. มีกรณีไม่โปร่งใส อย่างเช่น บัตรลงคะแนนเสียง ที่ไม่ตรงกับผู้ใช้สิทธิ์  มีการลงคะแนนทับสิทธิ์  มี บ/ช ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ที่ไม่โปร่งใส ฯลฯ เป็นต้น อันเป็นเหตุผล ที่อยู่ในความรับผิดชอบ ของ กกต. ที่จำเป็นต้องแสดงชี้แจงให้สังคมทราบ ว่าด้วยเหตุผลใด ที่ทำให้ กกต. ไม่ประกาศให้การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นโมฆะ โดยทันทีๆ ที่ความจริงเหล่านี้ปรากฏขึ้นครับ

๓.) ในกรณี เลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. ในครั้งที่ผ่านมานี้นั้น เป็นกรณีที่มีผู้สมัคร ที่อยู่ในตำแหน่ง ผู้ว่า กทม. จนถึงวาระเลือกตั้ง อันหมายถึงว่า เป็นผู้บริหารโดยตรง กับหน่วยงานที่ประสานการเลือกตั้ง กับ กกต. อันกรณีไม่โปร่งใสตามหลักฐานที่ปรากฏ ก็หมายถึงว่า จำต้องมีการตรวจสอบ ทั้งในส่วนของ กกต. และหน่วยประสานงาน (จนท.ภายใต้ความรับผิดชอบของ ผู้ว่า กทม.) บังเกิดขึ้น โดยเมื่อมีการประกาศรับรองผล ก็จะมิบังเกิดขึ้นได้ครับ

โดยเฉพาะเพียง ๓ ข้อสังเกตุ ก็น่าจะเพียงพอที่ กกต. หลุดพ้นกับการรับผิดชอบ ต่อการบริหารการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใส เพราะเป็นกรณี การเลือกตั้งโดยชอบธรรม นั่นเอง และถ้าจะจินตนาการณ์ ให้ลึกลงไป ถึงเหตุผลทางการเมือง ก็สมควรเห็นใจ และเคยชิน กับปฎิกริยา ของ กกต. ที่พยายามจะปูทาง การรับรองผลการเลือกตั้ง ก่อนหรือภายในกำหนด เสมือนเกมบังคับ นั่นเอง และ อีกนานเท่าไร ที่ ปชช. ยังต้องก้มหน้าหาสนทรัพย์เพื่อจุนเจือกับการปฎิบัติหน้าที่ในฐานะองคกรอิสสระ ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่