แผนเก็บภาษีเงินฝากของไซปรัส คาดกระทบรัสเซียอย่างหนัก ผู้เชี่ยวชาญประเมิน คนรัสเซียมีเงินฝากในไซปรัสอย่างน้อย 20,000 ล้านดอลลาร์
นายอนาโตลี อักซาคอฟ แห่งสมาคมธนาคารรัสเซีย กล่าวว่าความเชื่อมั่นในไซปรัสในฐานะแหล่งฝากเงินที่ปลอดภัยจะเหลือศูนย์ พร้อมประเมินว่าจำนวนเงินของรัสเซียที่จะได้รับผลกระทบอยู่ที่ 20,000 ล้านดอลลาร์ ด้านฟอร์บส์รายงานว่ามูดีส์ประเมินเมื่อปีที่แล้วว่าเงินฝากของเศรษฐีรัสเซียในไซปรัสมีจำนวน 19,000 ล้านยูโร และอีก 12,000 ล้านยูโรเป็นของธนาคารรัสเซีย
ส่วนการประเมินของบางฝ่ายระบุว่าชาวรัสเซียมีเงินฝากในไซปรัสประมาณ 8,000-35,000 ล้านยูโร และหากมีการเก็บภาษีชาวรัสเซียก็จะสูญเงินไปถึงวันละ 3,500 ล้านยูโร
ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย กล่าวว่าแผนเก็บภาษีเงินฝากของไซปรัสเป็นการกระทำที่ไม่ยุติธรรม ไม่เป็นมืออาชีพ และอันตราย
นักวิเคราะห์หลายคนกล่าวว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายที่การทำให้แน่ใจว่าชาติผู้ให้ความช่วยเหลือ จะไม่ใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ไปอุ้มชาวรัสเซียที่ร่ำรวยขึ้นมาจากการประพฤติมิชอบ
นายอเลกซานเดอร์ คานดรูเอียฟ รองประธานสมาคมธนาคาร แนะให้รัสเซียเจรจากับไซปรัสเพื่อลดหรือไม่เก็บภาษี แลกเปลี่ยนกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเติม โดยรัฐมนตรีคลังไซปรัสกำลังเดินทางไปกรุงมอสโกเพื่อหารือการปรับโครงสร้างเงินกู้
เมื่อปี 2554 รัสเซียปล่อยกู้แก่ไซปรัส 2,500 ล้านยูโร และไซปรัสขอกู้เงินอีก 5,000 ล้านยูโรแต่รัสเซียไม่ให้ เพราะเห็นว่าเป็นความรับผิดชอบของสหภาพยุโรปในการหาทางออกสำหรับปัญหาการเงินไซปรัส แต่เมื่อเดือนก.พ. รัฐมนตรีคลังรัสเซียผ่อนคลายเงื่อนไขเงินกู้ปี 2554 ทำให้หลายฝ่ายมองว่าเป็นไปได้ที่รัสเซียจะให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม
ด้านธนาคารกลางยุโรปเปิดทางให้มีการแก้ไขข้อตกลงช่วยเหลือไซปรัส ด้วยการระบุว่าโครงการนี้เป็นโครงการปรับปรุงเศรษฐกิจของรัฐบาลไซปรัส ไม่ใช่ของชาติเจ้าหนี้ หรือรัฐบาลประเทศอื่น หากประธานาธิบดีไซปรัสต้องการเปลี่ยนแปลงการเก็บภาษีเงินฝากก็สามารถทำได้
นักการเมือง นักการธนาคาร และนักวิเคราะห์ กล่าวว่าการเก็บภาษีเงินฝากอาจบั่นทอนธนาคารอื่นในประเทศยูโรโซน แม้บรรดาเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไซปรัสมีสัดส่วนเพียง 0.2% ในผลผลิตทางเศรษฐกิจของยูโรโซน เพราะแผนการเก็บภาษีเงินฝากนั้นเป็นมาตรการรุนแรงซึ่งอาจสร้างความแตกตื่นไปทั่วอียู และอาจทำให้เงินทุนไหลออก โดยผลกระทบในระยะสั้นอาจทำให้เงินยูโรอ่อนค่า
นายจอร์เก เอสมุสเซน ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป กล่าวว่าแม้เศรษฐกิจมีขนาดเล็ก แต่พัฒนาการอย่างไม่เป็นระบบในไซปรัสอาจบั่นทอนความก้าวหน้าในการสร้างเสถียรภาพในยูโรโซนเมื่อปีที่แล้วอย่างไรก็ตาม ขณะนี้ไม่มีสัญญาณของความแตกตื่นในประเทศอื่น โดยธนาคารกลางสเปนกล่าวว่าไม่มีสัญญานว่ามีเงินทุนไหลออกจากสเปน
นักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์กล่าวว่า แนวโน้มที่สถานการณ์จะลุกลามไปยังประเทศใกล้เคียงในแง่ของการไหลออกของเงินฝาก มีค่อนข้างจำกัด โดยเงินส่วนใหญ่ในธนาคารไซปรัสนั้นเป็นของชาวรัสเซียกับอังกฤษ ซึ่งมีฐานทัพในไซปรัส
กระนั้น นักเศรษฐศาสตร์มองว่าเงื่อนไขของอียู จะทำให้ชาวรัสเซียเตรียมถอนเงินหลายพันล้านยูโรออกไป และไซปรัสจะตกสู่ภาวะถดถอยเป็นเวลาหลายสิบปี จะไม่มีใครเชื่อมั่นในไซปรัสอีกต่อไป เพราะยูโรโซน ไอเอ็มเอฟ และอีซีบี ได้ทำลายชื่อเสียงของไซปรัสไปแล้ว
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/world/20130319/495730/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9D%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%AA.html
ข้อคิดเห็น มันไม่ใช่การช่วยเหลือไซปรัสจากอียูกับไอเอ็มเอฟ แต่มันคือสนามประลองพลังของอียู ที่ต้องการขับไล่อิทธิพลของรัฐเชียใช่ไหม
ซึ่งจะทำกับประเทศใหญ่ หรือขนาดกลางๆไม่ได้เลย ทำได้แต่กับประเทศเล็กๆอย่างไซปรัส
อียูได้สองเด้ง คือ ไล่รัสเซีย กับเข้าไปกอบโกยไซปรัสที่กำลังล่มสลาย
ถึงนักการเมืองไซปรัส รัสเซียไม่ให้กู้เพิ่ม 5000M eu ถึงกับเอาเกรียติยศของชาติ กับความเชื่อมั่นไปขายให้ EU เลยหรือ?
รัสเซียอ่วมแผนภาษีเงินฝากไซปรัส
นายอนาโตลี อักซาคอฟ แห่งสมาคมธนาคารรัสเซีย กล่าวว่าความเชื่อมั่นในไซปรัสในฐานะแหล่งฝากเงินที่ปลอดภัยจะเหลือศูนย์ พร้อมประเมินว่าจำนวนเงินของรัสเซียที่จะได้รับผลกระทบอยู่ที่ 20,000 ล้านดอลลาร์ ด้านฟอร์บส์รายงานว่ามูดีส์ประเมินเมื่อปีที่แล้วว่าเงินฝากของเศรษฐีรัสเซียในไซปรัสมีจำนวน 19,000 ล้านยูโร และอีก 12,000 ล้านยูโรเป็นของธนาคารรัสเซีย
ส่วนการประเมินของบางฝ่ายระบุว่าชาวรัสเซียมีเงินฝากในไซปรัสประมาณ 8,000-35,000 ล้านยูโร และหากมีการเก็บภาษีชาวรัสเซียก็จะสูญเงินไปถึงวันละ 3,500 ล้านยูโร
ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย กล่าวว่าแผนเก็บภาษีเงินฝากของไซปรัสเป็นการกระทำที่ไม่ยุติธรรม ไม่เป็นมืออาชีพ และอันตราย
นักวิเคราะห์หลายคนกล่าวว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายที่การทำให้แน่ใจว่าชาติผู้ให้ความช่วยเหลือ จะไม่ใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ไปอุ้มชาวรัสเซียที่ร่ำรวยขึ้นมาจากการประพฤติมิชอบ
นายอเลกซานเดอร์ คานดรูเอียฟ รองประธานสมาคมธนาคาร แนะให้รัสเซียเจรจากับไซปรัสเพื่อลดหรือไม่เก็บภาษี แลกเปลี่ยนกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเติม โดยรัฐมนตรีคลังไซปรัสกำลังเดินทางไปกรุงมอสโกเพื่อหารือการปรับโครงสร้างเงินกู้
เมื่อปี 2554 รัสเซียปล่อยกู้แก่ไซปรัส 2,500 ล้านยูโร และไซปรัสขอกู้เงินอีก 5,000 ล้านยูโรแต่รัสเซียไม่ให้ เพราะเห็นว่าเป็นความรับผิดชอบของสหภาพยุโรปในการหาทางออกสำหรับปัญหาการเงินไซปรัส แต่เมื่อเดือนก.พ. รัฐมนตรีคลังรัสเซียผ่อนคลายเงื่อนไขเงินกู้ปี 2554 ทำให้หลายฝ่ายมองว่าเป็นไปได้ที่รัสเซียจะให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม
ด้านธนาคารกลางยุโรปเปิดทางให้มีการแก้ไขข้อตกลงช่วยเหลือไซปรัส ด้วยการระบุว่าโครงการนี้เป็นโครงการปรับปรุงเศรษฐกิจของรัฐบาลไซปรัส ไม่ใช่ของชาติเจ้าหนี้ หรือรัฐบาลประเทศอื่น หากประธานาธิบดีไซปรัสต้องการเปลี่ยนแปลงการเก็บภาษีเงินฝากก็สามารถทำได้
นักการเมือง นักการธนาคาร และนักวิเคราะห์ กล่าวว่าการเก็บภาษีเงินฝากอาจบั่นทอนธนาคารอื่นในประเทศยูโรโซน แม้บรรดาเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไซปรัสมีสัดส่วนเพียง 0.2% ในผลผลิตทางเศรษฐกิจของยูโรโซน เพราะแผนการเก็บภาษีเงินฝากนั้นเป็นมาตรการรุนแรงซึ่งอาจสร้างความแตกตื่นไปทั่วอียู และอาจทำให้เงินทุนไหลออก โดยผลกระทบในระยะสั้นอาจทำให้เงินยูโรอ่อนค่า
นายจอร์เก เอสมุสเซน ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป กล่าวว่าแม้เศรษฐกิจมีขนาดเล็ก แต่พัฒนาการอย่างไม่เป็นระบบในไซปรัสอาจบั่นทอนความก้าวหน้าในการสร้างเสถียรภาพในยูโรโซนเมื่อปีที่แล้วอย่างไรก็ตาม ขณะนี้ไม่มีสัญญาณของความแตกตื่นในประเทศอื่น โดยธนาคารกลางสเปนกล่าวว่าไม่มีสัญญานว่ามีเงินทุนไหลออกจากสเปน
นักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์กล่าวว่า แนวโน้มที่สถานการณ์จะลุกลามไปยังประเทศใกล้เคียงในแง่ของการไหลออกของเงินฝาก มีค่อนข้างจำกัด โดยเงินส่วนใหญ่ในธนาคารไซปรัสนั้นเป็นของชาวรัสเซียกับอังกฤษ ซึ่งมีฐานทัพในไซปรัส
กระนั้น นักเศรษฐศาสตร์มองว่าเงื่อนไขของอียู จะทำให้ชาวรัสเซียเตรียมถอนเงินหลายพันล้านยูโรออกไป และไซปรัสจะตกสู่ภาวะถดถอยเป็นเวลาหลายสิบปี จะไม่มีใครเชื่อมั่นในไซปรัสอีกต่อไป เพราะยูโรโซน ไอเอ็มเอฟ และอีซีบี ได้ทำลายชื่อเสียงของไซปรัสไปแล้ว
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/world/20130319/495730/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9D%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%AA.html
ข้อคิดเห็น มันไม่ใช่การช่วยเหลือไซปรัสจากอียูกับไอเอ็มเอฟ แต่มันคือสนามประลองพลังของอียู ที่ต้องการขับไล่อิทธิพลของรัฐเชียใช่ไหม
ซึ่งจะทำกับประเทศใหญ่ หรือขนาดกลางๆไม่ได้เลย ทำได้แต่กับประเทศเล็กๆอย่างไซปรัส
อียูได้สองเด้ง คือ ไล่รัสเซีย กับเข้าไปกอบโกยไซปรัสที่กำลังล่มสลาย
ถึงนักการเมืองไซปรัส รัสเซียไม่ให้กู้เพิ่ม 5000M eu ถึงกับเอาเกรียติยศของชาติ กับความเชื่อมั่นไปขายให้ EU เลยหรือ?