เอามาสปอยล์ให้ดูคร่าวๆ ฆ่าเวลารอดิบ World Embryo ตอน 84 ครับ

หลังจากที่ตอนที่ 9 เดินเรื่องแบบเรื่อยเปื่อยจนนึกไม่ออกว่าจะเอาอะไรมาเล่าดี (ส่วนใหญ่เป็นการเล่าถึงเรื่องชาติภพของแวน ฉายภาพให้เห็นว่าบรรดาคนรอบตัวฟูตะกับโคโกะนั้นเป็นใครเคยเจอกันมาในชาติภพไหนในฐานะอะไรแล้วบ้างมากกว่า) ตอนนี้ก็ได้ฤกษ์เปิดทางเข้าสู่ชาติภพต่อไปกันแล้วแฮะ

ซึ่งชาติภพนี้จะไปดินแดนไหนกันต่อไปนั้น ใครที่มีพื้นประวัติศาสตร์ดีๆ ดูหนังประวัติศาสตร์เก่าๆ แนวพีเรียดมาเยอะๆ เห็นแค่ภาพเปิดตอนของตอนนี้น่าจะพอเดากันได้แล้วแฮะ







ในตอนนี้นั้นฟูตะต้องการรู้ว่า "ห่วงโซ่แห่งการจองเวร" ที่ผูกมัดตัวเองกับโคโกะเข้าไว้ด้วยกันมีที่มาอย่างไร จึงตัดสินใจเรียกเอาวงแหวนวิญญาณของตัวเองออกมาเพื่อย้อนอดีตไปยังชาติฟอร์จูน่าที่เป็นชาติแรกสุดและเป็นจุดกำเนิดของทุกอย่างอย่างแท้จริง (เพิ่งได้รู้กันเมื่อราวๆ ตอนที่แล้วเองว่าชาติฟอร์จูน่านี่แหละคือชาติภพแรกสุด)

ทว่า ชาติภพของฟอร์จูน่ากลับปฏิเสธไม่ยอมให้ฟูตะเข้าไปดูโดยอ้างว่า "ยังเร็วเกินไปสำหรับฟูตะที่จะได้เห็นเรื่องราวในชาติภพนี้" และผลักฟูตะไปสู่ชาติต่อไปเอาดื้อๆ แบบไม่มีใบ้หวยอะไรแม้แต่คำเดียว (เทียบเป็นเกมจีบสาว ก็เหมือนโดนถีบหัวส่งให้ไปเล่นเนื้อเรื่องรูทนางเอกให้จบหมดก่อนถึงจะเปิดล็อกเข้ารูท True End ได้นั่นแหละ )




และรูทถัดไปที่บักฟูตะเปิดได้ในตอนนี้ก็คือรูทเข้าสู่ "ชาติภพที่ 4" อันเป็นชาติภพต่อจากชาติภพของแวนนั่นเอง

โดยตัวฟูตะในชาติภพนี้มีชื่อว่า "โฟลว์" ครับ

ฐานะเป็นอะไรยังบอกไม่ได้แน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะเป็นระดับลูกคนใหญ่คนโตพอสมควรในโรมันเลยทีเดียว




การพบกันอีกครั้งของ "คู่สร้าง...คู่สังหาร" ที่ตามล้างตามเช็ดกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน

โดยในชาตินี้นั้นโคโกะมีชื่อว่า "โรก้า" เป็นนักพยากรณ์ครับ




ประดาผองเพื่อนของบักฟูตะที่ตามมาเกิดร่วมชาติภพเดียวกันแบบครบถ้วนทั้งแก๊งค์ไม่มีขาด แม้ว่าจะอยู่กันคนละฐานะก็ตาม

ใครเป็นใครเชิญเทียบหน้าตาเอากับตอนแรกๆ ได้เลยครับ






เห็นก๊วนพระเอกอยู่กันครบองค์แบบนี้แล้วอยากเห็นจริงๆ แฮะว่าบทในชาตินี้จะออกมาเป็นแบบไหน (ว่าแต่ยุคจักรวรรดิโรมันกับอียิปต์โบราณมันอยู่คาบเกี่ยวกับยุคกลางสมัยล่าแม่มดด้วยเรอะ...ต้องเช็คไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์ดูแล้วสิ)

แต่ที่อยากเห็นที่สุดก็คือเรย์ในชาตินี้นี่แหละ ว่าจะอยู่ในฐานะอะไรของ "โฟลว์" (ถ้าเป็นนางทาสกับเจ้านายนี่คงเจ๋งพิลึกเลยเน้อ )




อนึ่ง อ่านเรื่องนี้ทีไร ผมชอบเอาเพลงนี้มาเปิดฟังคลอไปด้วยทุกทีเลยแฮะ

รู้สึกว่าความหมายของมันเข้ากับการระลึกชาติหรือการรับรู้ถึงชาติภพของตัวเองในอดีตจริงๆ เลย (ซึ่งก็คงไม่แปลกแฮะ เพราะตัวเพลงเองก็เป็น Soundtrack ประกอบหนังแนวระลึกชาติอยู่แล้วด้วยสิ)