นิทานคำกลอนบทนี้ ได้แรงบัลดาลใจมาจาก "รพินทร์ ไพรวัลย์, จักรา เพลงสัญญาหน้าฝน และ นกการเวกครับ" หากท่านใดเคยอ่านหนังสือเรื่อง "เพชรพระอุมา" ก็จะเข้าใจได้อย่างไม่อยากครับ สงสัยตรงไหนถามได้นะครับ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคนตำชมครับผม
เจ้าสาลิกาเอ๋ย เจ้าเคยโฉบโบยบินมา
เจ้าคอยร้องเปล่งเสียงทุกเวลา เจ้าบินอยู่คู่ดาราและดวงเดือน
ครั้นฝนตกลงมาจากฟากฟ้า อันเวลาหมุนไปไม่คอยเพื่อน
ดุจเสาไม้ตั้งตระหงาที่ไร้เรือน เปรียบได้เหมือนทุ่งนาที่ขาดควาย
อันพรานป่าคิดสงสัยติดฉงน เหตุใดฝนจึงตกหนักเสียหนา
นั่งหลังพิงต้นไม้ใหญ่รอเวลา สาลิกาบินโผล่มาในทันใด
เจ้าพรานหนุ่มสุดสุขุมจึงร้องว่า สาลิกาเจ้าบินมาเหตุไฉน
อันตัวเราเป็นพรานป่ารู้หรือไม่ แล้วเหตุใดจึงมิกลัวลูกธนู
สาลิกานั่งเงียบไปครู่หนึ่ง คิดแล้วจึงตอบไปด้วยใจกล้า
ท่านคือพรานที่เคยเลี้ยงดูแลมา เหตุใดข้าจึงต้องกลัวตัวท่านเอย
พ่อพรานหนุ่มอ้ำอึ้งถึงขีดสุด อันไอ้กุดเรายิงทิ้งใจนิ่งเฉย
ฆ่าให้ไอ้แหว่งผู้ปลิดชีพนายเมย โอ๋เจ้าเอ๋ยข้าผ่านโลกมามากมาย
สุดประโยคพ่อพรานใหญ่หยิบคันศร ไม่รีรอนลุกยืนควานหาสาย
ทาบลูกดอกง้าวออกจนสุดปลาย เล็งเป้าหมายสาลิกาที่โบยบิน
สาลิกากรีดร้องจนสุดเสียง ข้าเคยเคียงให้ท่านสมถวิล
อยู่กับท่านข้างกายเป็นอาจิณ เคยอยู่กินกับท่านยังมิลืม
พ่อพรานใหญ่ได้ยินจึงร้องว่า อันที่คราตัวเจ้าบินจากไป
ท่องโบยบินหลุดจากกรงแล้วทำไม ด้วยเหตุใดตัวเจ้าจึงกลับมา
รู้บ้างไหมข้าเจ็บหนักสุดดวงใจ ที่เจ้าไปกับใครอื่นเจ็บหนักหนา
เจ้าเคยบอกจะมิกลับหวนคืนมา แต่เวลาก็มิเคยเปลี่ยนหัวใจ
รู้บ้างไหมข้าคร่ำครวญคอยหวนหา รู้ไหมว่าข้าเป็นห่วงเจ้าแค่ไหน
แต่เจ้าตอบกลับมาจากหัวใจ ไปให้ไกลมิต้องห่วงเสียเวลา
รู้บ้างไหมใจข้ายังนึกถึง ยังลึกซึ้งความรู้สึกที่เฝ้าหา
รู้บ้างไหมใครเล่าที่ผ่านมา เจ็บเพราะลาตามหามิกลับคืน
สาลิกาได้ยินจึงร้องตอบ ด้วยเหตุใดบอบช้ำใจเจ็บหนักหนา
คอยคร่ำครวญร้องหาข้าทุกเวลา ดุจนภาขาดดาราปล่าวเปลี่ยวใจ
ข้าขอถามตัวท่านสักครั้งเถิด ตั้งแต่เกิดโตมามีบ้างไหม
ใครสักคนที่ท่านรักสุดหัวใจ มีบ้างไหมในหัวใจตลอดมา
พ่อพรานใหญ่มองฟ้าน้ำตาไหล ใครจะใครใจร้ายมากหนักหนา
ถามมาได้คนที่รักตลอดมา ดุจดาราบนฟากฟ้าคู่ดวงเดือน
รักที่สุดหมดหัวใจที่เฝ้ารอ ใครกันหนอที่ข้ารักมากหนักหนา
จะใครเล่านอกจากเจ้าสาลิกา รู้ไหมว่าข้ารักเจ้าตลอดไป
รักครั้งแรกที่ข้าเองเคยได้พบ เพียงแค่สบดวงตามีที่ไหน
รักสุดท้ายที่จะรักตลอดไป หมดหัวใจให้แล้วมิคิดคืน
แม้ต้องจากพลัดพรากในวันก่อน มินิ่งนอนยังคงอยู่และทนฝืน
หลุดจากปากพูดแล้วไม่กลับกลืน ทุกค่ำคืนมีแต่เจ้าเพียงคนเดียว
สาลิกาอ้ำอึ้งชั่วครูหนึ่ง นั่งนึกถึงวันเก่าที่แสนหวาน
นึกถึงวันที่โบยบินเคียงข้างพราน เมื่อไม่นานฉันยังจำมันได้ดี
ในวันเก่าที่เคียงข้างเจ้าไพรวัลย์ บุกดงพลันออกล่าทั่วไพรี
มีพรานใหญ่คอยสอนทุกวิธี เหนือคีรีใต้เวหาออกล่ากัน
ยังนึกถึงวันเก่าที่เฝ้าหา นึกแล้วน้ำในตามันก็ไหล
นี้ที่ฉันทำผิดกับพรานไป ที่ดันไล่ให้เขาจำจากกันไกล
สาลิกาปาดน้ำตาอ้าปางว่า ที่ผ่านมาให้แล้วไปจะได้ไหม
ที่แล้วมาฉันผิดเต็มหัวใจ ให้อภัยฉันได้ไหมจ้าวไพรวัลย์
เจ้าป่านั้นได้ยินจึงวางศร ดุจละครน้ำเน่าในความฝัน
โผเข้ากอดวิหกน้อยแต่โดยพลัน อันตัวฉันปรีดาเต็มหัวใจ
บัดนั้นมัจจุราชชูหัวขึ้น ฟ่อฟู่ครื่นอยู่ด้านหลังพ่อพรานใหญ่
ตัวพุ่งฉกเข้าที่ขากัดลงไป พิษพุ่งไหลมุ่งเข้าสู่ทั่วร่างกาย
เจ้าพรานหนุ่มล้มลงในบัดนั้น มือปากสั่นไปทั่วตัวเลือดเริ่มไหล
น้ำตานองสาลิกาในทันใด เจ้าพรานใหญ่ล้มลงในทันตา
สาลิกาเรียกร้องหาใครอื่น พรานหนุ่มฝืนใจพูดแล้วบอกว่า
มิรอดแล้วตัวฉันจะบอกลา ด้วยน้ำตาจะรักเจ้าตลอดกาล
ดุจดวงดาวพราวระยับบนฟากฟ้า
ดุจผกาในพนาที่แสนหวาน
ดุจดวงใจจะรักเจ้าทุกคืนวาน
ตลอดกาลรักเพียงเจ้าดวงหทัย
นิทานคำกลอนเรื่องแรก..."สาลิกา"
เจ้าสาลิกาเอ๋ย เจ้าเคยโฉบโบยบินมา
เจ้าคอยร้องเปล่งเสียงทุกเวลา เจ้าบินอยู่คู่ดาราและดวงเดือน
ครั้นฝนตกลงมาจากฟากฟ้า อันเวลาหมุนไปไม่คอยเพื่อน
ดุจเสาไม้ตั้งตระหงาที่ไร้เรือน เปรียบได้เหมือนทุ่งนาที่ขาดควาย
อันพรานป่าคิดสงสัยติดฉงน เหตุใดฝนจึงตกหนักเสียหนา
นั่งหลังพิงต้นไม้ใหญ่รอเวลา สาลิกาบินโผล่มาในทันใด
เจ้าพรานหนุ่มสุดสุขุมจึงร้องว่า สาลิกาเจ้าบินมาเหตุไฉน
อันตัวเราเป็นพรานป่ารู้หรือไม่ แล้วเหตุใดจึงมิกลัวลูกธนู
สาลิกานั่งเงียบไปครู่หนึ่ง คิดแล้วจึงตอบไปด้วยใจกล้า
ท่านคือพรานที่เคยเลี้ยงดูแลมา เหตุใดข้าจึงต้องกลัวตัวท่านเอย
พ่อพรานหนุ่มอ้ำอึ้งถึงขีดสุด อันไอ้กุดเรายิงทิ้งใจนิ่งเฉย
ฆ่าให้ไอ้แหว่งผู้ปลิดชีพนายเมย โอ๋เจ้าเอ๋ยข้าผ่านโลกมามากมาย
สุดประโยคพ่อพรานใหญ่หยิบคันศร ไม่รีรอนลุกยืนควานหาสาย
ทาบลูกดอกง้าวออกจนสุดปลาย เล็งเป้าหมายสาลิกาที่โบยบิน
สาลิกากรีดร้องจนสุดเสียง ข้าเคยเคียงให้ท่านสมถวิล
อยู่กับท่านข้างกายเป็นอาจิณ เคยอยู่กินกับท่านยังมิลืม
พ่อพรานใหญ่ได้ยินจึงร้องว่า อันที่คราตัวเจ้าบินจากไป
ท่องโบยบินหลุดจากกรงแล้วทำไม ด้วยเหตุใดตัวเจ้าจึงกลับมา
รู้บ้างไหมข้าเจ็บหนักสุดดวงใจ ที่เจ้าไปกับใครอื่นเจ็บหนักหนา
เจ้าเคยบอกจะมิกลับหวนคืนมา แต่เวลาก็มิเคยเปลี่ยนหัวใจ
รู้บ้างไหมข้าคร่ำครวญคอยหวนหา รู้ไหมว่าข้าเป็นห่วงเจ้าแค่ไหน
แต่เจ้าตอบกลับมาจากหัวใจ ไปให้ไกลมิต้องห่วงเสียเวลา
รู้บ้างไหมใจข้ายังนึกถึง ยังลึกซึ้งความรู้สึกที่เฝ้าหา
รู้บ้างไหมใครเล่าที่ผ่านมา เจ็บเพราะลาตามหามิกลับคืน
สาลิกาได้ยินจึงร้องตอบ ด้วยเหตุใดบอบช้ำใจเจ็บหนักหนา
คอยคร่ำครวญร้องหาข้าทุกเวลา ดุจนภาขาดดาราปล่าวเปลี่ยวใจ
ข้าขอถามตัวท่านสักครั้งเถิด ตั้งแต่เกิดโตมามีบ้างไหม
ใครสักคนที่ท่านรักสุดหัวใจ มีบ้างไหมในหัวใจตลอดมา
พ่อพรานใหญ่มองฟ้าน้ำตาไหล ใครจะใครใจร้ายมากหนักหนา
ถามมาได้คนที่รักตลอดมา ดุจดาราบนฟากฟ้าคู่ดวงเดือน
รักที่สุดหมดหัวใจที่เฝ้ารอ ใครกันหนอที่ข้ารักมากหนักหนา
จะใครเล่านอกจากเจ้าสาลิกา รู้ไหมว่าข้ารักเจ้าตลอดไป
รักครั้งแรกที่ข้าเองเคยได้พบ เพียงแค่สบดวงตามีที่ไหน
รักสุดท้ายที่จะรักตลอดไป หมดหัวใจให้แล้วมิคิดคืน
แม้ต้องจากพลัดพรากในวันก่อน มินิ่งนอนยังคงอยู่และทนฝืน
หลุดจากปากพูดแล้วไม่กลับกลืน ทุกค่ำคืนมีแต่เจ้าเพียงคนเดียว
สาลิกาอ้ำอึ้งชั่วครูหนึ่ง นั่งนึกถึงวันเก่าที่แสนหวาน
นึกถึงวันที่โบยบินเคียงข้างพราน เมื่อไม่นานฉันยังจำมันได้ดี
ในวันเก่าที่เคียงข้างเจ้าไพรวัลย์ บุกดงพลันออกล่าทั่วไพรี
มีพรานใหญ่คอยสอนทุกวิธี เหนือคีรีใต้เวหาออกล่ากัน
ยังนึกถึงวันเก่าที่เฝ้าหา นึกแล้วน้ำในตามันก็ไหล
นี้ที่ฉันทำผิดกับพรานไป ที่ดันไล่ให้เขาจำจากกันไกล
สาลิกาปาดน้ำตาอ้าปางว่า ที่ผ่านมาให้แล้วไปจะได้ไหม
ที่แล้วมาฉันผิดเต็มหัวใจ ให้อภัยฉันได้ไหมจ้าวไพรวัลย์
เจ้าป่านั้นได้ยินจึงวางศร ดุจละครน้ำเน่าในความฝัน
โผเข้ากอดวิหกน้อยแต่โดยพลัน อันตัวฉันปรีดาเต็มหัวใจ
บัดนั้นมัจจุราชชูหัวขึ้น ฟ่อฟู่ครื่นอยู่ด้านหลังพ่อพรานใหญ่
ตัวพุ่งฉกเข้าที่ขากัดลงไป พิษพุ่งไหลมุ่งเข้าสู่ทั่วร่างกาย
เจ้าพรานหนุ่มล้มลงในบัดนั้น มือปากสั่นไปทั่วตัวเลือดเริ่มไหล
น้ำตานองสาลิกาในทันใด เจ้าพรานใหญ่ล้มลงในทันตา
สาลิกาเรียกร้องหาใครอื่น พรานหนุ่มฝืนใจพูดแล้วบอกว่า
มิรอดแล้วตัวฉันจะบอกลา ด้วยน้ำตาจะรักเจ้าตลอดกาล
ดุจดวงดาวพราวระยับบนฟากฟ้า
ดุจผกาในพนาที่แสนหวาน
ดุจดวงใจจะรักเจ้าทุกคืนวาน
ตลอดกาลรักเพียงเจ้าดวงหทัย