สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส (ฆอร์เก มาริโอ เบร์กอกลิโอ)

เมื่อเวลา 01.00 นาฬิกาของเช้าวันที่ 14 มีนาคม 2556 ตามเวลาในประเทศไทย กลุ่มควันสีขาวได้พวยพุ่งออกจากปากปล่องบนหลังคาวิหารน้อยซิสทีน (Sistine Chapel) ในนครรัฐวาติกัน อันเป็นสัญญาณบ่งบอกการประชุมลับเลือกตั้งสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ผู้ที่จะมาทำหน้าที่แทนสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ซึ่งทรงลาออกจากตำแหน่งไปเมื่อเดือนก่อน สิ้นสุดลงแล้ว โดยมีพระคาร์ดินัลอาวุโสออกมาประกาศว่า "Habemus Papam" (เรามีพระสันตะปาปาแล้ว)

ผู้ที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่แห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกคือ พระคาร์ดินัล ฆอร์เก มาริโอ เบร์กอกลิโอ อายุ 76 ปี อัครมุขนายกแห่งบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา นับเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกที่มาจากอเมริกาใต้หรือละตินอเมริกา ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีคริสต์ศาสนิกชนนิกายโรมันคาทอลิกอาศัยอยู่ประมาณร้อยละ 40 และเป็นองค์แรกจากคณะเยซูอิต รวมทั้งยังเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกที่ประสูตินอกทวีปยุโรปในรอบ 1,300 ปี อีกด้วย

การประชุมลับเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ซึ่งมีขึ้นตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา มีมติเป็นเอกฉันท์เลือกพระคาร์ดินัลจากประเทศอาร์เจนตินา เป็นสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ด้วยคะแนน 2 ใน 3 หรือ 77 เสียงจากพระคาร์ดินัลที่เข้าร่วมพิธีการครั้งนี้ จำนวน 115 รูป ในการคัดเลือกจากการลงคะแนนลับในรอบที่ 5 โดยปราศจากคู่แข่งที่มีคะแนนใกล้เคียง เมื่อเทียบกับองค์ก่อนแล้ว สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ได้รับการคัดเลือกในการประชุมลับรอบที่ 4 ส่วนสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น พอลที่ 2 ได้รับคัดเลือกในการลงคะแนนเสียงรอบที่ 8 โดยทรงเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกในรอบ 445 ปีที่ไม่ใช่ชาวอิตาเลียน

ในการคัดเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาครั้งที่แล้วในปี 2548 พระคาร์ดินัลเบร์กอกลิโอมีคะแนนมาเป็นลำดับที่สองรองจากพระคาร์ดินัลโยเซฟ รัตซิงเกอร์ (สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16) เพียงเล็กน้อย ทั้งนี้สมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่จะเป็นประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกลำดับที่ 266 ในประวัติศาสตร์แห่งคริสตจักร 2,000 กว่าปี โดยทรงเลือกใช้พระนามว่า “ฟรานซิส” (ซึ่งเป็นชื่อของนักบุญฟรานซิสแห่งอาซซิซี ชาวอิตาเลียนผู้ก่อตั้งนิกายฟรานซิสกันในสมัยคริสตศตวรรษที่ 13 กล่าวกันว่าเป็นที่รักของผู้ยากไร้ หรือ ‘a lover of the poor’) และมีกำหนดการเข้าพิธีขอบคุณรับตำแหน่งเปิดสมณสมัยอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 มีนาคมนี้

ที่มา:
1. http://www.thairath.co.th/content/oversea/332278
2. http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9560000031279
3. http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1363221001&grpid=00&catid=&subcatid=