ต่อเนื่องจาก The Cameraman วันนี้ขอแนะนำโคตรคลาสสิกหนังเงียบขาวดำอีกเรื่องครับ The General ปี 1926 !!!

The General (1926)



Genre : Silent Film, Action, Adventure, Comedy, Romance, War

Directors : Clyde Bruckman, Buster Keaton
Book "Daring and Suffering: a History of the Great Railroad Adventure" : William Pittenger
Memoir "The Great Locomotive Chase" : William Pittenger
Written by : Buster Keaton, Clyde Bruckman
Adaptation : Al Boasberg, Charles Henry Smith    
Uncredited : Paul Girard Smith

หลังจากดู The General จบ ผมมีความรู้สึกว่าหนังในช่วงยุค 20-30 ของ Buster Keaton ได้รับการยกย่องหรือพูดถึงน้อยกว่าหนังของ Chaplin อีกแฮะ ทั้งที่ผมว่าเจ๋งไม่แพ้กันและโดยส่วนตัวผมให้หนังของ Keaton เจ๋งกว่าด้วยซ้ำ (พูดถึงตัวหนังนะครับ ไม่ใช่ตัวบุคคล) อย่างหนึ่งที่ผมไม่ค่อยชอบหนังของ Chaplin คือบางทีเล่นมุกตลกมากเกินไปแล้วเนื้อเรื่องมันก็ไม่เดินหน้าไปสักที แต่หนังของ Keaton มักจะให้ความสำคัญกับบทหนังมากกว่าแล้วใช้มุกตลกแทรกเข้าไปโดยที่หนังไม่หยุดอยู่กับที่ ซึ่งผมมองว่าตรงนี้มันดูเป็นคอเมดี้ธรรมชาติกว่าการจงใจแสดงฉากตลกน่ะครับ

เหตุการณ์ในหนังเรื่อง The General เป็นช่วงเริ่มต้นสงครามกลางเมืองอเมริกา ฝ่ายเหนือฝ่ายใต้นั่นแหละครับ Johnnie Gray (Buster Keaton) พระเอกของเราเป็นพนักงานขับรถไฟครับ ชีวิตเขามีสองสิ่งที่เขารักคือเจ้ารถจักรไอน้ำกับ Annabelle แฟนสาวของเขา จุดเริ่มต้นของเรื่องมันเกิดจากเขาไปสมัครเป็นทหารแต่ว่าทางฝ่ายใต้ไม่รับเพราะเห็นว่าพนักงานขับรถจักรไอน้ำมีประโยชน์ต่อพวกเขามากกว่าจะให้มาเป็นทหาร แต่พี่จะปฏิเสธพระเอกของเราก็ไม่ยอมบอกเหตุผลปล่อยให้โชว์ตลกอยู่ตั้งนาน ฮ่า ๆ พอเขากลับไปหาแฟนสาวก็โดนเธอโกรธไม่ยอมคุยด้วยจนกว่าจะเป็นชายในเครื่องแบบ พระเอกของเราไม่รู้จะทำยังไงก็ต้องกลับไปขับรถจักรไอน้ำเหมือนเดิม และเนื้อเรื่องจริง ๆ มันเริ่มต่อจากนี้ครับ เมื่อฝ่ายเหนือปล้นรถจักรไอน้ำของเขาแถมยังจับแฟนสาวเขาไปด้วย พระเอกของเราจึงต้องออกไล่ล่าพวกทหารฝ่ายเหนือด้วยตัวคนเดียวครับ!!

สำหรับผม The General เป็นหนัง Action/Adventure สุดคลาสสิกเลยครับ ปี 1926 แต่สามารถทำฉากขับรถจักรไอน้ำไล่ล่ากันสนุกมากเลยครับ จะสนุกแค่ไหนยังไงต้องไปชมกันเอง ผมบอกเลยว่าไม่ได้ยกย่องเกินจริงแน่นอนครับ ฉากรถจักรไอน้ำไล่ล่ากันมันโคตรจะคลาสสิกขึ้นหิ้งสบาย ๆ ไม่ใช่แบบทำความเร็วไล่กันอะไรแบบนั้นนะครับ แต่เป็นแบบฝ่ายที่นำอยู่ก็ต้องพยายามขัดขวางไม่ให้อีกฝ่ายไล่ตามมาทัน ฝ่ายที่ไล่ตามก็ต้องคอยกำจัดสิ่งกีดขวางอะไรแบบนี้น่ะครับ ฉากรถจักรไอน้ำไล่ล่ากันมีสองฉากครับ ฉากแรกพระเอกเป็นฝ่ายไล่ตามเขา อีกฉากตอนหลังพระเอกต้องหนีการตามล่าจากทหารฝ่ายเหนือครับ เจ๋งทั้งการถ่ายทำ เจ๋งทั้งสตั๊นท์โลดโผน และปล่อยมุกฮาไหลลื่นด้วย!!

พูดถึงเรื่องสตั๊นท์โลดโผน Buster Keaton ในหนังเรื่องนี้หลายฉากการแสดงจัดว่าเสี่ยงเจ็บตัวมากเลยครับ พี่เล่นปีนป่ายกระโดดขึ้นลงรถจักรไอน้ำเป็นว่าเล่น แถมมีวิ่งบนขอบรถจักร มีกระโดดข้ามโบกี้ คือเห็นรถจักรวิ่งไม่ค่อยเร็วแต่ว่าแต่ละฉากนี่แสดงเสี่ยง ๆ ทั้งนั้นเลยครับ และก็รู้สึกว่าจะไม่มีบริษัทไหนยอมทำประกันภัยให้เลย

นอกเหนือจากพวกการแสดงโลดโผน ฉากไล่ล่าสุดคลาสสิก และยิงมุกตลกต่อเนื่อง บทหนังนี่ก็เข้าขั้นยอดเยี่ยมเลยครับ พล๊อตหนังอาจจะดูธรรมดาสำหรับสมัยนี้คือให้พระเอกนางเอกขัดแย้งกัน ใส่พล๊อตหลักให้พระเอกต้องไปช่วยเหลือนางเอก และเสริมพล๊อตรองให้พระเอกบังเอิญได้ยินแผนการของฝ่ายเหนือ เมื่อพล๊อตแข็งแรงแล้วยังเขียนบทดัดแปลงออกมาเป็นภาพยนตร์ได้ดีมาก ๆ

เสริมเล็กน้อยอีกว่า The General ยังเป็นเจ้าของสถิติการถ่ายทำ Single-shot ที่มีราคาแพงที่สุดในบรรดาหนังเงียบด้วยครับ ฉากที่ว่าคือการทำลายรถไฟมูลค่า 42,000 เหรียญ (เทียบค่าเงินกับปี 1995 ก็ประมาณ 1.7 ล้านเหรียญครับ) ดูฉากนี้ฉากเดียวก็คุ้มแล้วครับ ฮ่า ๆ

10/10
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่