หากหลายคนเกิดในช่วงต้นGenYปลายGenXแบบผมก็ย่อมรู้ดีว่าการที่จะมีคอมพิวเตอร์สักเครื่องเป็นเรื่องที่ยากมากๆ สิ่งบันเทิงก็มีโทรทัศน์ที่เมื่อก่อนมีไม่กี่ช่องที่มีให้ชม ดังนั้นสิ่งที่จะให้ความบันเทิงได้คือละครหลังข่าวแต่เมื่อก่อนยังดีที่มีรายการอื่นให้ดูเพลินๆบ้าง
ผมไม่ใช่อยู่ๆเกลียดละครไทยเลยนะครับเพราะผมเองก็ดูบ้างยกเว้นจักร์ๆวงศ์ๆเพราะดันฉายชนกับการ์ตูนช่อง9 และเมื่อเด็กๆพอจบข่าวช่อง7จะมีการ์ตูนสั้นดูบ้างก่อนนอนแต่เมื่อโตมาก็ดูละครตามแม่แล้วซึ่งแน่นอนในสมัยนั้นไม่มีทางเลือกมากเลยต้องดูตามน้ำจนพอเข้ามหาวิทยาลัยนี้แบจะดูยากเพราะส่วนหนึ่งคืออ่านหนังสือทำรายงานไม่ก็เริ่มเล่นอินเตอร์เน็ทในห้องคอมของหอพัก พอจบมาก็ทำงานและแทบจะเลิกดูละครเพราะอินเตอร์เน็ทนั้นเร็วขึ้นมากแล้วเลยไม่ดูทีวี ถ้าไม่ติดว่าทีวีสมัยนี้ติดเน็ทฟริกคงเอาไว้ต่อเข้ากับเครื่องPS5เล่นเกมสถานเดียวแล้ว
ละครที่ผมชอบที่พอจำได้ก็มีแค่3เรื่องเท่านั้น เรื่องแรกคือกระหัง ผมลงทุนตื่นเช้ามืดเพื่อดูละครเรื่องนี้เพราะมันน่ากลัวแต่ก็มีการสู้กันของกระหังฝ่ายดีและฝ่ายร้าย จัดว่าเป็นละครที่แหวกแนวดีจะผีก้ไม่ใช่จะต่อสู้ก็ไม่เชิง ส่วนเรื่องต่อมาคือจากข่าวที่คนลักลอบตัดเศียรพระเลยทำละครขึ้นมา นั่นคือขุนเดชนั่นเอง โดยตัวเอกนั้นคอยฆ่าคนที่ลักลอบตัดเศียรพระเสมอๆซึ่งเป็นละครชี้นำเรื่องความถูกต้องถึงจะรุนแรงไปแต่ก็สมควรแล้วหรือละครอีกเรื่องที่ชอบมากๆแต่ลืมชื่อไปแล้วคือพระเอกเป็นนักธุดงค์ที่คอยเดินทางไปหมู่บ้านต่างๆและพบกับความงมงายของชาวบ้านและผลกรรมที่ต้องได้รับโดยเฉพาะมีบทพระปลอมทำลายข้าวของของพระเอกและผลคือตัวหัวหน้าโดนไฟคลอกตายส่วนที่เหลือโดนขังคุก ซึ่งถือว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วได้ทันที แต่นอกนั้นจะเจอกับละครที่ผมจะพูดในหัวข้อต่างๆซึ่งบอกได้ดังนี้
1.ความซ้ำซากของบทเขียน คือละครส่วนมากจะมีพล๊อตเรื่องที่เดาได้ง่ายมากๆจนมีครั้งหนึ่งผมถึงกับพูดดักทางจนคนงงว่าผมเคยดูละครมาก่อนหรือผมบอกว่ามันเดาทางง่าย เพราะบทมันส่งมาแบบนี้แล้วหรือจะให้ยกตัวอย่างที่เดจาวูสุดๆคือ ถ้าพระเอกนางเอกดีกันโดยที่ชือละครยังไม่มีคำว่าตอนจบ เดาได้หลังจากจบโฆษณาเลยว่าเดี๋ยวมีเหตุต้องทะเลาะกันแน่ๆและเป็นไปตามคาดจนคนอื่นๆนั้นถึงกับไล่กันเลยทีเดียว ก็ละครเป็นแบบนี้อยู่แล้วต่อให้ไม่ดูก็รู้
2.ความซ้ำซากของเนื้อเรื่อง คือเนื้อเรื่องส่วนมากจะแบบเดิมๆคือพระเอกกับนางเอกจะมีฐานะที่ต่างกันมากๆแต่ที่สำคัญที่สุดคือสุดท้ายต้องมารักกัน และที่สำคัญคือคูรจะได้รับข้ออ้างว่าสะท้อนสังคมมาเป็นสิบๆปีซึ่งไม่เปลี่ยนเลย อย่างมากก็แค่หยิบข่าวที่ดังๆมาประกอบแต่ก็เหมือนเดิมคือเนื้อหาแบบเดิมๆจนเคยเจอละครเรื่องหนึ่งที่นางเอกไปแต่งงานกับพ่อพระเอกแล้วอ้างว่าพระเอกไม่มีสิทธิที่จะแตะต้องกับนางเอกเพราะเป็นบาป เดี๋ยว นางเอกไม่ได้คลอดพระเอกมานะครับและพอจบมาก็เจออีกเรื่องที่ฉายต่อเลยก็มีพล๊อตเรื่องเหมือนกันแต่ต่างกันคือนางเอกมีลูกแถมตัวลูกยังบอกว่าไม่มีพ่อแต่นอกนั้นก็เดิมๆ คือคิดพล๊อตไม่ออกเลยใช่ไหมแบบแหวกแนวหน่อยเลยแบบที่ละครที่ผมชอบที่เคยบอกก่อนหน้านี้ได้ไหม
3.ก๊อปเนื้อเรื่องและเอาเรื่องเก่ามาทำใหม่ ผมเคยเจอการก๊อปเนื้อเรื่องราวๆสามเรื่องโดยเรื่องแรกเนื้อหาแบบเจ้าชายมาหารักกับสาวสามัญชน ซึ่งดูผ่านๆก็อืม ยกฐานะของพระเอกจนไปเจอกับหนังฝรั่งเรื่องหนึ่งที่พล๊อตเรื่องแบบเดียวกันแต่เพิ่มเติมคือพระเอกในหนังมีวิทยายุทธแต่ในละครเป็นแค่เจ้าชายธรรมดาๆหรืออีกเรื่องที่เคยดูเขาโปรโมทว่าลูกสาวกับแม่เกิดสลับร่างกันส่วนในละครไทยคงกลัวที่จะซ้ำเลยสลับเป็นยายหลานแทน จนผมกลัวว่าจะโดนลิขสิทธิไหมหว่า และมีเรื่องหนึ่งที่ผมจำชื่อได้คือเจ้าหญิงในตะเกียงแก้วที่ภาค2รุ่นลูกของนางเอกมีการไปเรียนที่โรงเรียนเวทมนตืด้วย อืม มันคุ้นๆนะแต่หากไม่เอ่ยชื่อก็คงไม่โดนลิขสิทธิหรอกมั้ง ส่วนการเอาเรื่องเก่ามาทำใหม่ หากเป็นละครจักรๆวงค์ๆผมให้อภัยได้เพราะว่าเราไม่สามารถสร้างนิทานพื้นบ้านขึ้นมาใหม่ได้ และการดัดแปลงให้เข้ากับบริบทกับปัจจุบันนั้นก็ทำได้ อย่างสังค์ทองช่วงหนึ่งที่ผมดูทันคือพระเอกตอนเป้นเงาะป่าพูดได้แต่เวอร์ชั่นล่าสุดที่ดูกับปู่คือถึงจะทะเล้นแกล้งใบ้ตลอดเวลาแต่มันก็ดูเพลินๆดี แต่ถ้าเป็นละครเรื่องอื่นนี้ผมว่าการเอาเรื่องเก่ามาทำใหม่เป็นการทำให้ละครนั้นไม่สามารถที่จะทำเรื่องใหม่ที่สร้างสรรค์(หรือเปล่า)ขึ้นมาใหม่ได้ เคยมีเรื่องหนึ่งที่ผมรู้สึกคุ้นๆกับชื่อเรื่องว่าเหมือนเคยดูมาก่อนและเกิดอาการเดจาวู พอละครจบเพลงจบก็ถึงบางอ้อเลยว่าเอาละครเก่ามาเปลี่ยนชื่อแล้วมาเล่าใหม่โดยเค้าโครงเดิมยังอยู่ เออ เล่นแบบนี้สินะละครไทย
4.เนื้อเรื่องผิดศิลธรรม คือต่อให้เคยมีคนยกว่าสุดท้ายความดีชนะความชั่วแต่กว่าผู้ชมที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจะรับได้นั้นจะรับข้อคิดนี้ได้ไหมเพราะกว่าจะถึงจุดนั้นคือปลายเรื่องแล้ว ถ้าจะทำแบบเรื่องที่ผมชอบแบบผลกรรมเห็นผลทันทีผมว่าดีแต่มันน้อยมาก และตรรกะที่พังๆเลยคือ พระเอกข่มขืนนางเอกซึ่งเคยมีคนตั้งกระทู้ว่านางเอกก็แค่เล่นตัวเท่านั้นเองจริงๆนางก็สมยอม ฮัลโหล เอาสมองส่วนไหนคิด คนโดนข่มขืนปกติไม่สมยอมนะครับและถ้าโดนเข้าไปคือเกิดภาวะจิตตกจนกลัวผู้ชายก็มี และที่น่าเจ็บใจคือต่อให้ละครมีบอกว่าเรทอายุคนดูควรเท่าไหร่แต่เอาจริงๆผู้ปกครองไม่มีการแนะนำหรอก ซึ่งเคยมีการสอบถามมาจากชาวบ้านและจากเด้กเองเคยตอบบที่ไม่รู้ทีเล่นทีจริงหรือเปล่าว่าโตขึ้นอยากเป็นพระเอละครเพราะจะได้ข่มขืนนางเอกได้ และที่สำคัญอย่างมากคือ การแย่งผู้ชาย คือปกติหากพระเอกเป็นคนรวยจะย่อมมีนางอิจฉาหรือนางร้ายเป็นแฟนกันมาก่อน ถึงไม่ใช่ทุกเรื่องแต่ที่ดูคือเป็นแบบนี้ ซึ่งแน่นอนด้วยความหึงหวงของนางก็ต้องใช้กำลังหรือมารยาหญิงซึ่งแน่นอนทำให้คนดูคงจะชอบแต่สร้างค่านิยมให้กับเด็กในทางที่ผิดๆไปแล้ว
5.ความไม่สมจริงในสิ่งที่ไม่ควรและสมจริงในสิ่งที่ควร เป็นที่ล้อกันแน่นอนคือเรื่องของนางเอกเข้าโรงพยาบาลหน้าสวยหรือเข้าป่าหน้าเป๊ะ หรือเข้าป่าย่างไก่และไม้ยังเขียว ส่วนพวกบทบู้นี้ยอมๆไปเพราะหนังฝรั่งเองไม่มีหรอกที่คนเดียวบู้กับคนนับสิบได้อันนี้พอเข้าใจแต่ว่าการใส่ความไม่สมจริงบางเรื่องนี้คือบางคนแยกแยะไม่ได้ ตัวอย่างที่เคยได้ยินมาคือพระเอกแพ้อาหารแล้วนางเอกรักษาโดยให้กินอาหารจนหาย ถ้าเป็นแบบนี้จริงทำไมผมที่แพ้เหล้ายิ่งกินยิ่งแย่ลงจนล่าสุดคือแทบหายใจไม่ออก คือถ้าเป็นแบบขำๆพอให้อภัยแต่ถ้าทำให้เกิดความเข้าใจผิดก็ไม่ควรทำ และความสมจริงในสิ่งที่ไม่ควรก็ไม่พ้นฉากข่มขืน อันนี้ข้ามไปเพราะพูดมารอบละ
6.อาชีพคลุมเครือ คืออาชีพของตัวละครอย่างที่บอกคือพระเอกนางเอกจะต่างกันมากแต่ที่คลุมเครื่อจนหาคำตอบทุกวันนี้ว่าตัวนางร้ายส่วนมากทำอะไร คือปูพื้นว่าบ้านรวยแต่ส่วนมากคือแทบจะไม่เคยเห็นซีนนางร้ายทำงานเลย กรณีพระเอกนางเอกรวยพอมีซีนทำงานบ้างแต่นางร้ายหรือตัวร้ายแทบหาช่วงที่ทำงานไม่ได้เลยเหมือนแค่นั่งแท่นว่าเป็นตัวร้าย
7.ความต่างสังคมและการเหยียดสังคม พอดูละครช่วงที่มีอายุมากขึ้นคือเริ่มสังเกตุว่าส่วนมากครอบครัวของฝั่งที่รวยมักที่จะมองคนที่ต้อยต่ำกว่าว่าเป็นคนที่ไม่ดี อย่างลพครเรื่องหนึ่งคือแม่นางเอกตายพ่อนางเอกเลยเอาเมียน้อยเข้ามาอยู่ในบ้าน นางเลยเกิดอาการเบรกแตกออกนอกลู่นอกทางแล้วได้พระเอกช่วยไว้ แต่กรรมที่พระเอกดันเป็นคนจนเลยโดนพ่อนางเอกมองว่าเป็นคนไม่ดีจนมีครั้งหนึ่งถึงขั้นเอาตำรวจบุกมายบ้านพระเอกทั้งๆที่ไม่ได้ทำผิด คือมันเกินไปหน่อยไหมที่ต่อให้รวยก็ไม่มีสิทธิที่จะเอาตำรวจมาบุกถึงบ้านได้นะจนกว่าจะยอมรับได้ก็ปลายเรื่องทุกเรื่อง
8.CGไม่สมจริง ก็ยอมรับว่าละครส่วนมากนั้นมักทำแบบตอนต่อตอน การประสานงานกันนั้นเป็นเรื่องจำเป็นแต่เพราะความรีบร้อนหรืออะไรก็ตามเลยออกมาค่อนข้างไม่ดี แต่ยกเว้นชิกเก้น เจ้าแมวผีประจำช่อง7หรือ35HDละกันที่ไม่สมจริงแต่น้องน่ารัก
ผมเคยเจอโพสในfacebookมาว่าช่วงนี้ละครไทยคนไม่ค่อยดู จากที่ผมคิดก็ไม่แปลกเพราะสื่อสมัยนี้มันเริ่มมากขึ้น โดยเฉพาะละครหรือซีรี่จากต่างประเทศที่มีความหลากหลายจนแม่ผมหันมาดูซีรี่เกาหลีที่ผมคาดการณ์ไม่ได้เพราะว่าส่วนหนึ่งคือไม่ค่อยได้ดู(ติดเมะอะ)และมันไม่ซ้ำซากเลยดูแล้วรู้สึกว่าถ้าละครไทยไม่ปรับโครงเรื่องคนดูจะดูน้อยลงจนไม่มีใครจะดูอีกต่อไป
ผมต้องขออภัยด้วยหากใช้คำที่รุนแรงไปเพราะมันเป็นความคิดเห็นที่ดูมานานแล้วจนอยากจะแสดงออกมาเพราะเจอการสร้างกระแสมาสองเรื่องราวกับพยายามจูงใจให้คนดูเพิ่มขึ้น
ผมเบื่อละครไทยจนพอแล้ว
ผมไม่ใช่อยู่ๆเกลียดละครไทยเลยนะครับเพราะผมเองก็ดูบ้างยกเว้นจักร์ๆวงศ์ๆเพราะดันฉายชนกับการ์ตูนช่อง9 และเมื่อเด็กๆพอจบข่าวช่อง7จะมีการ์ตูนสั้นดูบ้างก่อนนอนแต่เมื่อโตมาก็ดูละครตามแม่แล้วซึ่งแน่นอนในสมัยนั้นไม่มีทางเลือกมากเลยต้องดูตามน้ำจนพอเข้ามหาวิทยาลัยนี้แบจะดูยากเพราะส่วนหนึ่งคืออ่านหนังสือทำรายงานไม่ก็เริ่มเล่นอินเตอร์เน็ทในห้องคอมของหอพัก พอจบมาก็ทำงานและแทบจะเลิกดูละครเพราะอินเตอร์เน็ทนั้นเร็วขึ้นมากแล้วเลยไม่ดูทีวี ถ้าไม่ติดว่าทีวีสมัยนี้ติดเน็ทฟริกคงเอาไว้ต่อเข้ากับเครื่องPS5เล่นเกมสถานเดียวแล้ว
ละครที่ผมชอบที่พอจำได้ก็มีแค่3เรื่องเท่านั้น เรื่องแรกคือกระหัง ผมลงทุนตื่นเช้ามืดเพื่อดูละครเรื่องนี้เพราะมันน่ากลัวแต่ก็มีการสู้กันของกระหังฝ่ายดีและฝ่ายร้าย จัดว่าเป็นละครที่แหวกแนวดีจะผีก้ไม่ใช่จะต่อสู้ก็ไม่เชิง ส่วนเรื่องต่อมาคือจากข่าวที่คนลักลอบตัดเศียรพระเลยทำละครขึ้นมา นั่นคือขุนเดชนั่นเอง โดยตัวเอกนั้นคอยฆ่าคนที่ลักลอบตัดเศียรพระเสมอๆซึ่งเป็นละครชี้นำเรื่องความถูกต้องถึงจะรุนแรงไปแต่ก็สมควรแล้วหรือละครอีกเรื่องที่ชอบมากๆแต่ลืมชื่อไปแล้วคือพระเอกเป็นนักธุดงค์ที่คอยเดินทางไปหมู่บ้านต่างๆและพบกับความงมงายของชาวบ้านและผลกรรมที่ต้องได้รับโดยเฉพาะมีบทพระปลอมทำลายข้าวของของพระเอกและผลคือตัวหัวหน้าโดนไฟคลอกตายส่วนที่เหลือโดนขังคุก ซึ่งถือว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วได้ทันที แต่นอกนั้นจะเจอกับละครที่ผมจะพูดในหัวข้อต่างๆซึ่งบอกได้ดังนี้
1.ความซ้ำซากของบทเขียน คือละครส่วนมากจะมีพล๊อตเรื่องที่เดาได้ง่ายมากๆจนมีครั้งหนึ่งผมถึงกับพูดดักทางจนคนงงว่าผมเคยดูละครมาก่อนหรือผมบอกว่ามันเดาทางง่าย เพราะบทมันส่งมาแบบนี้แล้วหรือจะให้ยกตัวอย่างที่เดจาวูสุดๆคือ ถ้าพระเอกนางเอกดีกันโดยที่ชือละครยังไม่มีคำว่าตอนจบ เดาได้หลังจากจบโฆษณาเลยว่าเดี๋ยวมีเหตุต้องทะเลาะกันแน่ๆและเป็นไปตามคาดจนคนอื่นๆนั้นถึงกับไล่กันเลยทีเดียว ก็ละครเป็นแบบนี้อยู่แล้วต่อให้ไม่ดูก็รู้
2.ความซ้ำซากของเนื้อเรื่อง คือเนื้อเรื่องส่วนมากจะแบบเดิมๆคือพระเอกกับนางเอกจะมีฐานะที่ต่างกันมากๆแต่ที่สำคัญที่สุดคือสุดท้ายต้องมารักกัน และที่สำคัญคือคูรจะได้รับข้ออ้างว่าสะท้อนสังคมมาเป็นสิบๆปีซึ่งไม่เปลี่ยนเลย อย่างมากก็แค่หยิบข่าวที่ดังๆมาประกอบแต่ก็เหมือนเดิมคือเนื้อหาแบบเดิมๆจนเคยเจอละครเรื่องหนึ่งที่นางเอกไปแต่งงานกับพ่อพระเอกแล้วอ้างว่าพระเอกไม่มีสิทธิที่จะแตะต้องกับนางเอกเพราะเป็นบาป เดี๋ยว นางเอกไม่ได้คลอดพระเอกมานะครับและพอจบมาก็เจออีกเรื่องที่ฉายต่อเลยก็มีพล๊อตเรื่องเหมือนกันแต่ต่างกันคือนางเอกมีลูกแถมตัวลูกยังบอกว่าไม่มีพ่อแต่นอกนั้นก็เดิมๆ คือคิดพล๊อตไม่ออกเลยใช่ไหมแบบแหวกแนวหน่อยเลยแบบที่ละครที่ผมชอบที่เคยบอกก่อนหน้านี้ได้ไหม
3.ก๊อปเนื้อเรื่องและเอาเรื่องเก่ามาทำใหม่ ผมเคยเจอการก๊อปเนื้อเรื่องราวๆสามเรื่องโดยเรื่องแรกเนื้อหาแบบเจ้าชายมาหารักกับสาวสามัญชน ซึ่งดูผ่านๆก็อืม ยกฐานะของพระเอกจนไปเจอกับหนังฝรั่งเรื่องหนึ่งที่พล๊อตเรื่องแบบเดียวกันแต่เพิ่มเติมคือพระเอกในหนังมีวิทยายุทธแต่ในละครเป็นแค่เจ้าชายธรรมดาๆหรืออีกเรื่องที่เคยดูเขาโปรโมทว่าลูกสาวกับแม่เกิดสลับร่างกันส่วนในละครไทยคงกลัวที่จะซ้ำเลยสลับเป็นยายหลานแทน จนผมกลัวว่าจะโดนลิขสิทธิไหมหว่า และมีเรื่องหนึ่งที่ผมจำชื่อได้คือเจ้าหญิงในตะเกียงแก้วที่ภาค2รุ่นลูกของนางเอกมีการไปเรียนที่โรงเรียนเวทมนตืด้วย อืม มันคุ้นๆนะแต่หากไม่เอ่ยชื่อก็คงไม่โดนลิขสิทธิหรอกมั้ง ส่วนการเอาเรื่องเก่ามาทำใหม่ หากเป็นละครจักรๆวงค์ๆผมให้อภัยได้เพราะว่าเราไม่สามารถสร้างนิทานพื้นบ้านขึ้นมาใหม่ได้ และการดัดแปลงให้เข้ากับบริบทกับปัจจุบันนั้นก็ทำได้ อย่างสังค์ทองช่วงหนึ่งที่ผมดูทันคือพระเอกตอนเป้นเงาะป่าพูดได้แต่เวอร์ชั่นล่าสุดที่ดูกับปู่คือถึงจะทะเล้นแกล้งใบ้ตลอดเวลาแต่มันก็ดูเพลินๆดี แต่ถ้าเป็นละครเรื่องอื่นนี้ผมว่าการเอาเรื่องเก่ามาทำใหม่เป็นการทำให้ละครนั้นไม่สามารถที่จะทำเรื่องใหม่ที่สร้างสรรค์(หรือเปล่า)ขึ้นมาใหม่ได้ เคยมีเรื่องหนึ่งที่ผมรู้สึกคุ้นๆกับชื่อเรื่องว่าเหมือนเคยดูมาก่อนและเกิดอาการเดจาวู พอละครจบเพลงจบก็ถึงบางอ้อเลยว่าเอาละครเก่ามาเปลี่ยนชื่อแล้วมาเล่าใหม่โดยเค้าโครงเดิมยังอยู่ เออ เล่นแบบนี้สินะละครไทย
4.เนื้อเรื่องผิดศิลธรรม คือต่อให้เคยมีคนยกว่าสุดท้ายความดีชนะความชั่วแต่กว่าผู้ชมที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจะรับได้นั้นจะรับข้อคิดนี้ได้ไหมเพราะกว่าจะถึงจุดนั้นคือปลายเรื่องแล้ว ถ้าจะทำแบบเรื่องที่ผมชอบแบบผลกรรมเห็นผลทันทีผมว่าดีแต่มันน้อยมาก และตรรกะที่พังๆเลยคือ พระเอกข่มขืนนางเอกซึ่งเคยมีคนตั้งกระทู้ว่านางเอกก็แค่เล่นตัวเท่านั้นเองจริงๆนางก็สมยอม ฮัลโหล เอาสมองส่วนไหนคิด คนโดนข่มขืนปกติไม่สมยอมนะครับและถ้าโดนเข้าไปคือเกิดภาวะจิตตกจนกลัวผู้ชายก็มี และที่น่าเจ็บใจคือต่อให้ละครมีบอกว่าเรทอายุคนดูควรเท่าไหร่แต่เอาจริงๆผู้ปกครองไม่มีการแนะนำหรอก ซึ่งเคยมีการสอบถามมาจากชาวบ้านและจากเด้กเองเคยตอบบที่ไม่รู้ทีเล่นทีจริงหรือเปล่าว่าโตขึ้นอยากเป็นพระเอละครเพราะจะได้ข่มขืนนางเอกได้ และที่สำคัญอย่างมากคือ การแย่งผู้ชาย คือปกติหากพระเอกเป็นคนรวยจะย่อมมีนางอิจฉาหรือนางร้ายเป็นแฟนกันมาก่อน ถึงไม่ใช่ทุกเรื่องแต่ที่ดูคือเป็นแบบนี้ ซึ่งแน่นอนด้วยความหึงหวงของนางก็ต้องใช้กำลังหรือมารยาหญิงซึ่งแน่นอนทำให้คนดูคงจะชอบแต่สร้างค่านิยมให้กับเด็กในทางที่ผิดๆไปแล้ว
5.ความไม่สมจริงในสิ่งที่ไม่ควรและสมจริงในสิ่งที่ควร เป็นที่ล้อกันแน่นอนคือเรื่องของนางเอกเข้าโรงพยาบาลหน้าสวยหรือเข้าป่าหน้าเป๊ะ หรือเข้าป่าย่างไก่และไม้ยังเขียว ส่วนพวกบทบู้นี้ยอมๆไปเพราะหนังฝรั่งเองไม่มีหรอกที่คนเดียวบู้กับคนนับสิบได้อันนี้พอเข้าใจแต่ว่าการใส่ความไม่สมจริงบางเรื่องนี้คือบางคนแยกแยะไม่ได้ ตัวอย่างที่เคยได้ยินมาคือพระเอกแพ้อาหารแล้วนางเอกรักษาโดยให้กินอาหารจนหาย ถ้าเป็นแบบนี้จริงทำไมผมที่แพ้เหล้ายิ่งกินยิ่งแย่ลงจนล่าสุดคือแทบหายใจไม่ออก คือถ้าเป็นแบบขำๆพอให้อภัยแต่ถ้าทำให้เกิดความเข้าใจผิดก็ไม่ควรทำ และความสมจริงในสิ่งที่ไม่ควรก็ไม่พ้นฉากข่มขืน อันนี้ข้ามไปเพราะพูดมารอบละ
6.อาชีพคลุมเครือ คืออาชีพของตัวละครอย่างที่บอกคือพระเอกนางเอกจะต่างกันมากแต่ที่คลุมเครื่อจนหาคำตอบทุกวันนี้ว่าตัวนางร้ายส่วนมากทำอะไร คือปูพื้นว่าบ้านรวยแต่ส่วนมากคือแทบจะไม่เคยเห็นซีนนางร้ายทำงานเลย กรณีพระเอกนางเอกรวยพอมีซีนทำงานบ้างแต่นางร้ายหรือตัวร้ายแทบหาช่วงที่ทำงานไม่ได้เลยเหมือนแค่นั่งแท่นว่าเป็นตัวร้าย
7.ความต่างสังคมและการเหยียดสังคม พอดูละครช่วงที่มีอายุมากขึ้นคือเริ่มสังเกตุว่าส่วนมากครอบครัวของฝั่งที่รวยมักที่จะมองคนที่ต้อยต่ำกว่าว่าเป็นคนที่ไม่ดี อย่างลพครเรื่องหนึ่งคือแม่นางเอกตายพ่อนางเอกเลยเอาเมียน้อยเข้ามาอยู่ในบ้าน นางเลยเกิดอาการเบรกแตกออกนอกลู่นอกทางแล้วได้พระเอกช่วยไว้ แต่กรรมที่พระเอกดันเป็นคนจนเลยโดนพ่อนางเอกมองว่าเป็นคนไม่ดีจนมีครั้งหนึ่งถึงขั้นเอาตำรวจบุกมายบ้านพระเอกทั้งๆที่ไม่ได้ทำผิด คือมันเกินไปหน่อยไหมที่ต่อให้รวยก็ไม่มีสิทธิที่จะเอาตำรวจมาบุกถึงบ้านได้นะจนกว่าจะยอมรับได้ก็ปลายเรื่องทุกเรื่อง
8.CGไม่สมจริง ก็ยอมรับว่าละครส่วนมากนั้นมักทำแบบตอนต่อตอน การประสานงานกันนั้นเป็นเรื่องจำเป็นแต่เพราะความรีบร้อนหรืออะไรก็ตามเลยออกมาค่อนข้างไม่ดี แต่ยกเว้นชิกเก้น เจ้าแมวผีประจำช่อง7หรือ35HDละกันที่ไม่สมจริงแต่น้องน่ารัก
ผมเคยเจอโพสในfacebookมาว่าช่วงนี้ละครไทยคนไม่ค่อยดู จากที่ผมคิดก็ไม่แปลกเพราะสื่อสมัยนี้มันเริ่มมากขึ้น โดยเฉพาะละครหรือซีรี่จากต่างประเทศที่มีความหลากหลายจนแม่ผมหันมาดูซีรี่เกาหลีที่ผมคาดการณ์ไม่ได้เพราะว่าส่วนหนึ่งคือไม่ค่อยได้ดู(ติดเมะอะ)และมันไม่ซ้ำซากเลยดูแล้วรู้สึกว่าถ้าละครไทยไม่ปรับโครงเรื่องคนดูจะดูน้อยลงจนไม่มีใครจะดูอีกต่อไป
ผมต้องขออภัยด้วยหากใช้คำที่รุนแรงไปเพราะมันเป็นความคิดเห็นที่ดูมานานแล้วจนอยากจะแสดงออกมาเพราะเจอการสร้างกระแสมาสองเรื่องราวกับพยายามจูงใจให้คนดูเพิ่มขึ้น