ใครผ่านไปผ่านมาคงรู้แล้วว่าเรารักการแต่งร้อยกรองซึ่งมันอาจจะดีบ้างไม่ดีบ้างน่ะนะ ส่วนตัวชอบอ่านวรรณคดี และ แต่งกวีเป็นงานอดิเรก (โฮ่ ๆ) หลายคนว่าเราเชย หลายคนว่าเรา out แต่เค้าไม่แคร์ (แฮ่ ๆ) และที่สุดของชนิดการประพันธ์จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก "ฉันท์" นั่นเอง ฉันท์มีความไพเราะและความยุ่งยากมากมาย เนื่องจากฉันทลักษณ์บังคับครุและลหุ คือ คำลงเสียงหนักเบา ดังนั้นจะแต่งฉันท์ได้ต้องมีความรู้แตกฉานทางภาษาอย่างแรงกล้า โดยเฉพาะคำบาลีสันสกฤต เราเคยแต่งฉันท์แต่ไม่งามเหมือนกวีเอกท่านประพันธ์ไว้
ไปอ่านเรื่องย่อมาถึงกับฟิน ฉันท์ เต็ม ๆ
ฉากที่อังศุมาลินท่องฉันท์จากมัทนะพาธา (เป็นคำสันสกฤตที่มีความหมายว่า ความเจ็บหรือความเดือดร้อนจากห้วงเสน่หา) วรรคทองของวรรณคดีไทยโดยล้นเกล้ารัชกาลที่ ๖ ใช้อีทิสังฉันท์ ๒๐มีความหมายว่า ฉันท์มีลีลางดงามประดุจฉันท์ที่ได้พรรณนามาแล้ว ซึ่งเป็นฉันท์ที่ใช้บรรยายความรัก ความวิตกกังวล ที่แม่อังท่องนี้เป็นฉันท์ในฉากที่ท้าวชัยเสนปฏิญาณรักต่อมัทนา (มันแปลว่าคิตตี้อัลไลค้า อังศุมาลินนนนนน เธอเป็นสาวอักษรเก่า เธอท่องฉันท์นี่แต่เช้าาาาตรู่ มันแปลว่าอาไร้ช่วยบอกให้โกมะลิเข้าใจด้วยน้าาาาา)
อ้าอรุณแอร่มระเรื่อรุจี
ประดุจมโนภิรมย์ระตี ณ แรกรัก
แสงอะรุณวิโรจน์นะภาประจักษ์
แฉล้มเฉลาและโสภินัก นะฉันใด
หญิงและชาย ณ ยามระตีอุทัย
สว่าง ณ กลางกมลละไม ก็ฉันนั้น
แสงอุษาสะกาวพะพราว ณ สรรค์
ก็เหมือนระตีวิสุทธิอัน สว่างจิต
อ้าอนงคะเชิญดำเนิรสนิธ
ณ ข้าตะนูประดุจสุมิตร มโนมาน
ไปกระทั่ง ณ ฝั่งอุทกจีระธาร
และเปล่งพจี ณ สัจจะการ ประกาศหมั้น
ต่อพระพักตร์สุราภิรักษะอัน
เสด็จสถิต ณ เขตอะรัณ - ยะนี่ไซร้
ว่าตะนูและน้องจะเคียงคระไล
และครองตลอด ณ อายุขัย บ่คลาดคลา
เราก็รอดูจุดเล็ก ๆ ช่วงนี้ตามประสาคนรักบทกวี แต่ละครเวอร์ชั่นนี้ให้เรามากกว่านั้น ช่วงชมพระนครสองสาวหนุ่มเขาไปดูละครเรื่องมัทนะพาธากัน เจอฉันท์เข้าเต็ม ๆ แหม .... ตามที่อ่านพ่อโกไม่ค่อยเข้าใจ แหงล่ะภาษาค่อนข้างยาก แต่ฉากนี้คือฉากที่ท้าวชัยเสนเจอะสาวงามมัทนาเป็นครั้งแรกถึงกับรำพึงรำพันว่า เกิดมาไม่เคยเลยจะเป็นเช่นนี้ เห็นนางเข้าก็ร้อนเร่าไปหมด (นอกจากนั้นเขายังชมโฉมนางมัทนาด้วยนะคะไพเราะมาก) มันก็เข้ากับชีวิตพ่อโกอย่างประหลาด เพราะ วันที่โผล่หน้าจากเรือมาถามว่าหนาวไหม ก็ถูกใจแบบความหมายตามฉันท์นี้แหละ ฉันท์นี้ชื่อว่า อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ นะคะ แปลว่า ฉันท์ที่มีลีลาดุจสายฟ้าของพระอินทร์ จะเห็นว่าคล้ายกาพย์ยานี ๑๑ มากเลย เพียงแต่ว่าบังคับฉันทลักษณ์ไม่เหมือนกัน
โอ้โอ๋กระไรเลย บมิเคยณก่อนกาล
พอเห็นก็ทราบส้าน ฤดิรักบหักหาย
ยิ่งยลวะนิดา ละก็ยิ่งจะร้อนคล้าย
เพลิงรุมประชุมภาย ณ อุราบลาลด
พิศไหนบมีทราม วะธุงามสง่าหมด
จนสุดจะหาพจน์ สรเสริญเสมอใจ
องค์วิศวะกรรมัน นะสิปั้นวะธูไซร้
พอเสร็จก็เทพไท พิศะรูปสุรางค์เพลิน
ยืนเพ่งและนั่งพิศ วรพักตร์บหมางเมิน
งามใดบงามเกิน มะทะนาณโลกสาม
แลวิศวะกรรมัน ผิจะปั้นวะธูตาม
แบบอีกก็ไม่งาม ดุจะโฉมอนงค์นี้
เหตุนี้สินงคราญ ณสถานพิภพตรี
จึ่งไม่ประสพที่ สิริรูปะเทียมทัน
งามเกินมนุษจริง กละหญิงนิมิตร์ฝัน
จนแรกประสพนั้น ดนุจวนจะปลุกตัว
นึกว่าสนิธนิทร์ นยนาก็แน่วนัว
แต่นึกก็ออกกลัว จะผวาและไม่เห็น
ครั้นเมื่อสดับศัพ- ทะสำเนียงก็เยือกเย็น
ราวดื่มอุทกเพ็ญ รสะรื่นระรวยใจ
เสียงเจ้าสิเพรากว่า ดุริยางคะดีดใน
ฟากฟ้าสุราลัย สุรศัพทะเริงรมย์
ยามเดิรบเขินขัด กละนัจจะน่าชม
กรายกรก็เร้ารม- ยะประหนึ่งระบำสรวย
ยามนั่งก็นั่งเรียบ และระเบียบบเขินขวย
แขนอ่อนฤเปรียบด้วย ธนุก่งกระชับไว้
พิศโฉมและฟังเสียง ละก็เพียงจะฃาดใจ
โอ้นอนจะหลับไหล ฤฉนี้นะอกเอ๋ย
ขืนนอนก็ร่อนเร่า ฤดิเฝ้าคะนึงเชย
หากขืนจะนอนเฉย อุระอาจจะพังภิน
จำมาณที่นี้ เพราะว่ะใกล้สุนาริน
โอ้เราบสมจิน ตะนะได้ฤฉันใด
ช้าก่อน ดนูเห็น ณประตูสิรำไร
ดังหนึ่งจะมีใคร จระจากพระอาศรม
อ้าขอถวายอัญ- ชลิองค์สุโรดม
ขอให้ดนูชม วธุเลิศเถอะสักที
บทมาถึงบทนี้ ... อังศุมาลินดูละครเพลินค่ะ แต่นางแอบท่องฉันท์ออกมาด้วย ฉันท์นี้คืออันใด ... เป็นฉันท์ที่นางมัทนากล่าวเมื่อเกิดชอบพอท้าวชัยเสนขึ้นมาค่ะ นี่มันพ่อโกชัด ๆ น่ารักเรียบร้อย ชำเลืองมองหาหญิงที่พึงใจบ้างเป็นครั้งคราม แต่ที่สำคัญเจ้าตัวคนถูกมองต่างหากถึงกับร้อนหนาว ความรักทใจสาวเจ้าให้วาบหวิวแล้ว นี่ถ้าพ่อโกเข้าใจคงตัวลอยยยยยย ฉันท์นี้ คือ อินทวงสฉันท์ ๑๒ นะคะ หรือ ฉันท์ที่มีท่วงทำนองลีลาดุจอินทวงสเทวราช (อินทวงสเทวราช หมายถึง ผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และ จตุมหาราชิกา)
ครานี้สิพบชาย วรรูปวิเศษวิศาล
ใจวาบและหวามปาน ฤดินั้นจะโลดจะลอย
เธอนั้นฤเจียมตัว กิริยาก็เรียบร้อย
ไม่มีละสักน้อย จะแสดงณท่วงณที
ว่าเธอประสงค์จะ อภิรมย์ฤดีระตี
เป็นแต่ชำเลืองที่ ดนูบ้าง ณ ครั้ง ณ คราว
คราใดประสพเนตร ฤก็เราละร้อนและหนาว
เธอไกลก็ดูราว นภะไร้ตะวันและเดือน
โอ้ว่าณครานี้ แหละฤดีจะฟั่นจะเฟือน
ด้วยรักกระทำเชือน ละฉะนี้จะทำไฉน
ในบทประพันธ์ที่เป็นนิยายไม่มีแบบนี้ค่ะ คุณปราณประมูลทำเราฟินในจุดนี้ และ ที่สำคัญมันตรงกับเรื่องราวของพ่อโกกับแม่อังด้วย (แม่อังนางไว้ลายสาวเทาชมพูจริง ๆ) ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ จากใจคนรักการร้อยกรอง ได้ทบทวนถึงสมัยเรียนฉันท์แบบต่าง ๆ ว่าง ๆ จะลองแต่งฉันท์มาอวดบ้างค่ะ (คิดว่าทำได้ ?)
จบการเวิ่นเว้อแต่เพียงเท่านี้ ... อนุรักษ์ร้อยกรองไทยสุดฤทธิ์
{คู่กรรม} : อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลย ไม่นึกว่าจะเห็น "ฉันท์" เต็ม ๆ ในละคร
ไปอ่านเรื่องย่อมาถึงกับฟิน ฉันท์ เต็ม ๆ
ฉากที่อังศุมาลินท่องฉันท์จากมัทนะพาธา (เป็นคำสันสกฤตที่มีความหมายว่า ความเจ็บหรือความเดือดร้อนจากห้วงเสน่หา) วรรคทองของวรรณคดีไทยโดยล้นเกล้ารัชกาลที่ ๖ ใช้อีทิสังฉันท์ ๒๐มีความหมายว่า ฉันท์มีลีลางดงามประดุจฉันท์ที่ได้พรรณนามาแล้ว ซึ่งเป็นฉันท์ที่ใช้บรรยายความรัก ความวิตกกังวล ที่แม่อังท่องนี้เป็นฉันท์ในฉากที่ท้าวชัยเสนปฏิญาณรักต่อมัทนา (มันแปลว่าคิตตี้อัลไลค้า อังศุมาลินนนนนน เธอเป็นสาวอักษรเก่า เธอท่องฉันท์นี่แต่เช้าาาาตรู่ มันแปลว่าอาไร้ช่วยบอกให้โกมะลิเข้าใจด้วยน้าาาาา)
อ้าอรุณแอร่มระเรื่อรุจี
ประดุจมโนภิรมย์ระตี ณ แรกรัก
แสงอะรุณวิโรจน์นะภาประจักษ์
แฉล้มเฉลาและโสภินัก นะฉันใด
หญิงและชาย ณ ยามระตีอุทัย
สว่าง ณ กลางกมลละไม ก็ฉันนั้น
แสงอุษาสะกาวพะพราว ณ สรรค์
ก็เหมือนระตีวิสุทธิอัน สว่างจิต
อ้าอนงคะเชิญดำเนิรสนิธ
ณ ข้าตะนูประดุจสุมิตร มโนมาน
ไปกระทั่ง ณ ฝั่งอุทกจีระธาร
และเปล่งพจี ณ สัจจะการ ประกาศหมั้น
ต่อพระพักตร์สุราภิรักษะอัน
เสด็จสถิต ณ เขตอะรัณ - ยะนี่ไซร้
ว่าตะนูและน้องจะเคียงคระไล
และครองตลอด ณ อายุขัย บ่คลาดคลา
เราก็รอดูจุดเล็ก ๆ ช่วงนี้ตามประสาคนรักบทกวี แต่ละครเวอร์ชั่นนี้ให้เรามากกว่านั้น ช่วงชมพระนครสองสาวหนุ่มเขาไปดูละครเรื่องมัทนะพาธากัน เจอฉันท์เข้าเต็ม ๆ แหม .... ตามที่อ่านพ่อโกไม่ค่อยเข้าใจ แหงล่ะภาษาค่อนข้างยาก แต่ฉากนี้คือฉากที่ท้าวชัยเสนเจอะสาวงามมัทนาเป็นครั้งแรกถึงกับรำพึงรำพันว่า เกิดมาไม่เคยเลยจะเป็นเช่นนี้ เห็นนางเข้าก็ร้อนเร่าไปหมด (นอกจากนั้นเขายังชมโฉมนางมัทนาด้วยนะคะไพเราะมาก) มันก็เข้ากับชีวิตพ่อโกอย่างประหลาด เพราะ วันที่โผล่หน้าจากเรือมาถามว่าหนาวไหม ก็ถูกใจแบบความหมายตามฉันท์นี้แหละ ฉันท์นี้ชื่อว่า อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ นะคะ แปลว่า ฉันท์ที่มีลีลาดุจสายฟ้าของพระอินทร์ จะเห็นว่าคล้ายกาพย์ยานี ๑๑ มากเลย เพียงแต่ว่าบังคับฉันทลักษณ์ไม่เหมือนกัน
โอ้โอ๋กระไรเลย บมิเคยณก่อนกาล
พอเห็นก็ทราบส้าน ฤดิรักบหักหาย
ยิ่งยลวะนิดา ละก็ยิ่งจะร้อนคล้าย
เพลิงรุมประชุมภาย ณ อุราบลาลด
พิศไหนบมีทราม วะธุงามสง่าหมด
จนสุดจะหาพจน์ สรเสริญเสมอใจ
องค์วิศวะกรรมัน นะสิปั้นวะธูไซร้
พอเสร็จก็เทพไท พิศะรูปสุรางค์เพลิน
ยืนเพ่งและนั่งพิศ วรพักตร์บหมางเมิน
งามใดบงามเกิน มะทะนาณโลกสาม
แลวิศวะกรรมัน ผิจะปั้นวะธูตาม
แบบอีกก็ไม่งาม ดุจะโฉมอนงค์นี้
เหตุนี้สินงคราญ ณสถานพิภพตรี
จึ่งไม่ประสพที่ สิริรูปะเทียมทัน
งามเกินมนุษจริง กละหญิงนิมิตร์ฝัน
จนแรกประสพนั้น ดนุจวนจะปลุกตัว
นึกว่าสนิธนิทร์ นยนาก็แน่วนัว
แต่นึกก็ออกกลัว จะผวาและไม่เห็น
ครั้นเมื่อสดับศัพ- ทะสำเนียงก็เยือกเย็น
ราวดื่มอุทกเพ็ญ รสะรื่นระรวยใจ
เสียงเจ้าสิเพรากว่า ดุริยางคะดีดใน
ฟากฟ้าสุราลัย สุรศัพทะเริงรมย์
ยามเดิรบเขินขัด กละนัจจะน่าชม
กรายกรก็เร้ารม- ยะประหนึ่งระบำสรวย
ยามนั่งก็นั่งเรียบ และระเบียบบเขินขวย
แขนอ่อนฤเปรียบด้วย ธนุก่งกระชับไว้
พิศโฉมและฟังเสียง ละก็เพียงจะฃาดใจ
โอ้นอนจะหลับไหล ฤฉนี้นะอกเอ๋ย
ขืนนอนก็ร่อนเร่า ฤดิเฝ้าคะนึงเชย
หากขืนจะนอนเฉย อุระอาจจะพังภิน
จำมาณที่นี้ เพราะว่ะใกล้สุนาริน
โอ้เราบสมจิน ตะนะได้ฤฉันใด
ช้าก่อน ดนูเห็น ณประตูสิรำไร
ดังหนึ่งจะมีใคร จระจากพระอาศรม
อ้าขอถวายอัญ- ชลิองค์สุโรดม
ขอให้ดนูชม วธุเลิศเถอะสักที
บทมาถึงบทนี้ ... อังศุมาลินดูละครเพลินค่ะ แต่นางแอบท่องฉันท์ออกมาด้วย ฉันท์นี้คืออันใด ... เป็นฉันท์ที่นางมัทนากล่าวเมื่อเกิดชอบพอท้าวชัยเสนขึ้นมาค่ะ นี่มันพ่อโกชัด ๆ น่ารักเรียบร้อย ชำเลืองมองหาหญิงที่พึงใจบ้างเป็นครั้งคราม แต่ที่สำคัญเจ้าตัวคนถูกมองต่างหากถึงกับร้อนหนาว ความรักทใจสาวเจ้าให้วาบหวิวแล้ว นี่ถ้าพ่อโกเข้าใจคงตัวลอยยยยยย ฉันท์นี้ คือ อินทวงสฉันท์ ๑๒ นะคะ หรือ ฉันท์ที่มีท่วงทำนองลีลาดุจอินทวงสเทวราช (อินทวงสเทวราช หมายถึง ผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และ จตุมหาราชิกา)
ครานี้สิพบชาย วรรูปวิเศษวิศาล
ใจวาบและหวามปาน ฤดินั้นจะโลดจะลอย
เธอนั้นฤเจียมตัว กิริยาก็เรียบร้อย
ไม่มีละสักน้อย จะแสดงณท่วงณที
ว่าเธอประสงค์จะ อภิรมย์ฤดีระตี
เป็นแต่ชำเลืองที่ ดนูบ้าง ณ ครั้ง ณ คราว
คราใดประสพเนตร ฤก็เราละร้อนและหนาว
เธอไกลก็ดูราว นภะไร้ตะวันและเดือน
โอ้ว่าณครานี้ แหละฤดีจะฟั่นจะเฟือน
ด้วยรักกระทำเชือน ละฉะนี้จะทำไฉน
ในบทประพันธ์ที่เป็นนิยายไม่มีแบบนี้ค่ะ คุณปราณประมูลทำเราฟินในจุดนี้ และ ที่สำคัญมันตรงกับเรื่องราวของพ่อโกกับแม่อังด้วย (แม่อังนางไว้ลายสาวเทาชมพูจริง ๆ) ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ จากใจคนรักการร้อยกรอง ได้ทบทวนถึงสมัยเรียนฉันท์แบบต่าง ๆ ว่าง ๆ จะลองแต่งฉันท์มาอวดบ้างค่ะ (คิดว่าทำได้ ?)
จบการเวิ่นเว้อแต่เพียงเท่านี้ ... อนุรักษ์ร้อยกรองไทยสุดฤทธิ์