"...ร่างกายเราสกปรกยังมีวันล้างสะอาด เสื้อผ้า สถานที่สกปรกยังมีการเช็ดถูล้างให้สะอาดได้ตามกาลเวลา แต่จิตใจที่สกปรก ด้วยความที่เจ้าของไม่สนใจว่าสกปรกตั้งแต่เมื่อไหร่ จะสกปรกไปตลอดกาล ไม่ว่าภพไหนถึงภพไหน หาเวลาสะอาดไม่ได้ ผลแห่งความสกปรกจะพาไปดีได้อย่างไร ผลแห่งความสกปรกก็คือความทุกข์ความลำบาก เพราะความสกปรกของใจ นี่คือโทษของใจที่สกปรก จึงต้องใช้การซักฟอกจิตใจจากธรรมของพระพุทธเจ้า..." ใจความบางส่วนของคำสอนเรื่อง "ปลุกใจสู้กิเลส" คำสอนหลวงตามหาบัว ดังผ่านเครื่องขยายเสียงภายในห้องควบคุมผู้ต้องหา สน.คันนายาว ซึ่งเปิดสับเปลี่ยนหมุนเวียนตามตารางเวลาในทุกๆ วัน
ใช่มีแต่เพียงเสียงตามสาย...หากเดินเข้าสู่ห้องขังยังต้องประจันหน้ากับคำสอนธรรมะฝาผนัง คนทำผิดเห็นแล้วต้องหยุดอ่านและครุ่นคิด รวมถึงข้อความเตือนสติเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งเป็นบ่อเกิดของอาชญากรรมอีกหลากหลายประเภท เพื่อเตือนสติให้กลับตัวกลับใจ ตามโครงการ "ธรรมะ ชนะใจ" ของ สน.คันนายาว
พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผกก.สน.คันนายาว เล่าถึงจุดเริ่มต้นของห้องขังธรรมะว่า แต่เดิมห้องควบคุมผู้ต้องหา จะพบปัญหาความไม่สะอาดมีกลิ่นเหม็นอับ มีรอยขีดเขียนอยู่เต็มฝาผนัง บางคนที่เข้าไปอยู่นั้นมีอาการซึมเศร้า หวาดระแวงได้ สน.คันนายาว จึงอยากช่วยให้ผู้ต้องหาลดอาการต่างๆ ข้างต้น จึงปรับปรุงบรรยากาศภายในห้องขังเสียใหม่ ด้วยการทาสี ปรับท่อน้ำไม่ให้มีกลิ่นเหม็น ติดพัดลมระบายอากาศ พร้อมทั้งมีการนำหิ้งพระ หลักธรรมคำสอนทั้งศาสนาพุทธ และอิสลาม มาติดไว้
"ผู้ต้องหาคนหนึ่งอย่างน้อยต้องอยู่ที่ห้องขังเป็นเวลา 48 ชั่วโมง เราก็จะใช้ช่วงเวลาสั้นๆ นี้เป็นคอร์สธรรมะ เปิดซีดีพระเทศน์ให้ฟัง มีหนังสือธรรมะให้อ่าน มีตำรวจชุมชนสัมพันธ์ที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าไปพูดคุยปรับทุกข์ นอกจากนี้ ยังเตรียมชุดแต่งกายเพื่อทำละหมาดของศาสนาอิสลามไว้ด้วย" พ.ต.อ.ไพศาล แจกแจง
สำหรับห้องขังธรรมะ จะเปิดเสียงสื่อธรรมะ 3 เวลา คือ ช่วงที่หนึ่งเวลา 07.00-08.00 น. ช่วงที่สองเวลา 10.00-12.00 น. และช่วงที่สาม 19.00-20.00 น. หรือหลักธรรมคำสอนของศาสนา และก่อนเข้ามาห้องขัง จะมีหนังสือธรรมะหรือหนังสือคำสอนของศาสนาต่างๆ ให้ผู้ต้องขังอ่าน เพื่อเป็นการให้กำลังใจและปรับสภาพจิตใจของผู้ต้องหา เพื่อให้ผู้ต้องหาปรับสภาพจิตใจและร่างกายพร้อมที่จะยอมรับในกระบวนการยุติธรรม
พ.ต.อ.ไพศาล บอกอีกว่า ปกติผู้ต้องหาที่ สน.คันนายาว แต่ละวันจะอยู่ที่ประมาณ 7-10 คน เมื่อคิดเป็นต่อเดือนก็ประมาณ 300 คน คิดว่าอย่างน้อยพวกนี้ น่าจะซึมซับได้บ้าง ถึงไม่ได้ทั้งหมดแค่ให้ฉุกคิดบ้างก็ยังดี สถานที่แห่งนี้ไม่ได้ทำร้ายเขาเพิ่มเติม แต่จะส่งเสริม ชี้ทางให้กลับไปเป็นคนดี บางคนที่ติดยาเป็นคนใจอ่อน ต้องมีคนชี้แนะคือตำรวจชุมชนสัมพันธ์ที่เป็นวิทยากรพิเศษในเรือนจำด้วย เพื่อคอยเฝ้าสังเกตพูดคุยกับเขา เพราะถ้าเขากลับตัวได้ออกพ้นโทษไป เขาก็อยู่ในพื้นที่รอบๆ ของคันนายาวนี่เอง
"วันข้างหน้าเมื่อเขาตั้งใจจะเป็นคนดีแล้ว อยากให้เขาคิดว่า เวลาคนทำผิดคิดไม่ดีก็แพ้ใจตัวเอง ถ้าคนมีความคิดละอายต่อบาป จะไม่ทำด้วยตัวเขาเอง ไม่ใช่ไม่ทำเพราะไม่มีตำรวจ และคาดหวังว่าอย่างน้อยเขาจะเป็นมิตรกับตำรวจมากขึ้น หลังจากพยายามช่วยให้เขากลับมาเป็นคนดีได้อีกครั้ง" พ.ต.อ.ไพศาล บอกถึงความตั้งใจ
ด้าน ร.ต.ต.ชาญเดช หินสูงเนิน รอง สวป.สน.คันนายาว และหัวหน้าชุดตำรวจชุมชนสัมพันธ์ รับหน้าที่เข้าพูดคุยกับผู้ต้องขัง จะคอยถามถึงสาเหตุและผลกระทบที่ได้รับ โดยนำหลักธรรม "อริยสัจ 4" มาเตือนใจให้ผู้ต้องขังได้ทบทวนถึงสาเหตุที่นำมาสู่ความทุกข์ใจที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาพิจารณาแก้ไขต่อไป
"เมื่อสักครู่ได้พูดคุยกับคนขายและคนเสพยาเสพติด ก็ยกตัวอย่างให้เขาฟังว่า พอขายให้คนเสพแล้วเป็นอย่างไร เห็นผลของการกระทำไหม ถึงแม้ว่า 2 วันจะไม่มากพอที่จะให้เขาซึมซับได้ แต่ก็มีบางคนที่สามารถคิดได้ บางคนก็ร้องไห้ออกมาเลยว่า เขาไม่น่าทำ เขาคิดถึงลูก ถ้าอยู่ในเรือนจำแล้วลูกเขาจะอยู่อย่างไร ก็ช่วยให้มองย้อนถึงต้นเหตุได้ ถึงแม้จะได้ไม่มากแต่ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย แค่บางคนเอาหนังสือธรรมะนอนหนุนหัวก็ดีใจแล้ว" ร.ต.ต.ชาญเดช บอกอย่างมีความหวัง
.............
(หมายเหตุ : ห้องขัง'ธรรมะ' สารพันตำรวจ โดยพัฐอร พิจารณโสภณ)
http://www.komchadluek.net/
ดีครับ สอดแทรกธรรมะให้กับทุกคน ในทุกจังหวะชีวิต
ที่อินเดียมีการฝึกวิปัสสนาสำหรับนักโทษเพื่อขัดเกลากิเลสต่างๆ ที่ฝังอยู่ในใจ จัดสถานที่ในคุกให้นั่งทั้งวันห้ามพูดคุย คนจะมารับการฝึกต้องมีใจแน่วแน่จริงๆ หลายคนกลับตัวกลับใจสำนึกผิดได้จริงๆ
เคยไปเยี่ยมผู้ต้องหาที่โรงพักหนึ่ง ปรากฎว่าเหม็นและสกปรกมากไม่เคยได้กลิ่นเหม็นขนาดนี้มาก่อน กล่องโฟมใส่อาหารและถุงขนมกองสูงเท่าหัวอยู่มุมห้อง ไม่รู้ตอนนี้ปรับปรุงหรือยัง
เพจข่าวดี
https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%B5/125262077559921
ห้องขัง'ธรรมะ' สน.คันนายาว
ใช่มีแต่เพียงเสียงตามสาย...หากเดินเข้าสู่ห้องขังยังต้องประจันหน้ากับคำสอนธรรมะฝาผนัง คนทำผิดเห็นแล้วต้องหยุดอ่านและครุ่นคิด รวมถึงข้อความเตือนสติเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งเป็นบ่อเกิดของอาชญากรรมอีกหลากหลายประเภท เพื่อเตือนสติให้กลับตัวกลับใจ ตามโครงการ "ธรรมะ ชนะใจ" ของ สน.คันนายาว
พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผกก.สน.คันนายาว เล่าถึงจุดเริ่มต้นของห้องขังธรรมะว่า แต่เดิมห้องควบคุมผู้ต้องหา จะพบปัญหาความไม่สะอาดมีกลิ่นเหม็นอับ มีรอยขีดเขียนอยู่เต็มฝาผนัง บางคนที่เข้าไปอยู่นั้นมีอาการซึมเศร้า หวาดระแวงได้ สน.คันนายาว จึงอยากช่วยให้ผู้ต้องหาลดอาการต่างๆ ข้างต้น จึงปรับปรุงบรรยากาศภายในห้องขังเสียใหม่ ด้วยการทาสี ปรับท่อน้ำไม่ให้มีกลิ่นเหม็น ติดพัดลมระบายอากาศ พร้อมทั้งมีการนำหิ้งพระ หลักธรรมคำสอนทั้งศาสนาพุทธ และอิสลาม มาติดไว้
"ผู้ต้องหาคนหนึ่งอย่างน้อยต้องอยู่ที่ห้องขังเป็นเวลา 48 ชั่วโมง เราก็จะใช้ช่วงเวลาสั้นๆ นี้เป็นคอร์สธรรมะ เปิดซีดีพระเทศน์ให้ฟัง มีหนังสือธรรมะให้อ่าน มีตำรวจชุมชนสัมพันธ์ที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าไปพูดคุยปรับทุกข์ นอกจากนี้ ยังเตรียมชุดแต่งกายเพื่อทำละหมาดของศาสนาอิสลามไว้ด้วย" พ.ต.อ.ไพศาล แจกแจง
สำหรับห้องขังธรรมะ จะเปิดเสียงสื่อธรรมะ 3 เวลา คือ ช่วงที่หนึ่งเวลา 07.00-08.00 น. ช่วงที่สองเวลา 10.00-12.00 น. และช่วงที่สาม 19.00-20.00 น. หรือหลักธรรมคำสอนของศาสนา และก่อนเข้ามาห้องขัง จะมีหนังสือธรรมะหรือหนังสือคำสอนของศาสนาต่างๆ ให้ผู้ต้องขังอ่าน เพื่อเป็นการให้กำลังใจและปรับสภาพจิตใจของผู้ต้องหา เพื่อให้ผู้ต้องหาปรับสภาพจิตใจและร่างกายพร้อมที่จะยอมรับในกระบวนการยุติธรรม
พ.ต.อ.ไพศาล บอกอีกว่า ปกติผู้ต้องหาที่ สน.คันนายาว แต่ละวันจะอยู่ที่ประมาณ 7-10 คน เมื่อคิดเป็นต่อเดือนก็ประมาณ 300 คน คิดว่าอย่างน้อยพวกนี้ น่าจะซึมซับได้บ้าง ถึงไม่ได้ทั้งหมดแค่ให้ฉุกคิดบ้างก็ยังดี สถานที่แห่งนี้ไม่ได้ทำร้ายเขาเพิ่มเติม แต่จะส่งเสริม ชี้ทางให้กลับไปเป็นคนดี บางคนที่ติดยาเป็นคนใจอ่อน ต้องมีคนชี้แนะคือตำรวจชุมชนสัมพันธ์ที่เป็นวิทยากรพิเศษในเรือนจำด้วย เพื่อคอยเฝ้าสังเกตพูดคุยกับเขา เพราะถ้าเขากลับตัวได้ออกพ้นโทษไป เขาก็อยู่ในพื้นที่รอบๆ ของคันนายาวนี่เอง
"วันข้างหน้าเมื่อเขาตั้งใจจะเป็นคนดีแล้ว อยากให้เขาคิดว่า เวลาคนทำผิดคิดไม่ดีก็แพ้ใจตัวเอง ถ้าคนมีความคิดละอายต่อบาป จะไม่ทำด้วยตัวเขาเอง ไม่ใช่ไม่ทำเพราะไม่มีตำรวจ และคาดหวังว่าอย่างน้อยเขาจะเป็นมิตรกับตำรวจมากขึ้น หลังจากพยายามช่วยให้เขากลับมาเป็นคนดีได้อีกครั้ง" พ.ต.อ.ไพศาล บอกถึงความตั้งใจ
ด้าน ร.ต.ต.ชาญเดช หินสูงเนิน รอง สวป.สน.คันนายาว และหัวหน้าชุดตำรวจชุมชนสัมพันธ์ รับหน้าที่เข้าพูดคุยกับผู้ต้องขัง จะคอยถามถึงสาเหตุและผลกระทบที่ได้รับ โดยนำหลักธรรม "อริยสัจ 4" มาเตือนใจให้ผู้ต้องขังได้ทบทวนถึงสาเหตุที่นำมาสู่ความทุกข์ใจที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาพิจารณาแก้ไขต่อไป
"เมื่อสักครู่ได้พูดคุยกับคนขายและคนเสพยาเสพติด ก็ยกตัวอย่างให้เขาฟังว่า พอขายให้คนเสพแล้วเป็นอย่างไร เห็นผลของการกระทำไหม ถึงแม้ว่า 2 วันจะไม่มากพอที่จะให้เขาซึมซับได้ แต่ก็มีบางคนที่สามารถคิดได้ บางคนก็ร้องไห้ออกมาเลยว่า เขาไม่น่าทำ เขาคิดถึงลูก ถ้าอยู่ในเรือนจำแล้วลูกเขาจะอยู่อย่างไร ก็ช่วยให้มองย้อนถึงต้นเหตุได้ ถึงแม้จะได้ไม่มากแต่ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย แค่บางคนเอาหนังสือธรรมะนอนหนุนหัวก็ดีใจแล้ว" ร.ต.ต.ชาญเดช บอกอย่างมีความหวัง
.............
(หมายเหตุ : ห้องขัง'ธรรมะ' สารพันตำรวจ โดยพัฐอร พิจารณโสภณ)
http://www.komchadluek.net/
ดีครับ สอดแทรกธรรมะให้กับทุกคน ในทุกจังหวะชีวิต
ที่อินเดียมีการฝึกวิปัสสนาสำหรับนักโทษเพื่อขัดเกลากิเลสต่างๆ ที่ฝังอยู่ในใจ จัดสถานที่ในคุกให้นั่งทั้งวันห้ามพูดคุย คนจะมารับการฝึกต้องมีใจแน่วแน่จริงๆ หลายคนกลับตัวกลับใจสำนึกผิดได้จริงๆ
เคยไปเยี่ยมผู้ต้องหาที่โรงพักหนึ่ง ปรากฎว่าเหม็นและสกปรกมากไม่เคยได้กลิ่นเหม็นขนาดนี้มาก่อน กล่องโฟมใส่อาหารและถุงขนมกองสูงเท่าหัวอยู่มุมห้อง ไม่รู้ตอนนี้ปรับปรุงหรือยัง
เพจข่าวดี
https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%B5/125262077559921