เมื่อ “ยิ่งลักษณ์” โคจรมาพบกับ “ฟิลิป คอตเลอร์” จะเหลืออะไร ?
วันนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล “นายกปู” ได้หารือร่วมกับ “บิดาการตลาด” ศ. ฟิลลิป คอตเลอร์ถึงความเป็นไปได้ที่ไทยจะรับหน้าเสื่อจัดการประชุม "World Marketing Summit" ในปีหน้า
ซึ่งอะไรก็คงไม่น่าสนใจเท่า การปะทะคารมกันระหว่าง อดีตผู้บริหารตัวแม่ของเอสซีแอสเสท กับ เจ้าพ่อการตลาด
ในยกแรก ศ.คอตเลอร์ ปล่อยหมัดลองเชิง โดยเสนอให้ไทยเป็นผู้นำในอาเซียนโดยชูวัฒนธรรมเป็นจุดเด่น
ซึ่งด้านนายกฯปู คนเก่ง ก็ตอบทันควันว่าได้สั่งการให้ท่านสุรนันท์ ประสานกับคณะทำงานเตรียมความพร้อมจัดงาน โดยคงอัตลักษณ์ของแต่ละประเทศในอาเซียนไว้
นอกจากนั้นยังได้“ขายฝัน” ชู โครงการ “Re-brandingThailand”
ต่อเนื่องจาก โครงการ “Branding Thailand” ของชินวัตรผู้พี่ เพื่อโปรโมตสินค้าและบริการ
ด้าน ศ.คอตเลอร์ ก็ยังไม่ย่อท้อ เสนอต่อไปให้ไทยทำวิจัยใหม่ต่อเนื่องเพื่อสร้างแต้มต่อในการแข่งขัน ด้านเจ้าแม่บอร์ดเอสซีแอสเสทก็ยังไม่ทิ้งลาย ตอบกลับตามประสาผู้ที่เจนจัดในทางนี้ว่า
ได้จัดให้มีการศึกษาในแต่ละสาขาตาม “ยุทธศาสตร์ประเทศ” ที่รัฐบาลชูเป็นกรอบใหญ่ ก่อนจะผลักดันนโยบาย “Re-branding” อย่างจริงจังต่อไป
เรียกได้ว่าการหารือในครั้งนี้ต่างฝ่ายต่างรับลูกกันได้สมน้ำสมเนื้อตามประสาคนคุ้นเคยในวงการการตลาด-การบริหาร
สงสัยชาวเน็ตบางคนที่บอกว่า “ยิ่งลักษณ์” สวยใส ไร้สมอง จะต้องคิดใหม่ทำใหม่เสียแล้ว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1362743036&grpid=01&catid=&subcatid=
เมื่อคอตเตอร์ "บิดาแห่งการตลาด" ได้พบนายกฯ
เมื่อ “ยิ่งลักษณ์” โคจรมาพบกับ “ฟิลิป คอตเลอร์” จะเหลืออะไร ?
วันนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล “นายกปู” ได้หารือร่วมกับ “บิดาการตลาด” ศ. ฟิลลิป คอตเลอร์ถึงความเป็นไปได้ที่ไทยจะรับหน้าเสื่อจัดการประชุม "World Marketing Summit" ในปีหน้า
ซึ่งอะไรก็คงไม่น่าสนใจเท่า การปะทะคารมกันระหว่าง อดีตผู้บริหารตัวแม่ของเอสซีแอสเสท กับ เจ้าพ่อการตลาด
ในยกแรก ศ.คอตเลอร์ ปล่อยหมัดลองเชิง โดยเสนอให้ไทยเป็นผู้นำในอาเซียนโดยชูวัฒนธรรมเป็นจุดเด่น
ซึ่งด้านนายกฯปู คนเก่ง ก็ตอบทันควันว่าได้สั่งการให้ท่านสุรนันท์ ประสานกับคณะทำงานเตรียมความพร้อมจัดงาน โดยคงอัตลักษณ์ของแต่ละประเทศในอาเซียนไว้
นอกจากนั้นยังได้“ขายฝัน” ชู โครงการ “Re-brandingThailand”
ต่อเนื่องจาก โครงการ “Branding Thailand” ของชินวัตรผู้พี่ เพื่อโปรโมตสินค้าและบริการ
ด้าน ศ.คอตเลอร์ ก็ยังไม่ย่อท้อ เสนอต่อไปให้ไทยทำวิจัยใหม่ต่อเนื่องเพื่อสร้างแต้มต่อในการแข่งขัน ด้านเจ้าแม่บอร์ดเอสซีแอสเสทก็ยังไม่ทิ้งลาย ตอบกลับตามประสาผู้ที่เจนจัดในทางนี้ว่า
ได้จัดให้มีการศึกษาในแต่ละสาขาตาม “ยุทธศาสตร์ประเทศ” ที่รัฐบาลชูเป็นกรอบใหญ่ ก่อนจะผลักดันนโยบาย “Re-branding” อย่างจริงจังต่อไป
เรียกได้ว่าการหารือในครั้งนี้ต่างฝ่ายต่างรับลูกกันได้สมน้ำสมเนื้อตามประสาคนคุ้นเคยในวงการการตลาด-การบริหาร
สงสัยชาวเน็ตบางคนที่บอกว่า “ยิ่งลักษณ์” สวยใส ไร้สมอง จะต้องคิดใหม่ทำใหม่เสียแล้ว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1362743036&grpid=01&catid=&subcatid=