.
.
แป็ปๆเท่านั้นเองผ่านไปครบปีพอดีซะแล้วกับรถคันใหม่ของผมฮะ หลังจากถอยมาเมื่อต้นมีนาคมเมื่อปีที่แล้ว วันนี้ครบรอบ 1 ปีแล้วที่ผมได้มันมารับใช้ตัณหา ออกปั่นทำอะไรต่อมิอะไรสนุกๆหลายๆอย่าง จากที่เคยปั่นแต่ไอ่แดง LA คันละ 3500 บาท มาโดยตลอดร่วมสิบห้าปี (ปัจจุบันปลดประจำการไปกินบำนาญอยู่ที่บ้านพ่อที่อุดรนานแล้ว)
. หลังจากที่เมื่อร่วมสองปีที่แล้วบ้านผมถูกน้ำท่วมแล้วรู้สึกว่าการเดินทางมันลำบากมาก เดินก็ช้า หาเรือมาพายก็ยิ่งลำบากเพราะน้ำไหลแรงมาก ขาไปตามน้ำสบายๆแต่ขากลับนี่สิ ผู้ชายตัวเล็กๆอ่อนแอบอบบางอย่างผมคงไม่ไหว
เลยคิดว่าจะถอยจักรยาน เทอร์โบสักคันเอาคันละ 3000-4000 พอไว้ใช้เดินทางไปไหนมาไหนแถวบ้าน หรือเผื่อปั่นลุยตอนน้ำท่วมด้วย (มันมีเกียร์เบาผมคิดว่ามันน่าจะช่วยให้เดินทางลุยน้ำระดับเอวได้เร็วกว่าเดิน) ก็เลยนั่งหามือสองดูในเว็บต่างๆ อ่านไปอ่านมาเออเพลินดีแฮะ... ยังมีอีกหลายเรื่องที่เรายังไม่รู้นี่หว่าแม้จะปั่นจักรยานมาแล้วร่วมครึ่งชีวิตก็ตาม แต่พอมาศึกษาแบบจริงๆจังๆขึ้นมาสักนิดผมได้พบว่ามันมีอะไรมากกว่าจักรยานแม่บ้านธรรมดาหรือจักรยานเสือภูเขาระดับเกรดล่างๆที่ผมเคยใช้
. รู้ตัวอีกทีผมได้ TREK 3900 สีดำคันละ 11000 มาไว้ที่บ้านแล้ว ทุกวันนี้ยังพูดกับตัวเอง " เออไสยศาสตร์มีจริงว่ะ "
น้าๆบางท่านอาจจะเคยเห็นผมมาตั้งกระทู้เวิ่นเว้อเอารูปนั่นรูปนี่มาลงว่าไปเที่ยวไหนมาไหนบ้างมาลงอยู่เนืองๆ จะเห็นว่าทั้งหมดล้วนแต่เป็นเพราะจุดเริ่มจากที่ผมมีรถจักรยานแบบจริงๆจังๆ ก่อนหน้านี้ผมทำกิจกรรมอย่างอื่นยังไม่เคยเดินทางท่องเที่ยวได้มากขนาดนี้ แต่คราวนี้ผมได้เดินทางท่องเที่ยวมากกว่าเดิมแบบผิดหูผิดตาไปเยอะ แถมไม่ใช่การเดินทางแบบธรรมดา แต่เป็นการเดินทางด้วยขาของผมเอง
ดังที่น้า แลนซ์ อาร์มสตรอง ที่เคยปั่นไปพิชิตดวงจันทร์ได้เคยกล่าวไว้ว่า " นี่เป็นรอบขาเล็กๆของมนุษย์คนนึง แต่เป็นการปั่นก้าวกระโดดของมวลมนุษยชาติ "
. อะไรไร้สาระก็ผ่านๆมันไปนะฮะ
ก็รวมๆออกมาได้หลายโลอยู่ชีวิตโคตรมีความสุขเลยที่ได้เที่ยว
ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมานี่ รวมแล้วก็ 4000 โลได้ละฮะ และเป็นครั้งแรกและหลายๆครั้งในชีวิตที่ 1 วันผมปั่นได้มากกว่า 100 โล ซึ่งก่อนหน้านี้เคยสงสัยชาวบ้านเขามาก่อนว่าเขาปั่นกันไปได้ยังไง วันนี้ผมค้นพบคำตอบด้วยตัวเองละฮะ
ผมได้อะไรจากมันหลายๆอย่างในราคา 10000 กว่าบาทที่ผมจ่ายไป (ตอนแรกก็คิดในใจว่ามันแพงเกินไปนะ เกินตัวไปมากเลยสำหรับคนซำเหมาอย่างผม) จากเดิมที่เคยเป็นคนนั่งอยู่แต่หน้าคอม นอนดึกตีสามตีสี่ ดีไม่ดีก็เช้าเลย ผมกลับได้สุขภาพดีๆกลับคืนมาเยอะ (ถึงจะไม่ 100% เหมือนสมัยยังเอ๊าะๆก็เถอะ
) ผมได้เพื่อนอีกเยอะ จากเดิมที่เป็นคนแทบจะไม่มีเพื่อนเลย (เพื่อนที่มีชอบไปกินเหล้า สูบบุหรี่กันหมด ผมไม่ไปด้วยแน่ๆ) ทุกวันนี้ไปออกทริปที่ไหนถ้าไม่มีเพื่อนไปด้วยนี่ผมจะไปไม่ได้ มันไม่สนุก นอกจากเพื่อนๆพี่ๆที่ไปด้วยกันบ่อยๆแล้ว ผมยังมีเพื่อนชั่วคราว หรือเพื่อนขาจร แล้วแต่จะเรียกกันนะฮะ โบกไม้โบกมือทักทายกันเวลาผ่านไปผ่านมา น้าๆที่ปั่นจักรยานก็น่าจะพบเจอกันมาเยอะแล้ว ซึ่งกิจกรรมอื่นๆที่ผมเคยเล่นมามันไม่มียังงี้
. เท่าที่ผ่านมาหลายๆคนก็ว่าผมใช้รถโหดอยู่ กระโดดฟุตบาทบ่อยๆ ปั่นตากฝน ปั่น-โดดแทร็คบ่อยๆ ก็เลยต้องล้างบ่อยๆ เดือนนึงนี่ตกล้างครั้งนึงเลย จนเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว น้าแมวเหมียวร่าเริง ติงผมมานิดนึงว่าหลังจากที่ได้ลองปั่นรถของผมน้าแมวแกพบว่า.. รถผมฝืด-หนัก อ่อออ.. เรอะ... เพิ่งรู้ตัว น้าแมวแกบอกให้เช็กด่วนผมก็สงสัยอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วว่าทำไมเวลาไปลองปั่นรถชาวบ้านเขามันเบาๆลื่นๆกว่าของเราเยอะเลยฟะ... ซื้อมายังไม่ถึงปีเลยนี่หว่า
. จนอาทิตย์นี้ผมว่างจากหลายๆสิ่งหลายๆอย่างในชีวิต เลยคิดว่าเอาซะหน่อยนะลูกเช็ดล้างหยอดน้ำมันภายนอกมาก็เยอะละ ภายในยังไม่เคยสังคายนาเลยนี่หว่า จัดแจงถอดโซ่ ตีนผี เฟืองหลัง ล้อ โม่ ลูกปืน สายเกียร์สาย-เบรค จุดหมุนต่างๆแทบทุกจุดที่มันน่าจะเป็นตัวการทำให้รถผมไม่แรง (คนมันอ่อนเองหลังๆขี้เกียจซ้อมเลยไปลงที่รถ) เอามาล้างน้ำมันลงจาระบีใหม่ซะให้หมด
วันครบรอบ 1 ปีที่ซื้อจักรยาน น้าๆท่านใดครบขวบแล้วยังไม่เซอร์วิสรถตัวเองกันบ้างเอ่ย... ผมทำแล้วนะ ^ ^
.
แป็ปๆเท่านั้นเองผ่านไปครบปีพอดีซะแล้วกับรถคันใหม่ของผมฮะ หลังจากถอยมาเมื่อต้นมีนาคมเมื่อปีที่แล้ว วันนี้ครบรอบ 1 ปีแล้วที่ผมได้มันมารับใช้ตัณหา ออกปั่นทำอะไรต่อมิอะไรสนุกๆหลายๆอย่าง จากที่เคยปั่นแต่ไอ่แดง LA คันละ 3500 บาท มาโดยตลอดร่วมสิบห้าปี (ปัจจุบันปลดประจำการไปกินบำนาญอยู่ที่บ้านพ่อที่อุดรนานแล้ว)
. หลังจากที่เมื่อร่วมสองปีที่แล้วบ้านผมถูกน้ำท่วมแล้วรู้สึกว่าการเดินทางมันลำบากมาก เดินก็ช้า หาเรือมาพายก็ยิ่งลำบากเพราะน้ำไหลแรงมาก ขาไปตามน้ำสบายๆแต่ขากลับนี่สิ ผู้ชายตัวเล็กๆอ่อนแอบอบบางอย่างผมคงไม่ไหว เลยคิดว่าจะถอยจักรยาน เทอร์โบสักคันเอาคันละ 3000-4000 พอไว้ใช้เดินทางไปไหนมาไหนแถวบ้าน หรือเผื่อปั่นลุยตอนน้ำท่วมด้วย (มันมีเกียร์เบาผมคิดว่ามันน่าจะช่วยให้เดินทางลุยน้ำระดับเอวได้เร็วกว่าเดิน) ก็เลยนั่งหามือสองดูในเว็บต่างๆ อ่านไปอ่านมาเออเพลินดีแฮะ... ยังมีอีกหลายเรื่องที่เรายังไม่รู้นี่หว่าแม้จะปั่นจักรยานมาแล้วร่วมครึ่งชีวิตก็ตาม แต่พอมาศึกษาแบบจริงๆจังๆขึ้นมาสักนิดผมได้พบว่ามันมีอะไรมากกว่าจักรยานแม่บ้านธรรมดาหรือจักรยานเสือภูเขาระดับเกรดล่างๆที่ผมเคยใช้
. รู้ตัวอีกทีผมได้ TREK 3900 สีดำคันละ 11000 มาไว้ที่บ้านแล้ว ทุกวันนี้ยังพูดกับตัวเอง " เออไสยศาสตร์มีจริงว่ะ "
น้าๆบางท่านอาจจะเคยเห็นผมมาตั้งกระทู้เวิ่นเว้อเอารูปนั่นรูปนี่มาลงว่าไปเที่ยวไหนมาไหนบ้างมาลงอยู่เนืองๆ จะเห็นว่าทั้งหมดล้วนแต่เป็นเพราะจุดเริ่มจากที่ผมมีรถจักรยานแบบจริงๆจังๆ ก่อนหน้านี้ผมทำกิจกรรมอย่างอื่นยังไม่เคยเดินทางท่องเที่ยวได้มากขนาดนี้ แต่คราวนี้ผมได้เดินทางท่องเที่ยวมากกว่าเดิมแบบผิดหูผิดตาไปเยอะ แถมไม่ใช่การเดินทางแบบธรรมดา แต่เป็นการเดินทางด้วยขาของผมเอง
ดังที่น้า แลนซ์ อาร์มสตรอง ที่เคยปั่นไปพิชิตดวงจันทร์ได้เคยกล่าวไว้ว่า " นี่เป็นรอบขาเล็กๆของมนุษย์คนนึง แต่เป็นการปั่นก้าวกระโดดของมวลมนุษยชาติ "
. อะไรไร้สาระก็ผ่านๆมันไปนะฮะ ก็รวมๆออกมาได้หลายโลอยู่ชีวิตโคตรมีความสุขเลยที่ได้เที่ยว ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมานี่ รวมแล้วก็ 4000 โลได้ละฮะ และเป็นครั้งแรกและหลายๆครั้งในชีวิตที่ 1 วันผมปั่นได้มากกว่า 100 โล ซึ่งก่อนหน้านี้เคยสงสัยชาวบ้านเขามาก่อนว่าเขาปั่นกันไปได้ยังไง วันนี้ผมค้นพบคำตอบด้วยตัวเองละฮะ ผมได้อะไรจากมันหลายๆอย่างในราคา 10000 กว่าบาทที่ผมจ่ายไป (ตอนแรกก็คิดในใจว่ามันแพงเกินไปนะ เกินตัวไปมากเลยสำหรับคนซำเหมาอย่างผม) จากเดิมที่เคยเป็นคนนั่งอยู่แต่หน้าคอม นอนดึกตีสามตีสี่ ดีไม่ดีก็เช้าเลย ผมกลับได้สุขภาพดีๆกลับคืนมาเยอะ (ถึงจะไม่ 100% เหมือนสมัยยังเอ๊าะๆก็เถอะ ) ผมได้เพื่อนอีกเยอะ จากเดิมที่เป็นคนแทบจะไม่มีเพื่อนเลย (เพื่อนที่มีชอบไปกินเหล้า สูบบุหรี่กันหมด ผมไม่ไปด้วยแน่ๆ) ทุกวันนี้ไปออกทริปที่ไหนถ้าไม่มีเพื่อนไปด้วยนี่ผมจะไปไม่ได้ มันไม่สนุก นอกจากเพื่อนๆพี่ๆที่ไปด้วยกันบ่อยๆแล้ว ผมยังมีเพื่อนชั่วคราว หรือเพื่อนขาจร แล้วแต่จะเรียกกันนะฮะ โบกไม้โบกมือทักทายกันเวลาผ่านไปผ่านมา น้าๆที่ปั่นจักรยานก็น่าจะพบเจอกันมาเยอะแล้ว ซึ่งกิจกรรมอื่นๆที่ผมเคยเล่นมามันไม่มียังงี้
. เท่าที่ผ่านมาหลายๆคนก็ว่าผมใช้รถโหดอยู่ กระโดดฟุตบาทบ่อยๆ ปั่นตากฝน ปั่น-โดดแทร็คบ่อยๆ ก็เลยต้องล้างบ่อยๆ เดือนนึงนี่ตกล้างครั้งนึงเลย จนเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว น้าแมวเหมียวร่าเริง ติงผมมานิดนึงว่าหลังจากที่ได้ลองปั่นรถของผมน้าแมวแกพบว่า.. รถผมฝืด-หนัก อ่อออ.. เรอะ... เพิ่งรู้ตัว น้าแมวแกบอกให้เช็กด่วนผมก็สงสัยอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วว่าทำไมเวลาไปลองปั่นรถชาวบ้านเขามันเบาๆลื่นๆกว่าของเราเยอะเลยฟะ... ซื้อมายังไม่ถึงปีเลยนี่หว่า
. จนอาทิตย์นี้ผมว่างจากหลายๆสิ่งหลายๆอย่างในชีวิต เลยคิดว่าเอาซะหน่อยนะลูกเช็ดล้างหยอดน้ำมันภายนอกมาก็เยอะละ ภายในยังไม่เคยสังคายนาเลยนี่หว่า จัดแจงถอดโซ่ ตีนผี เฟืองหลัง ล้อ โม่ ลูกปืน สายเกียร์สาย-เบรค จุดหมุนต่างๆแทบทุกจุดที่มันน่าจะเป็นตัวการทำให้รถผมไม่แรง (คนมันอ่อนเองหลังๆขี้เกียจซ้อมเลยไปลงที่รถ) เอามาล้างน้ำมันลงจาระบีใหม่ซะให้หมด