เหตุการณที่เจอมาสดๆร้อนๆ กับตาสองข้างของเราเอง
เหตุเกิดที่แยกรัชดา-พระราม 4
ชีวิตไม่เที่ยง
ความประมาท ช่างน่ากลัว
เรากำลังเดินอยู่บนสะพานลอยข้ามแยก รถตุ๊กๆขับมาอย่างรวดเร็ว เหวี่ยงและแหกทางโค้งไปชนเข้ากับตู้จราจรอย่างแรง
รถพลิกคว่ำ
ในรถมีผู้โดยสารสองคน เป็นคู่ชายหญิง
ผู้ชายรีบปีนออกจากรถทันทีที่รถหยุด มีกลุ่มคนจากทุกทิศทางของแยก ไปช่วยกันยกรถ และคนออกมาจากรถ
ตัวผู้ชายเคราะห์ดี มีเพียงเลือดไหลจากขา แต่ยังลุกได้
ผู้หญิง โดนรถทับ เราไม่รู้ว่าอาการเป็นอย่างไร รู้เพียงเลือดไหลจากศีรษะนองเต็มพื้นถนน
หน้าขาวซีด ตาลอย ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง
ส่วนคนขับรถ นอนอยู่ถัดจากผู้หญิง
ขอโทษนะคะ แต่เรามีความรู้สึกว่าเหตุการณนี้เกิดขึ้นเพราะความประมาทของคนขับรถ เราจึงไม่ได้ให้ความสนใจมาก
พอเกิดเหตุ เราตะลึงทำอะไรไม่ถูกอยู่ราวห้านาที
ตั้งสติได้ รีบวิ่งลงไปดู ว่ามีอะไรที่เราจะพอช่วยได้ไหม ทั้งๆที่ไม่ได้มีความรู้อะไรเลย
มีเสียงพึมพำๆจากกลุ่มไทยมุงไม่ได้ขาดสาย
เราตะเบ็งเสียงถามทุกคนว่าเรียกรถพยาบาลรึยัง
ได้รับคำตอบว่าเรียกแล้ว มีคนพยายามพูดคุยกับผู้หญิง แต่ไม่กล้าแตะต้องขยับขยายอะไรเธอเข้า กลัวว่าอาจทำให้เหตุการณ์ยิ่งเลวร้าย
ผ่านไปอีกราวห้านาที ขอบคุณที่ปอเต็กตึ๋งมาอย่างรวดเร็ว
สุดท้าย เราก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
เหตุการณ์แบบนี้อาจเกิดขึ้นทุกวัน ทุกชั่วโมง หรือทุกนาที ณ ที่ใดที่หนึ่ง
แต่สิ่งที่มาทำให้เราคิดได้ก็คือ เราเอง ก็เป็นหนึ่งในคนที่ประมาทกับชีวิต
คิดเพียงว่า "ไม่เป็นไรหรอก"
เราเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ขับรถด้วยความประมาท คึกคะนอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีชีวิตของคนอื่นมาฝากไว้กับเรา
วันนี้ที่เราได้เห็นวินาทีเฉียดความตายมากับตา ทำให้เรามาคิดได้ว่า
"อย่าประมาท ก่อนที่จะสายเกินไป นึกถึงคนที่รักคุณไว้นะคะ"
อุทาหรณ์ อุบัติเหตุชั่วพริบตา
เหตุเกิดที่แยกรัชดา-พระราม 4
ชีวิตไม่เที่ยง
ความประมาท ช่างน่ากลัว
เรากำลังเดินอยู่บนสะพานลอยข้ามแยก รถตุ๊กๆขับมาอย่างรวดเร็ว เหวี่ยงและแหกทางโค้งไปชนเข้ากับตู้จราจรอย่างแรง
รถพลิกคว่ำ
ในรถมีผู้โดยสารสองคน เป็นคู่ชายหญิง
ผู้ชายรีบปีนออกจากรถทันทีที่รถหยุด มีกลุ่มคนจากทุกทิศทางของแยก ไปช่วยกันยกรถ และคนออกมาจากรถ
ตัวผู้ชายเคราะห์ดี มีเพียงเลือดไหลจากขา แต่ยังลุกได้
ผู้หญิง โดนรถทับ เราไม่รู้ว่าอาการเป็นอย่างไร รู้เพียงเลือดไหลจากศีรษะนองเต็มพื้นถนน
หน้าขาวซีด ตาลอย ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง
ส่วนคนขับรถ นอนอยู่ถัดจากผู้หญิง
ขอโทษนะคะ แต่เรามีความรู้สึกว่าเหตุการณนี้เกิดขึ้นเพราะความประมาทของคนขับรถ เราจึงไม่ได้ให้ความสนใจมาก
พอเกิดเหตุ เราตะลึงทำอะไรไม่ถูกอยู่ราวห้านาที
ตั้งสติได้ รีบวิ่งลงไปดู ว่ามีอะไรที่เราจะพอช่วยได้ไหม ทั้งๆที่ไม่ได้มีความรู้อะไรเลย
มีเสียงพึมพำๆจากกลุ่มไทยมุงไม่ได้ขาดสาย
เราตะเบ็งเสียงถามทุกคนว่าเรียกรถพยาบาลรึยัง
ได้รับคำตอบว่าเรียกแล้ว มีคนพยายามพูดคุยกับผู้หญิง แต่ไม่กล้าแตะต้องขยับขยายอะไรเธอเข้า กลัวว่าอาจทำให้เหตุการณ์ยิ่งเลวร้าย
ผ่านไปอีกราวห้านาที ขอบคุณที่ปอเต็กตึ๋งมาอย่างรวดเร็ว
สุดท้าย เราก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
เหตุการณ์แบบนี้อาจเกิดขึ้นทุกวัน ทุกชั่วโมง หรือทุกนาที ณ ที่ใดที่หนึ่ง
แต่สิ่งที่มาทำให้เราคิดได้ก็คือ เราเอง ก็เป็นหนึ่งในคนที่ประมาทกับชีวิต
คิดเพียงว่า "ไม่เป็นไรหรอก"
เราเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ขับรถด้วยความประมาท คึกคะนอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีชีวิตของคนอื่นมาฝากไว้กับเรา
วันนี้ที่เราได้เห็นวินาทีเฉียดความตายมากับตา ทำให้เรามาคิดได้ว่า
"อย่าประมาท ก่อนที่จะสายเกินไป นึกถึงคนที่รักคุณไว้นะคะ"