ยุทธพงศ์ เผยประชุมคณะอนุกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ยางพารา มีมติ ยุติโครงการถนนยางพารา เหตุมีปัญหาด้านเอกสิทธิที่ดิน
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์การเพิ่มมูลค่ายางพาราไทยเมื่อวันที่ 4 มี.ค. มีมติให้ยุติโครงการถนนยางพาราที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ตามนโยบายของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เนื่องจากมีปัญหาด้านเอกสารสิทธิที่ดินและอยู่ในเขตป่า แต่ให้ทำในพื้นที่ใหม่ โดยมีมติให้นายสมชาย เดชภิรัตน์มงคล อดีตอธิบดีกรมทางหลวงในฐานะคณะอนุกรรมการฯไปคัดเลือกว่าจะทำในเส้นทางใด ระหว่างจ.ภูเก็ตและจ.กระบี่ ในเงื่อนไขว่าต้องเป็นเส้นทางที่ทีการใช้ถนนทั้งการท่องเที่ยวและโลจิสติกส์อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเสนอที่ประชุม ในวันที่ 12 มี.ค.
ส่วนจะเป็นระยะทางและงบประมาณเท่าไหร่นั้นจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ(กนย.)พิจารณาอีกครั้งหากงบประมาณเกิน 85 ล้านบาทที่ได้ขอกับสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง(สกย.)ไว้ก่อนหน้า อย่างไรก็ตามคาดว่าถนนเส้นดังกล่าวน่าจะเป็นในเขตพื้นที่จ.ภูเก็ตเพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและมีสวนยางพาราหนาแน่นเช่นกัน ซึ่งเมื่อเล้วเสร็จจะเชิญนายกรัฐมนตรีไปเปิดงาน
สำหรับกรณีการสอบสวนโกดังยางพาราในโครงการรักษาเสถียรภาพราคายางพารา ที่มีการปล่อยให้ยางเน่าในพื้นที่จังหวัดศรีษะเกษกว่า 500 ล้านบาท ให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ พิจารณาเป็นคดีพิเศษ ในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากพบความไม่ชอบมาพากลในการบริหารโครงการ ที่ผู้รับผิดชอบปล่อยยางให้เน่านอกโกดัง ทำให้ทรัพย์สินของรัฐเสื่อมราคา
:โพสต์ทูเดย์
//------------------------------------------------------------------------------
อำมาตย์เต้นช่วงนี้ขาลงขนาดพรรคพวกยังไม่ไว้หน้า เอาเงินไปดันราคาไม่ก็ไม่ขึ้น แถมขาดทุนประมาณ 15,000 ล้าน
เพราะปล่อยให้เน่าคานอกโกดัง, ยุติโครงการถนนยางพาราเหตุมีปัญหาด้านเอกสิทธิที่ดิน งงจุงเบย
เกือบปีไปเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชาวสวนยางเงินหาย แถมสร้างปัญหาเพิ่มขึ้น
ยุทธพงศ์หักหน้าเต้นสั่งยุติถนนยางนครฯ
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์การเพิ่มมูลค่ายางพาราไทยเมื่อวันที่ 4 มี.ค. มีมติให้ยุติโครงการถนนยางพาราที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ตามนโยบายของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เนื่องจากมีปัญหาด้านเอกสารสิทธิที่ดินและอยู่ในเขตป่า แต่ให้ทำในพื้นที่ใหม่ โดยมีมติให้นายสมชาย เดชภิรัตน์มงคล อดีตอธิบดีกรมทางหลวงในฐานะคณะอนุกรรมการฯไปคัดเลือกว่าจะทำในเส้นทางใด ระหว่างจ.ภูเก็ตและจ.กระบี่ ในเงื่อนไขว่าต้องเป็นเส้นทางที่ทีการใช้ถนนทั้งการท่องเที่ยวและโลจิสติกส์อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเสนอที่ประชุม ในวันที่ 12 มี.ค.
ส่วนจะเป็นระยะทางและงบประมาณเท่าไหร่นั้นจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ(กนย.)พิจารณาอีกครั้งหากงบประมาณเกิน 85 ล้านบาทที่ได้ขอกับสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง(สกย.)ไว้ก่อนหน้า อย่างไรก็ตามคาดว่าถนนเส้นดังกล่าวน่าจะเป็นในเขตพื้นที่จ.ภูเก็ตเพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและมีสวนยางพาราหนาแน่นเช่นกัน ซึ่งเมื่อเล้วเสร็จจะเชิญนายกรัฐมนตรีไปเปิดงาน
สำหรับกรณีการสอบสวนโกดังยางพาราในโครงการรักษาเสถียรภาพราคายางพารา ที่มีการปล่อยให้ยางเน่าในพื้นที่จังหวัดศรีษะเกษกว่า 500 ล้านบาท ให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ พิจารณาเป็นคดีพิเศษ ในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากพบความไม่ชอบมาพากลในการบริหารโครงการ ที่ผู้รับผิดชอบปล่อยยางให้เน่านอกโกดัง ทำให้ทรัพย์สินของรัฐเสื่อมราคา
:โพสต์ทูเดย์
//------------------------------------------------------------------------------
อำมาตย์เต้นช่วงนี้ขาลงขนาดพรรคพวกยังไม่ไว้หน้า เอาเงินไปดันราคาไม่ก็ไม่ขึ้น แถมขาดทุนประมาณ 15,000 ล้าน
เพราะปล่อยให้เน่าคานอกโกดัง, ยุติโครงการถนนยางพาราเหตุมีปัญหาด้านเอกสิทธิที่ดิน งงจุงเบย
เกือบปีไปเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชาวสวนยางเงินหาย แถมสร้างปัญหาเพิ่มขึ้น