ผลการเลือกตั้งผู้ว่า ทำให้ได้คิดอะไรบางอย่าง

ผมคิดว่าผลการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ไม่ได้แปลกใจหรือพลิกอะไรนัก ได้คนละเกินล้านเสียงก็สมเหตุสมผลดี
แต่ผมคิดว่ารัฐบาลเพื่อไทยมีปัญหากับวิธีคิดแนวทางที่ทำอยู่ โดยการเกี้ยเซียะกับข้างบน ปรองดองกับภาคส่วนกลุ่มต่างๆ โดยไม่ได้ตรึกตรองจริงๆว่าเขาเหล่านั้นต้องการมั้ย..
การที่พรรคการเมืองหนึ่งไม่ได้ชูประเด็นเรื่องผลงานหรือนโยบาย แต่กลับชูวาทกรรม ชูความขัดแย้งแตกแยกเกลียดชัง ถึงขั้นเราจะไม่มีแผ่นดินอยู่ถ้าข้าศึกชิงเมืองได้ แล้วได้รับการยอมรับได้รับเสียงสนับสนุนร่วมล้านสองไม่ธรรมดานะครับ
มันได้สะท้อนแสดงถึงความคิดของคนในสังคมนี้ ว่ารู้สึกนึกคิดอย่างไรพร้อมที่จะก้าวข้ามหรือสมัครใจที่จะคงอยู่กับเรื่องใดๆ
การอ่อนข้อการปรองดองหรือเกี้ยเซียะมันได้กลายเป็นจุดอ่อนของรัฐบาลเพื่อไทยเอง
ผมไม่ได้อยากให้นายกลุกมาตีฝีปากกับนักการเมืองอย่างนายอภิสิทธิ์นะครับ การวางตัวที่เป็นอยู่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่เรื่องที่ต้องทำต้องแก้กลับไม่ได้ทำไม่ได้แก้อะไรเลย อย่างการแก้รธน. การนิรโทษกรรม การลบล้างผลจากรัฐประหาร หรือแม้แต่จะอยากเอาทักษิณกลับบ้านมาดำเนินคดีใหม่ตามกระบวนปกติ
สิ่งเหล่านี้รัฐบาลทำได้ถ้ารัฐบาลกล้าพอ จะมีช่วงที่ทำได้ในสามเดือนแรกที่ชนะเลือกตั้งเท่านั้น(ซึ่งได้เลยมาไกลแล้ว) มั่วแต่เอาเวลาไปเกี้ยเซียะไปกราบคนนั้นคนนี้ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลอยู่มาปีกว่ายิ่งนานวันโอกาสทำเรื่องที่ถูกต้องควรทำยิ่งยากเต็มทีอาจถึงขั้นเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
แล้วถ้าถามว่า ประเทศนี้จะไม่ต้องปรองดองกันเลยเหรอ? ผมเห็นว่าความปรองดองจะเกิดขึ้นเองถ้าทุกคนพร้อม ความจริงความถูกต้องหลักการบรรทัดฐานที่ถูกต้องจะนำมาซึ่งความปรองดองในที่สุด ผมกลับมองว่าสิ่งที่ควรทำในช่วงแรกแต่รัฐบาลกลับไม่ทำนั้น จะนำมาซึ่งความปรองดองของคนในชาติอย่างยั่งยืน.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่