เด็กม.4คนหนึ่งไม่เคยมีชีวิตในสนามฟุตบอลกับเพื่อนหลังเลิกเรียน ชีวิตหลังเลิกเรียนของเขาในวัย ม.4 และ ม.5 อยู่ที่ตลาดสดและในห้องครัว ถ้าจะวัดกันด้วยมาตราฐานและนิยามของสำนักงานสถิติแห่งชาติสารขัณฑ์ในปีพ.ศ.2525 รายได้ครัวเรือนของครอบครัวเขาแตะเส้น "ยากจน" อย่างไม่เต็มใจนัก
ในพ.ศ.ที่ไม่มี 7-11 ไม่มีกับข้าวถุง ค่ารถสองแถวเข้าซอยเปลี่ยวชานเมืองหลวง 50 สตางค์ มีพ่อเป็นข้าราชการจนๆที่ประจำอยู่ต่างจังหวัด มีแม่ที่ต้องทำงานล่วงเวลากลับถึงบ้าน 3 ทุ่ม มีน้องๆในวัยเรียนวัยกินอีก 3 คน หน้าที่(ที่ไม่เต็มใจเอามากๆในตอนนั้น)คือการจ่ายตลาดสดตอนเย็นหลังเลิกเรียน รีบกลับบ้านมาทำกับข้าวสำหรับ 5 ปาก 5 ท้อง และ ดูแลการบ้านน้องๆ
2 ปีเต็มที่เขาใช้ชีวิตหลังเลิกเรียนในตลาดสดและห้องครัว ที่ๆเขาเรียกมันได้อย่างภาคภูมิใจว่ามันคือห้องเรียนที่สอง และเป็นห้องปฏิบัติการ(Lab)ในชีวิตจริง ตามมาดูเสี้ยวหนึ่งของสรรพวิชาที่เขาเรียนรู้จากห้องเรียนที่สองแห่งนี้กันครับ
Economy of Scale (การประหยัดเนื่องจากขนาด) ES101 - 3 หน่วยกิต
เขาแอบตั้งชื่อเล่นให้วิชานี้ว่า "เหมาโหลถูกกกว่า" คือ ทำอะไรทำทีเดียวกัน ซื้ออะไรซื้อทีเดียวกัน ได้ราคาต่อชิ้นที่ถูกกว่า ซื้อร้านขายส่งก็ซื้อร้านเดียวกัน ซื้อหลายๆอย่าง ต่อราคาอาแป๊ะซะก่อนทีล่ะอย่าง พอจะคิดตังค์รวมกันต่อราคาอาแป๊ะได้อีกรอบ การซื้อทีล่ะชิ้นนั้นสงวนไว้กับกรณีฉุกเฉินและต้องของอนุมัติ (approval) เป็นรายกรณี (case by case basis)
ล้างจาน ซักผ้า รีดผ้า อย่าทำทีล่ะชิ้นทีล่ะครั้ง รวมๆไว้ซัก-ล้าง-รีดกันทีเดียว ใช้น้ำ ไฟฟ้าและผงซักฟอกต่อชิ้นน้อยกว่า หลีกเลี่ยงการเปิดตู้เย็นหยิบของหรือเก็บของทีล่ะชิ้น รวมๆไว้เปิดปิดเอาเข้าเอาออกพร้อมๆกัน เปลืองไฟฟ้าน้อยกว่า
และ อื่นๆอีกมากมาย ...
CPM (Critical Path Management) and JIT (Just in time Management) CJ101 - 3 หน่วยกิต
มีกับข้าวสดที่เพิ่งจ่ายตลาดมากองหนึ่ง เตาไฟ 2 เตา เตาหนึ่งเป็นเตาแก๊ส อีกเตาเป็นเตาถ่าน ทำกับข้าว 3 อย่างพร้อมหุงข้าวสำหรับ 5 ปาก 5 ท้อง ทั้งหมดนี่ต้องให้เสร็จในครึ่งชม. อะไรทำก่อน อะไรทำหลัง อะไรรอได้ อะไรทำพร้อมอะไรได้ อะไรใช้เวลาทำเท่าไร คอขวด(bottle neck)อยู่ตรงไหน ... Critical Path และ Just in Time Management ของจริงเลย ยังไม่นับที่ต้องออกจากครัวมาดูมาสอนการบ้านน้องๆอีก 3 คน เป็นพักๆ (Uncontrollable external factors) ซึ่งยอมรับว่า หนักหนาสาหัสมาก บางครั้งกับข้าวก็ไหม้ไปบ้าง ข้าวก็สุกๆดิบๆไปบ้าง มั่วๆซั่วๆไปบ้าง แต่ก็ไม่มีใครบ่น เพราะถ้าบ่น หมายความว่า "งั้นก็ไม่ต้องกิน"
Synergy (ขออภัยที่แปลไม่ถูกครับ จริงๆแล้วมีคำแปล แต่แปลแล้วมันจั๊กจี้เลยขอไม่แปลดีกว่า) SY101 - 3 หน่วยกิต
ไข่ตุ๋น ไข่ต้ม ไม่ต้องทำต่างหาก เปลืองไฟ เสียเวลา จับใส่หม้อหุงข้าวได้เลย ถ้ามีแกงมีผัดที่ต้องอุ่นให้ร้อน พอน้ำข้าวในหม้อเริ่มงวด ก็จับใส่จานซ้อนๆกัน แล้ววางบนข้าวปิดฝาซะ พอข้าวสุก ทั้งแกงทั้งผัดก็อุ่นพอดีกินได้ ถ้ามันบังเอิญหกลงไปในข้าว ก็ตักออกมารวนในน้ำมันกระเทียมเจียวร้อนๆ ยอมเสียไข่ใบนึง ก็จะกลายเป็นข้าวผัดพิเศษ 1 จาน ที่น้องๆต้องแย่งกันจอง ตามหลัก demand - supply (เพราะมี demand 3 แต่ supply แค่ 1)
Inventory Management (บริหารจัดการสินค้าคงคลัง) IM101 - 3 หน่วยกิต
ปีแรกที่ทำกับข้าว ตู้เย็นถือเป็นของฟุ่มเฟือยที่ครอบครัวไม่สามารถจะเอื้อมไปหามาใช้ได้ ต้องจ่ายกับข้าวสดหลังเลิกเรียนวันเว้นวันหรือเว้นสองวันจากตลาดสดที่อยู่ระหว่างบ้านกับโรงเรียน ส่วนการจ่ายกับข้าวของแห้งของสดครั้งใหญ่สำหรับเดือนจะมีเดือนล่ะครั้งจากตลาดสดที่ใหญ่กว่าและไกลออกไป การบริหารจัดการของใช้ในครัว (Supply management) ไม่ให้ขาดมือตลอดทั้งเดือนนั้น เป็นงานที่ท้าทาย (Challenge) ถือว่าต้องใช้ความสามารถ ความรอบคอบ การวางแผน และวินัยขั้นสูงทีเดียว
เขามีเครื่องมือการบริหารไฮเทคที่สำคัญอย่างยิ่งยวด(Critical Management Tool) ที่เรียกว่า IPSL (Inventory Planning and Shopping List) ซึ่งไม่มีอะไรมากไปกว่าว่าเศษกระดาษสมุดเหลือใช้ ที่เอามาเย็บใหม่เป็นเล่มเล็กๆกับลายมือขยุกขยิก รายการนี้จะต้องแม่นยำและพลาดไม่ได้ เพราะจะไปซื้อของแห้งกันแค่เดือนล่ะครั้ง มี Inventory margin มาก (พูดง่ายๆคือซื้อเผื่อ) ก็ไม่ได้ เพราะเงินไม่พอ และที่ลืมไม่ได้คือ FIFO (First In First Out) ของที่ซื้อมาก่อนมักจะหมดอายุก่อน ให้เอาออกมากิน เอาออกมาใช้ก่อน ใครฝืนกฏข้อนี้ ต้องโดน disciplinary warning (การตักเตือนทางวินัย) ที่แปลไทยเป็นไทยว่า "ตัดค่าขนม"
Negotiation Skill (ทักษะการเจรจาต่อรอง) NS101 - 3 หน่วยกิต
- ถ้าซื้อของหลายชิ้นต้องต่อให้ได้ราคาต่อชิ้นต่ำกว่าซื้อปลีกเสมอ
- Effective communication skill - ถ้าดูแล้วคิดว่าคนขายเป็นป้า ให้เรียกน้า ถ้าดูแล้วน่าจะน้า ให้เรียกพี่ ถ้าดูแล้วว่าอาจจะพี่ ให้เรียกน้อง ... มักจะต่อราคาหรือขอแถมนิดๆหน่อยๆได้เสมอๆ
- ถ้าซื้อเจ้าประจำ อย่าลืมชมว่า ของที่ซื้อไปทำกับข้าวเมื่อวาน แม่ชมว่าอร่อย (มักจะได้แถมชิ้นสองชิ้นบ่อยๆ หรือได้ผักที่อวบๆปลาที่สดๆโดยไม่ต้องเลือกเอง)
- ถ้าจะขอของแถม ให้ขอของแถมที่เหลืออยู่มากในกระจาด หรือ ดูแล้วยังไงแม่ค้าก็ไม่น่าอยากจะขนกลับ แต่เป็นของที่เราต้องการ
- ถ้าขึ้นราคา ให้ขอของแถมเสมอ ถ้าไม่ได้แถม ให้ลดจำนวนที่ซื้อลง
- บวกลบเลขให้ไว ... ป้าบอกกำละห้า สองกำแปดได้ไหมป้า ถ้าไม่ได้ ป้า ... ผมขอสามกำสิบสามก็แล้วกันนะ (สูตรคูณ บวกลบคูณหาร ต้องแม่น และเร็วทันหรือเร็วกว่าแม่ค้า)
- ต่อราคาเสร็จแล้ว อย่ายึกยัก เดินออกไปเลย อย่าหันกลับไปมอง แต่ให้เงี่ยหูฟัง เผื่อป้าแก OK
- ถ้าเดินทั้งตลาดแล้วยังไม่ได้ที่ๆถูกกว่า การกลับไปซื้อกับป้าคนเดิมไม่ถือว่าเสียฟอร์ม (ฟอร์มกินไม่ได้) ต้องถือซะว่า The best deal of the day
Cost Accounting (บัญชีต้นทุน) CA101 - 3 หน่วยกิต
- ถอดปลั๊กรีดผ้าก่อนเริ่มรีดตัวสุดท้าย ความร้อนที่ยังเหลืออยู่ยังเอามารีดได้ 1 ตัว
- ปิดแก๊ซที่หัวถังก่อนที่จะปิดที่เตา แก๊สจะได้ไม่ค้างท่อ รั่วทิ้ง นอกจากเปลืองค่าแก๊สแล้วยังปลอดภัยจากแก๊สรั่ว
- ปิดแก๊สก่อนทำกับข้าวเสร็จเล็กน้อย กระทะหรือหม้อที่ร้อนค้างอยู่ยังใช้ได้ต่ออีก 5-10 นาที พอให้ที่ทำอยู่เสร็จพอดี
- น้ำเหลือจากซักผ้าเอามาล้างจาน น้ำเหลือจากล้างจานและเศษอาหาร เอาไปรดน้ำต้นไม้
- ล้างถังขยะ ล้างรถจักยาน ใต้ต้นไม้เสมอ นอกจากตอนล้างไม่ร้อนแล้ว จะได้ไม่ต้องรดน้ำต้นนั้นอีก
- เศษผักที่ปักแล้วงอกทุกชนิด ห้ามทิ้งลงถังขยะเด็ดขาด เอาไปปักให้มันงอก คราวหน้าใช้นิดๆหน่อยๆ ก็ไม่ต้องซื้อ
- โสมใบ ดอกแค กระถิน ผักบุ้งจีน ใบมะยม ยอดมะม่วง ของข้างทางในซอยเข้าบ้านพวกนี้ ถ้ามีไข่ไก่สักใบหรือ กากหมูกับหอมแดงสักหยิบมือ (Emergency low cost menu) แก้ขัดได้มื้อนึง
- ทุกๆ 3-4 วัน ... เศษผักเศษเนื้อทุกชนิด จับใส่หม้อเทน้ำให้ท่วม ใส่ซีอิ๊วดำ ซอส น้ำจิ้ม พริกกะเกลือ เหลือๆ กับเศษๆน้ำตาลปีบ มันจะกลายเป็นจับฉ่ายหอมฉุย กินได้อีก 2- 3 มื้อ
และ อื่นๆอีกมากมาย ....
Business Ethic (จรรยาบรรณทางธุรกิจ) BA101 - 3 หน่วยกิต
- คืนเงินทุกครั้งที่แม่ค้าทอนตังค์เกินมาและคืนของที่เกินมาในถุงกับข้าว (ถึงแม้ว่าจะเป็นแม่ค้าพ่อค้าที่เคยโกงเรา)
- ไม่ต่อราคาคนขายที่ดูแล้วเป็นชาวนาชาวสวนแก่ๆที่เอาของมาขายเอง ที่ไม่ใช่พ่อค้าแม่ค้าประจำตลาด
- ถ้าเห็นว่าฝนกำลังจะตก อย่าต่อราคา ถ้าเห็นว่าเหลือของไม่มาก เหมาหมดได้ เหมาหมดไปเลย แล้วไปชี้แจงกับ CEO ทีหลังได้ ปลอดภัยแน่นอน (เพราะเคยเห็น CEO ทำ)
Monitering and Contineous Improvement MCI101 - 3 หน่วยกิต
- ยกของขึ้นทุกครั้งที่ทำความสะอาดครัว เพราะอาจจะมีผงแป้งโรยไว้ใต้ของพวกนั้น (Random Monitering - Increase Awareness !)
- ทำกับข้าวเสร็จแล้ว ... เก็บครัวให้ดีทุกครั้ง ถ้าตรวจเจอ จะโดนปลุกมาเก็บ โดยไม่ต้องดูนาฬิกาว่ามันกี่โมงกี่ยามแล้ว (Law enforcement !)
- ทำกับข้าวเสร็จแล้ว ... ตรวจดูถังขยะทุกครั้ง ให้แน่ใจว่า ไม่ทิ้งของอะไรที่ไม่ควรทิ้ง (ความผิดฉกรรจ์เชียว) อาจจะโดน IRA ย้อนหลังได้เสมอ (สุ่มตรวจสอบ - Internal Random Audit)
Micro Economic (เศรษฐศาสตร์จุลภาค) MiE101 - 3 หน่วยกิต
- กินผักผลไม้ตามฤดู เพราะของในตลาดมีเยอะ ราคาจะถูก คุณภาพจะดี (Demand Supply Rule)
- Subsititute goods (สินค้าที่ทดแทนกันได้) หมู - ไก่ - เนื้อ - ปลา และ ผักทุกชนิด แทนกันได้หมด (ถ้ารู้จักปรับเมนูและไม่เรื่องมาก ต้นทุนการใช้ชีวิตจะลดลง)
- ทุกเมนูพลิกแพลงยืดหยุ่นได้เสมอ ไม่มีสูตรแน่นอนตายตัว อย่าไปยึดติด (Preference elasticity)
- กะให้พอดี อย่าทำกับข้าวมากเกิน จะดูไม่อร่อย (Over supply)
- อย่าทำกับข้าวเสร็จเร็วเกินไป ... Hunger is the best cook ... (German, Polish)
......
และอื่นๆอีกมากมายครับ
.....
ศาสตร์วิชาการบริหารจัดการทั้งหมดนี้
สอนโดย ... "เธอ" ... ผู้หญิงคนหนึ่งที่เรียนไม่จบแม้แต่ปริญญาตรี
แด่เธอ ... ครูวิชาการบริหารจัดการคนแรกในชีวิตของผม
แม่ครับ ... ผมรักแม่ ...
ปล 1. เธอเคยบอกว่าครูวิชาการบริหารจัดการของเธอ(ยายของผม)จบแค่ป. 4 เขียนหนังสือเป็นแค่ชื่อตัวเอง (ที่ประกอบด้วยพยัญชนะ 1 ตัว กับ สระอีก 1 ตัว ... !)
ปล 2. เธอชอบอวดเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องว่า เธอเลี้ยงพวกเราแบบ "ชีวิตต้นทุนต่ำ" (Low Cost Life)
ถ้าอยากรู้จัก "เธอ" ของผม และวีรกรรมของเธอมากกว่านี้ ตามไปรู้จักเธอได้ที่
แด่เธอ ... ผู้หญิงคนหนึ่ง คนที่ตายแทนผมได้ แม้ว่าผมจะไม่ต้องการ ... เธอ ... ผู้หญิงที่สวยที่สุดตลอดกาลของผม
bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=12-02-2011&group=2&gblog=23
เมื่อถึงวันที่เขาเข้าใจ ... เขานั่งน้ำตาไหลอยู่เงียบๆคนเดียว (... แด่สองมือทุกคู่ที่ไกวเปล)
bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=17-08-2011&group=2&gblog=24
และนี่ครับ วีรกรรมของผู้ชายของเธอ
ผมถามพ่อว่า พ่อไม่กลัวหรือ พ่อตอบว่า "ถ้าพ่อไม่ทำแล้วใครจะทำ"
bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=30-10-2011&group=2&gblog=25
"ครัว" ห้องเรียนที่สองของผม ห้องปฏิบัติการ(Lab)ที่ไม่มีใน MBA School-โดยเด็กม.4คนหนึ่ง(ที่ไม่เคยได้เตะบอลหลังเลิกเรียน)
ในพ.ศ.ที่ไม่มี 7-11 ไม่มีกับข้าวถุง ค่ารถสองแถวเข้าซอยเปลี่ยวชานเมืองหลวง 50 สตางค์ มีพ่อเป็นข้าราชการจนๆที่ประจำอยู่ต่างจังหวัด มีแม่ที่ต้องทำงานล่วงเวลากลับถึงบ้าน 3 ทุ่ม มีน้องๆในวัยเรียนวัยกินอีก 3 คน หน้าที่(ที่ไม่เต็มใจเอามากๆในตอนนั้น)คือการจ่ายตลาดสดตอนเย็นหลังเลิกเรียน รีบกลับบ้านมาทำกับข้าวสำหรับ 5 ปาก 5 ท้อง และ ดูแลการบ้านน้องๆ
2 ปีเต็มที่เขาใช้ชีวิตหลังเลิกเรียนในตลาดสดและห้องครัว ที่ๆเขาเรียกมันได้อย่างภาคภูมิใจว่ามันคือห้องเรียนที่สอง และเป็นห้องปฏิบัติการ(Lab)ในชีวิตจริง ตามมาดูเสี้ยวหนึ่งของสรรพวิชาที่เขาเรียนรู้จากห้องเรียนที่สองแห่งนี้กันครับ
Economy of Scale (การประหยัดเนื่องจากขนาด) ES101 - 3 หน่วยกิต
เขาแอบตั้งชื่อเล่นให้วิชานี้ว่า "เหมาโหลถูกกกว่า" คือ ทำอะไรทำทีเดียวกัน ซื้ออะไรซื้อทีเดียวกัน ได้ราคาต่อชิ้นที่ถูกกว่า ซื้อร้านขายส่งก็ซื้อร้านเดียวกัน ซื้อหลายๆอย่าง ต่อราคาอาแป๊ะซะก่อนทีล่ะอย่าง พอจะคิดตังค์รวมกันต่อราคาอาแป๊ะได้อีกรอบ การซื้อทีล่ะชิ้นนั้นสงวนไว้กับกรณีฉุกเฉินและต้องของอนุมัติ (approval) เป็นรายกรณี (case by case basis)
ล้างจาน ซักผ้า รีดผ้า อย่าทำทีล่ะชิ้นทีล่ะครั้ง รวมๆไว้ซัก-ล้าง-รีดกันทีเดียว ใช้น้ำ ไฟฟ้าและผงซักฟอกต่อชิ้นน้อยกว่า หลีกเลี่ยงการเปิดตู้เย็นหยิบของหรือเก็บของทีล่ะชิ้น รวมๆไว้เปิดปิดเอาเข้าเอาออกพร้อมๆกัน เปลืองไฟฟ้าน้อยกว่า
และ อื่นๆอีกมากมาย ...
CPM (Critical Path Management) and JIT (Just in time Management) CJ101 - 3 หน่วยกิต
มีกับข้าวสดที่เพิ่งจ่ายตลาดมากองหนึ่ง เตาไฟ 2 เตา เตาหนึ่งเป็นเตาแก๊ส อีกเตาเป็นเตาถ่าน ทำกับข้าว 3 อย่างพร้อมหุงข้าวสำหรับ 5 ปาก 5 ท้อง ทั้งหมดนี่ต้องให้เสร็จในครึ่งชม. อะไรทำก่อน อะไรทำหลัง อะไรรอได้ อะไรทำพร้อมอะไรได้ อะไรใช้เวลาทำเท่าไร คอขวด(bottle neck)อยู่ตรงไหน ... Critical Path และ Just in Time Management ของจริงเลย ยังไม่นับที่ต้องออกจากครัวมาดูมาสอนการบ้านน้องๆอีก 3 คน เป็นพักๆ (Uncontrollable external factors) ซึ่งยอมรับว่า หนักหนาสาหัสมาก บางครั้งกับข้าวก็ไหม้ไปบ้าง ข้าวก็สุกๆดิบๆไปบ้าง มั่วๆซั่วๆไปบ้าง แต่ก็ไม่มีใครบ่น เพราะถ้าบ่น หมายความว่า "งั้นก็ไม่ต้องกิน"
Synergy (ขออภัยที่แปลไม่ถูกครับ จริงๆแล้วมีคำแปล แต่แปลแล้วมันจั๊กจี้เลยขอไม่แปลดีกว่า) SY101 - 3 หน่วยกิต
ไข่ตุ๋น ไข่ต้ม ไม่ต้องทำต่างหาก เปลืองไฟ เสียเวลา จับใส่หม้อหุงข้าวได้เลย ถ้ามีแกงมีผัดที่ต้องอุ่นให้ร้อน พอน้ำข้าวในหม้อเริ่มงวด ก็จับใส่จานซ้อนๆกัน แล้ววางบนข้าวปิดฝาซะ พอข้าวสุก ทั้งแกงทั้งผัดก็อุ่นพอดีกินได้ ถ้ามันบังเอิญหกลงไปในข้าว ก็ตักออกมารวนในน้ำมันกระเทียมเจียวร้อนๆ ยอมเสียไข่ใบนึง ก็จะกลายเป็นข้าวผัดพิเศษ 1 จาน ที่น้องๆต้องแย่งกันจอง ตามหลัก demand - supply (เพราะมี demand 3 แต่ supply แค่ 1)
Inventory Management (บริหารจัดการสินค้าคงคลัง) IM101 - 3 หน่วยกิต
ปีแรกที่ทำกับข้าว ตู้เย็นถือเป็นของฟุ่มเฟือยที่ครอบครัวไม่สามารถจะเอื้อมไปหามาใช้ได้ ต้องจ่ายกับข้าวสดหลังเลิกเรียนวันเว้นวันหรือเว้นสองวันจากตลาดสดที่อยู่ระหว่างบ้านกับโรงเรียน ส่วนการจ่ายกับข้าวของแห้งของสดครั้งใหญ่สำหรับเดือนจะมีเดือนล่ะครั้งจากตลาดสดที่ใหญ่กว่าและไกลออกไป การบริหารจัดการของใช้ในครัว (Supply management) ไม่ให้ขาดมือตลอดทั้งเดือนนั้น เป็นงานที่ท้าทาย (Challenge) ถือว่าต้องใช้ความสามารถ ความรอบคอบ การวางแผน และวินัยขั้นสูงทีเดียว
เขามีเครื่องมือการบริหารไฮเทคที่สำคัญอย่างยิ่งยวด(Critical Management Tool) ที่เรียกว่า IPSL (Inventory Planning and Shopping List) ซึ่งไม่มีอะไรมากไปกว่าว่าเศษกระดาษสมุดเหลือใช้ ที่เอามาเย็บใหม่เป็นเล่มเล็กๆกับลายมือขยุกขยิก รายการนี้จะต้องแม่นยำและพลาดไม่ได้ เพราะจะไปซื้อของแห้งกันแค่เดือนล่ะครั้ง มี Inventory margin มาก (พูดง่ายๆคือซื้อเผื่อ) ก็ไม่ได้ เพราะเงินไม่พอ และที่ลืมไม่ได้คือ FIFO (First In First Out) ของที่ซื้อมาก่อนมักจะหมดอายุก่อน ให้เอาออกมากิน เอาออกมาใช้ก่อน ใครฝืนกฏข้อนี้ ต้องโดน disciplinary warning (การตักเตือนทางวินัย) ที่แปลไทยเป็นไทยว่า "ตัดค่าขนม"
Negotiation Skill (ทักษะการเจรจาต่อรอง) NS101 - 3 หน่วยกิต
- ถ้าซื้อของหลายชิ้นต้องต่อให้ได้ราคาต่อชิ้นต่ำกว่าซื้อปลีกเสมอ
- Effective communication skill - ถ้าดูแล้วคิดว่าคนขายเป็นป้า ให้เรียกน้า ถ้าดูแล้วน่าจะน้า ให้เรียกพี่ ถ้าดูแล้วว่าอาจจะพี่ ให้เรียกน้อง ... มักจะต่อราคาหรือขอแถมนิดๆหน่อยๆได้เสมอๆ
- ถ้าซื้อเจ้าประจำ อย่าลืมชมว่า ของที่ซื้อไปทำกับข้าวเมื่อวาน แม่ชมว่าอร่อย (มักจะได้แถมชิ้นสองชิ้นบ่อยๆ หรือได้ผักที่อวบๆปลาที่สดๆโดยไม่ต้องเลือกเอง)
- ถ้าจะขอของแถม ให้ขอของแถมที่เหลืออยู่มากในกระจาด หรือ ดูแล้วยังไงแม่ค้าก็ไม่น่าอยากจะขนกลับ แต่เป็นของที่เราต้องการ
- ถ้าขึ้นราคา ให้ขอของแถมเสมอ ถ้าไม่ได้แถม ให้ลดจำนวนที่ซื้อลง
- บวกลบเลขให้ไว ... ป้าบอกกำละห้า สองกำแปดได้ไหมป้า ถ้าไม่ได้ ป้า ... ผมขอสามกำสิบสามก็แล้วกันนะ (สูตรคูณ บวกลบคูณหาร ต้องแม่น และเร็วทันหรือเร็วกว่าแม่ค้า)
- ต่อราคาเสร็จแล้ว อย่ายึกยัก เดินออกไปเลย อย่าหันกลับไปมอง แต่ให้เงี่ยหูฟัง เผื่อป้าแก OK
- ถ้าเดินทั้งตลาดแล้วยังไม่ได้ที่ๆถูกกว่า การกลับไปซื้อกับป้าคนเดิมไม่ถือว่าเสียฟอร์ม (ฟอร์มกินไม่ได้) ต้องถือซะว่า The best deal of the day
Cost Accounting (บัญชีต้นทุน) CA101 - 3 หน่วยกิต
- ถอดปลั๊กรีดผ้าก่อนเริ่มรีดตัวสุดท้าย ความร้อนที่ยังเหลืออยู่ยังเอามารีดได้ 1 ตัว
- ปิดแก๊ซที่หัวถังก่อนที่จะปิดที่เตา แก๊สจะได้ไม่ค้างท่อ รั่วทิ้ง นอกจากเปลืองค่าแก๊สแล้วยังปลอดภัยจากแก๊สรั่ว
- ปิดแก๊สก่อนทำกับข้าวเสร็จเล็กน้อย กระทะหรือหม้อที่ร้อนค้างอยู่ยังใช้ได้ต่ออีก 5-10 นาที พอให้ที่ทำอยู่เสร็จพอดี
- น้ำเหลือจากซักผ้าเอามาล้างจาน น้ำเหลือจากล้างจานและเศษอาหาร เอาไปรดน้ำต้นไม้
- ล้างถังขยะ ล้างรถจักยาน ใต้ต้นไม้เสมอ นอกจากตอนล้างไม่ร้อนแล้ว จะได้ไม่ต้องรดน้ำต้นนั้นอีก
- เศษผักที่ปักแล้วงอกทุกชนิด ห้ามทิ้งลงถังขยะเด็ดขาด เอาไปปักให้มันงอก คราวหน้าใช้นิดๆหน่อยๆ ก็ไม่ต้องซื้อ
- โสมใบ ดอกแค กระถิน ผักบุ้งจีน ใบมะยม ยอดมะม่วง ของข้างทางในซอยเข้าบ้านพวกนี้ ถ้ามีไข่ไก่สักใบหรือ กากหมูกับหอมแดงสักหยิบมือ (Emergency low cost menu) แก้ขัดได้มื้อนึง
- ทุกๆ 3-4 วัน ... เศษผักเศษเนื้อทุกชนิด จับใส่หม้อเทน้ำให้ท่วม ใส่ซีอิ๊วดำ ซอส น้ำจิ้ม พริกกะเกลือ เหลือๆ กับเศษๆน้ำตาลปีบ มันจะกลายเป็นจับฉ่ายหอมฉุย กินได้อีก 2- 3 มื้อ
และ อื่นๆอีกมากมาย ....
Business Ethic (จรรยาบรรณทางธุรกิจ) BA101 - 3 หน่วยกิต
- คืนเงินทุกครั้งที่แม่ค้าทอนตังค์เกินมาและคืนของที่เกินมาในถุงกับข้าว (ถึงแม้ว่าจะเป็นแม่ค้าพ่อค้าที่เคยโกงเรา)
- ไม่ต่อราคาคนขายที่ดูแล้วเป็นชาวนาชาวสวนแก่ๆที่เอาของมาขายเอง ที่ไม่ใช่พ่อค้าแม่ค้าประจำตลาด
- ถ้าเห็นว่าฝนกำลังจะตก อย่าต่อราคา ถ้าเห็นว่าเหลือของไม่มาก เหมาหมดได้ เหมาหมดไปเลย แล้วไปชี้แจงกับ CEO ทีหลังได้ ปลอดภัยแน่นอน (เพราะเคยเห็น CEO ทำ)
Monitering and Contineous Improvement MCI101 - 3 หน่วยกิต
- ยกของขึ้นทุกครั้งที่ทำความสะอาดครัว เพราะอาจจะมีผงแป้งโรยไว้ใต้ของพวกนั้น (Random Monitering - Increase Awareness !)
- ทำกับข้าวเสร็จแล้ว ... เก็บครัวให้ดีทุกครั้ง ถ้าตรวจเจอ จะโดนปลุกมาเก็บ โดยไม่ต้องดูนาฬิกาว่ามันกี่โมงกี่ยามแล้ว (Law enforcement !)
- ทำกับข้าวเสร็จแล้ว ... ตรวจดูถังขยะทุกครั้ง ให้แน่ใจว่า ไม่ทิ้งของอะไรที่ไม่ควรทิ้ง (ความผิดฉกรรจ์เชียว) อาจจะโดน IRA ย้อนหลังได้เสมอ (สุ่มตรวจสอบ - Internal Random Audit)
Micro Economic (เศรษฐศาสตร์จุลภาค) MiE101 - 3 หน่วยกิต
- กินผักผลไม้ตามฤดู เพราะของในตลาดมีเยอะ ราคาจะถูก คุณภาพจะดี (Demand Supply Rule)
- Subsititute goods (สินค้าที่ทดแทนกันได้) หมู - ไก่ - เนื้อ - ปลา และ ผักทุกชนิด แทนกันได้หมด (ถ้ารู้จักปรับเมนูและไม่เรื่องมาก ต้นทุนการใช้ชีวิตจะลดลง)
- ทุกเมนูพลิกแพลงยืดหยุ่นได้เสมอ ไม่มีสูตรแน่นอนตายตัว อย่าไปยึดติด (Preference elasticity)
- กะให้พอดี อย่าทำกับข้าวมากเกิน จะดูไม่อร่อย (Over supply)
- อย่าทำกับข้าวเสร็จเร็วเกินไป ... Hunger is the best cook ... (German, Polish)
......
และอื่นๆอีกมากมายครับ
.....
ศาสตร์วิชาการบริหารจัดการทั้งหมดนี้
สอนโดย ... "เธอ" ... ผู้หญิงคนหนึ่งที่เรียนไม่จบแม้แต่ปริญญาตรี
แด่เธอ ... ครูวิชาการบริหารจัดการคนแรกในชีวิตของผม
แม่ครับ ... ผมรักแม่ ...
ปล 1. เธอเคยบอกว่าครูวิชาการบริหารจัดการของเธอ(ยายของผม)จบแค่ป. 4 เขียนหนังสือเป็นแค่ชื่อตัวเอง (ที่ประกอบด้วยพยัญชนะ 1 ตัว กับ สระอีก 1 ตัว ... !)
ปล 2. เธอชอบอวดเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องว่า เธอเลี้ยงพวกเราแบบ "ชีวิตต้นทุนต่ำ" (Low Cost Life)
ถ้าอยากรู้จัก "เธอ" ของผม และวีรกรรมของเธอมากกว่านี้ ตามไปรู้จักเธอได้ที่
แด่เธอ ... ผู้หญิงคนหนึ่ง คนที่ตายแทนผมได้ แม้ว่าผมจะไม่ต้องการ ... เธอ ... ผู้หญิงที่สวยที่สุดตลอดกาลของผม
bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=12-02-2011&group=2&gblog=23
เมื่อถึงวันที่เขาเข้าใจ ... เขานั่งน้ำตาไหลอยู่เงียบๆคนเดียว (... แด่สองมือทุกคู่ที่ไกวเปล)
bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=17-08-2011&group=2&gblog=24
และนี่ครับ วีรกรรมของผู้ชายของเธอ
ผมถามพ่อว่า พ่อไม่กลัวหรือ พ่อตอบว่า "ถ้าพ่อไม่ทำแล้วใครจะทำ"
bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=30-10-2011&group=2&gblog=25