อะไรจะเกิดขึ้น...ถ้าคนไทยไม่รู้จัก "ออม" ....ซูม ไทยรัฐ

อะไรจะเกิดขึ้น...ถ้าคนไทยไม่รู้จัก "ออม"

เมื่อ 2 วันก่อนท่านรองเลขาธิการสภาพัฒน์ คุณสุวรรณี คำมั่น ได้ออกมาแถลงให้ทราบถึงข้อมูลและตัวเลขที่มีความสำคัญยิ่งต่อทิศทางการพัฒนาประเทศไทยของเราในอนาคต

เป็นตัวเลขเกี่ยวกับภาระหนี้สินของครัวเรือนไทยและอุปนิสัยการใช้จ่ายเงินของคนไทยเรานี่แหละครับ

ท่านรองฯระบุว่า ครัวเรือนไทยถึง 45 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็นตัวเลขคร่าวๆประมาณ 9 ล้านกว่าครัวเรือน ไม่มีความสามารถในการออม

ทั้งนี้ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ครัวเรือนไทยยังคงมีการก่อหนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมียอดคงค้างสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นถึง 21.6 เปอร์เซ็นต์

ขณะเดียวกัน การผิดนัดชำระหนี้ก็อยู่ในระดับสูง เห็นได้จากการผิดนัดชำระหนี้เกิน 3 เดือนของสินเชื่อบุคคลเพิ่มขึ้น 28.1 เปอร์เซ็นต์

เมื่อหนี้เพิ่มขึ้นโอกาสออม หรือความสามารถในการออมก็ลด ท่านรองเลขาธิการฯระบุว่า อัตราการออมของคนไทยเราโดยเฉลี่ยต่ำมาก ดูจากข้อมูลรายได้ประชาชาติปี 2554 การออมของครัวเรือนไทยมีสัดส่วนเพียง 5.29 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีเท่านั้นเอง

ข้อเสียของการที่ครัวเรือนไม่มีเงินออมก็คือ เมื่อสมาชิกครัวเรือนแก่ตัวลงจะไม่มีเงินพอเพียงในการดูแลตัวเองในยามชราภาพ

แม้รัฐจะช่วยดูแลให้บ้างแต่ก็น้อยมาก ...ใช้สำนวนแบบไทยๆก็คือไม่พอยาไส้นั่นแหละครับ

หากไม่หาทางอดออมเก็บเล็กผสมน้อยเอาไว้ตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มเป็นสาวรับรองแก่ตัวจะต้องลำบากแน่นอน

ทุกวันนี้คนไทยเราได้รับการปรนเปรอจนเคยตัวจากรัฐบาลให้รู้จักแต่การใช้เงินและให้บริโภคอย่างฟุ่มเฟือย เพราะไปหลงเชื่อในทฤษฎีที่ว่า การใช้จ่ายเงินจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เกิดการหมุนเวียนมากขึ้น

มีการอัดฉีดเงินลงไปยกใหญ่ หาแหล่งเงินกู้มาให้ประชาชนขนานใหญ่ พร้อมด้วยจัดหาโครงการประชานิยมมาล่อใจให้ประชาชนฟุ้งเฟ้อโครงการแล้วโครงการเล่า

โดยลืมไปว่ามาตรการเหล่านี้เป็นมาตรการอันตราย แม้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็จริง แต่ก็จะมีผลเสียอย่างแรงโดยเฉพาะผลเสียในแง่ทำให้ประชาชนเคย ตัวหนักไม่เอาเบาไม่สู้ในอนาคต

ประเทศต่างๆทั่วโลกเขาจะอัดฉีดเงินประเภทนี้แต่พองาม หรือพอให้กระตุ้นเศรษฐกิจได้เท่านั้น จากนั้นเขาก็จะหยุดทันที พร้อมกับหันมาใช้มาตรการทางด้านประหยัดรัดเข็มขัด

จะต้องประหยัดกันตั้งแต่รัฐบาลลงไปจนถึงประชาชน เพื่อให้ประเทศชาติอยู่รอดได้

ตรงข้ามกับของเราที่เอาแต่อัดฉีดเอาแต่กระตุ้นโดยอ้างว่ายังมีช่องว่างที่รัฐบาลจะก่อหนี้ได้อีกเยอะ

ประชาชนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็เลยติดนิสัย ก่อหนี้ไปด้วย จนในที่สุดก็เกิดภาวะหนี้สินท่วมตัว ขาดความสามารถในการออม และมีอัตราออมที่ต่ำมาก ดังที่ท่านรองเลขาธิการสภาพัฒน์ท่านบอกไว้

ไม่มีประเทศใดในโลกที่จะพัฒนาได้อย่างถาวรและยั่งยืน ถ้าอัตราการออมในประเทศต่ำ

ผมก็ได้แต่หวังว่าตัวเลขและข้อมูลต่างๆ ที่ท่านรองฯนำมาแถลงครั้งนี้จะเป็นเครื่องเตือนใจให้พี่น้องประชาชนหันมาเก็บหอมรอมริบมากขึ้น และเชื่อมั่นในทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ที่เป็นของจริงมากขึ้น

เลิกฟุ่มเฟือย เลิกใช้จ่ายเกินตัว หันมาประหยัด หันมาอดออมเพื่อความอยู่รอดของครัวเรือนไทยเราที่เป็นหนี้เป็นสินมากมายในขณะนี้

นอกจากเรียนเตือนพี่น้องประชาชนแล้วก็ถือโอกาสเรียนเตือนรัฐบาลด้วยว่าอย่าประมาท อย่านึกว่าท่านยังมีความสามารถที่จะก่อหนี้ได้ จึงมุ่งแต่จะสร้างหนี้แบบไม่บันยะบันยังและมีแต่โครงการประชานิยมออกมาเรื่อยๆไม่รู้จักจบสิ้นเสียที

ครัวเรือนไทยมีหนี้สินล้นพ้นตัวสักครึ่งหนึ่งของประเทศ... ประเทศชาติก็ยังไม่พังครืนเพราะแสดงว่ายังมีครัวเรือนอีกครึ่งหนึ่งที่มีความสามารถในการออมมาช่วยตู๊ไว้

แต่รัฐบาลไทยมีหนึ่งเดียวนะครับถ้าเป็นหนี้สินล้นพ้นตัวเมื่อไหร่ก็จบเลยทันที...เข้าใจหรือยังล่ะครับว่าทำไมผมถึงเป็นห่วงนักหนา และได้เรียนเตือนรัฐบาลมาตลอดทั้งทางอ้อมและทางตรงด้วยประการฉะนี้แล.



“ซูม”

ไทยรัฐออนไลน์

    โดย ซูม
    1 มีนาคม 2556, 05:00 น.

...............................................................................................................

รัฐบาลนี้  ใครจะเตือนเรื่องใช้เงินมือเติบ.... เป็นไม่ฟังใคร   ตั้งแต่องค์กรระดับโลกมาจนถึงในประเทศ

....หรือถ้าไม่ใช้เงินหลวงแล้วมันอดหยาก "ไส้แห้ง"  ไปตามๆ กัน ทั้งนายทั้งลูกกระเป๋งสอพลอ

ประหยัด พอเพียง......ฝันไปเถอะ  ....เงินงบประมาณ เงินหลวง ก็เหมืองเงินกรู  ไม่รีบแดก พอตกกระป๋องก็อด   ไม่เอาก็โง่......  คิดแบบนี้ไง คนเลว "ทำลายชาติ".......

โกง คอรัปชั่น จนติดอันดับต้นๆ ของโลก .....   ดูอย่าง ปลัดกระทรวง ที่ตอนนี้หายตัวเป็นขุนแผนเถอะ  ฝีมือรัฐมนตรีแบบไหนละ แต่งตั้ง "ดัน" ขึ้นมา   ดูลูกน้อง ก็ย้อนไปดูตัวนายมันได้ !

พวกเชียร์บ้าพลัง ก็หลับหูหลับตาเชียร์กันเข้าไป  !
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่