ฉันต้องขออนุญาตเล่าเหตุการณ์ยาวหน่อยนะคะ เพื่อเป็นรายละเอียดให้กับเพื่อนๆได้เสนอแนะความคิดเห็นค่ะ
เหตุการณ์ที่ทุกท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ แฟนของฉันก็รับรู้เรื่องราวทั้งหมดเช่นกัน ซึ่งทำให้เป็นปัญหาคาราคาซังกันจนถึงทุกวันนี้
ตอนเรียนสมัยมัธยม ฉันได้รู้จักกับผู้ชายคนนึง เขาอายุน้อยกว่าฉัน 2 ปี เราสองคนคุยกัน คบกัน มีความรู้สึกดีๆต่อกัน แต่ไม่เคยมีอะไรเกินเลยเป็นแค่ความรักในวัยเด็ก หลังจากที่ฉันเรียนจบ เราก็ไม่เคยติดต่อกันอีกเลย จนกระทั่ง 13 ปีต่อมา ฉันได้เจอกับเขาทาง Facebook เราสองคนคุยกันผ่านแชท และมีคุยโทรศัพท์กันบ้าง คุยกันได้ยังไม่ถึงเดือน แล้วก็มาถึงวันที่เกิดเรื่อง..อยู่มาวันนึง เขาบอกว่าเขาพึ่งได้ลากลับจากค่ายทหาร เขาอยากเจอฉัน และตอนนี้เขาอยู่บ้านญาติใกล้ที่ทำงานของฉัน อยากให้ฉันเข้าไปหา วันนั้นหลังเลิกงาน ฉันตัดสินใจแวะเข้าไปหาเขา เราคุยกันแบบห่างเหิน ไม่สนิทสนมเหมือนที่เคยคุยกันตอนเรียน ฉันรู้สึกดีใจที่ได้เจอเขาอีกครั้ง ฉันรู้สึกชอบเขาอย่างบอกไม่ถูก เรานั่งคุยกันซักพัก แล้วฉันก็ขอตัวกลับบ้าน เขาเอ่ยปากชวนฉันไปกินข้าวที่ร้านอาหาร เขาบอกว่านัดเพื่อนไว้หลายคน เป็นเพื่อนที่รู้จักกันที่ค่ายทหาร เพื่อนๆและเขาลากลับบ้านมาครั้งนี้ก็เลยนัดเจอกัน และอยากให้ฉันไปด้วย ฉันตัดสินใจไป..เราต่างคนต่างขับรถของตัวเองไปเจอกันที่ร้านอาหาร ฉันบอกกับที่บ้านว่า ฉันจะไปนอนบ้านป้า ที่ฉันต้องปิดบังความจริง เพราะครอบครัวฉัน พ่อกับแม่หวงลูกสาวมาก ถึงอายุฉันนั้นจะไม่ใช่น้อยๆแล้ว แต่แม่ก็ห้าม ไม่ให้ไปเที่ยวกลางคืนตามลำพัง พอเราสองคนไปถึงร้านอาหาร ที่โต๊ะ..ฉันได้เจอกับเพื่อนๆของเขา ( หนึ่งในนั้น มีแฟนคนปัจจุบันของฉัน)
เรากำลังจะแยกย้ายกันกลับ ฉันมองดูเวลา ก็เกือบตีหนึ่งแล้ว ถ้ากลับไปบ้านป้าตอนนี้ ต้องโดนสวดยาวแน่ ฉันจึงตัดสินใจไปหาโรงแรมนอน โดยบอกเขาว่าช่วยหาที่พักที่ค่อนข้างปลอดภัยให้หน่อย เขาก็ไปส่งฉันที่โรงแรม พอไปถึงที่โรงแรม ในขณะที่เช็คอิน เขาบอกฉันว่า คืนนี้เขากลับบ้านไม่ได้ เพราะถ้ากลับตอนนี้ ต้องโดนแม่ด่าแน่ เนื่องจากพึ่งลากลับบ้าน แต่ออกไปเที่ยวดึกดื่น เขายังยืนยันจะนอนที่โรงแรม ด้วยความที่ไว้ใจ เชื่อใจเขา ฉันเลยเปิดห้องนอนสองเตียง พอขึ้นไปบนห้อง เราต่างคนต่างทำธุระส่วนตัว แล้วก็ไปนอนคนละเตียง ขณะที่ฉันกำลังจะหลับ เขาถามฉันว่า ขอย้ายไปนอนเตียงเดียวกันด้วยได้ไหม เขาหนาว ฉันเลยบอกว่าหนาวก็ให้ปิดพัดลม แต่เขากลับลุกขึ้นมาทันที มานอนข้างๆฉัน แล้วพูดว่าขอกอดหน่อยนะ พร้อมกับเอามือมาสวมกอดฉัน ฉันบอกกับเขาว่า ขอร้องล่ะ อย่าทำแบบนี้เลย แต่เขาไม่ฟัง เขาพยายามละลาบละล้วง ฉันจึงดิ้น ขัดขืนเขา ฉันได้แต่ขอร้องว่าอย่าทำอย่างนี้เลย ฉันดิ้น ขัดขืนเขาอยู่นาน แต่ก็สู้แรงเขาไม่ไหว เลยเถิดมาจนเสื้อผ้าถูกถอดออกหมด แต่ยังคงปัดป้องไม่ให้เขากระทำ จนเขาหมดความพยายาม เขาบอกกับฉันว่า เขาจะนอนแล้ว และเขาก็หลับไป ฉันจึงรีบใส่เสื้อผ้า แล้วย้ายไปนอนอีกเตียง ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน ได้แต่คิด ทบทวนเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น โทษตัวเองว่าไว้ใจเขามากไป ทำให้เกิดเหตุการณ์เลยเถิดมาขนาดนี้ พอรุ่งเช้า..ฉันกำลังจะออกจากห้อง เขาตื่นขึ้นมา ฉันเลยถามเขาว่า เมื่อคืนจำได้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่าเขาเมา แต่เขาจำได้หมดทุกอย่าง ฉันถามว่า เขาคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงทำอย่างนั้น แต่เขาไม่ตอบ กลับบอกฉันว่าขับรถดีๆนะ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน แล้วเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ฉันรู้สึกเจ็บใจที่โดนหลอก พยายามจะตัดใจจากเขา แต่อีกใจนึงก็ยังคงมีใจชอบเขาอยู่ คิดอยากจะเอาชนะ เพื่อจะให้ได้ความรักจากเขา แต่สุดท้ายฉันคิดดีแล้ว ว่าควรยุติทุกอย่างลงเท่านี้
*****หลังจากเหตุการณ์วันนั้น 2 วัน ฉันก็เจอ Facebook ของเพื่อนรุ่นน้องของเขา ที่เจอกันวันที่ไปร้านอาหาร (คนนี้แหละค่ะ คือแฟนคนปัจจุบัน ที่รับอดีตของฉันไม่ได้)*****
ขอเล่าเหตุการณ์ซักหน่อยนะคะ เพราะมันจะเชื่อมโยงกับผู้ชายคนที่ฉันชอบในตอนแรก เป็นเหตุการณ์ที่ฉันเริ่มรู้จักกับแฟนค่ะ
ฉันกับแฟน เขาอายุน้อยกว่าฉัน 4 ปี เราเริ่มต้นคุยกันแบบพี่สาว น้องชาย ด้วยการทักทายจากฉันก่อนว่า “จำพี่ได้มั้ยคะ ที่เราเจอกันที่ร้านวันนั้น” หลังจากนั้นเราก็คุยกันผ่านทาง Facebook ทุกวัน ขณะนั้นยังไม่ได้คบกันเป็นแฟนนะคะ ฉันเริ่มเอ่ยปากถามถึงเรื่องผู้ชายคนนั้น แฟนฉันเล่าให้ฟังว่า เขาสองคนเป็นเพื่อนต่างรุ่น รู้จักกันที่ค่ายทหาร เคยเล่นกีต้าร์ด้วยกันบ่อยๆ ด้วยนิสัยที่เป็นคนเปิดเผย ฉันจึงเล่าเรื่องส่วนตัวให้เขาฟังหลายเรื่อง เริ่มแรกที่รู้จักกันฉันบอกกับแฟนว่าฉันเคยแต่งงานมาแล้ว แต่ไม่มีลูก ฉันเริ่มเปิดใจคุยถึงเหตุการณ์ที่ผู้ชายคนนั้นทำกับฉัน เล่าให้แฟนฟังเป็นฉากๆ ฉันเล่าให้เขาฟังทั้งหมด โดยไม่คิดว่าเรื่องราวเหล่านั้นจะกลายเป็นหอกทิ่มแทงใจเราทั้งสองคนจนถึงทุกวันนี้ ฉันกับแฟนคุยกันได้ประมาณ 1 เดือนครึ่ง ก็ได้พัฒนาความสัมพันธ์ขึ้น เราโทรคุยกัน เขาร้องเพลง เล่นกีต้าร์ให้ฉันฟัง ฉันมีความสุขมาก เราได้เจอกันเป็นครั้งที่สอง ในช่วงปีใหม่ พ.ศ. 2555 ฉันรู้สึกตกหลุมรักเขาเสียแล้ว ฉันกับแฟน เราสองคนคบกันโดยที่เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องอดีตของฉันเลยแม้แต่น้อย แม้แต่เรื่องเคยแต่งงานมาแล้ว เขาเคยบอกว่าเขารับได้ แต่เราสองคนก็คบๆเลิกๆกันถึงสามครั้ง ด้วยเหตุผลที่แฟนฉันไปมีผู้หญิงคนอื่น ทะเลาะกันจนเลิก แล้วก็กลับมาคบกันใหม่ จนกระทั่งรวมระยะเวลาที่รู้จักกันได้ 6-7 เดือน เขาบอกว่าเขารักฉันมาก และเขาเริ่มขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตของฉันกับผู้ชายคนนั้น เขาซักไซ้ไล่เรียงเหตุการณ์เป็นลำดับ ให้ฉันอธิบายโดยละเอียด ว่าผู้ชายคนนั้นทำอะไรกับฉันบ้าง และฉันรู้สึกกับเหตุการณ์นั้นยังไง ฉันก็ตอบไปตามตรง โดยบางคำ บางประโยคค่อนข้างจะแทงใจดำเขาอยู่เหมือนกัน
เขาชอบตั้งคำถามกับฉันว่า
“ทำไมคุณถึงใจง่ายไปกับมัน เจอกันแค่วันเดียวคุณกล้าไปกับมันได้ยังไง ทำไมตอนอยู่ที่โรงแรมคุณถึงไม่หนีออกมา ทำไมคุณถึงปล่อยให้มันทำกับคุณได้ขนาดนั้น หรือคุณอยาก xxx กับมัน วันนั้นที่ร้านอาหาร ผมไม่น่าไปเจอคุณกับมันเลย ผมจะไม่ได้ต้องมาเครียดกับเรื่องแบบนี้ หรือไม่ก็คุณน่าจะ xxx กับมันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ผมจะได้ไม่ต้องมาคบกับคุณตั้งแต่แรก”
เขาบอกว่า สิ่งที่เขาต้องการ คือ..
"ผมคิดว่าต่อไปในอนาคต ผมกับคุณต้องมีปัญหากันเรื่องนี้ ซ้ำๆซากๆแน่นอน ผมอยากให้คุณเล่ามาให้หมด เอาเรื่องจริงทุกรายละเอียด ถ้าคุณไม่อยากให้ผมคิดไปเอง คุณก็ต้องเล่ามาให้หมด ผมจะได้สบายใจ คุณเป็นฝ่ายเสียหาย ผู้ชายรับไม่ได้หรอกกับเรื่องแบบนี้ แค่คุณมีตำหนิเรื่องแต่งงานก็มากเกินพอแล้ว นี่คุณยังมามีเรื่องเสียหายแบบนี้อีก ผมรับไม่ได้ บางครั้งผมคิดเรื่องนี้แล้วอยากจะเลิกกับคุณให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่พอเลิกคิด ผมกลับคิดถึงคุณ กลับรักคุณ"
พอฉันถามเขาว่า "ทำไมตอนคบกันเป็นแฟนแรกๆ คุณไม่เห็นพูดถึงอดีตของฉันเลย" เขาตอบว่า
"เพราะตอนนั้น ผมไม่ได้รักคุณไง แต่ตอนนี้ผมรักคุณมาก ทำให้ผมยิ่งต้องคิดมาก บางครั้งผมแค่นึกถึงอดีตขึ้นมาเฉยๆ แต่ก็ผ่านไป แต่บางครั้งมันทำให้ผมคิดมาก เครียด นอนไม่หลับ บางทีผมก็ระแวงว่าคุณยังคิดถึงมันอยู่ ถ้ามันเป็นคนที่ผมไม่รู้จัก ผมจะไม่เครียดเลย แต่นี่มันคนรู้จักผม"
เราสองคน ทะเลาะกันเรื่องนี้ตลอด ไม่มีเดือนไหนที่ฉันไม่ร้องไห้ บางครั้งฉันท้อมาก อยากจะจบเรื่องราวของเราไว้แค่นี้ แต่ฉันรักเขามาก ฉันคงทำใจไม่ได้แน่ๆถ้าจะต้องเสียเขาไป เขาเคยบอกว่า จะพยายามทำใจให้ได้กับเรื่องอดีตของฉัน เราจะมองอนาคตด้วยกัน แต่ฉันก็ยังไม่เห็นเขาจะทำได้เสียที เขาคิดว่าที่ฉันเล่ามาทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก เขาชอบคิดไปเองว่าฉันมีความสุขที่ได้อยู่บนที่นอนกับผู้ชายคนนั้น ทุกครั้งที่เขาตั้งคำถามขึ้นมา เขาจะบอกเสมอว่าสิ่งที่ฉันเล่าในครั้งนี้ มันขัดแย้งกับสิ่งที่ฉันเคยเล่าในครั้งแรก ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ฉันไม่ได้จดจำรายละเอียดขนาดนั้น บางครั้งก็ไม่อยากเอามาพูดแล้ว รู้สึกเหมือนประจานตัวเอง ฉันก็เลยเล่าได้ไม่ละเอียด ยิ่งทำให้เขาเข้าใจผิด คิดมากไปใหญ่ เรื่องราวมันก็ผ่านมาเป็นปีแล้ว ทำให้ฉันลืมไปบ้างก็มี แต่เขากลับคิดว่าฉันจงใจจะปิดบังความจริง หาคำพูดโกหกมาอธิบาย เพื่อให้เขาสบายใจ เราสองคนเลยทะเลาะกันทุกครั้งที่คุยเรื่องนี้ ทุกครั้งที่คุยเรื่องอดีต เขาจะลงท้ายเสมอ ด้วยประโยคที่ว่า ในเมื่อเรื่องราวยังไม่กระจ่าง ผมก็ยังคงต้องถามคำถามคุณซ้ำๆอีก
สรุปคร่าวๆนะคะ เล่ารายละเอียดมาซะยาว
แฟนเรากับผู้ชายคนในเหตุการณ์ข้างต้น เขาเป็นเพื่อนกัน ทั้งสองคนรู้จักกันที่ค่ายทหาร แต่ไม่ได้สนิทกันมาก แฟนเราเขารับไม่ได้กับเหตุการณ์ในอดีตของเรา ที่เราเกือบไปมีอะไรกันกับคนรู้จักเขา ถึงแม้ว่าเราจะอธิบายว่าเหตุการณ์มันเกิดก่อนหน้าที่ฉันจะรู้จักกับคุณ แต่แฟนบอกว่าเหตุการณ์จะเกิดก่อนเกิดหลังที่คบกันก็ไม่เกี่ยว เพราะคุณเป็นผู้หญิง เป็นฝ่ายเสียหาย ยากที่จะรับได้
ฉัน..ทำดีมาตลอดเวลาที่คบกับเขา เขาเคยนอกใจฉัน เคยโกหกฉัน เคยปิดบังความจริงบางอย่าง แต่พอฉันมารู้ทีหลัง ฉันให้อภัยเขาทุกครั้ง ส่วนเรื่องอดีตที่เลวร้ายของเขา ฉันเคยคิดมากจนเลิกคิดไปแล้ว ส่วนฉันเองไม่เคยนอกใจหรือมีเรื่องอื่นๆให้เขาต้องคิดมากนอกจากเรื่องอดีตเลย ฉันก็ได้แต่หวังว่าซักวัน ความดีที่ฉันทำ ความรักที่มีให้เขา ความผูกพันของเราสองคน มันอาจจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นมาได้...อยากให้ซักวันเขารับอดีตของฉันได้เสียที เราจะได้ไม่ต้องทะเลาะกันเรื่องอดีตอีก ถ้าฉันย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ ฉันคงทำให้คุณไปแล้ว...
***ฉันอยากจะขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆ ว่าเพื่อนๆคิดกันอย่างไรบ้าง และมีข้อเสนอแนะอะไรบ้างคะ***
แฟนชอบเอาเรื่องเก่าๆในอดีตขึ้นมาถาม ทำให้เกิดปัญหาทะเลาะกันบ่อยมาก อยากขอความคิดเห็นค่ะ
เหตุการณ์ที่ทุกท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ แฟนของฉันก็รับรู้เรื่องราวทั้งหมดเช่นกัน ซึ่งทำให้เป็นปัญหาคาราคาซังกันจนถึงทุกวันนี้
ตอนเรียนสมัยมัธยม ฉันได้รู้จักกับผู้ชายคนนึง เขาอายุน้อยกว่าฉัน 2 ปี เราสองคนคุยกัน คบกัน มีความรู้สึกดีๆต่อกัน แต่ไม่เคยมีอะไรเกินเลยเป็นแค่ความรักในวัยเด็ก หลังจากที่ฉันเรียนจบ เราก็ไม่เคยติดต่อกันอีกเลย จนกระทั่ง 13 ปีต่อมา ฉันได้เจอกับเขาทาง Facebook เราสองคนคุยกันผ่านแชท และมีคุยโทรศัพท์กันบ้าง คุยกันได้ยังไม่ถึงเดือน แล้วก็มาถึงวันที่เกิดเรื่อง..อยู่มาวันนึง เขาบอกว่าเขาพึ่งได้ลากลับจากค่ายทหาร เขาอยากเจอฉัน และตอนนี้เขาอยู่บ้านญาติใกล้ที่ทำงานของฉัน อยากให้ฉันเข้าไปหา วันนั้นหลังเลิกงาน ฉันตัดสินใจแวะเข้าไปหาเขา เราคุยกันแบบห่างเหิน ไม่สนิทสนมเหมือนที่เคยคุยกันตอนเรียน ฉันรู้สึกดีใจที่ได้เจอเขาอีกครั้ง ฉันรู้สึกชอบเขาอย่างบอกไม่ถูก เรานั่งคุยกันซักพัก แล้วฉันก็ขอตัวกลับบ้าน เขาเอ่ยปากชวนฉันไปกินข้าวที่ร้านอาหาร เขาบอกว่านัดเพื่อนไว้หลายคน เป็นเพื่อนที่รู้จักกันที่ค่ายทหาร เพื่อนๆและเขาลากลับบ้านมาครั้งนี้ก็เลยนัดเจอกัน และอยากให้ฉันไปด้วย ฉันตัดสินใจไป..เราต่างคนต่างขับรถของตัวเองไปเจอกันที่ร้านอาหาร ฉันบอกกับที่บ้านว่า ฉันจะไปนอนบ้านป้า ที่ฉันต้องปิดบังความจริง เพราะครอบครัวฉัน พ่อกับแม่หวงลูกสาวมาก ถึงอายุฉันนั้นจะไม่ใช่น้อยๆแล้ว แต่แม่ก็ห้าม ไม่ให้ไปเที่ยวกลางคืนตามลำพัง พอเราสองคนไปถึงร้านอาหาร ที่โต๊ะ..ฉันได้เจอกับเพื่อนๆของเขา ( หนึ่งในนั้น มีแฟนคนปัจจุบันของฉัน)
เรากำลังจะแยกย้ายกันกลับ ฉันมองดูเวลา ก็เกือบตีหนึ่งแล้ว ถ้ากลับไปบ้านป้าตอนนี้ ต้องโดนสวดยาวแน่ ฉันจึงตัดสินใจไปหาโรงแรมนอน โดยบอกเขาว่าช่วยหาที่พักที่ค่อนข้างปลอดภัยให้หน่อย เขาก็ไปส่งฉันที่โรงแรม พอไปถึงที่โรงแรม ในขณะที่เช็คอิน เขาบอกฉันว่า คืนนี้เขากลับบ้านไม่ได้ เพราะถ้ากลับตอนนี้ ต้องโดนแม่ด่าแน่ เนื่องจากพึ่งลากลับบ้าน แต่ออกไปเที่ยวดึกดื่น เขายังยืนยันจะนอนที่โรงแรม ด้วยความที่ไว้ใจ เชื่อใจเขา ฉันเลยเปิดห้องนอนสองเตียง พอขึ้นไปบนห้อง เราต่างคนต่างทำธุระส่วนตัว แล้วก็ไปนอนคนละเตียง ขณะที่ฉันกำลังจะหลับ เขาถามฉันว่า ขอย้ายไปนอนเตียงเดียวกันด้วยได้ไหม เขาหนาว ฉันเลยบอกว่าหนาวก็ให้ปิดพัดลม แต่เขากลับลุกขึ้นมาทันที มานอนข้างๆฉัน แล้วพูดว่าขอกอดหน่อยนะ พร้อมกับเอามือมาสวมกอดฉัน ฉันบอกกับเขาว่า ขอร้องล่ะ อย่าทำแบบนี้เลย แต่เขาไม่ฟัง เขาพยายามละลาบละล้วง ฉันจึงดิ้น ขัดขืนเขา ฉันได้แต่ขอร้องว่าอย่าทำอย่างนี้เลย ฉันดิ้น ขัดขืนเขาอยู่นาน แต่ก็สู้แรงเขาไม่ไหว เลยเถิดมาจนเสื้อผ้าถูกถอดออกหมด แต่ยังคงปัดป้องไม่ให้เขากระทำ จนเขาหมดความพยายาม เขาบอกกับฉันว่า เขาจะนอนแล้ว และเขาก็หลับไป ฉันจึงรีบใส่เสื้อผ้า แล้วย้ายไปนอนอีกเตียง ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน ได้แต่คิด ทบทวนเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น โทษตัวเองว่าไว้ใจเขามากไป ทำให้เกิดเหตุการณ์เลยเถิดมาขนาดนี้ พอรุ่งเช้า..ฉันกำลังจะออกจากห้อง เขาตื่นขึ้นมา ฉันเลยถามเขาว่า เมื่อคืนจำได้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่าเขาเมา แต่เขาจำได้หมดทุกอย่าง ฉันถามว่า เขาคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงทำอย่างนั้น แต่เขาไม่ตอบ กลับบอกฉันว่าขับรถดีๆนะ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน แล้วเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ฉันรู้สึกเจ็บใจที่โดนหลอก พยายามจะตัดใจจากเขา แต่อีกใจนึงก็ยังคงมีใจชอบเขาอยู่ คิดอยากจะเอาชนะ เพื่อจะให้ได้ความรักจากเขา แต่สุดท้ายฉันคิดดีแล้ว ว่าควรยุติทุกอย่างลงเท่านี้
*****หลังจากเหตุการณ์วันนั้น 2 วัน ฉันก็เจอ Facebook ของเพื่อนรุ่นน้องของเขา ที่เจอกันวันที่ไปร้านอาหาร (คนนี้แหละค่ะ คือแฟนคนปัจจุบัน ที่รับอดีตของฉันไม่ได้)*****
ขอเล่าเหตุการณ์ซักหน่อยนะคะ เพราะมันจะเชื่อมโยงกับผู้ชายคนที่ฉันชอบในตอนแรก เป็นเหตุการณ์ที่ฉันเริ่มรู้จักกับแฟนค่ะ
ฉันกับแฟน เขาอายุน้อยกว่าฉัน 4 ปี เราเริ่มต้นคุยกันแบบพี่สาว น้องชาย ด้วยการทักทายจากฉันก่อนว่า “จำพี่ได้มั้ยคะ ที่เราเจอกันที่ร้านวันนั้น” หลังจากนั้นเราก็คุยกันผ่านทาง Facebook ทุกวัน ขณะนั้นยังไม่ได้คบกันเป็นแฟนนะคะ ฉันเริ่มเอ่ยปากถามถึงเรื่องผู้ชายคนนั้น แฟนฉันเล่าให้ฟังว่า เขาสองคนเป็นเพื่อนต่างรุ่น รู้จักกันที่ค่ายทหาร เคยเล่นกีต้าร์ด้วยกันบ่อยๆ ด้วยนิสัยที่เป็นคนเปิดเผย ฉันจึงเล่าเรื่องส่วนตัวให้เขาฟังหลายเรื่อง เริ่มแรกที่รู้จักกันฉันบอกกับแฟนว่าฉันเคยแต่งงานมาแล้ว แต่ไม่มีลูก ฉันเริ่มเปิดใจคุยถึงเหตุการณ์ที่ผู้ชายคนนั้นทำกับฉัน เล่าให้แฟนฟังเป็นฉากๆ ฉันเล่าให้เขาฟังทั้งหมด โดยไม่คิดว่าเรื่องราวเหล่านั้นจะกลายเป็นหอกทิ่มแทงใจเราทั้งสองคนจนถึงทุกวันนี้ ฉันกับแฟนคุยกันได้ประมาณ 1 เดือนครึ่ง ก็ได้พัฒนาความสัมพันธ์ขึ้น เราโทรคุยกัน เขาร้องเพลง เล่นกีต้าร์ให้ฉันฟัง ฉันมีความสุขมาก เราได้เจอกันเป็นครั้งที่สอง ในช่วงปีใหม่ พ.ศ. 2555 ฉันรู้สึกตกหลุมรักเขาเสียแล้ว ฉันกับแฟน เราสองคนคบกันโดยที่เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องอดีตของฉันเลยแม้แต่น้อย แม้แต่เรื่องเคยแต่งงานมาแล้ว เขาเคยบอกว่าเขารับได้ แต่เราสองคนก็คบๆเลิกๆกันถึงสามครั้ง ด้วยเหตุผลที่แฟนฉันไปมีผู้หญิงคนอื่น ทะเลาะกันจนเลิก แล้วก็กลับมาคบกันใหม่ จนกระทั่งรวมระยะเวลาที่รู้จักกันได้ 6-7 เดือน เขาบอกว่าเขารักฉันมาก และเขาเริ่มขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตของฉันกับผู้ชายคนนั้น เขาซักไซ้ไล่เรียงเหตุการณ์เป็นลำดับ ให้ฉันอธิบายโดยละเอียด ว่าผู้ชายคนนั้นทำอะไรกับฉันบ้าง และฉันรู้สึกกับเหตุการณ์นั้นยังไง ฉันก็ตอบไปตามตรง โดยบางคำ บางประโยคค่อนข้างจะแทงใจดำเขาอยู่เหมือนกัน
เขาชอบตั้งคำถามกับฉันว่า
“ทำไมคุณถึงใจง่ายไปกับมัน เจอกันแค่วันเดียวคุณกล้าไปกับมันได้ยังไง ทำไมตอนอยู่ที่โรงแรมคุณถึงไม่หนีออกมา ทำไมคุณถึงปล่อยให้มันทำกับคุณได้ขนาดนั้น หรือคุณอยาก xxx กับมัน วันนั้นที่ร้านอาหาร ผมไม่น่าไปเจอคุณกับมันเลย ผมจะไม่ได้ต้องมาเครียดกับเรื่องแบบนี้ หรือไม่ก็คุณน่าจะ xxx กับมันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ผมจะได้ไม่ต้องมาคบกับคุณตั้งแต่แรก”
เขาบอกว่า สิ่งที่เขาต้องการ คือ..
"ผมคิดว่าต่อไปในอนาคต ผมกับคุณต้องมีปัญหากันเรื่องนี้ ซ้ำๆซากๆแน่นอน ผมอยากให้คุณเล่ามาให้หมด เอาเรื่องจริงทุกรายละเอียด ถ้าคุณไม่อยากให้ผมคิดไปเอง คุณก็ต้องเล่ามาให้หมด ผมจะได้สบายใจ คุณเป็นฝ่ายเสียหาย ผู้ชายรับไม่ได้หรอกกับเรื่องแบบนี้ แค่คุณมีตำหนิเรื่องแต่งงานก็มากเกินพอแล้ว นี่คุณยังมามีเรื่องเสียหายแบบนี้อีก ผมรับไม่ได้ บางครั้งผมคิดเรื่องนี้แล้วอยากจะเลิกกับคุณให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่พอเลิกคิด ผมกลับคิดถึงคุณ กลับรักคุณ"
พอฉันถามเขาว่า "ทำไมตอนคบกันเป็นแฟนแรกๆ คุณไม่เห็นพูดถึงอดีตของฉันเลย" เขาตอบว่า
"เพราะตอนนั้น ผมไม่ได้รักคุณไง แต่ตอนนี้ผมรักคุณมาก ทำให้ผมยิ่งต้องคิดมาก บางครั้งผมแค่นึกถึงอดีตขึ้นมาเฉยๆ แต่ก็ผ่านไป แต่บางครั้งมันทำให้ผมคิดมาก เครียด นอนไม่หลับ บางทีผมก็ระแวงว่าคุณยังคิดถึงมันอยู่ ถ้ามันเป็นคนที่ผมไม่รู้จัก ผมจะไม่เครียดเลย แต่นี่มันคนรู้จักผม"
เราสองคน ทะเลาะกันเรื่องนี้ตลอด ไม่มีเดือนไหนที่ฉันไม่ร้องไห้ บางครั้งฉันท้อมาก อยากจะจบเรื่องราวของเราไว้แค่นี้ แต่ฉันรักเขามาก ฉันคงทำใจไม่ได้แน่ๆถ้าจะต้องเสียเขาไป เขาเคยบอกว่า จะพยายามทำใจให้ได้กับเรื่องอดีตของฉัน เราจะมองอนาคตด้วยกัน แต่ฉันก็ยังไม่เห็นเขาจะทำได้เสียที เขาคิดว่าที่ฉันเล่ามาทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก เขาชอบคิดไปเองว่าฉันมีความสุขที่ได้อยู่บนที่นอนกับผู้ชายคนนั้น ทุกครั้งที่เขาตั้งคำถามขึ้นมา เขาจะบอกเสมอว่าสิ่งที่ฉันเล่าในครั้งนี้ มันขัดแย้งกับสิ่งที่ฉันเคยเล่าในครั้งแรก ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ฉันไม่ได้จดจำรายละเอียดขนาดนั้น บางครั้งก็ไม่อยากเอามาพูดแล้ว รู้สึกเหมือนประจานตัวเอง ฉันก็เลยเล่าได้ไม่ละเอียด ยิ่งทำให้เขาเข้าใจผิด คิดมากไปใหญ่ เรื่องราวมันก็ผ่านมาเป็นปีแล้ว ทำให้ฉันลืมไปบ้างก็มี แต่เขากลับคิดว่าฉันจงใจจะปิดบังความจริง หาคำพูดโกหกมาอธิบาย เพื่อให้เขาสบายใจ เราสองคนเลยทะเลาะกันทุกครั้งที่คุยเรื่องนี้ ทุกครั้งที่คุยเรื่องอดีต เขาจะลงท้ายเสมอ ด้วยประโยคที่ว่า ในเมื่อเรื่องราวยังไม่กระจ่าง ผมก็ยังคงต้องถามคำถามคุณซ้ำๆอีก
สรุปคร่าวๆนะคะ เล่ารายละเอียดมาซะยาว
แฟนเรากับผู้ชายคนในเหตุการณ์ข้างต้น เขาเป็นเพื่อนกัน ทั้งสองคนรู้จักกันที่ค่ายทหาร แต่ไม่ได้สนิทกันมาก แฟนเราเขารับไม่ได้กับเหตุการณ์ในอดีตของเรา ที่เราเกือบไปมีอะไรกันกับคนรู้จักเขา ถึงแม้ว่าเราจะอธิบายว่าเหตุการณ์มันเกิดก่อนหน้าที่ฉันจะรู้จักกับคุณ แต่แฟนบอกว่าเหตุการณ์จะเกิดก่อนเกิดหลังที่คบกันก็ไม่เกี่ยว เพราะคุณเป็นผู้หญิง เป็นฝ่ายเสียหาย ยากที่จะรับได้
ฉัน..ทำดีมาตลอดเวลาที่คบกับเขา เขาเคยนอกใจฉัน เคยโกหกฉัน เคยปิดบังความจริงบางอย่าง แต่พอฉันมารู้ทีหลัง ฉันให้อภัยเขาทุกครั้ง ส่วนเรื่องอดีตที่เลวร้ายของเขา ฉันเคยคิดมากจนเลิกคิดไปแล้ว ส่วนฉันเองไม่เคยนอกใจหรือมีเรื่องอื่นๆให้เขาต้องคิดมากนอกจากเรื่องอดีตเลย ฉันก็ได้แต่หวังว่าซักวัน ความดีที่ฉันทำ ความรักที่มีให้เขา ความผูกพันของเราสองคน มันอาจจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นมาได้...อยากให้ซักวันเขารับอดีตของฉันได้เสียที เราจะได้ไม่ต้องทะเลาะกันเรื่องอดีตอีก ถ้าฉันย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ ฉันคงทำให้คุณไปแล้ว...
***ฉันอยากจะขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆ ว่าเพื่อนๆคิดกันอย่างไรบ้าง และมีข้อเสนอแนะอะไรบ้างคะ***