สงสัย อัยการ กับ DSI จะติดคุกในเรื่องนี้

1

2


ข่าวเก่า

วันนี้ (14.00 น.) วันที่ 13 ก.พ. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ พร้อมนายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นหนังสือต่อ นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษและโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ขอให้นำตัวพ.ต.ท.สุวิชชัย หรือนายเกียรติกรณ์  แก้วผลึก พยานปากสำคัญในคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย ซึ่งถูกศาลมีนบุรีออกหมายจับในคดีฆ่าคนตาย และจำเลยต้องคำพิพากษาถึงที่สุด ให้กลับมาสืบพยานในประเทศไทย

พล.ต.ท.สมคิด กล่าวว่า ตนได้รับความเสียหายกระทบต่อสิทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรม ที่จะนำพยานมาสืบตามกระบวนการคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย อย่างถูกต้อง เนื่องจากพันตำรวจโทสุวิชชัย ได้หลบหนีคดีอาญาตามคำพิพากษาศาลมีนบุรี ซึ่งศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต และหลบหนีออกนอกประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่อัยการและเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ )ให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเรื่องนี้ศาลได้ทำเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีรับโทษตามคำพิพากษา

พล.ต.ท.สมคิด กล่าวต่อว่า มีข้อมูลว่ามีขบวนการนำพ.ต.ท.สุวิชชัย ออกนอกประเทศ และเปลี่ยนชื่อ ที่อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2555 ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ พนักงานอัยการ และมีการย้ายทะเบียนบ้าน รวมถึงสามารถทำหนังสือเดินทางได้ภายใน1วัน เมื่อปลายปี 2555 ทั้งที่อยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับศาลมีนบุรี ซึ่งตนขอตั้งข้อสังเกตุว่า รัฐบาลและนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ จะไม่รับรู้ได้อย่างไร

ด้านนายวินัย อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษและโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า คดีนี้ฝ่ายอัยการคดีพิเศษเป็นผู้ฟ้องและมีการสืบพยานมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมามีความพยายามที่จะสืบพยานที่ศาลอาญามาโดยตลอด แต่ไม่สามารถทำได้ จนกระทั่งศาลได้ตัดพยานปากนี้ออกไปแล้ว แต่เป็นพยานปากสำคัญ ซึ่งไม่ได้มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย จึงไม่สามารถทำได้จนกระทั่งทราบว่า ล่าสุดพยานได้อยู่ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ศาลจึงมีคำสั่งให้สืบพยานปากดังกล่าว ซึ่งกระบวนการนี้ อยู่ดุลยพินิจของศาลไม่ใช่อัยการ ส่วนพนักงานอัยการที่เกี่ยวข้องกับการนำพยานหลบหนีจริงหรือไม่นั้น จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบต่อไป.

เดลินิวส์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่