หัวไม่ส่าย หางก็ไม่กระดิก มันไม่ต่างอะไรกับคำโบราณที่ใช่คำว่า "นายว่า ขี้ข้าพลอย"

หาเสียงคราวนี้ ผู้สมัครและทีมงานทุกคน ต่างมีอัตตะลักษณ์เป็นของตนเอง บางคนเน้นการจราจร
บางคนเน้นความสุขในการอยู่ร่วมกัน แต่มีผู้สมัครและทีมงานอยู่ท่านหนึ่ง ที่เน้นอยู่แต่เรื่องการขุด
อดีต เมื่อหลายปีก่อน

ปากก็บอกว่า อยากเห็นประเทศชาติปรองดอง อยากเห็นประเทศชาติเดินหน้าต่อไปในอนาคต แต่
วิธีคิด วิธีพูด กลับเอาเรื่อง อดีต เอาเรื่องเผาบ้านเผาเมือง มาใช้ในการหาเสียง ชูวิธีเกลียดชังนำหน้า
ว่า ต้องเลือกฉัน เพราะ ทุกคนต้องเกลียดชังทักษิณ เกลียดชังข้าศึกที่จะมาตีเมือง แต่จะหานโยบาย
ที่จะทำให้ชีวิตคน กทม. 5-6 ล้านคนดีขึ้น สิบวันสุดท้ายก่อนเลือกตั้งกลับไม่ยอมพูดอะไรเลย

เคยพูดดูดี สั่งสอนคนอื่นว่า อยากจะให้ คนอื่น และ พรรคคู่แข่ง ก้าวพ้นจาก ทักษิณ แต่วิธีพูด วิธีคิด กลับ
ไม่เห็นว่า คนพูด จะหยุดพูดเรื่องทักษิณ

เมื่อไหร่ที่นายว่า ขี้ข้า สาวก สลิ่ม แมงสาป ก็ต้องพยายามพลอย ไม่มีอะไรพูด ไม่มีอะไรจะตั้งกระทู้ ด่าทักษิณ
ด่าเผาบ้านเผาเมืองไว้ก่อน สาวกตามมาเม้นท์ ตามมาไลค์ได้เสมอ

ขี้ข้าไม่ว่าจะห้องนี้ หรือ ในสังคมออนลายน์ ต่างเต็มใจกันพลอยพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เพราะ เมื่อ
นายว่า หรือ หัวส่ายแล้ว ต่างก็มาตอบรับกับสิ่งที่นายส่าย นายกระดิกกันถ้วนหน้า

ผู้สมัครที่จะเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ มีอยู่กว่า 20 คน แต่มีแค่เพียงคนเดียวครับ ที่ยังติดปรักอาจมของอดีต ติดอยู่
แต่ในบ่วงกรรมที่ตัวเองสร้างไว้ ติดอยู่กับคำพูดสวยหรู แต่การกระทำ คำพูด มันเลวร้ายเหลือคณานับ

ผู้สมัครที่เหลือ ไม่ว่าจะค่ายไหน พรรคไหน อิสระหรือไม่ ไม่เห็นมีใครไปขุดเรื่องอดีตมาให้ประชาชนได้
ชื่นชมตนเอง ต่างจากคนกลุ่มนี้ คนที่คิดว่าจะใช้ความเกลียดชัง ชนะการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ให้ได้

ผมว่า ชาติหน้า อีก เจ็ดชาติ ตอนที่แมงสาปเกิดเป็นโปรโตซัว น่าจะเป็นจริงได้ เพราะ โปรโตซัว ไม่มีสมอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่