ซีเกมส์เมื่อ 2 ปีก่อน ที่ประเทศอินโดนีเซีย หมากรุกมีชิงเหรียญทองกัน 9 เหรียญ จากหมากรุกสากล 8 เหรียญ (เวียตนามได้ 6 เหรียญ ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียชาติละเหรียญ) และหมากรุกอาเซียน 1 เหรียญ (เป็นของประเทศไทย)
ซีเกมส์ที่จะจัดปลายปีนี้ที่ประเทศพม่า มีการชิงชัยเหรียญทองหมากรุกมโหฬารถึง 18 เหรียญ! แบ่งเป็น หมากรุกอาเซียน 5 เหรียญ หมากรุกสากล 6 เหรียญ และหมากรุกพม่า 7 เหรียญ (ดูเพิ่มเติมความเห็นที่ 2 ของเว็บบอร์ด
http://www.thaibg.com/board/view.php?topic=25341 ) ซึ่งคาดการณ์ได้คร่าวๆ ว่าชาติที่จะกวาดเหรียญทองเป็นกอบเป็นกำน่าจะมีแค่ 3 ชาติ ได้แก่ เวียตนาม (จากหมากรุกสากล) ไทย (จากหมากรุกอาเซียน) และ พม่า (จากหมากรุกพม่า)
ผมเคยประมาณเอาไว้ว่าไทยเราน่าจะได้ 4-7 เหรียญทองจากจากหมากรุกอาเซียน (น่าจะกวาด 4-5 เหรียญทอง) และหมากรุกพม่า (อีก 1-2 เหรียญทอง) ทั้งนี้จากข้อมูลผู้เกี่ยวข้องและเซียนหมากรุกของไทยหลายท่าน
แต่จากการได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับกติกา และการเล่นหมากรุกพื้นเมืองของชาวพม่า ที่มากและชัดเจนขึ้น เช่น กติกาการหงายเบี้ย เป็นได้อย่างเดียวคือเป็นเม็ดเท่านั้น แม้จะมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกบ้าง แต่ก็ทำให้รู้สึกว่าการหงายไม่ใช่เรื่องน่ากลัวกันอีกต่อไป เพราะอำนาจของเบี้ยเมื่อหงายไม่ได้มากแบบเป็นหมากตัวใหญ่ เป็นต้น ก็ทำให้การเล่นง่ายขึ้น ทำให้มีการประเมินใหม่ว่า เรามีโอกาสแย่งชิงเหรียญหมากรุกพม่าจากประเทศต้นตำรับสูงมากและมีความเป็นไปได้ที่เราอาจจะได้เหรียญทองจากกีฬาดังกล่าวมากกว่าประเทศเจ้าภาพ หรือกระทั่งกวาดทุกเหรียญทองจากหมากรุกพม่า !!
การชนะรวดของนกกระจิบจากการเล่นหมากรุกอาเซียนในซีเกมส์เมื่อสองปีที่แล้ว ก็เป็นแนวโน้มชัดเจนว่าประเภทนี้คงยากที่ชาติใดจะมาสู้เราได้ในช่วงเวลานี้ (และอีกนาน) ประกอบกับการที่เราไม่ประมาท เตรียมการต่างๆ รวมถึงการฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ สำหรับประเภทนี้ในปีนี้จึงต้องเตรียมเข่งไปขนเหรียญกลับมาแน่นอน
ส่วนหมากรุกพม่าที่ชาติเจ้าภาพได้เปรียบจากประสบการณ์ที่มีมากกว่า ทำให้อาจดูจะได้เปรียบจากการเซ็ทหมากต้นกระดาน และเทคนิคการหงาย แต่เมื่อได้รู้กติกาการเล่นมากขึ้นก็ทำให้เรามั่นใจว่าเราได้เปรียบทุกด้าน(หรืออย่างน้อยก็ไม่เสียเปรียบ) และโอกาสที่จะได้เหรียญทองจากกีฬาพื้นเมืองของพม่านี้มีมากยิ่งขึ้น
ตอนแรกๆที่เซียนหมากรุกไทยหลายท่านมองหมากรุกพม่านั้น กลัวเรื่องการหงายของเบี้ยที่คิดว่าเป็นตัวใหญ่ได้ และลักษณะการหงายที่เบี้ยแต่ละตัวถูกที่กำหนดตำแหน่งที่หงายแตกต่างกันทำให้สับสน แต่เมื่อชัดเจนว่าหงายเป็นเม็ดได้เท่านั้น ทำให้เห็นว่าไม่ต่างจากหมากรุกไทยนัก การศึกษาทำความเข้าใจกติกาให้ถูกต้องครบถ้วนและการฝึกซ้อมอีกสักระยะหนึ่งก็น่าที่จะทำให้เรามีโอกาสสูงที่จะทำผลงานได้ดีเช่นเดียวกับหมากรุกอาเซียน
ผมจึงคาดการณ์ใหม่ว่าหากเราซ้อมเต็มที่ด้วยเครื่องไม้เครื่องมือและบุคคลากรที่มีอยู่และจะได้เตรียมเพิ่มขึ้นต่อไป ก็น่าที่จะทำให้เรากวาดได้ราว 7 - 11 เหรียญทอง(จากหมากรุกอาเซียนและหมากรุกพม่า) ซึ่งจะเป็นผลงานที่ดีที่สุดตลอดกาลของสมาคมหมากรุกสากลฯ ในซีเกมส์ เพราะซีเกมส์ครั้งต่อๆ ไปคงยากที่จะมีการชิงชัยเหรียญจากหมากรุกมากเช่นนี้ ซึ่งอาจจะมีเพียงหมากรุกสากลให้เล่นกันเท่านั้น(ซึ่งเราไม่มีหวังเหรียญใดๆ เช่นเคย) และหากจะยังมีหมากรุกอาเซียน ก็คงมีเหรียญให้ชิงกันน้อยมาก (สำหรับหมากรุกพื้นเมืองอื่นๆ นั้น หากไทยกวาดเหรียญหมากรุกพม่าได้มากๆ คราวนี้ ก็คงเข็ดอุจจาระเข็ดปัสสาวะกันหมดและไม่กล้าเอามาจัดแน่)
อย่างที่ได้กล่าวไว้หลายครั้งแล้วว่า ผลงานอย่างยอดเยี่ยมครั้งนี้(หมายถึงซีเกมส์ปลายปีนี้)จะช่วยจุดประกายให้เกิดความสนใจ และเป็นพลังให้กับผู้เกี่ยวข้องได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อการพัฒนาวงการหมากรุกของบ้านเราให้ก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นต่อไป
ไทยจะเป็นจ้าวเหรียญทองหมากรุกในซีเกมส์ปลายปีนี้ที่พม่า !!?
ซีเกมส์ที่จะจัดปลายปีนี้ที่ประเทศพม่า มีการชิงชัยเหรียญทองหมากรุกมโหฬารถึง 18 เหรียญ! แบ่งเป็น หมากรุกอาเซียน 5 เหรียญ หมากรุกสากล 6 เหรียญ และหมากรุกพม่า 7 เหรียญ (ดูเพิ่มเติมความเห็นที่ 2 ของเว็บบอร์ด http://www.thaibg.com/board/view.php?topic=25341 ) ซึ่งคาดการณ์ได้คร่าวๆ ว่าชาติที่จะกวาดเหรียญทองเป็นกอบเป็นกำน่าจะมีแค่ 3 ชาติ ได้แก่ เวียตนาม (จากหมากรุกสากล) ไทย (จากหมากรุกอาเซียน) และ พม่า (จากหมากรุกพม่า)
ผมเคยประมาณเอาไว้ว่าไทยเราน่าจะได้ 4-7 เหรียญทองจากจากหมากรุกอาเซียน (น่าจะกวาด 4-5 เหรียญทอง) และหมากรุกพม่า (อีก 1-2 เหรียญทอง) ทั้งนี้จากข้อมูลผู้เกี่ยวข้องและเซียนหมากรุกของไทยหลายท่าน
แต่จากการได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับกติกา และการเล่นหมากรุกพื้นเมืองของชาวพม่า ที่มากและชัดเจนขึ้น เช่น กติกาการหงายเบี้ย เป็นได้อย่างเดียวคือเป็นเม็ดเท่านั้น แม้จะมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกบ้าง แต่ก็ทำให้รู้สึกว่าการหงายไม่ใช่เรื่องน่ากลัวกันอีกต่อไป เพราะอำนาจของเบี้ยเมื่อหงายไม่ได้มากแบบเป็นหมากตัวใหญ่ เป็นต้น ก็ทำให้การเล่นง่ายขึ้น ทำให้มีการประเมินใหม่ว่า เรามีโอกาสแย่งชิงเหรียญหมากรุกพม่าจากประเทศต้นตำรับสูงมากและมีความเป็นไปได้ที่เราอาจจะได้เหรียญทองจากกีฬาดังกล่าวมากกว่าประเทศเจ้าภาพ หรือกระทั่งกวาดทุกเหรียญทองจากหมากรุกพม่า !!
การชนะรวดของนกกระจิบจากการเล่นหมากรุกอาเซียนในซีเกมส์เมื่อสองปีที่แล้ว ก็เป็นแนวโน้มชัดเจนว่าประเภทนี้คงยากที่ชาติใดจะมาสู้เราได้ในช่วงเวลานี้ (และอีกนาน) ประกอบกับการที่เราไม่ประมาท เตรียมการต่างๆ รวมถึงการฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ สำหรับประเภทนี้ในปีนี้จึงต้องเตรียมเข่งไปขนเหรียญกลับมาแน่นอน
ส่วนหมากรุกพม่าที่ชาติเจ้าภาพได้เปรียบจากประสบการณ์ที่มีมากกว่า ทำให้อาจดูจะได้เปรียบจากการเซ็ทหมากต้นกระดาน และเทคนิคการหงาย แต่เมื่อได้รู้กติกาการเล่นมากขึ้นก็ทำให้เรามั่นใจว่าเราได้เปรียบทุกด้าน(หรืออย่างน้อยก็ไม่เสียเปรียบ) และโอกาสที่จะได้เหรียญทองจากกีฬาพื้นเมืองของพม่านี้มีมากยิ่งขึ้น
ตอนแรกๆที่เซียนหมากรุกไทยหลายท่านมองหมากรุกพม่านั้น กลัวเรื่องการหงายของเบี้ยที่คิดว่าเป็นตัวใหญ่ได้ และลักษณะการหงายที่เบี้ยแต่ละตัวถูกที่กำหนดตำแหน่งที่หงายแตกต่างกันทำให้สับสน แต่เมื่อชัดเจนว่าหงายเป็นเม็ดได้เท่านั้น ทำให้เห็นว่าไม่ต่างจากหมากรุกไทยนัก การศึกษาทำความเข้าใจกติกาให้ถูกต้องครบถ้วนและการฝึกซ้อมอีกสักระยะหนึ่งก็น่าที่จะทำให้เรามีโอกาสสูงที่จะทำผลงานได้ดีเช่นเดียวกับหมากรุกอาเซียน
ผมจึงคาดการณ์ใหม่ว่าหากเราซ้อมเต็มที่ด้วยเครื่องไม้เครื่องมือและบุคคลากรที่มีอยู่และจะได้เตรียมเพิ่มขึ้นต่อไป ก็น่าที่จะทำให้เรากวาดได้ราว 7 - 11 เหรียญทอง(จากหมากรุกอาเซียนและหมากรุกพม่า) ซึ่งจะเป็นผลงานที่ดีที่สุดตลอดกาลของสมาคมหมากรุกสากลฯ ในซีเกมส์ เพราะซีเกมส์ครั้งต่อๆ ไปคงยากที่จะมีการชิงชัยเหรียญจากหมากรุกมากเช่นนี้ ซึ่งอาจจะมีเพียงหมากรุกสากลให้เล่นกันเท่านั้น(ซึ่งเราไม่มีหวังเหรียญใดๆ เช่นเคย) และหากจะยังมีหมากรุกอาเซียน ก็คงมีเหรียญให้ชิงกันน้อยมาก (สำหรับหมากรุกพื้นเมืองอื่นๆ นั้น หากไทยกวาดเหรียญหมากรุกพม่าได้มากๆ คราวนี้ ก็คงเข็ดอุจจาระเข็ดปัสสาวะกันหมดและไม่กล้าเอามาจัดแน่)
อย่างที่ได้กล่าวไว้หลายครั้งแล้วว่า ผลงานอย่างยอดเยี่ยมครั้งนี้(หมายถึงซีเกมส์ปลายปีนี้)จะช่วยจุดประกายให้เกิดความสนใจ และเป็นพลังให้กับผู้เกี่ยวข้องได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อการพัฒนาวงการหมากรุกของบ้านเราให้ก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นต่อไป