ผู้เฒ่าเล่าข่าว ๒๕ ก.พ.๕๖
กรรมของหญิงบริการ (๑)
กว่าที่กิจการนวดแผนโบราณจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น จนแพร่หลายออกไปยังต่างประเทศ และหวนกลับมาโด่งดังในนามของสถานเสริมสวยครบวงจร และหญิงผู้ให้บริการได้รับการยกย่องอย่างดีในสังคมไทยนั้น เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนสมัยที่สถานอาบอบนวด ได้เฟื่องฟูเป็นที่ชื่นชอบ แก่เหล่าชายชาตรีทั้งหนุ่มมากและหนุ่มน้อย แต่สตรีซึ่งมีหน้าที่ให้บริการในด้านต่าง ๆ นั้น กลับไม่มีผู้ยกย่องเท่าใดนัก แม้ว่าจะทำรายได้ให้แก่คุณเธออย่างเป็นกอบเป็นกำ จนบางแห่งในลานจอดรถจะมีรถเก๋งของหมอนวดมากกว่าลูกค้าเสียด้วยซ้ำ เธอจึงมักจะมีเรื่องไม่ค่อยโสภา ปรากฏอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์อยู่เสมอ ดังเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๔
เมื่อ ๒๖ เมษายน เวลาประมาณ ๐๓.๐๐ น. นายร้อยเวรสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากโรงพยาบาลเพชรเวช คลองตัน ว่ามีคนกระโดดตึกจากชั้น ๔ ของแฟลต ในซอยสุขุมวิท ๓๘ แขวงคลองตัน เขตพระโขนง ถึงแก่ความตาย ขณะนี้ศพอยู่ที่โรงพยาบาล ให้ไปทำการสอบสวนชันสูตรพลิกศพด้วย นายร้อยเวรพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิร่วมกตัญญู จึงรีบรุดไปที่โรงพยาบาลก็พบศพของหญิงสาวผู้หนึ่ง อายุประมาณ ๓๐ ปีเศษ ในสภาพคอแขนขาหักหลายท่อน กระโหลกศีรษะยุบมีเลือดโทรมกาย อยู่ในชุดเสื้อติดกับกระโปรงดำดอกขาว ภายหลังการสอบสวนได้ความชื่อ น.ส.ประยงค์ (นามสมมุติ)อดีตนางแบบถ่ายภาพศิลปของนิตยสารรายเดือนฉบับหนึ่ง ปัจจุบันเป็นพนักงานนวดเบอร์ ๒๒๒ ประจำสถาน อาบอบนวด ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง ซึ่งได้เช่าอยู่ที่ห้องพักหมายเลข ๑๘ของแฟลตที่เกิดเหตุ หลังจากมอบศพให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำไปส่งโรงพยาบาลตำรวจแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสอบปากคำ นายวิชัย (นามสมมุติ) อายุ ๒๗ ปี ซึ่งอยู่ในห้องเดียวกัน ได้ความว่า
นายวิชัย กับ น.ส.ประยงค์ ได้อยู่กินกันอย่างลับ ๆ มาได้ ๙ เดือนแล้ว ต่อมาในระยะหลังทั้งคู่มักจะมีเรื่องระหองระแหงเป็นปากเสียงกันเสมอ เพราะฝ่ายหญิงเกิดความหึงหวงระแวงว่าฝ่ายชายจะไปมีรักใหม่ จนกระทั่งคืนวันเกิดเหตุ นายวิชัยได้ไปรับ น.ส.ประยงค์ หลังเลิกงานแล้วพากันไปกินอาหารดื่มเหล้าจนเมาทั้งคู่ แล้วก็กลับมาที่ห้องพัก แต่แทนทั้งคู่จะพากันหลับนอนต่างก็เปิดฉากทะเลาะกัน ด้วยเรื่องเดิมอีก จนในที่สุดนายวิชัยเกิดความรำคาญจนทนไม่ไหว เลยบอกว่าจะเป็นฝ่ายไปเอง แล้วลุกขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า น.ส.ประยงค์เห็นดังนั้น จึงบอกว่ากับนายวิชัยว่าไม่ต้องไปหรอก ตนจะไปเอง แล้วก็เดินออกจากห้องในชุดที่กลับจากทำงาน แล้วก็หายเงียบไป
กระทั่งครู่ใหญ่ต่อมานายวิชัยเกิดเอะใจ เห็น น.ส.ประยงค์ออกจากห้องไปนานไม่กลับมา จึงเที่ยวออกเดินตามหาบนแฟลตทุกชั้นก็ไม่พบตัว จึงลงไปที่ชั้นล่างก็พบว่า น.ส.ประยงค์ นอนอยู่ที่พื้น แต่นายวิชัยคิดว่ายังไม่ตายจึงรีบพาไปส่งโรงพยาบาล แต่เธอได้สิ้นใจเสียแล้ว
สาเหตุที่ น.ส.ประยงค์ ไดโดดตึก ๔ ชั้นฆ่าตัวตายครั้งนี้ นอกจากมีเรื่องโกรธเคืองกับนายวิชัยแล้ว เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าอาจจะมาจากความกลัดกลุ้ม เกี่ยวกับปัญหาเรื่องที่ดินบ้านเดิมที่จังหวัดอยุธยา ซึ่งได้ขายไปแล้วแต่ผู้ซื้อไม่ยอมจ่ายเงิน ซ้ำแฟนกำลังจะทิ้งไปอีก ทำให้กลุ้มใจหนักเข้า จึงหาทางออกด้วยการจบชีวิตตนเอง อย่างน่าอนาจเช่นนี้.
วางเมื่อ เวลา ๐๖.๓๐
(รสก) ผู้เฒ่าเล่าข่าว ๒๕ ก.พ.๕๖
กรรมของหญิงบริการ (๑)
กว่าที่กิจการนวดแผนโบราณจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น จนแพร่หลายออกไปยังต่างประเทศ และหวนกลับมาโด่งดังในนามของสถานเสริมสวยครบวงจร และหญิงผู้ให้บริการได้รับการยกย่องอย่างดีในสังคมไทยนั้น เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนสมัยที่สถานอาบอบนวด ได้เฟื่องฟูเป็นที่ชื่นชอบ แก่เหล่าชายชาตรีทั้งหนุ่มมากและหนุ่มน้อย แต่สตรีซึ่งมีหน้าที่ให้บริการในด้านต่าง ๆ นั้น กลับไม่มีผู้ยกย่องเท่าใดนัก แม้ว่าจะทำรายได้ให้แก่คุณเธออย่างเป็นกอบเป็นกำ จนบางแห่งในลานจอดรถจะมีรถเก๋งของหมอนวดมากกว่าลูกค้าเสียด้วยซ้ำ เธอจึงมักจะมีเรื่องไม่ค่อยโสภา ปรากฏอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์อยู่เสมอ ดังเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๔
เมื่อ ๒๖ เมษายน เวลาประมาณ ๐๓.๐๐ น. นายร้อยเวรสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากโรงพยาบาลเพชรเวช คลองตัน ว่ามีคนกระโดดตึกจากชั้น ๔ ของแฟลต ในซอยสุขุมวิท ๓๘ แขวงคลองตัน เขตพระโขนง ถึงแก่ความตาย ขณะนี้ศพอยู่ที่โรงพยาบาล ให้ไปทำการสอบสวนชันสูตรพลิกศพด้วย นายร้อยเวรพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิร่วมกตัญญู จึงรีบรุดไปที่โรงพยาบาลก็พบศพของหญิงสาวผู้หนึ่ง อายุประมาณ ๓๐ ปีเศษ ในสภาพคอแขนขาหักหลายท่อน กระโหลกศีรษะยุบมีเลือดโทรมกาย อยู่ในชุดเสื้อติดกับกระโปรงดำดอกขาว ภายหลังการสอบสวนได้ความชื่อ น.ส.ประยงค์ (นามสมมุติ)อดีตนางแบบถ่ายภาพศิลปของนิตยสารรายเดือนฉบับหนึ่ง ปัจจุบันเป็นพนักงานนวดเบอร์ ๒๒๒ ประจำสถาน อาบอบนวด ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง ซึ่งได้เช่าอยู่ที่ห้องพักหมายเลข ๑๘ของแฟลตที่เกิดเหตุ หลังจากมอบศพให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำไปส่งโรงพยาบาลตำรวจแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสอบปากคำ นายวิชัย (นามสมมุติ) อายุ ๒๗ ปี ซึ่งอยู่ในห้องเดียวกัน ได้ความว่า
นายวิชัย กับ น.ส.ประยงค์ ได้อยู่กินกันอย่างลับ ๆ มาได้ ๙ เดือนแล้ว ต่อมาในระยะหลังทั้งคู่มักจะมีเรื่องระหองระแหงเป็นปากเสียงกันเสมอ เพราะฝ่ายหญิงเกิดความหึงหวงระแวงว่าฝ่ายชายจะไปมีรักใหม่ จนกระทั่งคืนวันเกิดเหตุ นายวิชัยได้ไปรับ น.ส.ประยงค์ หลังเลิกงานแล้วพากันไปกินอาหารดื่มเหล้าจนเมาทั้งคู่ แล้วก็กลับมาที่ห้องพัก แต่แทนทั้งคู่จะพากันหลับนอนต่างก็เปิดฉากทะเลาะกัน ด้วยเรื่องเดิมอีก จนในที่สุดนายวิชัยเกิดความรำคาญจนทนไม่ไหว เลยบอกว่าจะเป็นฝ่ายไปเอง แล้วลุกขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า น.ส.ประยงค์เห็นดังนั้น จึงบอกว่ากับนายวิชัยว่าไม่ต้องไปหรอก ตนจะไปเอง แล้วก็เดินออกจากห้องในชุดที่กลับจากทำงาน แล้วก็หายเงียบไป
กระทั่งครู่ใหญ่ต่อมานายวิชัยเกิดเอะใจ เห็น น.ส.ประยงค์ออกจากห้องไปนานไม่กลับมา จึงเที่ยวออกเดินตามหาบนแฟลตทุกชั้นก็ไม่พบตัว จึงลงไปที่ชั้นล่างก็พบว่า น.ส.ประยงค์ นอนอยู่ที่พื้น แต่นายวิชัยคิดว่ายังไม่ตายจึงรีบพาไปส่งโรงพยาบาล แต่เธอได้สิ้นใจเสียแล้ว
สาเหตุที่ น.ส.ประยงค์ ไดโดดตึก ๔ ชั้นฆ่าตัวตายครั้งนี้ นอกจากมีเรื่องโกรธเคืองกับนายวิชัยแล้ว เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าอาจจะมาจากความกลัดกลุ้ม เกี่ยวกับปัญหาเรื่องที่ดินบ้านเดิมที่จังหวัดอยุธยา ซึ่งได้ขายไปแล้วแต่ผู้ซื้อไม่ยอมจ่ายเงิน ซ้ำแฟนกำลังจะทิ้งไปอีก ทำให้กลุ้มใจหนักเข้า จึงหาทางออกด้วยการจบชีวิตตนเอง อย่างน่าอนาจเช่นนี้.
วางเมื่อ เวลา ๐๖.๓๐