ดวลสนั่น!!! ดวลปืนกลางถนน!!! ตาย 3 ศพ!!! เจ็บสาหัส 1 ราย!!!
5 สิงหาคม 2560
พ่อพาลูกเคลียร์ปัญหาญาติพี่น้อง แต่ปรากฏว่าคุยกันไม่รู้เรื่อง
เลยเปิดศึกยิงกันสนั่น สุดท้ายตาย 3 ศพ เจ็บสาหัส 1 คาถนน
ตำรวจเร่งสอบปมเหตุที่แท้จริง
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. พ.ต.อ.ภัคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมร.ต.อ.สายัณห์ นุชฉิม รองสารวัตรสอบสวน และกำลัฝ่ายสืบสวนในสังกัด เข้าตรวจสอบเหตุยิงกันบาดเจ็บเสียชีวิต บนถนนซอยทางเข้าสวนปาล์ม พื้นที่หมู่ 1 บ้านปลายศอก ต.คลองน้อย อ.ชัยบุรี ภายหลังพบศพ นายสมยศ นามบุศย์ อายุ 50 ปี, นายอัจฉริยะ นามบุศย์ และนายสันต์ นามบุศย์ ส่วนผู้บาดเจ็บ คือ นายอิสระพงษ์ นามบุศย์ พลเมืองดี นำส่งโรงพยาบาลชัยบุรีแต่อาการสาหัส ต้องส่งต่อโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
จากการสอบสวบสวน นายสมยศ พร้อมด้วยบุตรชาย 2 คน คือนายอัจฉริยะ และนายศักดิ์สิทธิ์ ได้เดินทางไปหานายสันต์ ซึ่งอยู่ในสวนปาล์ม ใกล้ที่เกิดเหตุ เพื่อเคลียร์ปัญหาความขัดแย้ง เกี่ยวกับการทะเลาะวิวาทกันโดยคาดว่าเมื่อถึงที่เกิดเหตุ ทั้ง 3 พ่อลูก อาจจะเจอกับนายสันต์ และมีการพูดคุยกัน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กันโดยนายสันต์ ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม และนายอัจฉริยะ ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม อย่างไรก็ตาม ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บทั้งหมด เป็นญาติกัน เอง แต่มีปัญหาความขัดแย้งทะเลาะวิวาทด้วยเรื่องส่วนตัว และมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ. ชัยบุรี มาก่อนแล้วโดยเรื่องอยู่ระหว่างส่งสำนวนให้พนักงานอัยการพิจารณา แต่สุดท้ายกลับมาเกิดเหตุสลดขึ้นดังกล่าว
https://www.dailynews.co.th/crime/589913
http://manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9600000079807
ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียเสียชีวิตอยู่บนถนนจำนวน 2 ศพ ทราบชื่อนายสมยศ นามบุตร อายุ 51 ปี นายอัจฉริยะ นามบุตร อายุ 30 ปี และพบศพนายสันต์ นามบุตร อายุ 25 ปี ห่างจาก 2 ศพไปในสวนปาล์มประมาณ 20 เมตร และพบผู้ได้รับบาดเจ็บชื่อ นายศักดิ์สิทธิ์ นามบุตร อายุ 28 ปี นอกจากนั้นในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม.ที่ยิงแล้วจำนวน 5 ปลอก และกระสุนที่ยังไม่ได้ยิงอีกจำนวน 3 นัด หัวกระสุนทองแดงจำนวน 3 หัว
ส่วนประเด็นการก่อเหตุในเบื้องทราบว่า
ทั้ง 2 ฝ่าย ขัดแย้งกันเรื่องที่ดินทางเข้าบ้าน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้
และเคยมีเรื่องแจ้งความดำเนินคดีต่อกันมาแล้วที่
สภ.ชัยบุรี และจากนั้นก็มีเรื่องขัดแย้งกันมาตลอด จนมาเกิดเหตุขึ้นอีกครั้งในวันนี้
http://manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9600000079807
ดวลสนั่น!!! ดวลปืนกลางถนน!!! ตาย 3 ศพ!!! เจ็บสาหัส 1 ราย!!!
5 สิงหาคม 2560
พ่อพาลูกเคลียร์ปัญหาญาติพี่น้อง แต่ปรากฏว่าคุยกันไม่รู้เรื่อง
เลยเปิดศึกยิงกันสนั่น สุดท้ายตาย 3 ศพ เจ็บสาหัส 1 คาถนน
ตำรวจเร่งสอบปมเหตุที่แท้จริง
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. พ.ต.อ.ภัคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมร.ต.อ.สายัณห์ นุชฉิม รองสารวัตรสอบสวน และกำลัฝ่ายสืบสวนในสังกัด เข้าตรวจสอบเหตุยิงกันบาดเจ็บเสียชีวิต บนถนนซอยทางเข้าสวนปาล์ม พื้นที่หมู่ 1 บ้านปลายศอก ต.คลองน้อย อ.ชัยบุรี ภายหลังพบศพ นายสมยศ นามบุศย์ อายุ 50 ปี, นายอัจฉริยะ นามบุศย์ และนายสันต์ นามบุศย์ ส่วนผู้บาดเจ็บ คือ นายอิสระพงษ์ นามบุศย์ พลเมืองดี นำส่งโรงพยาบาลชัยบุรีแต่อาการสาหัส ต้องส่งต่อโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
จากการสอบสวบสวน นายสมยศ พร้อมด้วยบุตรชาย 2 คน คือนายอัจฉริยะ และนายศักดิ์สิทธิ์ ได้เดินทางไปหานายสันต์ ซึ่งอยู่ในสวนปาล์ม ใกล้ที่เกิดเหตุ เพื่อเคลียร์ปัญหาความขัดแย้ง เกี่ยวกับการทะเลาะวิวาทกันโดยคาดว่าเมื่อถึงที่เกิดเหตุ ทั้ง 3 พ่อลูก อาจจะเจอกับนายสันต์ และมีการพูดคุยกัน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กันโดยนายสันต์ ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม และนายอัจฉริยะ ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม อย่างไรก็ตาม ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บทั้งหมด เป็นญาติกัน เอง แต่มีปัญหาความขัดแย้งทะเลาะวิวาทด้วยเรื่องส่วนตัว และมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ. ชัยบุรี มาก่อนแล้วโดยเรื่องอยู่ระหว่างส่งสำนวนให้พนักงานอัยการพิจารณา แต่สุดท้ายกลับมาเกิดเหตุสลดขึ้นดังกล่าว
https://www.dailynews.co.th/crime/589913
http://manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9600000079807
ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียเสียชีวิตอยู่บนถนนจำนวน 2 ศพ ทราบชื่อนายสมยศ นามบุตร อายุ 51 ปี นายอัจฉริยะ นามบุตร อายุ 30 ปี และพบศพนายสันต์ นามบุตร อายุ 25 ปี ห่างจาก 2 ศพไปในสวนปาล์มประมาณ 20 เมตร และพบผู้ได้รับบาดเจ็บชื่อ นายศักดิ์สิทธิ์ นามบุตร อายุ 28 ปี นอกจากนั้นในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม.ที่ยิงแล้วจำนวน 5 ปลอก และกระสุนที่ยังไม่ได้ยิงอีกจำนวน 3 นัด หัวกระสุนทองแดงจำนวน 3 หัว
ส่วนประเด็นการก่อเหตุในเบื้องทราบว่า
ทั้ง 2 ฝ่าย ขัดแย้งกันเรื่องที่ดินทางเข้าบ้าน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้
และเคยมีเรื่องแจ้งความดำเนินคดีต่อกันมาแล้วที่
สภ.ชัยบุรี และจากนั้นก็มีเรื่องขัดแย้งกันมาตลอด จนมาเกิดเหตุขึ้นอีกครั้งในวันนี้
http://manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9600000079807