หลาย ๆ ท่านอาจจะเคยผ่านตามากับภาพนักโทษคดีเมาแล้วขับที่ถูกนักโทษด้วยกันซ้อมจนเสียชีวิตคาเรือนจำ ภาพนี้ครับ
มีรายละเอียดคดีดังต่อไปนี้ครับ
ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้รับการร้องทุกข์จากคุณศิวกร จึงเจริญว่า พี่ชายชื่อนายกฤษณะ จึงเจริญตามภาพ อยู่จังหวัดกรุงเทพมหานคร ถูกสน.บางโพงพางจับกุมเมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2557 ในข้อหาเมาแล้วขับ แต่พนักงานสอบสวนผิดพลาดอย่างร้ายแรง เพราะชื่อขณะถูกจับกุมที่มีการพิมพ์ลายนิ้วมือ ชื่อนายธนกิจ ทรัพย์กิ่ง แล้วพนักงานสอบสวนสน.บางโพงพางไม่ตรวจสอบบัตรประชาชน สั่งฟ้องนายกฤษณะ จึงเจริญในชื่อนายธนกิจ ทรัพย์กิ่งต่อศาลแขวง แล้วถูกศาลจำคุก 42 วัน โดยถูกส่งเข้าไปอยู่ในเรือนจำคลอง 5 ปทุมธานี เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2557ในชื่อของนายธนกิจ ทรัพย์กิ่ง ซึ่งก็เกิดความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงในระบบกระบวนการยุติธรรมที่แย่มาก ! ตั้งแต่พนักงานสอบสวน ผู้พิพากษา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ที่ไม่ได้มีการตรวจสอบชื่อจริง นามสกุลจริงของผู้ต้องหารายนี้ ต่อมาหลังจากที่นายกฤษณะเข้าเรือนจำไปแล้ว วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2557 ได้ถูกนักโทษในเรือนจำคลอง 5 จำนวน 9 คนซ้อม มีบาดแผลตามภาพที่เห็นจนถึงแก่ความตายในเรือนจำ ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำได้ไปแจ้งความลงประจำวันไว้ที่สภ.ธัญบุรีว่า นายธนกิจ ทรัพย์กิ่ง เสียชีวิตเนื่องจากการถูกซ้อมจากนักโทษในเรือนจำ จำนวน 9 คน จากนั้นจึงได้ส่งศพไปพิสูจน์ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ทำการผ่าพิสูจน์ศพ ผลลายนิ้วมือแฝงไปตรงกับชื่อจริงคือ
นายกฤษณะ จึงเจริญ ที่เคยถูกจับข้อหาเมาแล้วขับก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจึงติดต่อญาติไม่ได้ จึงได้นำศพไปฝังไว้ที่สุสานจ.ชลบุรีเมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2557 ต่อมาวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2557 มีเจ้าหน้าที่ศาลได้มาบอกทางญาติของนายกฤษณะว่า
นายกฤษณะได้เสียชีวิตแล้ว ให้ไปติดต่อรับศพที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต จากนั้นเมื่อญาติไปถึงโรงพยาบาลก็ทราบว่า ศพของนายกฤษณะได้นำไปฝังแล้วที่สุสานจ.ชลบุรี จึงได้นัดกันไปรับศพเมื่อวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2557 ที่ผ่านมา และได้มีพิธีเผาศพไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ ทางชมรมจะเปิดแถลงข่าวสำหรับเรื่องนี้ภายในอาทิตย์นี้ เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวของนายกฤษณะ จึงเจริญ ที่พนักงานสอบสวนสภ.บางโพงพางและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ศาลและผู้พิพากษาที่ทำงานผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง ต้องรับผิดชอบร่วมกัน
ซึ่งวันนี้ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ขอเปิดเผยข้อมูลลับที่ได้มาจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์สถานกักขังกลางปทุมธานีที่รักความเป็นธรรม และทนต่อพฤติกรรมเพื่อนร่วมงานไม่ได้ ให้ทุกท่านได้อ่านกันเป็นตอนแรกครับ
อะไร คือสาเหตุที่ทำให้นายกฤษณะ จึงเจริญ ต้องเสียชีวิต !!
รายชื่อเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่ดูแลแดนต่าง ๆ ในสถานกักขังกลางปทุมธานีที่เข้าเวรวันที่ 7 มี.ค-10 มี.ค ในเบื้องต้น
1. นายชาญณรงค์ ชาญลิขิต ผู้อำนวยการสถานกักขังกลางปทุมธานี
2. นายบุญสม ใจดี ผู้บัญชาการแดน 1
3. นายดำรงค์ หยุ่มไธสง ผู้บัญชาการแดน 2
4. นายสีนิล ศรีอ่ำอ่วม พัศดีสถานกักขังกลางปทุมธานี
5. นายรุ่งโรจน์ แป้นเงิน ผู้คุมแดน 2 (แดนแรกรับ)
6. นายผดุงเกียรติ อ่ำไธสง พยาบาลวิชาชีพ (หมอเอก) สถานกักขังกลางปทุมธานี
7. นายสัจจบัณฑิต แสงสุวรรณ เจ้าหน้าที่ที่ควบคุมดูแลกล้องวงจรปิด
8. นายทวี รัตรอดกิจ พนักงานขับรถ
วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2557 นายกฤษณะ จึงเจริญ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางโพงพางตั้งด่านบนถนนพระราม 3 จับกุมในข้อหาเมาแล้วขับ จากนั้นชุดจับกุมได้นำนายกฤษณะ จึงเจริญไปส่งให้กับพนักงานสอบสวน ร.ต.ท.อธิปัตย์ ไหมสุข เพื่อสอบปากคำและทำบันทึกรายงานประจำวันคดีพร้อมพิมพ์ลายนิ้วมือ โดยไม่ได้ตรวจสอบกับฐานข้อมูลประวัติอาชญากรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2557 ร.ต.ท.อธิปัตย์ ไหมสุข ได้ส่งตัวนายกฤษณะ จึงเจริญในนามนายธนกฤต ทรัพย์กิ่ง ให้กับพนักงานอัยการศาลแขวง ส่งฟ้องศาลแขวงพระนครใต้ ซึ่งพนักงานอัยการก็ไม่ได้ตรวจสอบเช่นเดียวกันว่าบัตรประชาชนของนายธนกฤต ทรัพย์กิ่งมีใบหน้าตรงกับนายกฤษณะ จึงเจริญหรือไม่ จนกระทั่งศาลมีคำพิพากษาลงโทษปรับนายธนกฤต ทรัพย์กิ่ง 8,500 บาท ถ้าไม่มีเงินค่าปรับ ให้คุมขังแทนค่าปรับ 42 วัน โดยนายธนกฤต ทรัพย์กิ่งชื่อนี้ นามสกุลนี้ได้เสียชีวิตไปตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม พ.ศ.2557 นายธนกฤต ทรัพย์กิ่ง (นายกฤษณะ) ก็แจ้งว่ายอมถูกกักขังแทนค่าปรับ เจ้าหน้าที่ศาลแขวงจึงทำบันทึกส่งตัวให้กับสถานกักขังกลางปทุมธานี ในวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2557 ในตอนเย็น
เมื่อไปถึงสถานกักขังกลางปทุมธานี มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รับตัว ทำทะเบียนประวัติในนามนายธนกฤต ทรัพย์กิ่ง ในข้อหาเมาแล้วขับ (แดนแรกรับ เป็นแดนที่มีการคัดเลือกว่า มีโทษอะไรมา และจะถูกส่งตัวไปที่แดนไหนตามแต่โทษที่กระทำผิด) โดยปกตินายธนกฤต ทรัพย์กิ่ง (นายกฤษณะ) จะต้องถูกควบคุมตัวอยู่ในแดน 2 หรือแดนแรกรับตามระเบียบข้อบังคับของกรมราชทัณฑ์เท่านั้น เพราะมีโทษสถานเบา แต่ด้วยเหตุใดไม่ทราบ นายรุ่งโรจน์ แป้นเงิน ที่มีหน้าที่คัดกรองผู้ต้องกักขังจากแดนแรกรับคือแดน 2 จึงส่งนายธนกฤต ทรัพย์กิ่ง ซึ่งมีคดีเมาแล้วขับ แทนที่จะอยู่แดน 2 กลับถูกส่งไปแดน 1 อย่างน่าสงสัย ดังนั้นเช้าวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2557 นายรุ่งโรจน์ แป้นเงินก็ส่งตัวนายธนกฤตหรือนายกฤษณะไปอยู่แดน 1 (แดนทั่วไป) โดยให้อยู่แดน 1 ห้อง 4 ชั้นบน ซึ่งเป็นชั้นที่มีผู้ต้องขังเป็นเด็กเส้นจำนวนมาก โดยปกติแล้วแดน 1 จะมีทั้งหมด 2 ชั้น 8 ห้อง โดยชั้นล่างมี 2 ห้อง ชั้นบนมี 6 ห้อง ในห้อง 4 แดน 1 มีผู้ต้องขังวีไอพีอยู่ 2 คน ชื่อนายชาญณรงค์ อิทธิจตุพรและนายนรินทร์ อิทธิจตุพร
ที่เชื่อว่า อาจจะมีผู้คุมคนใดคนหนึ่ง สั่งการให้การดูแลเป็นพิเศษระดับวีไอพี อย่าให้ใครมารบกวนในทุก ๆ ด้าน โดยผู้ต้องขังวีไอพีสองคนนี้ เป็นผู้ต้องขังที่หลบหนีภาษีมูลค่าเพิ่มมูลค่าร้อยกว่าล้านบาท ซึ่งถูก
ดีเอสไอจับกุม โดยจัดให้มีผู้ต้องขังคอยดูแลรับใช้ 1 คน โดยความเป็นอยู่ในห้องนอนในชั้นนี้เป็นดังภาพด้านล่างครับ
ติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ครับ
เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกคดีนายกฤษณะ จึงเจริญ ผู้ต้องกักขังที่ถูกนักโทษด้วยกันซ้อมจนเสียชีวิตในสถานกักขังปทุมธานี
มีรายละเอียดคดีดังต่อไปนี้ครับ
ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้รับการร้องทุกข์จากคุณศิวกร จึงเจริญว่า พี่ชายชื่อนายกฤษณะ จึงเจริญตามภาพ อยู่จังหวัดกรุงเทพมหานคร ถูกสน.บางโพงพางจับกุมเมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2557 ในข้อหาเมาแล้วขับ แต่พนักงานสอบสวนผิดพลาดอย่างร้ายแรง เพราะชื่อขณะถูกจับกุมที่มีการพิมพ์ลายนิ้วมือ ชื่อนายธนกิจ ทรัพย์กิ่ง แล้วพนักงานสอบสวนสน.บางโพงพางไม่ตรวจสอบบัตรประชาชน สั่งฟ้องนายกฤษณะ จึงเจริญในชื่อนายธนกิจ ทรัพย์กิ่งต่อศาลแขวง แล้วถูกศาลจำคุก 42 วัน โดยถูกส่งเข้าไปอยู่ในเรือนจำคลอง 5 ปทุมธานี เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2557ในชื่อของนายธนกิจ ทรัพย์กิ่ง ซึ่งก็เกิดความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงในระบบกระบวนการยุติธรรมที่แย่มาก ! ตั้งแต่พนักงานสอบสวน ผู้พิพากษา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ที่ไม่ได้มีการตรวจสอบชื่อจริง นามสกุลจริงของผู้ต้องหารายนี้ ต่อมาหลังจากที่นายกฤษณะเข้าเรือนจำไปแล้ว วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2557 ได้ถูกนักโทษในเรือนจำคลอง 5 จำนวน 9 คนซ้อม มีบาดแผลตามภาพที่เห็นจนถึงแก่ความตายในเรือนจำ ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำได้ไปแจ้งความลงประจำวันไว้ที่สภ.ธัญบุรีว่า นายธนกิจ ทรัพย์กิ่ง เสียชีวิตเนื่องจากการถูกซ้อมจากนักโทษในเรือนจำ จำนวน 9 คน จากนั้นจึงได้ส่งศพไปพิสูจน์ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ทำการผ่าพิสูจน์ศพ ผลลายนิ้วมือแฝงไปตรงกับชื่อจริงคือ
นายกฤษณะ จึงเจริญ ที่เคยถูกจับข้อหาเมาแล้วขับก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจึงติดต่อญาติไม่ได้ จึงได้นำศพไปฝังไว้ที่สุสานจ.ชลบุรีเมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2557 ต่อมาวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2557 มีเจ้าหน้าที่ศาลได้มาบอกทางญาติของนายกฤษณะว่า
นายกฤษณะได้เสียชีวิตแล้ว ให้ไปติดต่อรับศพที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต จากนั้นเมื่อญาติไปถึงโรงพยาบาลก็ทราบว่า ศพของนายกฤษณะได้นำไปฝังแล้วที่สุสานจ.ชลบุรี จึงได้นัดกันไปรับศพเมื่อวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2557 ที่ผ่านมา และได้มีพิธีเผาศพไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ ทางชมรมจะเปิดแถลงข่าวสำหรับเรื่องนี้ภายในอาทิตย์นี้ เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวของนายกฤษณะ จึงเจริญ ที่พนักงานสอบสวนสภ.บางโพงพางและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ศาลและผู้พิพากษาที่ทำงานผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง ต้องรับผิดชอบร่วมกัน
ซึ่งวันนี้ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ขอเปิดเผยข้อมูลลับที่ได้มาจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์สถานกักขังกลางปทุมธานีที่รักความเป็นธรรม และทนต่อพฤติกรรมเพื่อนร่วมงานไม่ได้ ให้ทุกท่านได้อ่านกันเป็นตอนแรกครับ
อะไร คือสาเหตุที่ทำให้นายกฤษณะ จึงเจริญ ต้องเสียชีวิต !!
รายชื่อเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่ดูแลแดนต่าง ๆ ในสถานกักขังกลางปทุมธานีที่เข้าเวรวันที่ 7 มี.ค-10 มี.ค ในเบื้องต้น
1. นายชาญณรงค์ ชาญลิขิต ผู้อำนวยการสถานกักขังกลางปทุมธานี
2. นายบุญสม ใจดี ผู้บัญชาการแดน 1
3. นายดำรงค์ หยุ่มไธสง ผู้บัญชาการแดน 2
4. นายสีนิล ศรีอ่ำอ่วม พัศดีสถานกักขังกลางปทุมธานี
5. นายรุ่งโรจน์ แป้นเงิน ผู้คุมแดน 2 (แดนแรกรับ)
6. นายผดุงเกียรติ อ่ำไธสง พยาบาลวิชาชีพ (หมอเอก) สถานกักขังกลางปทุมธานี
7. นายสัจจบัณฑิต แสงสุวรรณ เจ้าหน้าที่ที่ควบคุมดูแลกล้องวงจรปิด
8. นายทวี รัตรอดกิจ พนักงานขับรถ
วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2557 นายกฤษณะ จึงเจริญ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางโพงพางตั้งด่านบนถนนพระราม 3 จับกุมในข้อหาเมาแล้วขับ จากนั้นชุดจับกุมได้นำนายกฤษณะ จึงเจริญไปส่งให้กับพนักงานสอบสวน ร.ต.ท.อธิปัตย์ ไหมสุข เพื่อสอบปากคำและทำบันทึกรายงานประจำวันคดีพร้อมพิมพ์ลายนิ้วมือ โดยไม่ได้ตรวจสอบกับฐานข้อมูลประวัติอาชญากรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2557 ร.ต.ท.อธิปัตย์ ไหมสุข ได้ส่งตัวนายกฤษณะ จึงเจริญในนามนายธนกฤต ทรัพย์กิ่ง ให้กับพนักงานอัยการศาลแขวง ส่งฟ้องศาลแขวงพระนครใต้ ซึ่งพนักงานอัยการก็ไม่ได้ตรวจสอบเช่นเดียวกันว่าบัตรประชาชนของนายธนกฤต ทรัพย์กิ่งมีใบหน้าตรงกับนายกฤษณะ จึงเจริญหรือไม่ จนกระทั่งศาลมีคำพิพากษาลงโทษปรับนายธนกฤต ทรัพย์กิ่ง 8,500 บาท ถ้าไม่มีเงินค่าปรับ ให้คุมขังแทนค่าปรับ 42 วัน โดยนายธนกฤต ทรัพย์กิ่งชื่อนี้ นามสกุลนี้ได้เสียชีวิตไปตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม พ.ศ.2557 นายธนกฤต ทรัพย์กิ่ง (นายกฤษณะ) ก็แจ้งว่ายอมถูกกักขังแทนค่าปรับ เจ้าหน้าที่ศาลแขวงจึงทำบันทึกส่งตัวให้กับสถานกักขังกลางปทุมธานี ในวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2557 ในตอนเย็น
เมื่อไปถึงสถานกักขังกลางปทุมธานี มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รับตัว ทำทะเบียนประวัติในนามนายธนกฤต ทรัพย์กิ่ง ในข้อหาเมาแล้วขับ (แดนแรกรับ เป็นแดนที่มีการคัดเลือกว่า มีโทษอะไรมา และจะถูกส่งตัวไปที่แดนไหนตามแต่โทษที่กระทำผิด) โดยปกตินายธนกฤต ทรัพย์กิ่ง (นายกฤษณะ) จะต้องถูกควบคุมตัวอยู่ในแดน 2 หรือแดนแรกรับตามระเบียบข้อบังคับของกรมราชทัณฑ์เท่านั้น เพราะมีโทษสถานเบา แต่ด้วยเหตุใดไม่ทราบ นายรุ่งโรจน์ แป้นเงิน ที่มีหน้าที่คัดกรองผู้ต้องกักขังจากแดนแรกรับคือแดน 2 จึงส่งนายธนกฤต ทรัพย์กิ่ง ซึ่งมีคดีเมาแล้วขับ แทนที่จะอยู่แดน 2 กลับถูกส่งไปแดน 1 อย่างน่าสงสัย ดังนั้นเช้าวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2557 นายรุ่งโรจน์ แป้นเงินก็ส่งตัวนายธนกฤตหรือนายกฤษณะไปอยู่แดน 1 (แดนทั่วไป) โดยให้อยู่แดน 1 ห้อง 4 ชั้นบน ซึ่งเป็นชั้นที่มีผู้ต้องขังเป็นเด็กเส้นจำนวนมาก โดยปกติแล้วแดน 1 จะมีทั้งหมด 2 ชั้น 8 ห้อง โดยชั้นล่างมี 2 ห้อง ชั้นบนมี 6 ห้อง ในห้อง 4 แดน 1 มีผู้ต้องขังวีไอพีอยู่ 2 คน ชื่อนายชาญณรงค์ อิทธิจตุพรและนายนรินทร์ อิทธิจตุพร
ที่เชื่อว่า อาจจะมีผู้คุมคนใดคนหนึ่ง สั่งการให้การดูแลเป็นพิเศษระดับวีไอพี อย่าให้ใครมารบกวนในทุก ๆ ด้าน โดยผู้ต้องขังวีไอพีสองคนนี้ เป็นผู้ต้องขังที่หลบหนีภาษีมูลค่าเพิ่มมูลค่าร้อยกว่าล้านบาท ซึ่งถูก
ดีเอสไอจับกุม โดยจัดให้มีผู้ต้องขังคอยดูแลรับใช้ 1 คน โดยความเป็นอยู่ในห้องนอนในชั้นนี้เป็นดังภาพด้านล่างครับ
ติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ครับ