ถ้าสมมุติว่าเรื่องเจ้าชายเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นในภายหลัง แต่จริงๆแล้วศาสดาของเราเป็นนักบินอวกาศในยุคโบราณล่ะ ถ้าใช่ก็สามารถอธิบายได้ว่าทำไมศาสนาพุทธถึงสอดคล้องกับวิทยาศาสตร์เป็นอย่างดี คือนักบินอวกาศโบราณได้นำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาถ่ายทอดให้คนในสมัยก่อนฟัง เช่น กฎแห่งกรรม ไม่มีอะไรมากไปกว่า action = reaction,
อนัตตาความว่าง ก็คือ ร้อยละ 99.999% ของอะตอมเป็นความว่าง หรือแม้แต่ไม่มีอยู่จริงด้วยซ้ำไป,
มิติทั้ง11ในทฤษฏีสตริง คือภพภูมิต่างๆ,
อิทัปปัจจยตา เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี ก็คือถ้าแยกย่อยสิ่งมีชีวิตลงไปก็จะเห็น > ปฏิกิริยาเคมี > โมเลกุล > อะตอม > อนุภาค > เส้นพลังงานที่สั่นไหว ไม่มีอะไรดำรงอยู่ได้เองเลย
ฯลฯ
ทำไมศาสนาพุทธถึงไม่เคยขัดแย้งกับวิทยาศาสตร์เลยก็เพราะสอดคล้องกับทฤษฏีนักบินอวกาศโบราณหรือเปล่า? เป็นไปได้แค่ไหนเรื่องนี้ลองเปิดใจพิจารณาดูหน่อยครับ?
ทฤษฎีนักบินอวกาศโบราณใช้กับศาสนาพุทธได้ไหม?
อนัตตาความว่าง ก็คือ ร้อยละ 99.999% ของอะตอมเป็นความว่าง หรือแม้แต่ไม่มีอยู่จริงด้วยซ้ำไป,
มิติทั้ง11ในทฤษฏีสตริง คือภพภูมิต่างๆ,
อิทัปปัจจยตา เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี ก็คือถ้าแยกย่อยสิ่งมีชีวิตลงไปก็จะเห็น > ปฏิกิริยาเคมี > โมเลกุล > อะตอม > อนุภาค > เส้นพลังงานที่สั่นไหว ไม่มีอะไรดำรงอยู่ได้เองเลย
ฯลฯ
ทำไมศาสนาพุทธถึงไม่เคยขัดแย้งกับวิทยาศาสตร์เลยก็เพราะสอดคล้องกับทฤษฏีนักบินอวกาศโบราณหรือเปล่า? เป็นไปได้แค่ไหนเรื่องนี้ลองเปิดใจพิจารณาดูหน่อยครับ?