เป็นเรื่องราวของคนรู้จักของผมนะ ซึ่งผมก็ไม่มีความรู้ในเรื่องนี้เลยขอรบกวนถามผู้มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายแรงงานหรือผู้ที่มีประสบการณ์ ว่าเราจะเรียกร้องสิทธิอย่างไรได้บ้าง


รายละเอียดเบื้องต้น

-การลาออก
ดิฉันได้ยืนใบลาออกตั้งแต่วันที่17ม.ค.2556 และทางนายจ้างเรียกร้องให้ทำตามเงื่อนไขตามกฏหมายด้วยการ ต้องยืนใบลาออกล่วงหน้าเป็นระยะเวลา30วัน ดิฉันจึงยอมรับและได้ทำตามเงื่อนไขกฏหมายที่นายจ้างเรียกร้องด้วยการแจ้งและยืนใบลาออกล่วงหน้าเป็นระยะเวลา30วัน นับตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. 2556 จนถึงวันที่ 17 ก.พ 2556  และได้ทำงานอย่างเต็มเวลาและเต็มความสามารถแล้ว จนกระทั้งสิ้นสุดระยะเวลาตามเงื่อนไขการลาออก คือวันที่17 ก.พ 2556 (เป็นวันอาทิตย์ดิฉันต้องเข้ามาเพราะเป็นคำสั่งด่วนของนายจ้าง)  

  แต่!!ถูกเอาเปรียบจากนายจ้างโดยการไม่จ่ายเงินเดือนงวดสุดท้ายก่อนพ้นสภาพการเป็นพนักงาน โดยทางบริษัทได้อ้างว่าดิฉันยังเคลียร์งานบางส่วนไม่เรียบร้อยหรือยังไม่เป็นที่พึงพอใจของตัวนายจ้างจึงไม่ยอมจ่ายเงินเดือนงวดสุดท้ายให้ และพยายามพูดเหนี่ยวรั้งเพื่อให้เข้าไปทำงานต่อให้สำเร็จ ตามความต้องการของตัวนายจ้างก่อน ถึงจะยินยอมจ่ายเงินเดือนที่ค้างไว้ให้  ซึ่งมันต้องใช้ระยะเวลาเกินจากที่กำหนดการลาออกไว้เป็นอย่างมากอีกเป็นเดือน
และตัวนายจ้างได้บอกกล่าวไว้ว่าเขาได้โทรศัพท์คุยกับผู้มีอำนาจในกรมแรงงาน ไว้ว่าจะเอาเงินเดือนที่ค้างไว้ไปฝากไว้ที่กรมแรงงานถ้าหากเราไปฟ้องร้องเขา(ตัวนายจ้าง)  และได้ข่มขู่ไว้ว่าถ้าเราไปฟ้องร้องเอาเงินเดือนตัวนายจ้างก็จะฟ้องเรากลับข้อหาทำให้บริษัทสูญเสีย(ซึ่งทางเราไม่เข้าใจว่าคืออะไร? และเราผิดตรงไหน?)
สิ่งที่กังวลคือตัวดิฉันเป็นเพียงพนักงานเงินเดือนตัวเล็กๆไม่มีเงินไม่มีอำนาจอะไร เลยคิดว่าเขาจะใช้เงินใช้อำนาจหรือช่องว่างทางกฏหมาย เล่นงานเราแทนได้หรือไม่? แล้วดิฉันควรทำเช่นไรกับเหตุการณ์เช่นนี่ดี เพื่อที่จะได้เงินเดือนที่ค้างอยู่และไม่ถูกเอาเปรียบจากนายจ้าง.