ปรกติไม่อยากจะตั้งกระทู้ประเภทนี้ ในช่วงของการเลือกตั้ง เพราะอยากให้แต่ละท่าน ที่มีสิทธิ์เลือก เป็นผู้ที่ตัดสินใจด้วยตัวของท่านเอง มีวิจารณญานของแต่ละบุคคลอยู่แล้ว
กระทู้นี้ ก็เลยอยากจะ "มอง" ในแบบของคนนอก เสียหน่อย ว่า ทำไมถึงกล่าวหัวข้อกระทู้เช่นนั้น
ผู้ว่า ฯ กทม. ในอดีต มาตั้งแต่สมัย ปู่เทียม หลายท่านคงจำได้ กทม.ยุคตกท่อ มายุค ดร.กฤษฎา ดร.พิจิตร จำลอง ศรีเมือง คุณสมัคร คุณอภิรักษ์ และคุณชายสุขุมพันธ์
ผมมองว่า แต่ละยุค ก็ไม่ค่อยต่างอะไรกันมากมาย เพราะกรุงเทพ ฯ เป็นเมืองที่ "โต" ได้ด้วยตัวของมันเอง เพราะเป็นเมืองหลวงอยู่แล้ว หน้าที่ของผู้ว่า ฯ กทม. เอาแค่ง่าย ๆ แค่หลัก ๆ ก็คือ การอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับประชาชน ทั้งในและต่างจังหวัด ที่เข้ามาในเขต กทม. ให้มีความรู้สึกว่า เมืองนี้เป็นเมืองน่าอยู่
แต่เท่าที่สังเกตดู การบริหารงานของ กทม. ในยุคหลัง ๆ เอาตั้งแต่ยุคคุณอภิรักษ์ เป็นต้นมา ต่างคนต่างทำกับรัฐบาล มันเลยออกแบบงง ๆ หน่อยว่า ตกลงจะยังไงกันแน่ รัฐไปทาง กทม.ไปทาง
1). คุณชายสุขุมพันธ์ สมัยเป็นผู้ว่า ฯ ก็มีเรื่อง กล้องวงจรปิดนี่แหละ ที่ผมคิดว่า ถ้าคนในพันทิป ห้องหว้ากอ ไม่เอามาพูด คนก็จะไม่รู้ว่า อะไรเป็นอะไร เพราะคน กทม. ส่วนหนึ่ง ก็ไม่ค่อยจะสนใจอะไรอยู่แล้ว ไม่สนใจสิ่งรอบตัว อะไรกันเท่าไหร่ ต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิม ยกเว้นว่า มีห้างสรรพสินค้า ตรงไหนเปิดใหม่ นั่นแหละถึงจะสนใจแห่ไปดูกัน
2). เรื่องสนามฟุตซอล เป็นสิ่งที่ น่า..เรียกว่า น่าอัปยศ ก็อาจจะแรงไป ผมนึกคำไม่ออก ว่าจะใช้คำอย่างไร เอาเป็นว่า เป็นลักษณะเฉพาะตัวอย่างหนึ่งของ "พรรค" ก็แล้วกัน ก็คือ คิดโครงการได้..คิดใหญ่ได้..แต่ทำไมสำเร็จสักอย่าง (ถ้าท่านเห็นว่ามีโครงการใดสำเร็จ ลองยกมาให้ดูก็ได้)
3). เรื่องน้ำเสีย ผมก็ยังเห็นคลองมันเน่ามันเสียเหมือนเดิม จำได้ว่า สมัยคุณทักษิณเป็นนายก ฯ (น่าจะเป็นนายก ฯ คนแรกที่นั่งเรือคลองแสนแสบ) เคยจะให้ทำคลองแสนแสบ ลอกคลองแล้วเอาปูนไปราด ไม่ให้น้ำมันขุ่น และมีการกำจัดน้ำเสียลงคลอง หรืออย่างน้ำเน่า แถวริมถนนวิภาวดี ไม่เห็นเขาจะทำอะไรกัน เน่ายังไงก็ให้เน่ายังงั้น อีกอย่างในตอนนั้น คุณสมัคร ไม่ค่อยจะถูกกับรัฐบาลพรรคไทยรักไทยเท่าไหร่ ก็เลยไปเล่นเรื่อง ติด tag ที่หูสุนัขจรจัด คนที่ไม่ชอบคุณสมัครก็ไปบ่นโวยวาย คุณอภิรักษ์ก็ไม่ได้ทำอะไร มีในยุค ดร.โจ ที่ขยันลอกท่อหน่อย
เอาแค่สามเรื่องหลัก ๆ นี้ ก็คิดว่า ผู้ว่า ฯ กทม. ทำตลอดสี่ปี ก็จะไม่หมด เพราะมันใหญ่เกินกำลังของท้องถิ่น นโยบายต่าง ๆ ของ กทม. ควรที่จะสอดคล้องกับการพัฒนาท้องถิ่นโดยรัฐบาลด้วย เพราะมันจะทำสำเร็จเร็ว ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ
ที่พูดนี่ไม่ได้หมายความว่า จะให้ท่านที่เข้ามาอ่าน เลือกคุณพงศพัศ เพราะใครจะเลือกใครนั้น มันเป็นความชอบของแต่ละท่านอยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้มอง ในแง่ของการพัฒนาที่ต่อเนื่องเป็นรูปธรรม คือ คนจับต้องได้จริง ๆ มันต้องพัฒนาด้วยการร่วมมือขององค์กรภาครัฐและท้องถิ่นพร้อม ๆ กัน
คุณชายสุขุมพันธ์ เท่าที่ดูไป ท่านก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรในพรรคประชาธิปัตย์ (แต่คนอื่น ๆ ก็..นะ) แต่ถ้าถามว่า เหมาะที่จะเป็นผู้ว่า ฯ ต่อไปหรือเปล่า ผมคิดว่า สี่ปี ผลงานอะไร ๆ มา แต่ละท่านคงจะพอหาได้ว่า เป็นอย่างไรกันบ้าง ไม่ใช่เลือกเพราะเกลียดคนนั้นคนนี้ หรือ รักคนนั้นคนนี้ มันไร้สาระไปหน่อย ควรที่จะเลือกเพราะว่า เขาจะมาทำอะไรให้เราได้จริงแท้แค่ไหนกัน อีกอย่าง คุณชาย เป็นคนไม่ค่อยจะคล่องแคล่วเท่าไหร่ คือ พูดง่าย ๆ ไม่ค่อยขยัน อันนี้พูดตามที่เห็นนะ ตัวจริงอาจจะขยันก็ได้ คำว่าขยัน นี่ก็คือ ขยันออกไปพบชาวบ้าน รู้จักตรอกซอกซอย รู้ว่าเขตไหนชุมชนไหน มีปัญหา มีข้อดีข้อเสียยังไง ไม่ใช่นั่งตากแอร์อยู่แต่ในห้องทำงาน
ผลงานของผู้สมัครแต่ละคน ควรที่จะถูกท่านผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง พิจารณาดู มากกว่า ไปเชื่อ คนนั้นคนนี้ ประดาผู้มีชื่อเสียงทั้งหลาย มาโพสเฟซบุ๊คว่า ควรหรือไม่ควรจะเลือกใคร เพราะมันแสดงให้เห็นว่า ท่านเหล่านั้น ไม่ได้มีสติปัญญา ที่เหนือไปกว่าชาวบ้านชาวช่องอะไรมากมาย คนเขาตัดสินใจกันเองได้ ชอบใครเลือกใครก็เป็นเรื่องของเขา
สำหรับผมแล้ว คิดว่า คน กทม. ให้โอกาส คุณชายเป็นผู้ว่า ฯ มาแล้วครั้งหนึ่ง ผลคือ ผลงานไม่ค่อยจะประทับใจเท่าไหร่..ถ้าพูดตามประสาพวกที่เข้าประกวด The Voice ก็ต้องบอกว่า ไม่ผ่านครับ
---------------------------------------------
เพิ่มเติมสักเล็กน้อย
คนที่จะมาเป็นผู้ว่า ฯ ต้องคิดให้ดีนะครับ ใน กทม. แต่ละเขต ไล่มาตั้งแต่ ระดับ สก. สข. และ ผอ.เขต แต่ละที่ ผมคิดว่า ก็เขี้ยว ๆ ไม่เบาเหมือนกัน กทม. มีอะไรหลายอย่างที่ต้องปรับปรุงเยอะ อย่างระบบการติดต่อราชการ หรือ การอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับประชาชนที่ไปติดต่อธุระ
สมัยคุณทักษิณ ผมยอมรับว่า สุดยอดจริง ๆ ก็คือ การทำ One Stop Services ผมคิดว่า ประชาชนควรที่จะได้รับความสะดวกหลาย ๆ อย่าง อย่างการทำบัตร ฯ (ในยุคของมหาดไทย ที่ ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล มีภูมิใจไทย คุมมหาดไทย) ก็ควรที่จะได้รับอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่แต่ละเขตต้องมีประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่านี้ ตรงนี้คือสิ่งที่ผู้ว่า ฯ คนใหม่จะต้องเข้ามาแก้ไข อย่าให้ทำงานเช้าชามเย็นชาม
ที่จอดรถของแต่ละเขต ควรจะมีพอให้คนได้เข้ามาใช้บริการ หรือ ถ้าจะให้ดี ก็ไปตั้งในห้าง ฯ ใหญ่ ๆ ก็ได้ คนจะได้สะดวก
อีกอย่างหนึ่งคือ การรดน้ำต้นไม้ ผมก็ไม่เข้าใจบางที ชอบมารดต้นไม้ตามริมถนน ตอนกลางวันให้รถมันติด การจราจรทั้งหลาย พวกนี้ ทั้ง กทม. และภาครัฐที่รับผิดชอบ ควรที่จะ "ไปด้วยกัน" แบบ Single Command ไม่ใช่ถืออัตตา ว่า ข้าเป็นคนที่ประชาชนเลือกตั้งมา ข้าขอทำตามสไตล์ของข้า แบบที่ทำ ๆ กันมา
ฉะนั้น คนเป็นผู้ว่า ฯ ควรจะเลือกทีมงาน อย่างรองผู้ว่า ฯ ที่เจ๋ง ๆ หน่อย (พอจะเห็นหน้าค่าตากันอยู่) ที่พอจะกล้าคิดกล้าทำ เพราะไม่อย่างนั้นมันเหนื่อยกัน
***คิดว่า คุณชายสุขุมพันธ์ไม่ควรจะเป็นผู้ว่า ฯ ต่อไป..**
กระทู้นี้ ก็เลยอยากจะ "มอง" ในแบบของคนนอก เสียหน่อย ว่า ทำไมถึงกล่าวหัวข้อกระทู้เช่นนั้น
ผู้ว่า ฯ กทม. ในอดีต มาตั้งแต่สมัย ปู่เทียม หลายท่านคงจำได้ กทม.ยุคตกท่อ มายุค ดร.กฤษฎา ดร.พิจิตร จำลอง ศรีเมือง คุณสมัคร คุณอภิรักษ์ และคุณชายสุขุมพันธ์
ผมมองว่า แต่ละยุค ก็ไม่ค่อยต่างอะไรกันมากมาย เพราะกรุงเทพ ฯ เป็นเมืองที่ "โต" ได้ด้วยตัวของมันเอง เพราะเป็นเมืองหลวงอยู่แล้ว หน้าที่ของผู้ว่า ฯ กทม. เอาแค่ง่าย ๆ แค่หลัก ๆ ก็คือ การอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับประชาชน ทั้งในและต่างจังหวัด ที่เข้ามาในเขต กทม. ให้มีความรู้สึกว่า เมืองนี้เป็นเมืองน่าอยู่
แต่เท่าที่สังเกตดู การบริหารงานของ กทม. ในยุคหลัง ๆ เอาตั้งแต่ยุคคุณอภิรักษ์ เป็นต้นมา ต่างคนต่างทำกับรัฐบาล มันเลยออกแบบงง ๆ หน่อยว่า ตกลงจะยังไงกันแน่ รัฐไปทาง กทม.ไปทาง
1). คุณชายสุขุมพันธ์ สมัยเป็นผู้ว่า ฯ ก็มีเรื่อง กล้องวงจรปิดนี่แหละ ที่ผมคิดว่า ถ้าคนในพันทิป ห้องหว้ากอ ไม่เอามาพูด คนก็จะไม่รู้ว่า อะไรเป็นอะไร เพราะคน กทม. ส่วนหนึ่ง ก็ไม่ค่อยจะสนใจอะไรอยู่แล้ว ไม่สนใจสิ่งรอบตัว อะไรกันเท่าไหร่ ต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิม ยกเว้นว่า มีห้างสรรพสินค้า ตรงไหนเปิดใหม่ นั่นแหละถึงจะสนใจแห่ไปดูกัน
2). เรื่องสนามฟุตซอล เป็นสิ่งที่ น่า..เรียกว่า น่าอัปยศ ก็อาจจะแรงไป ผมนึกคำไม่ออก ว่าจะใช้คำอย่างไร เอาเป็นว่า เป็นลักษณะเฉพาะตัวอย่างหนึ่งของ "พรรค" ก็แล้วกัน ก็คือ คิดโครงการได้..คิดใหญ่ได้..แต่ทำไมสำเร็จสักอย่าง (ถ้าท่านเห็นว่ามีโครงการใดสำเร็จ ลองยกมาให้ดูก็ได้)
3). เรื่องน้ำเสีย ผมก็ยังเห็นคลองมันเน่ามันเสียเหมือนเดิม จำได้ว่า สมัยคุณทักษิณเป็นนายก ฯ (น่าจะเป็นนายก ฯ คนแรกที่นั่งเรือคลองแสนแสบ) เคยจะให้ทำคลองแสนแสบ ลอกคลองแล้วเอาปูนไปราด ไม่ให้น้ำมันขุ่น และมีการกำจัดน้ำเสียลงคลอง หรืออย่างน้ำเน่า แถวริมถนนวิภาวดี ไม่เห็นเขาจะทำอะไรกัน เน่ายังไงก็ให้เน่ายังงั้น อีกอย่างในตอนนั้น คุณสมัคร ไม่ค่อยจะถูกกับรัฐบาลพรรคไทยรักไทยเท่าไหร่ ก็เลยไปเล่นเรื่อง ติด tag ที่หูสุนัขจรจัด คนที่ไม่ชอบคุณสมัครก็ไปบ่นโวยวาย คุณอภิรักษ์ก็ไม่ได้ทำอะไร มีในยุค ดร.โจ ที่ขยันลอกท่อหน่อย
เอาแค่สามเรื่องหลัก ๆ นี้ ก็คิดว่า ผู้ว่า ฯ กทม. ทำตลอดสี่ปี ก็จะไม่หมด เพราะมันใหญ่เกินกำลังของท้องถิ่น นโยบายต่าง ๆ ของ กทม. ควรที่จะสอดคล้องกับการพัฒนาท้องถิ่นโดยรัฐบาลด้วย เพราะมันจะทำสำเร็จเร็ว ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ
ที่พูดนี่ไม่ได้หมายความว่า จะให้ท่านที่เข้ามาอ่าน เลือกคุณพงศพัศ เพราะใครจะเลือกใครนั้น มันเป็นความชอบของแต่ละท่านอยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้มอง ในแง่ของการพัฒนาที่ต่อเนื่องเป็นรูปธรรม คือ คนจับต้องได้จริง ๆ มันต้องพัฒนาด้วยการร่วมมือขององค์กรภาครัฐและท้องถิ่นพร้อม ๆ กัน
คุณชายสุขุมพันธ์ เท่าที่ดูไป ท่านก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรในพรรคประชาธิปัตย์ (แต่คนอื่น ๆ ก็..นะ) แต่ถ้าถามว่า เหมาะที่จะเป็นผู้ว่า ฯ ต่อไปหรือเปล่า ผมคิดว่า สี่ปี ผลงานอะไร ๆ มา แต่ละท่านคงจะพอหาได้ว่า เป็นอย่างไรกันบ้าง ไม่ใช่เลือกเพราะเกลียดคนนั้นคนนี้ หรือ รักคนนั้นคนนี้ มันไร้สาระไปหน่อย ควรที่จะเลือกเพราะว่า เขาจะมาทำอะไรให้เราได้จริงแท้แค่ไหนกัน อีกอย่าง คุณชาย เป็นคนไม่ค่อยจะคล่องแคล่วเท่าไหร่ คือ พูดง่าย ๆ ไม่ค่อยขยัน อันนี้พูดตามที่เห็นนะ ตัวจริงอาจจะขยันก็ได้ คำว่าขยัน นี่ก็คือ ขยันออกไปพบชาวบ้าน รู้จักตรอกซอกซอย รู้ว่าเขตไหนชุมชนไหน มีปัญหา มีข้อดีข้อเสียยังไง ไม่ใช่นั่งตากแอร์อยู่แต่ในห้องทำงาน
ผลงานของผู้สมัครแต่ละคน ควรที่จะถูกท่านผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง พิจารณาดู มากกว่า ไปเชื่อ คนนั้นคนนี้ ประดาผู้มีชื่อเสียงทั้งหลาย มาโพสเฟซบุ๊คว่า ควรหรือไม่ควรจะเลือกใคร เพราะมันแสดงให้เห็นว่า ท่านเหล่านั้น ไม่ได้มีสติปัญญา ที่เหนือไปกว่าชาวบ้านชาวช่องอะไรมากมาย คนเขาตัดสินใจกันเองได้ ชอบใครเลือกใครก็เป็นเรื่องของเขา
สำหรับผมแล้ว คิดว่า คน กทม. ให้โอกาส คุณชายเป็นผู้ว่า ฯ มาแล้วครั้งหนึ่ง ผลคือ ผลงานไม่ค่อยจะประทับใจเท่าไหร่..ถ้าพูดตามประสาพวกที่เข้าประกวด The Voice ก็ต้องบอกว่า ไม่ผ่านครับ
---------------------------------------------
เพิ่มเติมสักเล็กน้อย
คนที่จะมาเป็นผู้ว่า ฯ ต้องคิดให้ดีนะครับ ใน กทม. แต่ละเขต ไล่มาตั้งแต่ ระดับ สก. สข. และ ผอ.เขต แต่ละที่ ผมคิดว่า ก็เขี้ยว ๆ ไม่เบาเหมือนกัน กทม. มีอะไรหลายอย่างที่ต้องปรับปรุงเยอะ อย่างระบบการติดต่อราชการ หรือ การอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับประชาชนที่ไปติดต่อธุระ
สมัยคุณทักษิณ ผมยอมรับว่า สุดยอดจริง ๆ ก็คือ การทำ One Stop Services ผมคิดว่า ประชาชนควรที่จะได้รับความสะดวกหลาย ๆ อย่าง อย่างการทำบัตร ฯ (ในยุคของมหาดไทย ที่ ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล มีภูมิใจไทย คุมมหาดไทย) ก็ควรที่จะได้รับอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่แต่ละเขตต้องมีประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่านี้ ตรงนี้คือสิ่งที่ผู้ว่า ฯ คนใหม่จะต้องเข้ามาแก้ไข อย่าให้ทำงานเช้าชามเย็นชาม
ที่จอดรถของแต่ละเขต ควรจะมีพอให้คนได้เข้ามาใช้บริการ หรือ ถ้าจะให้ดี ก็ไปตั้งในห้าง ฯ ใหญ่ ๆ ก็ได้ คนจะได้สะดวก
อีกอย่างหนึ่งคือ การรดน้ำต้นไม้ ผมก็ไม่เข้าใจบางที ชอบมารดต้นไม้ตามริมถนน ตอนกลางวันให้รถมันติด การจราจรทั้งหลาย พวกนี้ ทั้ง กทม. และภาครัฐที่รับผิดชอบ ควรที่จะ "ไปด้วยกัน" แบบ Single Command ไม่ใช่ถืออัตตา ว่า ข้าเป็นคนที่ประชาชนเลือกตั้งมา ข้าขอทำตามสไตล์ของข้า แบบที่ทำ ๆ กันมา
ฉะนั้น คนเป็นผู้ว่า ฯ ควรจะเลือกทีมงาน อย่างรองผู้ว่า ฯ ที่เจ๋ง ๆ หน่อย (พอจะเห็นหน้าค่าตากันอยู่) ที่พอจะกล้าคิดกล้าทำ เพราะไม่อย่างนั้นมันเหนื่อยกัน