เป็นแบบนี้ทุกยุคทุกสมัย สำหรับพรรคนี้..... ใช้มุขเดิมซ้ำๆ ไม่ว่าจะสนามใหญ่ หรือ สนาม กทม.
ตัวหัว หรือ ตัวผู้ลงสมัคร จะทำตัวนิ่งๆ เป็นคนดี หาเสียงแบบปกติ
ส่วน ลิ่วล้อ มีหน้าที่ออกมาถล่มฝ่ายตรงข้าม โดยจะออกมาโจมตีด้วยวิธีการหรือคำพูด แบบทุเรศแค่ไหนก็ได้ ฟรีสไตล์กันไปเลยๆๆ
การเมืองบ้านเรามันไม่สร้างสรรค์ ก็เพราะไอ้พรรคนี้เนี่ยแหละ..... ไม่เคยสร้างสรรค์ ใช้วิธีโจมตีสกปรกสารพัด
ตั้งแต่ คุณพงศพัศ ลงผู้ว่าฯ โดนไอ้พรรคนี้โจมตีมาเรื่อย นับดูแล้วเป็นสิบๆเรื่องเห็นจะได้ ซึ่งแต่ละเรื่อง ไม่ใช่เรื่องการทำงานแม้แต่เรื่องเดียว เอาเรื่องใส่ร้ายมาเล่นกันล้วนๆๆ ขณะที่พรรคเพื่อไทย ผมไม่เห็นใครจะออกมาโจมตีนายสุขุมพันธ์ ใส่ร้ายเรื่องส่วนตัวของนายสุขุมพันธ์ ซักคน ทั้งที่ความจริงประเด็นเรื่องส่วนตัวมันก็มีอยู่ หลายๆคนคงรู้แหละว่าเรื่องอะไร.... แต่พรรคเพื่อไทยไม่เล่น ตรงนี้ผมปรบมือให้ถือว่าเล่นการเมืองแบบสร้างสรรค์
ปัจจุบันประชาชนเองเสพสื่อมากขึ้น มีวิจารญาณมากขึ้น ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ปรับวิธีเล่นการเมือง ไม่เลิกเล่นการเมืองแบบสกปรก ก็คงเป็นเหมือนการทำลายตัวเอง เพราะโอกาสเอาชนะเลือกตั้งก็คงน้อยลงไปเรื่อยๆ โลกเปลี่ยนไปแล้วพรรคประชาธิปัตย์ก็ควรเปลี่ยนตามโลก ไม่ใช่ยังเล่นการเมืองใส่ร้ายแบบสมัย 20 ปี ที่แล้ว การหันมาเล่นการเมืองแบบสร้างสรรค์เป็นทางรอดเดียวของพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าตัวเองไม่ปรับปรุงใครก็คงช่วยอะไรไม่ได้
พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยเล่นการเมืองแบบสร้างสรรค์ ตัวหัวทำนิ่ง แล้วปล่อยลิ่วล้อออกมาถล่มฝ่ายตรงข้าม ใช้มุขเดิมๆซ้ำๆ
ตัวหัว หรือ ตัวผู้ลงสมัคร จะทำตัวนิ่งๆ เป็นคนดี หาเสียงแบบปกติ
ส่วน ลิ่วล้อ มีหน้าที่ออกมาถล่มฝ่ายตรงข้าม โดยจะออกมาโจมตีด้วยวิธีการหรือคำพูด แบบทุเรศแค่ไหนก็ได้ ฟรีสไตล์กันไปเลยๆๆ
การเมืองบ้านเรามันไม่สร้างสรรค์ ก็เพราะไอ้พรรคนี้เนี่ยแหละ..... ไม่เคยสร้างสรรค์ ใช้วิธีโจมตีสกปรกสารพัด
ตั้งแต่ คุณพงศพัศ ลงผู้ว่าฯ โดนไอ้พรรคนี้โจมตีมาเรื่อย นับดูแล้วเป็นสิบๆเรื่องเห็นจะได้ ซึ่งแต่ละเรื่อง ไม่ใช่เรื่องการทำงานแม้แต่เรื่องเดียว เอาเรื่องใส่ร้ายมาเล่นกันล้วนๆๆ ขณะที่พรรคเพื่อไทย ผมไม่เห็นใครจะออกมาโจมตีนายสุขุมพันธ์ ใส่ร้ายเรื่องส่วนตัวของนายสุขุมพันธ์ ซักคน ทั้งที่ความจริงประเด็นเรื่องส่วนตัวมันก็มีอยู่ หลายๆคนคงรู้แหละว่าเรื่องอะไร.... แต่พรรคเพื่อไทยไม่เล่น ตรงนี้ผมปรบมือให้ถือว่าเล่นการเมืองแบบสร้างสรรค์
ปัจจุบันประชาชนเองเสพสื่อมากขึ้น มีวิจารญาณมากขึ้น ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ปรับวิธีเล่นการเมือง ไม่เลิกเล่นการเมืองแบบสกปรก ก็คงเป็นเหมือนการทำลายตัวเอง เพราะโอกาสเอาชนะเลือกตั้งก็คงน้อยลงไปเรื่อยๆ โลกเปลี่ยนไปแล้วพรรคประชาธิปัตย์ก็ควรเปลี่ยนตามโลก ไม่ใช่ยังเล่นการเมืองใส่ร้ายแบบสมัย 20 ปี ที่แล้ว การหันมาเล่นการเมืองแบบสร้างสรรค์เป็นทางรอดเดียวของพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าตัวเองไม่ปรับปรุงใครก็คงช่วยอะไรไม่ได้