ทำไมอังศุมาลินถึงมองว่าญี่ปถ่นเป็นศัตรูและฝรั่งเป็นมิตรคะ

ทำไมอังซังถึงมองว่าญี่ปุ่นเป็นศัตรูแล้วฝรั่งเป็นมิตรคะ
เพราะถึงญี่ปุ่นจะรังแกคนไทย ก็เป็นกลุ่มเล็กๆที่ทำ
ส่วนใหญ่ก็มีสัมพันธ์ที่ดีกับคนไทยที่ชุมชนบางกอกน้อย
แต่ฝรั่งก็มาทิ้งระเบิดเหมือนกัน ทำไมอังซังยังมองว่าเป็นมิตรล่ะคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
จากที่เคยอ่านในหนังสือ   ญี่ปุ่นกับเยอรมันซึ่งเป็นฝ่ายอักษะในตอนนั้น   เป็นฝ่ายริเริ่มก่อให้เกิดสงครามโลกครั้งที่สองค่ะ


โดยเยอรมัน ( นาซี  )  มีเป้าหมายยึกครองยุโรปตะวันตก   ส่วนญี่ปุ่นก็อยากเป็นใหญ่ในดินแดนเอเซีย


พูดง่ายๆคือ  ชาวบ้านเขาอยู่กันมาดีๆ  สงบสุข   ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันมานาน  แต่อยู่ๆดีเกิดมีเพื่อนบ้านสองหลัง  เกิดติสต์แตก  หาเรื่องทะเลาะกับชาวบ้านเขาไปทั่ว   หาว่าตัวเองสืบเชื้อสายที่สูงส่ง  ทนอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านซึ่งเป็นคนธรรมดาไม่ได้   ถ้าจะให้อยู่ร่วมกัยก็ต้องให้ฉันใหญ่ที่สุด    ( นาซีถือว่าตัวเองสืบเชื้อสายจากพวกอารยัน  เป็นชนเผ่าที่ถูกนับถือว่าเป็นผู้นำ  มีความฉลาด  ได้รับเลือกเป็นผู้ปกครองมาตลอด  (  และหน้าตาดีมากด้วย 555 )  ส่วนญี่ปุ่นนี่สืบเชื้อสายมาจากเทพพระอาทิตย์ค่ะ  )  

เท่านั้นยังไม่พอ  ยังหาว่าพื้นที่ของเพื่อนบ้าน  ความจริงแล้วเป็นอาณาเขตของตัวเอง  พยายามขับไล่เพื่อนบ้านออกจากบ้าน  เพื่อเข้ายึดบ้านคนอื่นเป็นของตัวเอง   ถ้าเพื่อบ้านไม่ไป   ก็ไปอาละวาด  ทำร้ายร่างกายของสมาชิกในบ้านนั้นๆอย่างทารุณ   แต่ถ้าบ้านหลังไหนยอมอ่อนข้อ  ยอมเป็นพวก  ก็อาจจะไม่ทำร้าย   แต่มิวายบังคับให้เขาส่งส่วย  หรือไม่ก็ต้องจำยอมร่วมมือทำร้ายเพื่อนบ้านที่ไม่ยอมอ่อนข้อ  


ส่วนสาเหตุที่อังศุมาลินเกลียดพวกญี่ปุ่น   ก็เพราะญี่ปุ่นมาในบทบาทของผู้รุกราน  เอารัดเอาเปรียบคนไทยในสมัยนั้น   ส่วนพวกอังกฤษ อเมริกัน  มาในรูปแบบของผู้ถูกรุกราน  ภายหลังก็ฮึดสู้  ตอบโต้กลับดดยการทิ้งระเบิดในประเทศไทย   ก็เหมือนตำรวจบุกช่วยตัวประกันน่ะค่ะ   คือบ้านอาจจะเสียหาย  ถูกทำลายไปบ้าง  แต่สุดท้ายตำรวจก็ขับไล่โจรออกจากบ้านไปได้   ถึงจะทำให้บ้านเสียหาย  แต่ก็แลกกับความปลอดภัยของทุกชีวิตในบ้าน
     

แต่ส่วนที่เห็นในละคร   ว่าญี่ปุ่นเป็นมิตรกับชาวบางกอกน้อย    ก็เพราะบทบาทโกโบริเป็นพระเอก   ก็ต้องแสดงออกในทางที่ดีอยู่แล้ว   ซึ่งความเป็นจริงนั้นไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร   แต่เท่าที่ทราบและเป็นเรื่องจริงก็คือ   ช่วงญี่ปุ่นเข้าประเทศไทย   เกิดภาวะข้าวยากหมากแพง   เศรษฐกิจฝืดเคือง  ( ยกเว้นพวกเซ้งลี้ฮ้อก็พวกญี่ปุ่น  )   


ส่วนทางด้านวัฒนธรรม   รัฐบาลประกาศการใช้รูปแบบอักษรในการพูดและเขียนใหม่    โดยเฉพาะในด้านการเขียน   มีการปรับรูปวรรณยุกต์   ยกตัวอย่างเช่น   พรรณพฤกษ์  ก็เปลี่ยนเป็น  >>>>>  พันพึก      แม้กระทั่งความหมาย  อย่างเช่น  ต้นไม้   ก็ให้ใช้คำว่า  ต้นไม้  อย่างเดียวไปเลยตรงๆ    ห้ามมาใช้คำอื่นๆแม้จะมีความหมายเดียวกัน  เช่น  พงไพร  พฤกษา    ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อให้คนญี่ปุ่นเข้าใจภาษาไทยได้ง่ายขึ้น        แต่ก็เป็นจุดมืดบอดของวงการวรรณกรรมไทยในตอนนั้น   เพราะนักเขียนเก่งๆหลายท่านในยุคนั้น  เลิกเขียนหนังสือเพราะรับไม่ได้กับการสะกดวรรณยุกต์แบบใหม่ที่รัฐบาลกำหนดขึ้นน่ะค่ะ  

และคิดว่าคงมีอีกหลายๆเรื่อง  ที่ญี่ปุ่นเคยทำไม่ดีไว้กับไทยไว้ในช่วงนั้น    เพราะถ้าญี่ปุ่นเป็นมิตรที่ดีจริง   ก็คงไม่มีการจัดตั้งขบวนการเสรีไทย  ต่อต้านญี่ปุ่นขึ้นมาหรอกค่ะ
ความคิดเห็นที่ 12
ความจริง นิสัยของคนญี่ปุ่นก็น่านับถืออยู่อย่างหนึ่งค่ะ  


คืออันนี้อ่านจากในหนังสือมาเช่นกันนะคะ  


ก็คือเรื่องความเด็ดเดี่ยว  และก็หยิ่งทรนงในศักดิ์ศรีของตัวเองอย่างสูงสุด  


ตอนช่วงที่กองทัพอเมริกาเอาระเบิดมาถล่มที่ฮิโรชิม่า   และ นางาซากิ  


แน่นอนว่าผลจากการระเบิดลูกนั้นคือการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงของประเทศญี่ปุ่น   ผู้คนล้มตาย  เมืองทั้งเมืองพังราบ  ไม่เหลืออะไรเลย  
  

ท้ายสุดพระจักรพรรดิ ฮิโระฮิโตะ  ทรงประกาศสุนทรพจน์  ขอเป็นฝ่ายยอมแพ้  ยอมจำนนอย่างไม่มีเงื่อนไข   เพื่อรักษาประเทศและประชาชนที่เหลือไว้  


แต่ปรากฏพวกขุนนางผู้ใหญ่  พวกนายพล  ราชวงศ์ชั้นสูงหลายคนเขาไม่ยอมกันค่ะ   พยายามหาทางแย่งเทปบันทึกเสียงที่บันทึกสุนทรพจน์ประกาศยอมแพ้ของพระจักรพรรดิไปทำลายให้ได้   คือจะไม่ยอมแพ้เป็นอันขาด   ยอมหักแต่ไม่ยอมงอ   แต่สุดท้ายก็แย่งไม่สำเร็จ  เทปบันทึกเสียงถูกลักลอบออกมานอกวัง   โดยซุกซ่อนไว้ในตะกร้าชุดชั้นในผู้หญิง    ในหนังสือบอกว่าตอนที่เทปบันทึกพระสุรเสียงสุทรพจน์ประกาศยอมแพ้   ดังไปทั่วเกาะญี่ปุ่นครั้งนั้น    บรรดานายทหารชั้นผู้ใหญ่  ยศสูงๆระดับนายพล  ไปจนถึงเจ้านายเชื้อพระวงศ์   แล้วก็พวกชนชั้นสูงที่มีอำนาจ   พร้อมใจกันกระทำการฮาราคีรี   ฆ่าตัวตายกันหมด   ไม่ขอก้มหัวให้ในฐานะผู้แพ้เป็นอันขาด    บางส่วนเดินทางมาฮาราคีรีที่หน้าพระลานในพระราชวังของสมเด็จพระจักรรพรรดิเลยค่ะ      

ตอนนั้นอ่านแล้วไม่รู้จะเคืองหรือจะนึกสังเวชใจดี    เพราะเหมือนกงกรรมกงเกวียน   อย่างตอนนานกิง   ทหารญี่ปุ่นก็ร้ายกับพวกชาวจีนมากๆ   แต่ผลสุดท้าย  ระเบิดนิวเคลียร์ถล่มฮิโรชิมากับนางาซากิ   ก็ทำให้ลูกหลานอีกหลายรุ่นของชาวญี่ปุ่น  ต้องกลายเป็นคนพิกลพิการจากพวกกัมมันตรังสี  บ้านแตกสาแหรกขาด  เรียกว่าลูกหลานเหมือนรับกรรมแทน

โดยส่วนตัวรู้สึกว่าสงครามไม่ว่าเริ่มต้นเพราะสาเหตุอะไร  แต่บทสรุปก็มักเป็นเรื่องน่าสังเวชใจเสมอ  T^T
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่