สวัสดีชาวพันทิป และสมาชิกถนนนักเขียนนะคับ ^^
ผมมีเรื่องที่อยากเขียนมาก เป็นกระทู้แรกของผมในพันทิป เป็นเรื่องสั้นที่เคยอ่านในหนังสือขายหัวเราะ นานมากประมาณสิบกว่าปีผ่านมาแล้ว
แต่ผมชอบเรื่องนี้มาก เลยยังพอจำความได้คร่าวๆ และอยากถ่ายทอดโดยนำโครงร่างของเรื่องมาจัดเรียงและเขียนใหม่ ให้หลายๆคนได้อ่าน เป็นเรื่องที่ไม่ได้แต่งเอง แต่เป็นเรื่องที่อยู่ในความทรงจำแบบนี้ จะผิดกติกาไหมคับ ^^
...........ณ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง มีนักศึกษาอยู่กลุ่มหนึ่งเป็นที่น่าสนใจของเพื่อนๆนักศึกษากลุ่มอื่นมาก เพราะนักศึกษากลุ่มนี้เป็นสาวหน้าตาดีมีผู้หญิง 5คน และกระเทยควายอีก 1ตัว..ส่วนใหญ่จะเป็นลูกท่านหลานเธอ ไม่ก็ลูกหลานของนักธุรกิจชื่อดังระดับประเทศ ซึ่งคณะที่พวกเธอเรียนคือคณะบริหารธุรกิจ ส่วนใหญ่จบมาก็ทำงานกับธุรกิจของครอบครัว ในกลุ่มของพวกเธอมีดาวคณะอยู่ด้วย เธอมีชื่อว่าน้องอาย น้องอายเป็นลูกของนักธุรกิจระดับพันล้านของเมืองไทย หน้าตาสวย น่ารัก นิสัยขี้อ้อน น่าทะนุถนอม ดังนั้นเธอจึงได้รับเลือกให้มาเป็นดาวคณะ (พวกคุณรู้จักกันมั๊ยคับน้องอายอ่ะ ใครไม่รู้จักอายถือว่าหน้าด้าน กร๊ากกกก) แต่ที่สะดุดตาไม่น้อยไปกว่าน้องอายคือน้องชีสเค้ก(ชื่อเดิมคือไอ้สมชาย) น้องคนนี้เป็นกระเทยเพียงคนเดียวในกลุ่ม ชีเป็นกระเทยที่ไม่ได้แปลงเพศ ไม่มีนมและแน่นอนดุ้นมันยังอยู่ ชีสเค้กเป็นกระเทยบึกบึนแต่งหน้าจัดจ้าน ใส่ชุดนักศึกษาหญิงฟิตเปรี๊ยะ จนบางครั้งดุ้นของนางก็แอบโผล่ออกมาอวดเพศเดิมของตัวเอง ส่วนกระเทยควายนางนี้ไม่ได้เป็นลูกท่านหลานเธอ หรือไฮโซไฮซ้อแต่อย่างใด เป็นแค่ลูกชาวนาบ้านนอกที่ริอาจมาคบนางฟ้า ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เข้ามาในกลุ่มนี้ได้ อาจเป็นเพราะนิสัยดี ฉลาด เรียนเก่ง ชอบช่วยเหลือและปกป้องเพื่อน เพราะตัวใหญ่มหึมา ใครอย่าได้คิดไปมีเรื่องกับนาง และอาจเพราะนางมีอารมณ์ขันด้วยกระมัง จึงทำให้เพื่อนๆในกลุ่มนี้ยอมรับเธอเข้ากลุ่ม ชีสเค้กเช่าอพาร์ตเม้นท์ราคาถูกแถวๆมหาวิทยาลัยอยู่ โดยพ่อจะส่งเงินมาให้เป็นค่าเทอม และค่าใช้จ่ายอื่นๆเป็นรายเดือน ต่างจากเพื่อนๆที่บางคนอยู่บ้านตัวเองมีคนขับรถรับส่ง บางคนบ้านไกลมหาวิทยาลัย พ่อแม่ก็จะซื้อคอนโดหรูที่ใกล้มหาวิทยาลัยให้ เช่นน้องอาย ที่คุณพ่อซื้อดอนโดหรูราคาสิบล้านให้อยู่เพราะบ้านไกล ซึ่งห้องของน้องอายเป็นสถานที่ๆใช้พบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆในกลุ่ม ไม่ว่าจะทำรายงาน ติวหนังสือหรือสังสรรค์งานวันเกิดต่างๆ วันไหนเมากันมากก็นอนเรี่ยราดรวมกันในห้อง..พวกเธอทั้ง 6 คนคบกันเหนียวแน่นหนึบ ทั้งเรียน กิน นอน เที่ยว ไม่ว่าใครจะมีแฟนแต่ทุกคนไม่เคยห่างกัน น้องอายเป็นอีกคนหนึ่งที่มีผู้ชายมาจีบเยอะมาก ทั้งหนุ่มหล่อ+หนุ่มรวยทั้งหลาย ไม่มีใครสามารถเข้าถึงตัวนางได้เลย เพราะมีชีสเค้กเป็นไม้กันหมาให้ บางทีเห็นหล่อๆรวยๆเข้ามาจีบน้องอาย ชีสเค้กก็ทำท่าอยากได้ซะเองจนผู้ชายบางคนไม่กล้าเข้าใกล้กลุ่มของพวกเธออีกเลย ส่วนน้องอายก็ได้แต่ขำๆ เพราะเธอไม่คิดอยากจะมีแฟนตอนเรียน เธอเป็นเด็กที่มีความคิดที่ดี เพราะพ่อแม่ และครอบครัวของเธอปลูกฝังมาดี และอีกอย่างเธอยังมีเพื่อนๆในกลุ่มที่ยังคบกันได้อย่างสนิทใจ ไม่เคยมีปัญหา รู้ใจกันเกือบทุกเรื่อง เพื่อนคนไหนมีแฟนต้องผ่านการสกรีนจากเพื่อนๆในกลุ่มเกือบทุกคน
........เวลาล่วงเลยมาถึงปี4 เทอมสุดท้าย พวกเธอทุกคนใกล้จะจบการศึกษา เป็นบัณฑิตจบใหม่ที่พร้อมจะออกสู่สังคมธุรกิจ ตามความสามารถ และฐานะของครอบครัว คงมีแต่ชีสเค้กที่ยังไม่รู้อนาคตว่าจบแล้วจะไปทำงานที่ไหน แต่เพื่อนของเธอทุกคนก็เสนอตำแหน่งงานในธุรกิจครอบครัวของตัวเองให้ แต่เธอยังไม่ตกปากรับคำใคร..วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของพวกเธอ หลังจากหักโหมอ่านและติวหนังสือกันอย่างหนักมาเป็นแรมเดือน พวกเธอวางแผนกันไว้ว่าสอบเสร็จวันนี้ พวกเธอจะฉลองกันให้มันส์หลุดโลกไปเลยให้สมกับที่เหนื่อยมาหลายวัน พอตกเย็นพวกเธอทั้งหมดก็มาพร้อมหน้ากัน
ณ ห้องของน้องอายบนคอนโดหรู(งานนี้งดแฟน สำหรับคที่มีแฟน)พร้อมกับเครื่องดื่มหลากหลายชนิด หลายยี่ห้อ ขนมขบเคี้ยวกับแกล้มต่างๆมากมาย กะว่าเข้าห้องแล้วคงจะไม่ออกไปไหนกันแล้วคืนนี้ เมาให้สลบไสลกันไปข้างหนึ่ง พอพร้อมหน้ากันพวกเธอก็เริ่มเปิดงานกันเลย ทั้งกิน ดื่ม ร้อง เต้น สนุกกันสุดเหวี่ยง เมากันถ้วนหน้า เลยเวลาตีสองสภาพในห้องเกลื่อนกลาดไปด้วยขวดไวน์ และขวดเบียร์ บางคนเมานอนคาวง บางคนนอนคุยกับชักโครก น้องอายนอนหนุนตักชีสเค้ก ซึ่งกระเทยนางนี้ยังไม่เมา นางมองน้องอายด้วยความเอ็นดู คิดย้อนไปตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกัน ตั้งแต่วันนั้นน้องอายคอยช่วยเหลือเรื่องเงินของชีสเค้กเวลาที่เงินขาดมือมาโดยตลอด แต่เธอก็ตอบแทนด้วยการคอยดูแลปกป้องน้องอายหลายๆอย่าง เหมือนพี่สาวที่คอยดูแลน้องสาวเป็นอย่างดี ชีสเค้กเคยไปบ้านของน้องอายมาหลายครั้ง พ่อน้องอายเป็นคนดุ ดูแล้วน่าเกรงขาม พ่อหวงและห่วงน้องอายมาก เพราะเป็นลูกคนเดียวของตระกูล แต่ไว้ใจให้น้องชีสเค้กช่วยดูแล เพราะเห็นว่าสนิทกับลูกและมีท่าทางตุ้งติ้งไม่เป็นพิษเป็นภัยกับน้องอาย มาที่คอนโดกันต่อ..พอเห็นว่าทุกคนเมาสลบจนหมดน้องชีสเค้กก็อุ้มน้องอายเข้าห้องนอนขึ้นนอนบนเตียง และจะด้วยความเมาหรืออะไรก็ไม่ทราบได้ ชีสเค้กได้ขึ้นคร่อมตัวน้องอาย และเริ่มบรรจงจูบหน้าผากน้องอายอย่างแผ่วเบาเรื่อยลงมาที่ริมฝีปาก น้องอายสดุ้งนิดๆพร้อมหลับตาพริ้มและหลังจากนั้นกล้องก็ค่อยๆเลื่อนขึ้นไปตรงโคมไฟหัวนอน(พวกคุณจินตนาการกันต่อเองละกัน) พอวันรุ่งขึ้นน้องอายตื่นขึ้นมาด้วยอาการมึนๆ ปวดหัวตึ๊บๆ มองไปข้างตัวมีร่างเปลือยเปล่ากำยำ ของผู้ชายกล้ามเป็นมัดๆพร้อมซิกแพ็คที่มีไรขนขึ้นบางๆ เธอตกใจมากพร้อมกับตรวจสภาพร่างกายของเธอ ซึ่งเปลือยเปล่าไม่ต่างกัน เธอจึงรีบปลุกชีสเค้กให้ตื่นขึ้นมา พอชี้สเค้กตื่นลืมตาและมองสภาพร่างกายของกันและกัน ชีสเค้กเธอก็ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย ปากก็บอกว่าเมื่อคืนน้องอายเมามากพยายามจะจูบปากกับตัวเองตลอด บอกว่าอยากลองจูบดู เวลามีแฟนจะได้ทำเป็น ตัวเองก็ปัดป้องเต็มที่ พอเห็นว่าน้องอายหลับไป ก็เลยอุ้มน้องอายมาที่เตียงเพื่อจะได้นอนสบายหน่อย แต่น้องอายสดุ้งตื่นขึ้นมา แล้วยังพยายามที่จะจูบปากของตัว ชีสเค้กบอกอีกว่าตัวเองก็เมามาก ไม่คิดว่ามันจะเลยเถิดขนาดนี้ และพูดต่อไปว่าถ้าพ่อกับแม่ของตัวเองรู้คงจะเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ เพราะที่บ้านนอก มีความเชื่อว่าถ้าหากมีลูกหลานเกิดได้เสีย หรือเสียความบริสุทธิ์ให้กับใครแล้ว ต้องแต่งงานกับคนนั้น เพราะถือว่าผิดผี ถ้าไม่แต่งงานกัน ญาติผู้ใหญ่จะมีอันเป็นไปทั้งสองฝ่าย น้องอายได้ยินเช่นนั้น จึงได้ขอโทษชีสเค้ก พร้อมกับบอกว่าจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง โดยจะกลับบ้านไปปรึกษาคุณพ่อกับคุณแม่ให้ แล้วทั้งสองก็ออกจากห้องนอน เพื่อนๆยังไม่มีใครตื่น เลยไม่มีใครรู้เรื่องนี้ จากนั้นจึงช่วยกันปลุกเพื่อนๆเพื่อกลับบ้านใครบ้านมัน
วันต่อมาน้องอายได้พาชีสเค้กในคราบของ สมชาย ที่ตัดผมสั้น แต่งตัวด้วยกางเกงสแล็ค เสื้อเชิ้ต ผูกเนคไทเรียบร้อย พร้อมทับด้วยสูตรราคาแพงที่น้องอายซื้อให้ไปหาคุณพ่อที่บ้าน พร้อมอธิบายเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้พ่อฟัง ด้วยความที่คุณพ่อเป็นคนที่มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ (เรื่องผิดผี) เพราะเคยเกิดเหตุการณ์เดียวกันกับคนรับใช้ที่บ้าน แล้วคนรับใช้ไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ ไม่นานก็มีข่าวร้ายว่าพ่อของเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ด้วยเหตุนี้คุณพ่อของน้องอายจึงบอกกับทั้งสองว่าจะจัดงานแต่งงานให้หลังจากที่ทั้งสองรับปริญญาเรียบร้อย ให้ชีสเค้ก หรือนายสมชายพาพ่อกับแม่ให้มาสู่ขอตามประเพณี โดยไม่ได้เรียกร้องค่าสินสอดอะไร อีกอย่างคงเพราะพ่อของน้องอายเห็นว่าสมชายเป็นคนดี เรียนเก่ง ฉลาด และยังคอยดูแลลูกสาวของตัวเองมาโดยตลอดจากนั้นสมชายก็ขอตัวกลับห้อง
....ในห้องอพาร์ทเม้นต์ สมชายได้เขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงพ่อและแม่ของเขา โดยมีเนื้อความในจดหมายว่า ถึงพ่อกับแม่คับ วันนี้เป็นวันที่ผมภาคภูิใจที่สุด ผมได้ทำความฝันของพวกเราเป็นจริงแล้ว จากการสั่งสอน และการวางแผนอันแยบยลของพ่อ เริ่มด้วยการเดิมพันครั้งใหญ่ของครอบครัวเรา โดยรวบรวมที่นาทั้งหมดที่เรามี ประกาศขายจนได้เงินก้อนมา 500,000 บาท เป็นเงินเพียงก้อนเดียวและก้อนสุดท้ายของบ้านเรา เพื่อส่งให้ผมได้เรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนที่ค่าเทอมแสนแพง ให้ผมแต่งตัวเป็นกระเทยและให้คบหาแต่พวกผู้หญิงรวยๆ ตอนแรกผมไม่เข้าใจความคิดของพ่อ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว มันเป็นวิธีเดียวที่จะยกระดับฐานะของครอบครัวเราให้เท่าเทียมกับคนเมืองกรุงที่ไฮโซและสูงส่ง ถึงวันใกล้รับปริญญาผมจะไปรับพ่อกับแม่มากรุงเทพนะคับ ไว้แค่นี้ก่อน ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปผมต้องไปฝึกงาน เรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจพันล้านของว่าที่พ่อตาของผม ผมอาจจะไม่ว่างเขียนจดหมายถึงพ่อกับแม่ จนกว่าจะถึงวันที่ผมจะไปรับนะคับ
รักพ่อกับแม่คับ...จากสมชาย ลูกชายที่ไม่เคยคิดจะเป็นสมหญิงคับ ^^
ชีสเค้กชิ้นนี้ ไม่ธรรมดา
ผมมีเรื่องที่อยากเขียนมาก เป็นกระทู้แรกของผมในพันทิป เป็นเรื่องสั้นที่เคยอ่านในหนังสือขายหัวเราะ นานมากประมาณสิบกว่าปีผ่านมาแล้ว
แต่ผมชอบเรื่องนี้มาก เลยยังพอจำความได้คร่าวๆ และอยากถ่ายทอดโดยนำโครงร่างของเรื่องมาจัดเรียงและเขียนใหม่ ให้หลายๆคนได้อ่าน เป็นเรื่องที่ไม่ได้แต่งเอง แต่เป็นเรื่องที่อยู่ในความทรงจำแบบนี้ จะผิดกติกาไหมคับ ^^
...........ณ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง มีนักศึกษาอยู่กลุ่มหนึ่งเป็นที่น่าสนใจของเพื่อนๆนักศึกษากลุ่มอื่นมาก เพราะนักศึกษากลุ่มนี้เป็นสาวหน้าตาดีมีผู้หญิง 5คน และกระเทยควายอีก 1ตัว..ส่วนใหญ่จะเป็นลูกท่านหลานเธอ ไม่ก็ลูกหลานของนักธุรกิจชื่อดังระดับประเทศ ซึ่งคณะที่พวกเธอเรียนคือคณะบริหารธุรกิจ ส่วนใหญ่จบมาก็ทำงานกับธุรกิจของครอบครัว ในกลุ่มของพวกเธอมีดาวคณะอยู่ด้วย เธอมีชื่อว่าน้องอาย น้องอายเป็นลูกของนักธุรกิจระดับพันล้านของเมืองไทย หน้าตาสวย น่ารัก นิสัยขี้อ้อน น่าทะนุถนอม ดังนั้นเธอจึงได้รับเลือกให้มาเป็นดาวคณะ (พวกคุณรู้จักกันมั๊ยคับน้องอายอ่ะ ใครไม่รู้จักอายถือว่าหน้าด้าน กร๊ากกกก) แต่ที่สะดุดตาไม่น้อยไปกว่าน้องอายคือน้องชีสเค้ก(ชื่อเดิมคือไอ้สมชาย) น้องคนนี้เป็นกระเทยเพียงคนเดียวในกลุ่ม ชีเป็นกระเทยที่ไม่ได้แปลงเพศ ไม่มีนมและแน่นอนดุ้นมันยังอยู่ ชีสเค้กเป็นกระเทยบึกบึนแต่งหน้าจัดจ้าน ใส่ชุดนักศึกษาหญิงฟิตเปรี๊ยะ จนบางครั้งดุ้นของนางก็แอบโผล่ออกมาอวดเพศเดิมของตัวเอง ส่วนกระเทยควายนางนี้ไม่ได้เป็นลูกท่านหลานเธอ หรือไฮโซไฮซ้อแต่อย่างใด เป็นแค่ลูกชาวนาบ้านนอกที่ริอาจมาคบนางฟ้า ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เข้ามาในกลุ่มนี้ได้ อาจเป็นเพราะนิสัยดี ฉลาด เรียนเก่ง ชอบช่วยเหลือและปกป้องเพื่อน เพราะตัวใหญ่มหึมา ใครอย่าได้คิดไปมีเรื่องกับนาง และอาจเพราะนางมีอารมณ์ขันด้วยกระมัง จึงทำให้เพื่อนๆในกลุ่มนี้ยอมรับเธอเข้ากลุ่ม ชีสเค้กเช่าอพาร์ตเม้นท์ราคาถูกแถวๆมหาวิทยาลัยอยู่ โดยพ่อจะส่งเงินมาให้เป็นค่าเทอม และค่าใช้จ่ายอื่นๆเป็นรายเดือน ต่างจากเพื่อนๆที่บางคนอยู่บ้านตัวเองมีคนขับรถรับส่ง บางคนบ้านไกลมหาวิทยาลัย พ่อแม่ก็จะซื้อคอนโดหรูที่ใกล้มหาวิทยาลัยให้ เช่นน้องอาย ที่คุณพ่อซื้อดอนโดหรูราคาสิบล้านให้อยู่เพราะบ้านไกล ซึ่งห้องของน้องอายเป็นสถานที่ๆใช้พบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆในกลุ่ม ไม่ว่าจะทำรายงาน ติวหนังสือหรือสังสรรค์งานวันเกิดต่างๆ วันไหนเมากันมากก็นอนเรี่ยราดรวมกันในห้อง..พวกเธอทั้ง 6 คนคบกันเหนียวแน่นหนึบ ทั้งเรียน กิน นอน เที่ยว ไม่ว่าใครจะมีแฟนแต่ทุกคนไม่เคยห่างกัน น้องอายเป็นอีกคนหนึ่งที่มีผู้ชายมาจีบเยอะมาก ทั้งหนุ่มหล่อ+หนุ่มรวยทั้งหลาย ไม่มีใครสามารถเข้าถึงตัวนางได้เลย เพราะมีชีสเค้กเป็นไม้กันหมาให้ บางทีเห็นหล่อๆรวยๆเข้ามาจีบน้องอาย ชีสเค้กก็ทำท่าอยากได้ซะเองจนผู้ชายบางคนไม่กล้าเข้าใกล้กลุ่มของพวกเธออีกเลย ส่วนน้องอายก็ได้แต่ขำๆ เพราะเธอไม่คิดอยากจะมีแฟนตอนเรียน เธอเป็นเด็กที่มีความคิดที่ดี เพราะพ่อแม่ และครอบครัวของเธอปลูกฝังมาดี และอีกอย่างเธอยังมีเพื่อนๆในกลุ่มที่ยังคบกันได้อย่างสนิทใจ ไม่เคยมีปัญหา รู้ใจกันเกือบทุกเรื่อง เพื่อนคนไหนมีแฟนต้องผ่านการสกรีนจากเพื่อนๆในกลุ่มเกือบทุกคน
........เวลาล่วงเลยมาถึงปี4 เทอมสุดท้าย พวกเธอทุกคนใกล้จะจบการศึกษา เป็นบัณฑิตจบใหม่ที่พร้อมจะออกสู่สังคมธุรกิจ ตามความสามารถ และฐานะของครอบครัว คงมีแต่ชีสเค้กที่ยังไม่รู้อนาคตว่าจบแล้วจะไปทำงานที่ไหน แต่เพื่อนของเธอทุกคนก็เสนอตำแหน่งงานในธุรกิจครอบครัวของตัวเองให้ แต่เธอยังไม่ตกปากรับคำใคร..วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของพวกเธอ หลังจากหักโหมอ่านและติวหนังสือกันอย่างหนักมาเป็นแรมเดือน พวกเธอวางแผนกันไว้ว่าสอบเสร็จวันนี้ พวกเธอจะฉลองกันให้มันส์หลุดโลกไปเลยให้สมกับที่เหนื่อยมาหลายวัน พอตกเย็นพวกเธอทั้งหมดก็มาพร้อมหน้ากัน
ณ ห้องของน้องอายบนคอนโดหรู(งานนี้งดแฟน สำหรับคที่มีแฟน)พร้อมกับเครื่องดื่มหลากหลายชนิด หลายยี่ห้อ ขนมขบเคี้ยวกับแกล้มต่างๆมากมาย กะว่าเข้าห้องแล้วคงจะไม่ออกไปไหนกันแล้วคืนนี้ เมาให้สลบไสลกันไปข้างหนึ่ง พอพร้อมหน้ากันพวกเธอก็เริ่มเปิดงานกันเลย ทั้งกิน ดื่ม ร้อง เต้น สนุกกันสุดเหวี่ยง เมากันถ้วนหน้า เลยเวลาตีสองสภาพในห้องเกลื่อนกลาดไปด้วยขวดไวน์ และขวดเบียร์ บางคนเมานอนคาวง บางคนนอนคุยกับชักโครก น้องอายนอนหนุนตักชีสเค้ก ซึ่งกระเทยนางนี้ยังไม่เมา นางมองน้องอายด้วยความเอ็นดู คิดย้อนไปตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกัน ตั้งแต่วันนั้นน้องอายคอยช่วยเหลือเรื่องเงินของชีสเค้กเวลาที่เงินขาดมือมาโดยตลอด แต่เธอก็ตอบแทนด้วยการคอยดูแลปกป้องน้องอายหลายๆอย่าง เหมือนพี่สาวที่คอยดูแลน้องสาวเป็นอย่างดี ชีสเค้กเคยไปบ้านของน้องอายมาหลายครั้ง พ่อน้องอายเป็นคนดุ ดูแล้วน่าเกรงขาม พ่อหวงและห่วงน้องอายมาก เพราะเป็นลูกคนเดียวของตระกูล แต่ไว้ใจให้น้องชีสเค้กช่วยดูแล เพราะเห็นว่าสนิทกับลูกและมีท่าทางตุ้งติ้งไม่เป็นพิษเป็นภัยกับน้องอาย มาที่คอนโดกันต่อ..พอเห็นว่าทุกคนเมาสลบจนหมดน้องชีสเค้กก็อุ้มน้องอายเข้าห้องนอนขึ้นนอนบนเตียง และจะด้วยความเมาหรืออะไรก็ไม่ทราบได้ ชีสเค้กได้ขึ้นคร่อมตัวน้องอาย และเริ่มบรรจงจูบหน้าผากน้องอายอย่างแผ่วเบาเรื่อยลงมาที่ริมฝีปาก น้องอายสดุ้งนิดๆพร้อมหลับตาพริ้มและหลังจากนั้นกล้องก็ค่อยๆเลื่อนขึ้นไปตรงโคมไฟหัวนอน(พวกคุณจินตนาการกันต่อเองละกัน) พอวันรุ่งขึ้นน้องอายตื่นขึ้นมาด้วยอาการมึนๆ ปวดหัวตึ๊บๆ มองไปข้างตัวมีร่างเปลือยเปล่ากำยำ ของผู้ชายกล้ามเป็นมัดๆพร้อมซิกแพ็คที่มีไรขนขึ้นบางๆ เธอตกใจมากพร้อมกับตรวจสภาพร่างกายของเธอ ซึ่งเปลือยเปล่าไม่ต่างกัน เธอจึงรีบปลุกชีสเค้กให้ตื่นขึ้นมา พอชี้สเค้กตื่นลืมตาและมองสภาพร่างกายของกันและกัน ชีสเค้กเธอก็ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย ปากก็บอกว่าเมื่อคืนน้องอายเมามากพยายามจะจูบปากกับตัวเองตลอด บอกว่าอยากลองจูบดู เวลามีแฟนจะได้ทำเป็น ตัวเองก็ปัดป้องเต็มที่ พอเห็นว่าน้องอายหลับไป ก็เลยอุ้มน้องอายมาที่เตียงเพื่อจะได้นอนสบายหน่อย แต่น้องอายสดุ้งตื่นขึ้นมา แล้วยังพยายามที่จะจูบปากของตัว ชีสเค้กบอกอีกว่าตัวเองก็เมามาก ไม่คิดว่ามันจะเลยเถิดขนาดนี้ และพูดต่อไปว่าถ้าพ่อกับแม่ของตัวเองรู้คงจะเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ เพราะที่บ้านนอก มีความเชื่อว่าถ้าหากมีลูกหลานเกิดได้เสีย หรือเสียความบริสุทธิ์ให้กับใครแล้ว ต้องแต่งงานกับคนนั้น เพราะถือว่าผิดผี ถ้าไม่แต่งงานกัน ญาติผู้ใหญ่จะมีอันเป็นไปทั้งสองฝ่าย น้องอายได้ยินเช่นนั้น จึงได้ขอโทษชีสเค้ก พร้อมกับบอกว่าจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง โดยจะกลับบ้านไปปรึกษาคุณพ่อกับคุณแม่ให้ แล้วทั้งสองก็ออกจากห้องนอน เพื่อนๆยังไม่มีใครตื่น เลยไม่มีใครรู้เรื่องนี้ จากนั้นจึงช่วยกันปลุกเพื่อนๆเพื่อกลับบ้านใครบ้านมัน
วันต่อมาน้องอายได้พาชีสเค้กในคราบของ สมชาย ที่ตัดผมสั้น แต่งตัวด้วยกางเกงสแล็ค เสื้อเชิ้ต ผูกเนคไทเรียบร้อย พร้อมทับด้วยสูตรราคาแพงที่น้องอายซื้อให้ไปหาคุณพ่อที่บ้าน พร้อมอธิบายเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้พ่อฟัง ด้วยความที่คุณพ่อเป็นคนที่มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ (เรื่องผิดผี) เพราะเคยเกิดเหตุการณ์เดียวกันกับคนรับใช้ที่บ้าน แล้วคนรับใช้ไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ ไม่นานก็มีข่าวร้ายว่าพ่อของเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ด้วยเหตุนี้คุณพ่อของน้องอายจึงบอกกับทั้งสองว่าจะจัดงานแต่งงานให้หลังจากที่ทั้งสองรับปริญญาเรียบร้อย ให้ชีสเค้ก หรือนายสมชายพาพ่อกับแม่ให้มาสู่ขอตามประเพณี โดยไม่ได้เรียกร้องค่าสินสอดอะไร อีกอย่างคงเพราะพ่อของน้องอายเห็นว่าสมชายเป็นคนดี เรียนเก่ง ฉลาด และยังคอยดูแลลูกสาวของตัวเองมาโดยตลอดจากนั้นสมชายก็ขอตัวกลับห้อง
....ในห้องอพาร์ทเม้นต์ สมชายได้เขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงพ่อและแม่ของเขา โดยมีเนื้อความในจดหมายว่า ถึงพ่อกับแม่คับ วันนี้เป็นวันที่ผมภาคภูิใจที่สุด ผมได้ทำความฝันของพวกเราเป็นจริงแล้ว จากการสั่งสอน และการวางแผนอันแยบยลของพ่อ เริ่มด้วยการเดิมพันครั้งใหญ่ของครอบครัวเรา โดยรวบรวมที่นาทั้งหมดที่เรามี ประกาศขายจนได้เงินก้อนมา 500,000 บาท เป็นเงินเพียงก้อนเดียวและก้อนสุดท้ายของบ้านเรา เพื่อส่งให้ผมได้เรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนที่ค่าเทอมแสนแพง ให้ผมแต่งตัวเป็นกระเทยและให้คบหาแต่พวกผู้หญิงรวยๆ ตอนแรกผมไม่เข้าใจความคิดของพ่อ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว มันเป็นวิธีเดียวที่จะยกระดับฐานะของครอบครัวเราให้เท่าเทียมกับคนเมืองกรุงที่ไฮโซและสูงส่ง ถึงวันใกล้รับปริญญาผมจะไปรับพ่อกับแม่มากรุงเทพนะคับ ไว้แค่นี้ก่อน ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปผมต้องไปฝึกงาน เรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจพันล้านของว่าที่พ่อตาของผม ผมอาจจะไม่ว่างเขียนจดหมายถึงพ่อกับแม่ จนกว่าจะถึงวันที่ผมจะไปรับนะคับ
รักพ่อกับแม่คับ...จากสมชาย ลูกชายที่ไม่เคยคิดจะเป็นสมหญิงคับ ^^