คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 93
ผมขอตอบนะครับ เสียใจด้วยนะครับ ที่เจอกับสิ่งที่ไม่ดีแบบนั้น แต่ผมขอตอบตรงประเด็นเลยว่า ถ้าคุณไม่เลิกวันนี้ก่อนแต่งงาน คุณจะไปเลิกกันหลังแต่งงานครับ เป็นสถานการณ์ที่ฝ่ายชายเห็นฝ่ายตัวเองเป็นใหญ่ เจ้ากี้เจ้าการ ไม่ถามความคิดเห็น ตรงจุดนี้สำคัญมาก การสักแต่ว่าทำไปให้ฝ่ายตนรู้สึกดีอยู่ฝ่ายเดียว ถือว่าไม่ให้เกียรติ์เราเลยซักนิดเดียว เรื่องพิธีหมั้นและแต่งงาน ถือเป็นบททดสอบอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้รู้ว่า สันดานเราและเขา และฝ่ายญาติทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างไร ผมตอบเลยว่า ฝ่ายชายสอบตกยกข้อง
ผมตัดประเด็นงกไปก่อนเลย ความประหยัดเป็นสิ่งดี แต่ถ้ามากไปคืองก ผมชอบคนประหยัดนะแต่ต้องยืนอยู่บนเหตุผลด้วย มีข้อยกเว้นในบางเวลา นี่แหล่ะถึงจะเหมาะสม
1. ในวันหมั้นเอาของมาโชว์แล้วเอากลับ คะแนนแฟนคุณและครอบครัว -10 (ติดลบสิบ)
2. ใช้ของชำร่วยตามอำเภอใจตัวเองฝ่ายเดียว และมีสีดำ -20 (ติดลบยี่สิบ) สีดำเอามาใช้ได้ยังไงหว่า ใครสอนเขา งงมากทีเดียวผม
3. การยกเลิกการจัดดอกไม้ โดยเราสั่งไว้แล้ว ถือว่าให้เกลียดเจ้าสาวอย่างเต็มที่ เพราะเค้าคงเกลียดเราจึงทำแบบนี้ ให้คะแนน -10
4. พ่อแม่แฟนต้องการเก็บซองเองทั้งหมด คะแนน -20 บ้าเหรอ ให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวออกเงินค่าแต่งแล้ว จะมีหน้ามาเก็บซองเข้าเป๋าตัวเองอีก แย่มาก
5. แฟนคุณพึ่งพาไม่ได้ครับ จากนี้ "แฟนเราก็มาบอกเราว่า พยายามต่อสู้ให้แล้วไม่สำเร็จ" ต่อไปจะพึ่งพาคนแบบนี่ได้หรอกหรือ วันไหน เราโดนพ่อแม่เค้าด่าว่า และไล่ออกจากบ้านเค้า เค้าคงซ้ำเติมเราตามคำสั่งพ่อแม่เค้าแน่นอน ได้คะแนน -30
แนะนำให้เลิกทันทีเลยครับ ไม่งั้นคุณจะแบกรับความเศร้าในอนาคตแน่นอน คิดดูคะแนนที่ผมคิดมาตรงนี้ มันติดลบ 100 แล้วนะครับ คนเราจะแต่งงานมันต้อง +100 +200 กันครับ และต้องรับฟังสิ่งที่เราต้องการ ไม่ใช่ทำบ้าบอไร้สาระไปฝ่ายเดียว แต่งงานกะคนแบบนี้ อยู่บ้านเกาพุงมันกว่าเยอะครับ
ที่ผมอยากรู้อีกอย่าง คุณไปรักผู้ชายคนนี้ตรงไหน ? เคยไปมาหาสู่บ้านเค้าบ้างไหม
ขอให้โชคดีมีชัย
ผมตัดประเด็นงกไปก่อนเลย ความประหยัดเป็นสิ่งดี แต่ถ้ามากไปคืองก ผมชอบคนประหยัดนะแต่ต้องยืนอยู่บนเหตุผลด้วย มีข้อยกเว้นในบางเวลา นี่แหล่ะถึงจะเหมาะสม
1. ในวันหมั้นเอาของมาโชว์แล้วเอากลับ คะแนนแฟนคุณและครอบครัว -10 (ติดลบสิบ)
2. ใช้ของชำร่วยตามอำเภอใจตัวเองฝ่ายเดียว และมีสีดำ -20 (ติดลบยี่สิบ) สีดำเอามาใช้ได้ยังไงหว่า ใครสอนเขา งงมากทีเดียวผม
3. การยกเลิกการจัดดอกไม้ โดยเราสั่งไว้แล้ว ถือว่าให้เกลียดเจ้าสาวอย่างเต็มที่ เพราะเค้าคงเกลียดเราจึงทำแบบนี้ ให้คะแนน -10
4. พ่อแม่แฟนต้องการเก็บซองเองทั้งหมด คะแนน -20 บ้าเหรอ ให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวออกเงินค่าแต่งแล้ว จะมีหน้ามาเก็บซองเข้าเป๋าตัวเองอีก แย่มาก
5. แฟนคุณพึ่งพาไม่ได้ครับ จากนี้ "แฟนเราก็มาบอกเราว่า พยายามต่อสู้ให้แล้วไม่สำเร็จ" ต่อไปจะพึ่งพาคนแบบนี่ได้หรอกหรือ วันไหน เราโดนพ่อแม่เค้าด่าว่า และไล่ออกจากบ้านเค้า เค้าคงซ้ำเติมเราตามคำสั่งพ่อแม่เค้าแน่นอน ได้คะแนน -30
แนะนำให้เลิกทันทีเลยครับ ไม่งั้นคุณจะแบกรับความเศร้าในอนาคตแน่นอน คิดดูคะแนนที่ผมคิดมาตรงนี้ มันติดลบ 100 แล้วนะครับ คนเราจะแต่งงานมันต้อง +100 +200 กันครับ และต้องรับฟังสิ่งที่เราต้องการ ไม่ใช่ทำบ้าบอไร้สาระไปฝ่ายเดียว แต่งงานกะคนแบบนี้ อยู่บ้านเกาพุงมันกว่าเยอะครับ
ที่ผมอยากรู้อีกอย่าง คุณไปรักผู้ชายคนนี้ตรงไหน ? เคยไปมาหาสู่บ้านเค้าบ้างไหม
ขอให้โชคดีมีชัย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
มองเห็นอนาคตว่าแต่งกันไป เขาจะเข้ามายุ่งกับเรื่องเงินทองของคุณ และของสามีคุณ
และสามีคุณก็จะบอกกับคุณแค่ว่า ให้ไปถามพ่อแม่ผมเอง
แฟนคุณยังไม่โตพอที่จะตัดสินชีวิตได้เอง คุณจะพึ่งพาเขาไม่ได้ และสุดท้ายคุณจะไม่มีความสุขเลย
ชีวิตคุณอยู่ได้โดยไม่มีผู้ชายคนนี้นะ อยู่กับพ่อแม่ต่อไปเถอะ และหาแฟนใหม่ ที่พ่อแม่พี่น้องเขาไม่งกเข้าเส้นแบบนี้ !
.
และสามีคุณก็จะบอกกับคุณแค่ว่า ให้ไปถามพ่อแม่ผมเอง
แฟนคุณยังไม่โตพอที่จะตัดสินชีวิตได้เอง คุณจะพึ่งพาเขาไม่ได้ และสุดท้ายคุณจะไม่มีความสุขเลย
ชีวิตคุณอยู่ได้โดยไม่มีผู้ชายคนนี้นะ อยู่กับพ่อแม่ต่อไปเถอะ และหาแฟนใหม่ ที่พ่อแม่พี่น้องเขาไม่งกเข้าเส้นแบบนี้ !
.
ความคิดเห็นที่ 39
หยุด ไม่ต้องเล่าต่อคะ แค่อ่านแค่นี้ก็โมโหแทน ถ้าเล่ามากกว่านี้เดี๋ยวเราจะฟันธง ว่าให้ไม่ต้องแต่งกันพอดี
ถามแฟนว่า
-ยังอยากแต่งกะฉันไหม? ถ้าตอบคือ อยาก ... ข้อถัดไป
บอกกับแฟนว่า
-ฉันจะทำตามที่ฉันพอใจ เกี่ยวกับธีม ดอกไม้ อาหาร ของชำร่วย พ่อแม่คุณห้ามยุ่งเด็ดขาด
-ฉันจะเก็บซองที่ได้จากแขกไว้เอง พ่อแม่คุณห้ามยุ่งเด็ดขาด
-เงินค่าเช่าสถานที่ คุณต้องช่วยฉันออกเงิน ส่วนดอกไม้อาหาร จิปาถะ ฉันจะออกเอง
-แต่งแล้วคุณต้องมาเอยู่กับฉัน ไม่ใช่บ้านพ่อแม่คุณ
บอกกับผู้จัดการโรงแรมว่า(เป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมเซ็นต์รับทราบ หรือผ่าน
-ฉันตัดสินใจเรื่องงานเองทุกอย่าง ห้ามเชื่อฟังคนอื่นแม้แต่เจ้าบ่าว นอกจากฉันอนุญาต หากขัดคำสั่ง ฉันจะแจ้งผุ้บังคับบัญชาคุณ และขอเงินคืน พร้อมค่าเสียหาย
-ถ้ามีคนอื่นนอกจากฉันติดต่อคุณให้ตอบไปว่า ฉันสั่งไว้
ตามนี้แหละ มีอย่างที่ไหน สินสอดไม่ให้ ยังจะมาเอาซอง ค่างานก็ไม่ออก ยังจะมายกเลิก เราว่า คุณใช้เงินคุณ 2 คนจัด อย่าไปเอาคนอืืนมาเกี่ยวจะดีมาก
จำไว้ คนออกเงินถึงมีสิทธิแสดงความเห็น ระบบทุนนิยม คะ
ถ้ายังพอถูไถได้ก็เลื่อนงานไปก่อน อ้างว่าจัดไม่ทัน กะอิแค่พิมพ์การ์ดใหม่ ไม่กี่บาทหรอก
ถามแฟนว่า
-ยังอยากแต่งกะฉันไหม? ถ้าตอบคือ อยาก ... ข้อถัดไป
บอกกับแฟนว่า
-ฉันจะทำตามที่ฉันพอใจ เกี่ยวกับธีม ดอกไม้ อาหาร ของชำร่วย พ่อแม่คุณห้ามยุ่งเด็ดขาด
-ฉันจะเก็บซองที่ได้จากแขกไว้เอง พ่อแม่คุณห้ามยุ่งเด็ดขาด
-เงินค่าเช่าสถานที่ คุณต้องช่วยฉันออกเงิน ส่วนดอกไม้อาหาร จิปาถะ ฉันจะออกเอง
-แต่งแล้วคุณต้องมาเอยู่กับฉัน ไม่ใช่บ้านพ่อแม่คุณ
บอกกับผู้จัดการโรงแรมว่า(เป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมเซ็นต์รับทราบ หรือผ่าน
-ฉันตัดสินใจเรื่องงานเองทุกอย่าง ห้ามเชื่อฟังคนอื่นแม้แต่เจ้าบ่าว นอกจากฉันอนุญาต หากขัดคำสั่ง ฉันจะแจ้งผุ้บังคับบัญชาคุณ และขอเงินคืน พร้อมค่าเสียหาย
-ถ้ามีคนอื่นนอกจากฉันติดต่อคุณให้ตอบไปว่า ฉันสั่งไว้
ตามนี้แหละ มีอย่างที่ไหน สินสอดไม่ให้ ยังจะมาเอาซอง ค่างานก็ไม่ออก ยังจะมายกเลิก เราว่า คุณใช้เงินคุณ 2 คนจัด อย่าไปเอาคนอืืนมาเกี่ยวจะดีมาก
จำไว้ คนออกเงินถึงมีสิทธิแสดงความเห็น ระบบทุนนิยม คะ
ถ้ายังพอถูไถได้ก็เลื่อนงานไปก่อน อ้างว่าจัดไม่ทัน กะอิแค่พิมพ์การ์ดใหม่ ไม่กี่บาทหรอก
ความคิดเห็นที่ 18
ในฐานะคนนอกที่รับฟัง เราว่า หนักใจพอสมควรเลย ชีวิตคู่เรื่องราวมันละเอียดอ่านนะคะ ไม่อยากยุให้เลิก แต่ก็ไม่อยากให้ทน มันจะทรมานไปตลอดชีวิต ชีวิตแต่งงานเราไม่มีเงินหลายล้าน แต่ว่า พ่อแม่สามีรัก มันสุขในตัวไปโดยปริยาย
จากเรื่องของคุณครอบครัวเค้ามามีอิทธิพลกับชีวิตคู่คุณเกือบทั้งหมด ต่อไปคุณก็จะอึดอัดเอง ถึงว่าที่สามีจะบอกว่าต่อสู้แล้วก็ตาม (คำว่าสู้สำหรับเราไม่ใช่การเอาชนะคนในครอบครัว แต่เป็นการยืนยันวิถีการใช้ชีวิตคู่ของเรา) แค่แหวนที่จะให้คุณเค้ายังไม่มีปัญญาต่อสู้เอามาให้ได้เลย ต้องผ่านพี่ผ่านน้องอ่ะ
หลายๆ อย่างที่ครอบครัวเค้าทำเกินไป อย่างเรื่อง ซอง เราก็ไม่ได้งกนะ แต่คนจะแต่งงานกัน ก็ต้องตกลงกันว่าได้ซองมาเราจะจ่ายอะไรยังไง ชีวิตมันต้องแฟร์อ่ะค่ะ ถึงจะอยู่รอด ไม่มีใครทนให้ใครเอาเปรียบนานหรอกถึงคุณจะมีเงินก็ตาม แต่งแล้วจดทะเบียนสมรสไหมคะ ถ้าจดคิดให้ดีๆ นะคะ สมบัติหารสอง แฟนคุณอาจจะไม่หวัง แต่คนข้างหลังอาจจะตาลุกวาว (ตรงนี้ไม่ได้ก่อหวอดนะคะ แต่ใช้สมองตัดสินแทนความรู้สึกเยอะๆค่ะ)
ถึงใครจะบอกว่า "แต่งไปก็อยู่กันสองคนไม่ได้อยู่กับพ่อกับแม่เค้า" อย่าได้เอามาปลอบตัวเองนะคะมันไม่จริงหรอก อย่างน้อยแฟนคุณเปิดประตูให้เค้าเข้ามาจุ้นจ้านในชีวิตคู่ตั้งแต่เริ่มต้น ไม่นับว่า มีลูก มีบ้าน อยากจะซื้อนั่นนี่ จะกิน นอน เที่ยว ต้องพ่วงกันไปหมด ถ้าเราโปรไฟล์สวยอย่างคุณ เราคงผ่อนผันเวลาออกไปค่ะ แต่เมื่อไหร่ก็แต่งได้ ลองดูซิว่า ยกเลิกแล้วจะมีปฏิกิริยาอะไรแล้วคุณจะตัดสินใจได้เอง
ถ้าพวกเค้ารักคุณน้อยกว่าที่พ่อแม่คุณรัก อย่าเพิ่งเลือกค่ะ เวลามีอีกเยอะ ^^
จากเรื่องของคุณครอบครัวเค้ามามีอิทธิพลกับชีวิตคู่คุณเกือบทั้งหมด ต่อไปคุณก็จะอึดอัดเอง ถึงว่าที่สามีจะบอกว่าต่อสู้แล้วก็ตาม (คำว่าสู้สำหรับเราไม่ใช่การเอาชนะคนในครอบครัว แต่เป็นการยืนยันวิถีการใช้ชีวิตคู่ของเรา) แค่แหวนที่จะให้คุณเค้ายังไม่มีปัญญาต่อสู้เอามาให้ได้เลย ต้องผ่านพี่ผ่านน้องอ่ะ
หลายๆ อย่างที่ครอบครัวเค้าทำเกินไป อย่างเรื่อง ซอง เราก็ไม่ได้งกนะ แต่คนจะแต่งงานกัน ก็ต้องตกลงกันว่าได้ซองมาเราจะจ่ายอะไรยังไง ชีวิตมันต้องแฟร์อ่ะค่ะ ถึงจะอยู่รอด ไม่มีใครทนให้ใครเอาเปรียบนานหรอกถึงคุณจะมีเงินก็ตาม แต่งแล้วจดทะเบียนสมรสไหมคะ ถ้าจดคิดให้ดีๆ นะคะ สมบัติหารสอง แฟนคุณอาจจะไม่หวัง แต่คนข้างหลังอาจจะตาลุกวาว (ตรงนี้ไม่ได้ก่อหวอดนะคะ แต่ใช้สมองตัดสินแทนความรู้สึกเยอะๆค่ะ)
ถึงใครจะบอกว่า "แต่งไปก็อยู่กันสองคนไม่ได้อยู่กับพ่อกับแม่เค้า" อย่าได้เอามาปลอบตัวเองนะคะมันไม่จริงหรอก อย่างน้อยแฟนคุณเปิดประตูให้เค้าเข้ามาจุ้นจ้านในชีวิตคู่ตั้งแต่เริ่มต้น ไม่นับว่า มีลูก มีบ้าน อยากจะซื้อนั่นนี่ จะกิน นอน เที่ยว ต้องพ่วงกันไปหมด ถ้าเราโปรไฟล์สวยอย่างคุณ เราคงผ่อนผันเวลาออกไปค่ะ แต่เมื่อไหร่ก็แต่งได้ ลองดูซิว่า ยกเลิกแล้วจะมีปฏิกิริยาอะไรแล้วคุณจะตัดสินใจได้เอง
ถ้าพวกเค้ารักคุณน้อยกว่าที่พ่อแม่คุณรัก อย่าเพิ่งเลือกค่ะ เวลามีอีกเยอะ ^^
แสดงความคิดเห็น
เราควรจะเข้าสู่พิธีแต่งงานโดยที่เต็มไปด้วยความลังเลใจแบบนี้หรือเปล่าคะ
ประเด็นอยู่ที่ เรากำลังจะแต่งงานเดือนหน้าค่ะ แจกการ์ดแล้ว จ่ายค่าโรงแรมแล้ว เตรียมทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว แต่มีเหตุการณ์หลายอย่างจริงๆทำให้เราต้องกลับมาฉุกคิดว่า แต่งงานแล้วเราจะทนพวกเขาได้หรือเปล่า เริ่มจาก
- ตอนแรกที่มาสู่ขอ พ่อแม่เราบอกว่าจะไม่เอาสินสอดไว้ เพราะจะให้ลูกทั้งหมด ในวันหมั้น ฝ่ายชายได้นำสินสอดมาวาง เป็นเงินสด ทอง และหลักทรัพย์ เช่น ฉโนดที่ดินและใบหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมๆเกือบร้อยล้าน แต่สุดท้ายได้นำกลับไปหมด โดยพ่อแฟนบอกกับเราว่า เอามาโชว์เฉยๆ ไม่ได้จะให้ เราก็งง แต่ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเราไม่ใช่คนที่ไม่มีอะไร
- ช่วงเตรียมงานแต่งงาน มีความเห็นไม่ตรงกันหลายครั้งเรื่องการออกแบบการ์ด การตกแต่งภายในงาน และการเลือกของชำร่วย ทางฝ่ายเจ้าบ่าวบอกว่า เขาได้รับของฟรีมาจากบริษัทแห่งหนึ่ง เป็นที่คั่นหนังสือสีดำ เราบอกแฟนว่า เราไม่ชอบสีดำเพราะไม่เป็นมงคล เราจะไม่แจกอันนี้ ให้ไปทำของชำร่วยใหม่ สุดท้ายแฟนเราบอกว่าเราต้องไปคุยกับพ่อแม่เขาเอง พ่อแม่เขายืนยันจะแจกของที่ได้มาฟรีนี้ เราก็ไม่ยอม เขาเลยบอกว่า ให้เราทำของชำร่วยแจกแขกเราเอง ส่วนแขกของเขาก็จะแจกวัตถุสีดำนี้ แขกใครแขกมัน
- เรื่องค่าใช้จ่ายงานแต่งงาน พ่อแม่เขาบอกให้เป็นหน้าที่ของเรากับแฟนต้องรับผิดชอบกันเอง เพราะว่าเขามีลูกหลายคน ถ้าให้คนหนึ่งเยอะกว่าคนอื่นๆอาจจะโดนลูกคนอื่นตำหนิได้ เราก็บอกว่าโอเค เราจัดกันเองก็ได้ เราจึงไปตกลงกับโรงแรมว่าจะจัดดอกไม้ประมาณนี้ คือเราเป็นคนพิถีพิถัน ก็ยอมรับว่าค่าดอกไม้แพง แต่เราก็ยืนยันจะเอาแบบนี้ เพราะว่าเราต้องการให้งานแต่งของเราออกมาดีที่สุด พอพ่อแม่เรารู้ว่าเราต้องจัดงานเองพ่อเราจึงบอกว่า จัดตามใจเราได้เลย ถ้าขาดทุนพ่อเราจะช่วยออกให้เองทั้งหมด เราจึงตกลงธีมงานกับโรงแรมเรียบร้อยตามใจเรา
- เราเพิ่งมารู้ไม่กี่วันมานี้เองว่า ล่าสุดพ่อแม่แฟนเราเดินทางไปที่โรงแรม แล้วยกเลิกดอกไม้ที่เราแพลนไว้ทั้งหมด เหลือแค่ดอกไม้หน้างานที่เป็นฉากถ่ายรูป กับดอกไม้บนเวทีสองช่อ เพราะเหตุผลว่า ค่าดอกไม้แพงเกินไป และยกเลิกอาหารที่เราเลือกไว้ออกเหลือแต่อาหารราคาถูกๆ เราไม่เข้าใจว่าพวกเขาจะเดือดร้อนอย่างไร ในเมื่อพ่อเราอาสาออกเงินให้ทั้งหมด
- นอกจากนี้ เราเพิ่งมาทราบเร็วๆนี้ อีกเช่นกัน ว่าพ่อแม่แฟนขอเก็บซองเงินช่วยงานแต่งที่ได้ทั้งหมด ห้ามเราเก็บเด็ดขาด
- พี่น้องแฟนเราก็ใช่ย่อย เวลาพ่อแม่แฟนจะใช้จ่ายอะไรที่เกี่ยวกับงานแต่งงานของเรา ต้องรายงานพวกเขาเสมอ และพี่สาวแฟนเราเขายังมากำหนดขนาดเพชรแหวนหมั้นของเราด้วย ว่าห้ามเกินเท่านั้นเท่านี้ แต่แฟนเราก็มาบอกเราว่า พยายามต่อสู้ให้แล้วไม่สำเร็จ
ที่เล่ามายังไม่หมด แต่อยากฟังความเห็นของคนที่มีหรือไม่มีประสบการณืค่ะ ว่า เราควรจะแต่งงานหรือไม่