เคยอ่านรีวิวตัวอย่างงานแต่งงานจากของท่านอื่นๆ มาก็เยอะ วันนี้เลยขอโอกาส บอกเล่าเรื่องราว ของงานแต่งงานเล็กๆ ที่อบอุ่นของเราสองคน  หลังจากที่ได้หาข้อมูลเก็บเกี่ยวความรู้ที่ได้ และนำมาประยุกต์ใช้ในงานแต่งงานของตัวเอง หวังว่า รีวิวนี้ จะเป็นประโยชน์ หรือไอเดีย สำหรับคนที่อยากจัดงานแต่งงานเล็กๆ ในรูปแบบใหม่ๆ ที่เป็นตัวเองจริงๆ อย่างเราครับ

กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ลงในพันทิป หากมีข้อผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะครับ

เริ่มต้นของความรัก คู่ของเราก็เป็นอีกหนึ่งคู่ที่ ได้มีการจัดงานหมั้นหมายกันไว้ก่อนล่วงหน้าครับ โดยในงานหมั้นของเราจัดขึ้นในช่วงต้นปีก่อน เป็นงานหมั้นเล็กๆ ที่จัดขึ้นในแบบครอบครัวและบอกเฉพาะญาติมิตร และคนสนิทจริงๆ จึงทำให้เป็นงานที่เรียบง่ายและผ่านไปด้วยดีครับ  ฝ่ายเจ้าบ่าวแห่ขันหมาก มาสู่ขอเจ้าสาว  มีสินสอดทองหมั้น สวมแหวน และญาติผู้ใหญ่อวยพรความรักให้กับเราทั้งสองคน




หลังจบจากงานหมั้น ผมก็ทำงานเก็บเงินเพื่อเตรียมไว้ใช้ในการจัดงานแต่งงานของเรา โดยไปดูฤกษ์แต่งงานกับหลวงพ่อสูง ได้ฤกษ์งามยามดีเป็นวันเสาร์ ที่ 9 พฤศจิกายน 2556 ซึ่งเป็นวันที่ฤกษ์ดีที่สุดของเดือน พฤศจิกายน โดยวันที่ผมแต่งนี้มีเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน แต่งงานวันเดียวกับผมถึง 3 คู่
เมื่อได้วันแต่งงานแล้ว คราวนี้ก็ต้องเริ่มการจัดเตรียมงานครับ โดยผมกับแฟนโชคดีที่ชอบอะไรคล้ายๆกัน คิดเห็นตรงกันว่าไม่อยากจะจัดงานในโรงแรมหรือหอประชุมเหมือนอย่างเพื่อนคนอื่นๆ ที่เราเคยไปกันมา เลยตกลงกันว่า เราสองคนอยากจัดงานแต่งงานในแบบที่เป็นงานแต่งงานเล็กๆ ในสวน จึงทำการเริ่มหาข้อมูลและสอบถามขอจองสถานที่ และก็มาลงตัวที่ Subdio Garden สวนสไตล์อังกฤษ แถวแจ้งวัฒนะ

โดยเราเลือก แพ็คเกจพิธีแต่งงานเช้า + อาหารเช้าสำหรับแขกไม่เกิน 50 ท่าน  และบุฟเฟ่ต์กลางวันสำหรับแขกไม่เกิน 100 ท่าน ราคา 92,000 บาท (ราคายังไม่รวมซุ้มอาหาร)  (ระยะเวลาให้บริการ 8:30-14:00น. โดยสามารถเข้าใช้ห้องแต่งตัวได้ตั้งแต่เวลา 6:00 น.)  โดยสิ่งที่จะจัดเตรียมไว้ให้ก็มีดังต่อไปนี้
1. จัดเตรียมสถานที่สำหรับพิธีสงฆ์พร้อมอุปกรณ์ (ชุดโต๊ะหมู่บูชาพร้อมพระพุทธ, ชุดอาสนะสงฆ์ 9 ชุด, ดอกไม้, ธูป, เทียน)
2. จัดเตรียมพิธีหมั้น สวมแหวน (ข้าวตอกดอกไม้, ผ้ารองนับสินสอด)
3. จัดเตรียมพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ (ชุดตั่งหลั่งน้ำ พร้อมพานรอง, อุปกรณ์สำหรับใช้ในพิธีครบชุด, มาลัยบ่าว-สาว)
4. บริการชุดพานขันหมากดอกไม้ประดิษฐ์ (พานเชิญขันหมาก, พานขันหมากเอก, พานสินสอด, พานแหวนหมั้น, พานธูปเทียนแพ อย่างละ 1 พาน)
5. เตรียมพื้นที่พร้อมจัดชุดโซฟาในส่วนพิธีในบริเวณ indoor ในส่วน Glass House
6. โต๊ะรับประทานอาหารและเก้าอี้ พร้อมตกแต่งสวยงาม
7. ห้องพักผ่อนส่วนตัวมีเครื่องปรับอากาศพร้อมห้องน้ำในตัวสำหรับเจ้าของงาน (สามารถใช้เป็นห้องแต่งหน้าแต่งตัวสำหรับเจ้าของงาน)
8. โต๊ะ reception พร้อมขาตั้งรูปสำหรับรูปใหญ่
9. ป้ายชื่อตัวอักษรย่อบ่าวสาวในงาน
10. จัดเตรียมมุมโชว์รูป Gallery
11. เครื่องเสียง + ไมค์ลอย 2 ตัว




เมื่อจ่ายค่ามัดจำสถานที่เรียบร้อย คราวนี้ต่อไปก็เป็นคิวของการถ่ายรูป Pre Wedding  คู่ของเรา เลือกถ่ายกับร้าน Nuta Wedding Studio โดยเลือกแพคเกจ 19,900 ถ่ายรูปชุดแต่งงาน2 ชุด + ชุดไปรเวท 2 ชุด + อัลบั้ม LCD + รูปขยายกรอบหลุยส์ + กรอบลอยPhotomix + ชุดแต่งงานวันงานทั้งบ่าว-สาว + ช่างถ่ายภาพวันจริง และที่สำคัญให้ไฟล์ภาพทั้งหมดนะครับ (อันนี้อยากจะเน้นเลยหลายท่านที่คุยรายละเอียดไม่ชัดเจน พอถ่ายภาพมาเสร็จมีรูปสวยๆที่ชอบเยอะแล้วโดนจำกัดจำนวนรูปที่ให้ ต้องเสียเงินซื้อไฟล์ภาพของเราเองเพิ่มอีก อย่างงี้ไม่ดีเลยนะครับ)



สถานที่ Papaya กับ สวนรถไฟ (ที่เลือก2ที่นี้เพราะที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกันมาก เพื่อสะดวกในการย้ายกองถ่าย) ภาพที่ได้ออกมาแนววินเทจ ประมาณนี้  


อุปกรณ์ Prop ต่างๆ เจ้าบ่าวเตรียมมาเองจ้า ทางร้านจะมีชุดแต่งงาน+เครื่องประดับให้ มีช่างแต่งหน้า-ทำผม และช่างภาพ+ผู้ช่วยช่างภาพ(ซึ่งผู้ช่วยนี่แหละจะคอยแนะนำการโพสท่าต่างๆ)





ค่าสถานที่อันนี้เราต้องเป็นคนรับผิดชอบเองนะครับ ไม่รวมอยู่ในแพคเกจ ซึ่งในส่วนที่เราไปมานี้เสียค่าใช้จ่าย
โกดัง ปาปาย่า 3000 บาท
สวนรถไฟ 1000 บาท (ไปปั่นจักรยานถ่ายรูปธรรมดาไม่เสียตังค์ แต่ถ้ายกกองไปถ่ายพรีเวดดิ้งเสียค่าเข้านะครับ)

หลังจากได้ไฟล์รูปจากการถ่าย พรีเวดดิ้ง มาแล้ว ผมก็มีไอเดียอีกว่า ไหนๆ ก็เป็นแต่งงานของเราเองแล้ว ก็อยากที่จะทำการ์ดแต่งงานให้มันเป็นสไตล์ในแบบที่เราชอบ จึงเลือกที่จะออกแบบการ์ดแต่งงานเองครับ โดยนำภาพพรีเวดดิ้งที่ได้ มาทำใน Photoshop เป็นแบบใบเดียวหน้า-หลัง และเลือกซองการ์ดขัดใจแม่ โดยผมใช้เป็นซองจดหมายสีน้ำตาลแทนครับ

การ์ดของเรา เป็นแบบการ์ดโฟโต้ แนววินเทจ (ตัดขอบมน) ขนาด 4x6 เดี่ยว (4 สี 2 ด้าน) ใช้กระดาษอัดลาย  ACQ หนา 210 gram  กระดาษพื้นหลัง สีขาว พร้อมซอง สั่งไป 300 ใบ ราคาอยู่ที่ใบละ 10 บาท

เมื่อได้การ์ดแต่งงานออกมาสมใจแล้ว ต่อไปก็เป็นการเลือกของชำร่วย ผมกับแฟน เลือก กล่องหีบสมบัติแนววินเทจ ครับ เพราะเหมาะกับธีมงานและเป็นอะไรที่เก็บได้นาน และใช้ประโยชน์ในการใส่ของได้จริงครับ ซื้อที่สัมเพ็ง ราคาอยู่ที่ชิ้นละ 25 บาท



และของชำร่วยพิเศษในงานของผมอีกอย่างหนึ่งซึ่งตอนนั้นเป็นความลับ ไม่มีใครรู้นอกจากเจ้าบ่าว นั้นก็คือ อัลบั้มเพลงรัก พร้อมเพลงพิเศษ “คนของหัวใจ” ที่เจ้าบ่าวร้องเอง เพลงนี้ ผมแต่งขึ้นมา ตอนเพิ่งคบกับแฟนใหม่ๆ  เขียนเนื้อร้อง/ทำนอง ทำดนตรีเอง เป็นความภูมิใจเล็กๆของผมมาก ที่ได้มีเพลงรักเป็นของตัวเอง และได้มอบให้แฟนและแขกผู้มีเกียรติในวันงานได้ไปเปิดฟังกันครับ

ปกหน้า-หลัง CD (ออกแบบเองอีกเช่นกันครับ) ^_^



ปริ้นออกมาปรู๊ฟงาน

เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ สำหรับของชำร่วยในงานแต่งเรา

สรุปค่าของชำร่วย กล่องหีบสมบัติแนววินเทจ ชิ้นล่ะ 25 บาท / ค่าสั่งทำ ซีดีสกรีนออฟเซ็ตพร้อมซองพิมพ์ออฟเซ็ต 1 พับ 2 ตอน อาร์ตการ์ด 230 แกรมท์ ตกอยู่ที่แผ่นล่ะ 50 บาท ขั้นต่ำ 100 แผ่นขึ้นไป ทำกับร้าน เอลริช สาขาพาราไดซ์พาร์ค ถนนศรีนครินทร์ เปิดบริการ ทุกวัน 10.30-20.00 น. http://www.el-rich.com  มีให้เลือกหลายรูปแบบ ราคาไม่แพงมาก คุณภาพดีครับ ^_^

ก่อนถึงวันงานยอมรับว่ามีการเตรียมตัวที่น้อยมาก เพราะต้องทำงานแทบทุกวัน แต่ก็โชคดี ที่ได้คนใกล้ตัวมาช่วยงานในหลายๆด้าน เช่น พิธีกรผมเลือก พี่ 2 พิธีกรที่ผมค่อนข้างสนิทมากๆ ร่วมงานกันมาตั้งแต่ผมทำงานรายการช่วงแรกๆ จึงค่อนข้างจะรู้จักตัวผมและแฟนเป็นอย่างดี จึงไม่ต้องบรีฟอะไรเยอะ ทีมงานถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ ก็เป็นเพื่อนร่วมงานที่ทำงานด้วยกันอยู่แล้ว (รวมถึงช่างาพนิ่งวันงานที่แถมมากับในแพคเกจ Pre Wedding)

Subdio Garden ในบรรยากาศยามเช้า


ส่วนเรื่องของอาหาร อุปกรณ์พิธีการ และการจัดตกแต่งสถานที่ส่วนใหญ่ให้เป็นหน้าที่ของทางสถานที่จัดการไปเลยตาม Concept Vintage






ชุดอาหารเช้า โจ๊ก/ข้าวต้ม (หมูหรือไก่) + ปาท่องโก๋ + น้ำเต้าหู้
แพ็คเกจบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน อาหารคาว 6 อย่าง , ของหวาน 1 อย่าง , ข้าวสวย , น้ำสมุนไพร 1 อย่าง

โต๊ะ ลงทะเบียน รับของชำร่วย เขียนคำอวยพร

บรรยากาศโดยรอบ





ลำดับพิธีการในงาน เนื่องจากคู่ของเราได้ทำพิธีหมั้น และแห่ขันหมากสินทรอดไปแล้ว ลำดับพิธีการแรกสุด ที่เริ่มต้นขึ้นของเราคือเลี้ยงพระเช้า ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์  08.30 น.



จัดใส่ถาดสำรับน่ารักเชียว




เสร็จกิจพิธีสงฆ์ นิมนต์พระกลับวัด


หลังจากเสร็จพิธีสงฆ์นิมต์พระกลับวัดเรียบร้อย แขกในงานก็เริ่มทะยอยเข้ามาในงาน

ลำดับต่อไปก็คือพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์และประสาทพร ญาติมิตร มาต่อแถวอวยพร รดน้ำสังข์  09.30 น.