สวัสดีค่ะ วันนี้แค่อยากมาแชร์ประสบการณ์การแต่งงานให้ทุกคนฟัง เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดบาดแผลความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพ่อแม่เราค่ะ
เกริ่นก่อนว่าเรากับแฟนคบกันตั้งแต่มหาวิทยาลัย และระหว่างนั้นก็ห้ามไปเที่ยวค้างคืนกัน พอเรียนจบก็ทำงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชนทั้งคู่ หลังเรียนจบก็มีเป้าหมายเดียวกันคืออยากเริ่มต้นใช้ชีวิตร่วมกัน ระหว่างที่ทำงานก็ช่วยกันเก็บเงินมาตลอด
พอทำงานได้ 2 ปี จึงเริ่มเกริ่นกับพ่อแม่เรื่องสินสอด พ่อแม่เราบอกว่า เงิน5แสน ทอง10บาท ตอนนั้นตกใจมาก เงินเยอะขนาดนั้นจะเก็บได้ยังไง แล้วเมื่อไหร่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ตอนนั้นเครียดมาก ร้องไห้ทุกครั้งที่พูดเรื่องนี้ (พ่อแม่เราไม่ยอมให้อยู่ก่อนแต่งนะคะ) แต่แฟนก็ปลอบใจและก็ช่วยกันเก็บ จนปี2020 แฟนมาเที่ยวบ้านแล้วพ่อถามแฟนเรื่องแต่งงาน แฟนเราจึงขอต่อรองเป็น4แสนทอง10บาท แต่ตอนนั้นเงินก็ยังไม่พอ ขาดทอง5บาท แฟนเลยไปขอให้แม่แฟนช่วย พอตกลงสินสอดได้ ก็ตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายและเงินที่จะให้พ่อแม่
สิ่งที่เราต้องให้พ่อแม่เราคือ
1.สินสอด เงิน4แสน ทอง10บาทคืนให้เรากับแฟน
2.ซองงานแต่งที่แขกใส่มา ก็รวมๆแสนกว่าบาท
ค่าใช้จ่ายที่พ่อแม่เราออกก็โต๊ะจีน ของชำร่วย จิปาถะในงาน
ส่วนชุดแต่งงาน ช่างแต่งหน้า ช่างภาพ พรีเวดดิ้ง แหวน ของรับไหว้ เรากับแฟนออก
แม่แฟนออกค่าทอง5บาท ขันหมากเอกโท กลองยาวค่ะ
การแต่งงานครั้งนี้มันทำให้เรามองพ่อกับแม่เปลี่ยนไปมาก ทำให้เรารู้สึกว่าเขาคิดถึงแต่เรื่องเงิน จนไม่เคยมองความสุขของเราเลย
ชีวิตของเรามีค่าแค่เงิน4แสน ทอง10บาทหรอ
แล้วช่วงโควิดกว่าเรากับแฟนจะเก็บเงินได้ ระหว่างทางจะทุกข์แค่ไหนก็ไม่สน ขอแค่ได้เงินตามที่ตัวเองต้องการ มันก็ไม่ต่างอะไรจากการขายลูกกิน ฝากถึงพ่อแม่ที่อยากแต่จะได้เงินสินสอดเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อหน้าตา หรือเพื่อความอยากได้ คุณคิดถึงอนาคตลูกบ้างเถอะค่ะ อย่าทำให้ลูกต้องรู้สึกแย่กับคุณเพราะเงินเลยค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
เงิน6แสน เพื่อแต่งงาน
เกริ่นก่อนว่าเรากับแฟนคบกันตั้งแต่มหาวิทยาลัย และระหว่างนั้นก็ห้ามไปเที่ยวค้างคืนกัน พอเรียนจบก็ทำงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชนทั้งคู่ หลังเรียนจบก็มีเป้าหมายเดียวกันคืออยากเริ่มต้นใช้ชีวิตร่วมกัน ระหว่างที่ทำงานก็ช่วยกันเก็บเงินมาตลอด
พอทำงานได้ 2 ปี จึงเริ่มเกริ่นกับพ่อแม่เรื่องสินสอด พ่อแม่เราบอกว่า เงิน5แสน ทอง10บาท ตอนนั้นตกใจมาก เงินเยอะขนาดนั้นจะเก็บได้ยังไง แล้วเมื่อไหร่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ตอนนั้นเครียดมาก ร้องไห้ทุกครั้งที่พูดเรื่องนี้ (พ่อแม่เราไม่ยอมให้อยู่ก่อนแต่งนะคะ) แต่แฟนก็ปลอบใจและก็ช่วยกันเก็บ จนปี2020 แฟนมาเที่ยวบ้านแล้วพ่อถามแฟนเรื่องแต่งงาน แฟนเราจึงขอต่อรองเป็น4แสนทอง10บาท แต่ตอนนั้นเงินก็ยังไม่พอ ขาดทอง5บาท แฟนเลยไปขอให้แม่แฟนช่วย พอตกลงสินสอดได้ ก็ตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายและเงินที่จะให้พ่อแม่
สิ่งที่เราต้องให้พ่อแม่เราคือ
1.สินสอด เงิน4แสน ทอง10บาทคืนให้เรากับแฟน
2.ซองงานแต่งที่แขกใส่มา ก็รวมๆแสนกว่าบาท
ค่าใช้จ่ายที่พ่อแม่เราออกก็โต๊ะจีน ของชำร่วย จิปาถะในงาน
ส่วนชุดแต่งงาน ช่างแต่งหน้า ช่างภาพ พรีเวดดิ้ง แหวน ของรับไหว้ เรากับแฟนออก
แม่แฟนออกค่าทอง5บาท ขันหมากเอกโท กลองยาวค่ะ
การแต่งงานครั้งนี้มันทำให้เรามองพ่อกับแม่เปลี่ยนไปมาก ทำให้เรารู้สึกว่าเขาคิดถึงแต่เรื่องเงิน จนไม่เคยมองความสุขของเราเลย
ชีวิตของเรามีค่าแค่เงิน4แสน ทอง10บาทหรอ
แล้วช่วงโควิดกว่าเรากับแฟนจะเก็บเงินได้ ระหว่างทางจะทุกข์แค่ไหนก็ไม่สน ขอแค่ได้เงินตามที่ตัวเองต้องการ มันก็ไม่ต่างอะไรจากการขายลูกกิน ฝากถึงพ่อแม่ที่อยากแต่จะได้เงินสินสอดเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อหน้าตา หรือเพื่อความอยากได้ คุณคิดถึงอนาคตลูกบ้างเถอะค่ะ อย่าทำให้ลูกต้องรู้สึกแย่กับคุณเพราะเงินเลยค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ