........ทำไม อภิธรรม ต้องโกหกว่า ไม่มี อนุปาทาปรินิพพานในปัจจุบัน ของพระพุทธเจ้า ?

กระทู้คำถาม
อภิธรรมบัญญัตินิพพาน  มีแค่ 2 ประเภท

      1.  สอุปาทิเสสนิพพาน

      2.  อนุปาทิเสสนิพพาน

ไม่ยอม ยก อนุปาทาปรินิพพานในปัจจุบัน ของพระพุทธเจ้า ขึ้นบัญญัติ    

มาศึกษากัน ว่า ทำไม

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์พวกหนึ่งย่อมบัญญัติความหมดจด
ในสัตว์ผู้สูงสุดมีอยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ก้าวล่วงอากิญจัญญายตนะโดยประการ
ทั้งปวงเข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะอยู่นั้นเลิศกว่าบรรดาสมณพราหมณ์ผู้บัญญัติ
ความหมดจดในสัตว์ผู้สูงสุด สมณพราหมณ์เหล่านั้น รู้ยิ่งแล้วซึ่งเนวสัญญานา-
*สัญญายตนะนั้น ย่อมแสดงธรรมเพื่อทำให้แจ้งซึ่งเนวสัญญานาสัญญายตนะนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายแม้ผู้มีวาทะอย่างนี้แลมีอยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
@๑. กามาวจรสัญญา ๒. รูปาวจรสัญญา ๓. โลกุตรสัญญา ๔. อากิญจัญญายตนะ
ความเป็นอย่างอื่นมีอยู่แท้ ความแปรปรวนมีอยู่แม้แก่สัตว์ทั้งหลายผู้มีวาทะอย่างนี้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับเห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมหน่ายแม้ในเนวสัญญา-
*นาสัญญายตนะนั้น เมื่อหน่ายย่อมคลายกำหนัดในสิ่งที่เลิศ จะป่วยกล่าวไปไย
ในสิ่งที่เลวเล่า ฯ
             ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์พวกหนึ่งบัญญัตินิพพานอันยวดยิ่งใน
ปัจจุบันมีอยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความหลุดพ้นเพราะไม่ถือมั่น เพราะรู้ความเกิด
ความดับ คุณ โทษ และอุบายเครื่องสลัดออกแห่งผัสสายตนะ ๖ ประการ เลิศ
กว่าการบัญญัตินิพพานอันยอดยิ่งในปัจจุบันแห่งสมณพราหมณ์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สมณพราหมณ์พวกหนึ่งย่อมกล่าวตู่เราผู้มีวาทะอย่างนี้ ผู้กล่าวอย่างนี้ด้วยคำไม่จริง
ด้วยคำเปล่า ด้วยคำเท็จ ด้วยคำไม่เป็นจริงว่า พระสมณโคดมไม่บัญญัติความ
กำหนดรู้กามทั้งหลาย ไม่บัญญัติความกำหนดรู้รูปทั้งหลาย ไม่บัญญัติความ
กำหนดรู้เวทนาทั้งหลาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมบัญญัติความกำหนดรู้กาม
ทั้งหลายด้วย ย่อมบัญญัติความกำหนดรู้รูปทั้งหลายด้วย ย่อมบัญญัติความกำหนด
รู้เวทนาทั้งหลายด้วย เราเป็นผู้หายหิวแล้ว ดับแล้ว เย็นแล้ว ย่อมบัญญัติ
อนุปาทาปรินิพพานในปัจจุบัน ฯ
จบสูตรที่ ๙
             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๔  บรรทัดที่ ๑๔๔๘ - ๑๕๘๙.  หน้าที่  ๖๒ - ๖๘.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=24&A=1448&Z=1589&pagebreak=0
             ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=24&i=29
             สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๔
http://www.84000.org/tipitaka/read/?สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่_๒๔
http://www.84000.org/tipitaka/read/?index_24


ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สมณพราหมณ์พวกหนึ่งย่อมกล่าวตู่เราผู้มีวาทะอย่างนี้ ผู้กล่าวอย่างนี้ด้วยคำไม่จริง
ด้วยคำเปล่า ด้วยคำเท็จ ด้วยคำไม่เป็นจริงว่า พระสมณโคดมไม่บัญญัติความ
กำหนดรู้กามทั้งหลาย ไม่บัญญัติความกำหนดรู้รูปทั้งหลาย ไม่บัญญัติความ
กำหนดรู้เวทนาทั้งหลาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมบัญญัติความกำหนดรู้กาม
ทั้งหลายด้วย ย่อมบัญญัติความกำหนดรู้รูปทั้งหลายด้วย ย่อมบัญญัติความกำหนด
รู้เวทนาทั้งหลายด้วย เราเป็นผู้หายหิวแล้ว ดับแล้ว เย็นแล้ว ย่อมบัญญัติ
อนุปาทาปรินิพพานในปัจจุบัน ฯ

รู้หรือยัง ว่าทำไม อภิธรรม ไม่ยอมบัญญัติคำของพระพุทธเจ้า   เพราะพวกมันเป็นเดียรถีย์  โกหก ไม่บาป ไม่ผิดศีล

ยังมีอีก

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต



             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ส่วนอนุปาทาปรินิพพานเป็นอย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ปฏิบัติอย่างนี้ คือ ย่อมได้ความวางเฉยว่า ถ้ากรรม
ในอดีตไม่ได้มีแล้วไซร้ อัตตภาพในปัจจุบันก็ไม่พึงมีแก่เรา ถ้ากรรมในปัจจุบัน
ย่อมไม่มีไซร้ อัตตภาพในอนาคตก็จักไม่มีแก่เรา เบญจขันธ์ที่กำลังเป็นอยู่
ที่เป็นมาแล้วเราย่อมละได้ เธอย่อมไม่กำหนัดในเบญจขันธ์อันเป็นอดีต ไม่ข้อง
อยู่ในเบญจขันธ์อันเป็นอนาคต ย่อมพิจารณาเห็นบทอันสงบระงับอย่างยิ่งด้วย
ปัญญาอันชอบ ก็บทนั้นแล อันภิกษุนั้นทำให้แจ้งแล้ว โดยอาการทั้งปวง อนุสัย
คือมานะ ... อนุสัยคืออวิชชา เธอยังละ ไม่ได้โดยอาการทั้งปวง เธอย่อมกระทำ
ให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป
ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า
อนุปาทาปรินิพพาน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปุริสคติ ๗ ประการนี้ และอนุปาทา
ปรินิพพาน ฯ
จบสูตรที่ ๒
             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓  บรรทัดที่ ๑๖๒๔ - ๑๖๓๖.  หน้าที่  ๗๑ - ๗๒.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=23&A=1624&Z=1636&pagebreak=0
             ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=23&i=52
             สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๓
http://www.84000.org/tipitaka/read/?สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่_๒๓
http://www.84000.org/tipitaka/read/?index_23

  
อันนี้แหละ ที่อภิธรรม ซึ่งเป็น เดียรถีย์  ไม่ยอมให้ใคร ศึกษาร่ำเรียน  อนุปาทาปรินิพพาน ของพระพุทธเจ้า

เพราะพวกมีนเป็น  ลัทธิ วิญญาณเวียนว่ายตายเกิดนั้นเอง

พระพุทธเจ้าตรัสอภิธรรม 7 คำภีร์  (  ที่พวกมันเรียบเรียงจากอรรถกถาปกรณื ทั้งหสายแล้วแต่งขึ้นไหม่ ) โปรดพระมารดาบนสวรรค์

เพราะฉนั้น  คำของพวกมีนเดียรถีย์  จึงเป็น พุทธภาษิตด้วย  เพราะพรพุทธเจ้าเอาคำของพวกมันเองนี่แหละไปตรัส

ดู...มัน...โกหกสิ้นดี   ....อภิธรรมปิฏกรวบรวม อรรถกถาแล้วแต่งใหม่เป็น อภิธรรม 7 คำภีร์ หลังพระพุทธอง๕ ปรินิพพานแล้ว

พระพุทธเจ้าจะเอาคำของพวกอภิธรรมเดียรถีร์ ที่แต่งใหม่ไปเทศได้อย่างไร ?

อภิธรรมเดียรถีย์  โกหกไม่ผิด ศีล  พวกมันก็หลอกได้ แต่คนโง่ๆ   อ่านจับใจความเป็นเท่านั้นแหละ

คำโกหกภาษาบาลี  คนแปลไม่รู้ความหมาย ความนัย   ก็ไม่รู้ว่ามีปัญญาแปลมาได้อย่างไรแล้ว     บอกได้คำเดียว......   "  โง่ "
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่