ถ้าพูดถึงธุรกิจบันเทิง เชื่อว่าไม่มีอะไรอยู่ในช่วงขาขึ้นเท่า "ทีวีดาวเทียม"
เพราะค่ายไหนๆ ต่างก็เข้าจับจองเพื่อให้มีช่องทางการสื่อสารเป็นของตัวเอง ช่วงปีสองปีมานี้เราจึงมีทีวีดาวเทียมร่วมร้อยช่อง
แถมในช่วงที่ระยะอันใกล้จะมีทีวีดิจิตอลอีก 48 ช่อง ตอนนี้คนทำทีวีที่ไม่ว่าแบบไหน จะฟรีทีวี 3, 5, 7, โมเดิร์นไนน์ เดิม, เคเบิลทีวี หรือทีวีดาวเทียมจึงต้องขยับตัวยกใหญ่เพื่อให้ "ยังอยู่"
โดยเฉพาะทีวีดาวเทียมที่เห็นได้ชัด ว่าจัดหนัก จัดเต็มอย่าง มงคลแชนแนล ซึ่งปกติมีหนังไทย-เทศที่ลาโรงแล้วมาสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันฉาย แต่คราวนี้ เติ้ล-ตะวัน จารุจินดา ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ ของคลื่นบอกว่า จะลงทุนทำหนังเริ่มจาก "สิบสยอง" อย่างที่ "มติชน" เพิ่งบอกข่าวไปว่าจะลงทุนนับล้านบาทกับหนังสยองขวัญความยาว 1 ชั่วโมง
"เราอยากจะก้าวก่อนช่องอื่นๆ ที่เป็นช่องหนังด้วยกัน
"อยากเป็นทางเลือกใหม่
"เวลาคนนึกถึงทีวีดาวเทียมก็นึกว่าเป็นรายการเหลือจากฟรีทีวี
"ทั้งที่เดี๋ยวนี้มันไม่ใช่แล้ว"
ณัฐพงษ์ มงคลสวัสดิ์ ผู้จัดการสถานีโทรทัศน์แบงแชนแนล ของ จีเอ็มเอ็มทีวี ก็คิดไปทิศเดียวกัน ดังนั้น ช่องแบงจึงจะนำรายการจากฟรีทีวีมาออกซ้ำ หรือ "รีรัน" แค่ครั้งเดียว ที่เหลือคือผลิตใหม่ ไม่ซ้ำใคร
"เราจะรีรันเฉพาะรายการที่คนอยากดูจริงๆ แล้วเลือกเวลาที่ไม่ใช่ช่วงที่คนดูเยอะ"
ส่วนของใหม่ที่เตรียมไว้ฉลองการก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ก็จัดไว้เพียบ เริ่มจากละครโรแมนติกคอมเมดี้ "เลิฟบอลลูน รักพองลม" เรื่องราวความรักของซุป?ตาร์กับนักเขียนที่มีเหตุต้องมาให้ใช้ชีวิตร่วมกันใน จ.เชียงใหม่ นำแสดงโดย นิคกี้-ณฉัตร จันทพันธ์, พุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน และ ส้ม-มารี เออเจนี เลอเลย์ ออกอากาศช่วงเดือน พ.ค. ส่วนเดือน มี.ค.-เม.ย. จะมีรายการใหม่
"ตู้เสื้อเพื่อน" ที่ เป๊ก-เปรมณัช สุวรรณานนท์ และ เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ จะมาพูดคุยเรื่องการแต่งตัว แต่เน้นว่าไม่ใช่รายการแฟชั่นอย่างที่เห็นกันทั่วไป เพราะจะเน้นเรื่องไลฟ์สไตล์มากกว่า
ส่วนอีก 2-3 รายการเขาว่า "ขอไม่เปิดเผย เพราะมันแปลกมาก"
นอกจากนี้ ยังมีงานประกาศผลรางวัลแบง อวอร์ด ที่จัดมาประจำทุกปี และแบงสตรีทแฟร์ ที่ได้ไอเดียมาจากตอนงานแกรมมี่ วันเดอร์แลนด์
"ตอนนั้นผลตอบรับดีมาก เราเลยจะมาจัดให้ใหญ่ขึ้นมีคอนเสิร์ต ขายของ เครื่องเล่น จัดที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด"
เพราะเขาว่าของอย่างนี้ถ้าจะให้ดี แค่หน้าจอโทรทัศน์อย่างเดียว "เอาไม่อยู่"
"ช่องเรามีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่น และคนที่ยังใจรุ่น ซึ่งต้องทำให้เขารู้สึกว่าเราอยู่กับเขาเสมอไม่ไปไหน
"เลยต้องทำเป็นแชนแนลที่ไม่ได้มีแค่หน้าจอทีวีมีเว็บไซต์หน้าจอคอมพ์ แอพฯ ในมือถือ ในแท็บเล็ต แม้แต่การไปเจอตัวก็เป็นช่องทางหนึ่ง"
ยิ่งในช่วงนี้ตลาดทีวีดาวเทียมคึกคักหลายเจ้าลงมาแข่งขันเต็มตัวยิ่งต้องใส่กันแบบไม่ยั้ง
แต่จะเต็มที่แค่ไหน "อย่าลืมดูว่ากลุ่มเป้าหมายเราคือใคร อย่าเสี่ยงโดยไม่ประเมิน" เขาว่า
เช่นเดียวกับ โด่ง-องอาจ สิงห์ลำพอง รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานสถานีโทรทัศน์ บมจ.อาร์เอส หัวเรือใหญ่แห่ง ช่อง 8 ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายชัดเจน
"เราจับทางได้แล้วว่าคนชอบอะไรที่สุดสุด คือถ้าเป็นละครน้ำเน่าครอบครัวก็ขอแซบๆ หรือถ้าเป็นผีตลกก็เอาให้มันส์ แบบที่ในฟรีทีวีไม่มีให้ดู"
โดยในปีนี้จะลงทุนในส่วนของละคร 70% และรายการ 30% เพราะแม้ละครช่อง 8 จะกระแสแรง แต่ก็ไม่อยากให้ผู้ชมรอดูเฉพาะส่วนนั้นแล้วเปลี่ยนช่องหนีหลังจบจึงต้องเสริมทัพเพิ่มรายการเข้าไป
"เราจะมีรายการเรียลิตี้ที่ร่วมมือกับประเทศในเอเชียเป็นประกวดร้องเพลงเพราะคนชอบแล้วก็อินสุด พิสูจน์มาจากทั่วโลก"
ส่วนละครปีนี้จะมีหลายรส ทั้งดราม่า คอมเมดี้ พีเรียด จากผู้จัดหน้าใหม่คนในวงการหลายเจ้า อย่าง เอ๊ะ-อิศริยา สายสนั่น กับเรื่อง "ข้าวนอกนา" และแว่วๆ ว่าอาจได้เห็น"ผู้ชนะสิบทิศ" เวอร์ชั่น ท่านมุ้ย-ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนพูดคุยกันอีกด้วย
แถมจากเดิมมีสัปดาห์ละ 1 เรื่อง โดยออนแอร์แค่ 3 วัน ก็จะเพิ่มเป็น 7 วัน 3 เรื่อง
ด้วย "เป้าหมายตอนนี้ คืออยากมีมาตรฐานเดียวกับฟรีทีวีทั่วไป มีระดับเท่ากัน แข่งกันด้วยเนื้อหา"
ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาอันดับต้นๆ ของช่องทีวีดาวเทียม ที่แข็งแกร่งกันมากขึ้น เพราะมีเม็ดเงินหลายร้อยล้านที่หมุนเวียนในตลาดทีวีดาวเทียมเป็นแรงจูงใจ
ส่วนช่อง เวิร์คพอยท์ ทีวี หัวเรือใหญ่ ปัญญา นิรันดร์กุล ว่า "เราตั้งใจเพิ่มงบลงทุนเป็น 2 เท่าจากปีที่แล้ว"
จาก 100 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท โดยจะแบ่งเป็นรายการที่ผลิตเอง 80% ส่วนอีก 20% จะซื้อลิขสิทธิ์รวมถึงจ้างผลิตรายการ
"ปีนี้มีรายการใหม่ 30 รายการ เพราะอยากให้ออกอากาศตลอด 7 วัน วันละ 12 ชั่วโมง"
โดยมีทั้งรายการ "สวย เฉียบ เนี้ยบ" ของ เมย์ เฟื่องอารมย์ ที่จะมาคุยเรื่องที่สาวๆ จำเป็นต้องรู้ และหนุ่มๆ ไม่ควรพลาดถ้าอยากพิชิตใจเธอ, "อาม่า คาเฟ่" ที่ ยอร์ช-ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร ทำรายการแล้วเอาอาม่าทางบ้านมาตัดสินว่าตลกหรือไม่, "เดอะสเนค เกมบันไดงู" ที่ น้าเน็ค-เกตุเสพสวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา จะให้คนมาเล่นกันจริงๆ, รายการ "ไทยเท่" โดย โหน่ง-วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ พาดูของไทยที่เท่ไม่แพ้ชาติใดในโลก, ละคร "เทวดาตกสวรรค์" กำกับโดย พิง ลำพระเพลิง
หรือแม้แต่รายการข่าวที่ปกติมี "มติชน ข่าวเที่ยง" , "มติชน ข่าวค่ำ" , "มติชน สุดสัปดาห์" และ "ข่าวต้นชั่วโมง" ตั้งแต่ 14.00-17.00 น. ยังมีการเพิ่ม "มติชน ข่าวเช้า" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 07.00-08.00 น.
นอกจากนี้เขายังว่า "บริษัทจะเปิดทีวีดาวเทียมเพิ่มอีก 1 ช่อง จะออกอากาศช่วงปลายไตรมาส 1 หรือไตรมาส 2 ปีนี้"
ซึ่งอยู่ระหว่างดูว่ารูปแบบช่องจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ที่แน่นอนคือจะแตกต่างจากช่องเดิม และต้องดีจริง ไม่งั้นคงอยู่ยากในยุคที่ไม่ควรมองข้ามตลาดทีวีดาวเทียม
เพราะรายการอะไรก็น่าดูไปซะหมด
ที่มา มติชนรายวัน
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1361173421&grpid=03&catid=12&subcatid=1200
โปรดอย่ามองข้าม ทีวีดาวเทียม
เพราะค่ายไหนๆ ต่างก็เข้าจับจองเพื่อให้มีช่องทางการสื่อสารเป็นของตัวเอง ช่วงปีสองปีมานี้เราจึงมีทีวีดาวเทียมร่วมร้อยช่อง
แถมในช่วงที่ระยะอันใกล้จะมีทีวีดิจิตอลอีก 48 ช่อง ตอนนี้คนทำทีวีที่ไม่ว่าแบบไหน จะฟรีทีวี 3, 5, 7, โมเดิร์นไนน์ เดิม, เคเบิลทีวี หรือทีวีดาวเทียมจึงต้องขยับตัวยกใหญ่เพื่อให้ "ยังอยู่"
โดยเฉพาะทีวีดาวเทียมที่เห็นได้ชัด ว่าจัดหนัก จัดเต็มอย่าง มงคลแชนแนล ซึ่งปกติมีหนังไทย-เทศที่ลาโรงแล้วมาสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันฉาย แต่คราวนี้ เติ้ล-ตะวัน จารุจินดา ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ ของคลื่นบอกว่า จะลงทุนทำหนังเริ่มจาก "สิบสยอง" อย่างที่ "มติชน" เพิ่งบอกข่าวไปว่าจะลงทุนนับล้านบาทกับหนังสยองขวัญความยาว 1 ชั่วโมง
"เราอยากจะก้าวก่อนช่องอื่นๆ ที่เป็นช่องหนังด้วยกัน
"อยากเป็นทางเลือกใหม่
"เวลาคนนึกถึงทีวีดาวเทียมก็นึกว่าเป็นรายการเหลือจากฟรีทีวี
"ทั้งที่เดี๋ยวนี้มันไม่ใช่แล้ว"
ณัฐพงษ์ มงคลสวัสดิ์ ผู้จัดการสถานีโทรทัศน์แบงแชนแนล ของ จีเอ็มเอ็มทีวี ก็คิดไปทิศเดียวกัน ดังนั้น ช่องแบงจึงจะนำรายการจากฟรีทีวีมาออกซ้ำ หรือ "รีรัน" แค่ครั้งเดียว ที่เหลือคือผลิตใหม่ ไม่ซ้ำใคร
"เราจะรีรันเฉพาะรายการที่คนอยากดูจริงๆ แล้วเลือกเวลาที่ไม่ใช่ช่วงที่คนดูเยอะ"
ส่วนของใหม่ที่เตรียมไว้ฉลองการก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ก็จัดไว้เพียบ เริ่มจากละครโรแมนติกคอมเมดี้ "เลิฟบอลลูน รักพองลม" เรื่องราวความรักของซุป?ตาร์กับนักเขียนที่มีเหตุต้องมาให้ใช้ชีวิตร่วมกันใน จ.เชียงใหม่ นำแสดงโดย นิคกี้-ณฉัตร จันทพันธ์, พุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน และ ส้ม-มารี เออเจนี เลอเลย์ ออกอากาศช่วงเดือน พ.ค. ส่วนเดือน มี.ค.-เม.ย. จะมีรายการใหม่
"ตู้เสื้อเพื่อน" ที่ เป๊ก-เปรมณัช สุวรรณานนท์ และ เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ จะมาพูดคุยเรื่องการแต่งตัว แต่เน้นว่าไม่ใช่รายการแฟชั่นอย่างที่เห็นกันทั่วไป เพราะจะเน้นเรื่องไลฟ์สไตล์มากกว่า
ส่วนอีก 2-3 รายการเขาว่า "ขอไม่เปิดเผย เพราะมันแปลกมาก"
นอกจากนี้ ยังมีงานประกาศผลรางวัลแบง อวอร์ด ที่จัดมาประจำทุกปี และแบงสตรีทแฟร์ ที่ได้ไอเดียมาจากตอนงานแกรมมี่ วันเดอร์แลนด์
"ตอนนั้นผลตอบรับดีมาก เราเลยจะมาจัดให้ใหญ่ขึ้นมีคอนเสิร์ต ขายของ เครื่องเล่น จัดที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด"
เพราะเขาว่าของอย่างนี้ถ้าจะให้ดี แค่หน้าจอโทรทัศน์อย่างเดียว "เอาไม่อยู่"
"ช่องเรามีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่น และคนที่ยังใจรุ่น ซึ่งต้องทำให้เขารู้สึกว่าเราอยู่กับเขาเสมอไม่ไปไหน
"เลยต้องทำเป็นแชนแนลที่ไม่ได้มีแค่หน้าจอทีวีมีเว็บไซต์หน้าจอคอมพ์ แอพฯ ในมือถือ ในแท็บเล็ต แม้แต่การไปเจอตัวก็เป็นช่องทางหนึ่ง"
ยิ่งในช่วงนี้ตลาดทีวีดาวเทียมคึกคักหลายเจ้าลงมาแข่งขันเต็มตัวยิ่งต้องใส่กันแบบไม่ยั้ง
แต่จะเต็มที่แค่ไหน "อย่าลืมดูว่ากลุ่มเป้าหมายเราคือใคร อย่าเสี่ยงโดยไม่ประเมิน" เขาว่า
เช่นเดียวกับ โด่ง-องอาจ สิงห์ลำพอง รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานสถานีโทรทัศน์ บมจ.อาร์เอส หัวเรือใหญ่แห่ง ช่อง 8 ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายชัดเจน
"เราจับทางได้แล้วว่าคนชอบอะไรที่สุดสุด คือถ้าเป็นละครน้ำเน่าครอบครัวก็ขอแซบๆ หรือถ้าเป็นผีตลกก็เอาให้มันส์ แบบที่ในฟรีทีวีไม่มีให้ดู"
โดยในปีนี้จะลงทุนในส่วนของละคร 70% และรายการ 30% เพราะแม้ละครช่อง 8 จะกระแสแรง แต่ก็ไม่อยากให้ผู้ชมรอดูเฉพาะส่วนนั้นแล้วเปลี่ยนช่องหนีหลังจบจึงต้องเสริมทัพเพิ่มรายการเข้าไป
"เราจะมีรายการเรียลิตี้ที่ร่วมมือกับประเทศในเอเชียเป็นประกวดร้องเพลงเพราะคนชอบแล้วก็อินสุด พิสูจน์มาจากทั่วโลก"
ส่วนละครปีนี้จะมีหลายรส ทั้งดราม่า คอมเมดี้ พีเรียด จากผู้จัดหน้าใหม่คนในวงการหลายเจ้า อย่าง เอ๊ะ-อิศริยา สายสนั่น กับเรื่อง "ข้าวนอกนา" และแว่วๆ ว่าอาจได้เห็น"ผู้ชนะสิบทิศ" เวอร์ชั่น ท่านมุ้ย-ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนพูดคุยกันอีกด้วย
แถมจากเดิมมีสัปดาห์ละ 1 เรื่อง โดยออนแอร์แค่ 3 วัน ก็จะเพิ่มเป็น 7 วัน 3 เรื่อง
ด้วย "เป้าหมายตอนนี้ คืออยากมีมาตรฐานเดียวกับฟรีทีวีทั่วไป มีระดับเท่ากัน แข่งกันด้วยเนื้อหา"
ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาอันดับต้นๆ ของช่องทีวีดาวเทียม ที่แข็งแกร่งกันมากขึ้น เพราะมีเม็ดเงินหลายร้อยล้านที่หมุนเวียนในตลาดทีวีดาวเทียมเป็นแรงจูงใจ
ส่วนช่อง เวิร์คพอยท์ ทีวี หัวเรือใหญ่ ปัญญา นิรันดร์กุล ว่า "เราตั้งใจเพิ่มงบลงทุนเป็น 2 เท่าจากปีที่แล้ว"
จาก 100 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท โดยจะแบ่งเป็นรายการที่ผลิตเอง 80% ส่วนอีก 20% จะซื้อลิขสิทธิ์รวมถึงจ้างผลิตรายการ
"ปีนี้มีรายการใหม่ 30 รายการ เพราะอยากให้ออกอากาศตลอด 7 วัน วันละ 12 ชั่วโมง"
โดยมีทั้งรายการ "สวย เฉียบ เนี้ยบ" ของ เมย์ เฟื่องอารมย์ ที่จะมาคุยเรื่องที่สาวๆ จำเป็นต้องรู้ และหนุ่มๆ ไม่ควรพลาดถ้าอยากพิชิตใจเธอ, "อาม่า คาเฟ่" ที่ ยอร์ช-ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร ทำรายการแล้วเอาอาม่าทางบ้านมาตัดสินว่าตลกหรือไม่, "เดอะสเนค เกมบันไดงู" ที่ น้าเน็ค-เกตุเสพสวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา จะให้คนมาเล่นกันจริงๆ, รายการ "ไทยเท่" โดย โหน่ง-วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ พาดูของไทยที่เท่ไม่แพ้ชาติใดในโลก, ละคร "เทวดาตกสวรรค์" กำกับโดย พิง ลำพระเพลิง
หรือแม้แต่รายการข่าวที่ปกติมี "มติชน ข่าวเที่ยง" , "มติชน ข่าวค่ำ" , "มติชน สุดสัปดาห์" และ "ข่าวต้นชั่วโมง" ตั้งแต่ 14.00-17.00 น. ยังมีการเพิ่ม "มติชน ข่าวเช้า" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 07.00-08.00 น.
นอกจากนี้เขายังว่า "บริษัทจะเปิดทีวีดาวเทียมเพิ่มอีก 1 ช่อง จะออกอากาศช่วงปลายไตรมาส 1 หรือไตรมาส 2 ปีนี้"
ซึ่งอยู่ระหว่างดูว่ารูปแบบช่องจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ที่แน่นอนคือจะแตกต่างจากช่องเดิม และต้องดีจริง ไม่งั้นคงอยู่ยากในยุคที่ไม่ควรมองข้ามตลาดทีวีดาวเทียม
เพราะรายการอะไรก็น่าดูไปซะหมด
ที่มา มติชนรายวัน
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1361173421&grpid=03&catid=12&subcatid=1200