ทรัพย์สินจุฬาฯ แจงประเด็นขอคืนพื้นที่เช่าอุเทนถวาย

กระทู้คำถาม
เมื่อ 16 ก.พ. รศ.น.อ.นพ.เพิ่มยศ โกศลพันธุ์ รองอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กำกับดูแลสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ ชี้แจงกรณีการขอคืนพื้นที่ของจุฬาฯ ที่ให้อุเทนถวายเช่า โดยชี้แจงว่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ได้ทำสัญญาเช่ากับจุฬาฯ บนพื้นที่ 2๐ ไร่ 3 งาน 29 ตารางวา ตั้งแต่ปี 2478 - 2546 โดยจุฬาฯ ได้เริ่มเจรจาขอคืนพื้นที่มาตั้งแต่ปี 2518 เป็นต้นมา (ตั้งแต่ 38 ปีที่แล้ว) เนื่องจากจุฬาฯมีโครงการที่นำความรู้เพื่อสนองตอบการแก้ปัญหาของสังคมอย่างยั่งยืนจึงจำเป็นต้องใช้สถานที่เพื่อเป็นการขยายโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนของชาติ และเตรียมความพร้อมของประเทศในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอันใกล้นี้ตามนโยบายของรัฐบาล

ทั้งนี้ในปี2545 กระทรวงศึกษาธิการได้เคยมีความสนใจที่จะขอใช้พื้นที่บริเวณอุเทนถวายต่อจุฬาฯ เพื่อจัดตั้ง สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้(องค์การมหาชน) โดยจะประสานงานจัดการเรื่องการย้ายอุเทนถวายไปยังสถานที่ที่เหมาะสม และเพื่อเป็นการขยายพื้นทางการศึกษาของอุเทนถวายด้วย

ดังนั้นเพื่อช่วยคลี่คลายปัญหาดังกล่าวจุฬาฯ ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมธนารักษ์ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2545 เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการจัดหาพื้นที่ให้อุเทนถวาย ประมาณ 3๐-5๐ไร่ ซึ่งกรมธนารักษ์ได้เสนอพื้นที่ ต.บางปิ้ง จ.สมุทรปราการจำนวน 36 ไร่ให้กับอุเทนถวาย

จนกระทั่งในปี 2547 อุเทนถวาย จึงมีการทำบันทึกข้อตกลง ฉบับลงวันที่ 11 มีนาคม 2547 ตกลงขนย้ายและส่งมอบพื้นที่คืนให้กับจุฬาฯภายในวันที่ 3๐ กันยายน 2548 โดยหากมีความจำเป็นก็จะผ่อนผันให้ไม่เกิน 1 ปี เท่านั้น ในปี 2548 จึงมีการทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน 4 ฝ่าย ได้แก่ จุฬาฯ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และ อุเทนถวาย โดยมีสาระสำคัญในการตกลงที่อุเทนถวายจะย้ายไปก่อสร้างสถาบันใหม่ ณ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และจะดำเนินการย้ายบุคลากรและนักศึกษาให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 1 พ.ย. 2548 โดยเมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่ากับอุเทนถวายแล้ว สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้(องค์การมหาชน) ก็จะมาใช้พื้นที่นี้ต่อไป

ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนแผนการย้าย คณะรัฐมนตรีได้จัดสรรงบประมาณ สองร้อยล้านบาท ผ่านสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาเพื่อดำเนินการต่อไปอีกด้วย จุฬาฯได้มีการส่งหนังสือเพื่อให้อุเทนถวายส่งมอบพื้นที่คืนให้แก่จุฬาฯ ทั้งหมด 3 ครั้ง คือ วันที่ 6 ธ.ค. 2549, วันที่ 13 ก.พ.2550 และวันที่ 10 ก.ค. 2550 รวมถึงมีหนังสือถึงรมต.ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้พิจารณางบประมาณในสนับสนุนการจัดตั้งพื้นที่แห่งใหม่ให้อุเทนถวายด้วย

ในปีพ.ศ. 2550สำนักงานอัยการสูงสุดได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง(กยพ.) โดยในระหว่างการพิจารณาดังกล่าวนั้นนายกสโมสรนักศึกษาอุเทนถวาย ได้มีการทูลเกล้าฯถวายฎีกา 2 ครั้ง

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 กยพ.ได้มีมติชี้ขาดโดยให้ อุเทนถวาย ขนย้ายทรัพย์สินและคืนพื้นที่ให้กับ จุฬาฯ และชำระค่าเสียหายปีละล้านบาทเศษ จนกว่าจะส่งมอบพื้นที่เสร็จ โดยมติที่ประชุมมีข้อสังเกตว่า ในการย้ายนั้น ขอให้กระทรวงศึกษา ประสานงานกับกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอใช้ที่ราชพัสดุและงบประมาณสนับสนุนเพื่อการนี้ต่อไปด้วย

ในปีพ.ศ.2553คณะรัฐมนตรีรับทราบมติดังกล่าว และอัยการสูงสุดแจ้งผลชี้ขาดของ กยพ. ต่อ จุฬาฯและอุเทนถวาย ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว สำหรับผลการทูลเกล้าถวายฎีกา สำนักราชเลขาธิการได้มีหนังสือยืนยันผลชี้ขาดตามมติของ กยพ. ถึงอุเทนถวาย ฉบับลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 หลังจากนั้นจุฬาฯจึงมีหนังสือสอบถามความคืบหน้าการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี ไปยังอุเทนถวาย ตามหนังสือฉบับลงวันที่ 31 สิงหาคม 2554 แต่จนถึงปัจจุบัน อุเทนถวาย ยังไม่ได้ปฏิบัติตามการชี้ขาดจาก กยพ. แต่ประการใด

ที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1361022825&grpid=&catid=19&subcatid=1903

นโยบายในการปรับปรุงพื้นที่เขตการศึกษาฝั่งตะวันออกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โปรดอ่าน http://www.facebook.com/ChulalongkornUniversity
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่