อย่าดีแต่ชมแค่ว่า ใบปิดเรื่องไหนทำสวยกว่ากัน แต่ที่ฉันจะชมนั้น..ก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับบริษัทตัวเล็กๆ ที่ดูไม่เล็ก
..อย่าง
"เวฟ พิคเจอร์" และ
"เซย์แคช ฟิล์ม" ไว้เป็นทางเลือกใหม่ในอ้อมใจของคนคอหนังไทย
แม้ภาวะวงการหนังไทยที่ดูๆ ชักจะเงียบงัน แค่ประเดิมปี ๒๕๕๖ เพียงสองเดือนก็มีหนังไทยเข้าโรงเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น แต่เมื่อได้ผลงานจากสองรายใหม่ฉายอวดในห้วงเวลานี้ ผ่านตรุษจีน ผ่านวาเลนไทน์ ก็น่าจะช่วยเติมเต็มให้สีสันของวงการไม่หงอย..ยิ่งกว่าที่คาดคิด
เพราะทั้ง
"ทองสุก 13" และ
"เดอะ ช้อยส์ คู่ซี้ดีแต่ฝัน" ...
คล้ายกันที่เป็นงานแรกของบริษัทผู้สร้างหน้าใหม่ทั้งคู่ แต่เป็นหน้าใหม่ที่ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่อันใด
เพราะเท่าที่อ่านรายชื่อคนทำงานของแต่ละแห่ง มักเป็นมืออาชีพมากประสบการณ์แทบทั้งสิ้น
จะต่างกันที่แนวทางการถ่ายทอดเรื่องราวตามความสนใจและถนัดของแต่ละทีมละคน
ที่น่ายินดีอีกประการคือ ต่างก็ได้เหล่าสปอนเซอร์ระดับตัวเอ้ๆ มาช่วยหนุนหนังซะด้วย จะซ้ำกันเพียง ไทยประกันชีวิต (ผู้ที่น่าเรียกว่าตัวแทนส่งเสริมหนังไทย เห็นชื่อนี้เดินติดกับหนังแทบทุกค่าย)
อีกทั้งได้นักแสดง-นักร้อง-โฆษกที่คุ้นหน้ากันดีมาร่วมงาน -ก็เชื่อว่าจะฉุดให้การตลาดหนังไปได้สวยสง่างาม
โดยไม่ต้องพึ่งสหมงคลฟิล์ม จีทีเอช หรือ เอ็มเทอร์ตี้ไนน์ ที่มาวินจนชินตาของตลาดหนังไทยยุคนี้
ขณะที่ พระนครฟิลม์ กำลังอยู่ในสภาพเสือหลับที่ยังไม่หาวไปถึงงานในก้าวต่อไป
ถึงกับนั่งคาดการณ์ว่า คลื่นลูกใหม่อย่าง "เวฟฯ" อาจจะมาแทนที่ค่ายที่หลับอยู่นั้นก็เป็นได้
สำหรับสภาพของสองเรื่องนี้ เปิดตัวอย่างไม่ธรรมดา แค่ชื่อเรื่องก็บ่งบอกถึงความ "เฮง" ที่จะตามมา
โดย "ทองสุก 13" มีผู้เขียนเรื่องและบทคือ เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ ที่พวกเราอาจผ่านตามาแล้วจากงานเขียนบทหนังแนวสยองชื่อก้องหลายเรื่อง ..มีผู้กำกับภาพยนตร์คือ ทวีวัฒน์ วันทา ซึ่งคงไม่ต้องเอ่ยนามผลงานก่อนหน้านี้ให้กระเทือนทรวงนัก แต่เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นมิติใหม่อีกขั้นที่น่าลิ้มลอง ด้วยนิยาม "หนังสยองแบบนอนสต็อป" เป็นครั้งแรก
และเท่าที่เห็นรายชื่อนักแสดงหลักก็มักเป็นดาราจากสังกัดค่ายเพลงย่านอโศกแทบทั้งนั้น ทั้ง "ชินวุฒ"-"น้ำชา" นักร้องเพลงดัง "ฌอห์ณ"-"น็อต" ที่เป็นวีเจทางค่ายเดียวกัน พวกนี้ล้วนเป็นหน้าใหม่ซิงๆ ของจอเงิน จะมีเพียงสองสาวดาวรุ่งอย่าง "กอล์ฟ"-"ฐา" ที่เป็นนักแสดงอิสระซึ่งเคยผ่านการแสดงหนังมาหลายเรื่องแล้ว จนนักสันทัดบางคนพลางคิดว่า เรื่องต่อไปของเวฟฯ อาจจะวานจ้างนักร้องนักแสดงจากแกรมมี่อีกรึเปล่า และต้องใช้เพลงประกอบจากทางแกรมมี่หรือไม่ ดูๆ ไปเหมือนละครช่อง3 ทั้งที่เวฟฯเองก็หุ้นกับช่อง3 (กลัวจะซ้ำซ้อนเอา)
ล่าสุด ทองสุก 13 เอาชนะอาถรรพ์เลขเด็ดจนได้ ด้วยรายได้ทะลุ 30 ล้านบาทภายในสองสัปดาห์ และกำลังเก็บสะสมอยู่ต่อไป
อีกทั้งเตรียมส่งไปฉายนอกประเทศ โดยมี "ไฟว์สตาร์" ที่ไม่ได้ร่วมควักเงินสร้าง แต่รับหน้าที่ดูแลการตลาดต่างประเทศ รองรับ AEC ไว้ได้เลย
ด้าน "คู่ซี้ดีแต่ฝัน" งานชิมลางแบบบัดดี้ ที่ขายชื่อ "แบงค์ แคช"-"เวย์ ไทเทเนียม" อย่างเด่นชัด ทั้งแสดงนำ ยังกำกับฯเอง ดำเนินงานสร้างด้วยตัวเอง..และล้อเรื่องตัวเองในหนังด้วย จนเรียกว่าเป็นงานซุปเปอร์เซฟของทั้งคู่ไปแล้ว แถมยังได้ดาวเด่นของวงการหนัง เพลง ทีวี มาร่วมแสดงไว้คับคั่งแบบไม่แยกค่าย จนบางคนก็พลางคิดอีกว่า คงจะเดินตาม เท่งโหน่งคนมาหาเฮีย บวก ผู้หญิง 5 บาป นั่นแหละ
เรื่องล่านี้กำลังเก็บเงินอยู่เช่นกัน แต่เพิ่งเบิกโรงเพียงไม่กี่วัน เดี๋ยวค่อยทราบว่าเก็บได้สักเท่าไรดี และจะขายให้ต่างชาติชมด้วยไหม รายได้เพียงตัวเลข
ก้าวนี้เพียงหนึ่ง ย่อมเจอข้อบกพร่องเป็นธรรมดา ซึ่งเราอาจจะต้องจับตาก้าวต่อไปของผู้สร้างรายใหม่เหล่านี้ โดยเฉพาะผู้ที่มีแบ็คอัพระดับช่องดังอย่าง "เวฟ พิคเจอร์ส" ที่อาจจะลุยหนังอีกสัก 2 เรื่องไว้ให้ติดตามภายในปีเดียวกัน ไม่แน่ว่าอาจจะเตรียมขึ้นแ่ท่นเป็นค่ายหนังอันดับต้นๆ ก็ได้ ส่วนน้องเล็ก "เซย์แคช ฟิล์ม" หวังว่าในเรื่องถัดไปอาจมีชื่อ แบงค์ หรือ เวย์ เป็นพระเอกอยู่อีกก็เป็นได้
แม้คนเราจะหวั่น จะเกรง จะมอง จะกดดันอย่างไรที่คิดเป็นเรื่องสำคัญ แล้วสักวันก็ไม่เป็นเรื่อง แต่เหนืออื่นใดที่สำคัญกว่าคือ..ในเมื่อเราควรให้โอกาสคนที่เรียกว่า "หน้าใหม่" บ้าง พยายามนะ ทำสิ่งที่ฝันให้ดี ให้เสร็จ ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ ก่อนจะสายไปและเป็นที่ก่นว่ากันจนเยอะ
มีอะไรจะชม มีอะไรจะชัง เชิญตามสบาย สวัสดี
ขอยินดีต้อนรับ "เวฟ พิคเจอร์ส" และ "เซย์แคช ฟิล์ม" บนเวทีหนังไทย
อย่าดีแต่ชมแค่ว่า ใบปิดเรื่องไหนทำสวยกว่ากัน แต่ที่ฉันจะชมนั้น..ก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับบริษัทตัวเล็กๆ ที่ดูไม่เล็ก
..อย่าง "เวฟ พิคเจอร์" และ "เซย์แคช ฟิล์ม" ไว้เป็นทางเลือกใหม่ในอ้อมใจของคนคอหนังไทย
แม้ภาวะวงการหนังไทยที่ดูๆ ชักจะเงียบงัน แค่ประเดิมปี ๒๕๕๖ เพียงสองเดือนก็มีหนังไทยเข้าโรงเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น แต่เมื่อได้ผลงานจากสองรายใหม่ฉายอวดในห้วงเวลานี้ ผ่านตรุษจีน ผ่านวาเลนไทน์ ก็น่าจะช่วยเติมเต็มให้สีสันของวงการไม่หงอย..ยิ่งกว่าที่คาดคิด
เพราะทั้ง "ทองสุก 13" และ "เดอะ ช้อยส์ คู่ซี้ดีแต่ฝัน" ...
คล้ายกันที่เป็นงานแรกของบริษัทผู้สร้างหน้าใหม่ทั้งคู่ แต่เป็นหน้าใหม่ที่ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่อันใด
เพราะเท่าที่อ่านรายชื่อคนทำงานของแต่ละแห่ง มักเป็นมืออาชีพมากประสบการณ์แทบทั้งสิ้น
จะต่างกันที่แนวทางการถ่ายทอดเรื่องราวตามความสนใจและถนัดของแต่ละทีมละคน
ที่น่ายินดีอีกประการคือ ต่างก็ได้เหล่าสปอนเซอร์ระดับตัวเอ้ๆ มาช่วยหนุนหนังซะด้วย จะซ้ำกันเพียง ไทยประกันชีวิต (ผู้ที่น่าเรียกว่าตัวแทนส่งเสริมหนังไทย เห็นชื่อนี้เดินติดกับหนังแทบทุกค่าย)
อีกทั้งได้นักแสดง-นักร้อง-โฆษกที่คุ้นหน้ากันดีมาร่วมงาน -ก็เชื่อว่าจะฉุดให้การตลาดหนังไปได้สวยสง่างาม
โดยไม่ต้องพึ่งสหมงคลฟิล์ม จีทีเอช หรือ เอ็มเทอร์ตี้ไนน์ ที่มาวินจนชินตาของตลาดหนังไทยยุคนี้
ขณะที่ พระนครฟิลม์ กำลังอยู่ในสภาพเสือหลับที่ยังไม่หาวไปถึงงานในก้าวต่อไป
ถึงกับนั่งคาดการณ์ว่า คลื่นลูกใหม่อย่าง "เวฟฯ" อาจจะมาแทนที่ค่ายที่หลับอยู่นั้นก็เป็นได้
สำหรับสภาพของสองเรื่องนี้ เปิดตัวอย่างไม่ธรรมดา แค่ชื่อเรื่องก็บ่งบอกถึงความ "เฮง" ที่จะตามมา
โดย "ทองสุก 13" มีผู้เขียนเรื่องและบทคือ เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ ที่พวกเราอาจผ่านตามาแล้วจากงานเขียนบทหนังแนวสยองชื่อก้องหลายเรื่อง ..มีผู้กำกับภาพยนตร์คือ ทวีวัฒน์ วันทา ซึ่งคงไม่ต้องเอ่ยนามผลงานก่อนหน้านี้ให้กระเทือนทรวงนัก แต่เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นมิติใหม่อีกขั้นที่น่าลิ้มลอง ด้วยนิยาม "หนังสยองแบบนอนสต็อป" เป็นครั้งแรก
และเท่าที่เห็นรายชื่อนักแสดงหลักก็มักเป็นดาราจากสังกัดค่ายเพลงย่านอโศกแทบทั้งนั้น ทั้ง "ชินวุฒ"-"น้ำชา" นักร้องเพลงดัง "ฌอห์ณ"-"น็อต" ที่เป็นวีเจทางค่ายเดียวกัน พวกนี้ล้วนเป็นหน้าใหม่ซิงๆ ของจอเงิน จะมีเพียงสองสาวดาวรุ่งอย่าง "กอล์ฟ"-"ฐา" ที่เป็นนักแสดงอิสระซึ่งเคยผ่านการแสดงหนังมาหลายเรื่องแล้ว จนนักสันทัดบางคนพลางคิดว่า เรื่องต่อไปของเวฟฯ อาจจะวานจ้างนักร้องนักแสดงจากแกรมมี่อีกรึเปล่า และต้องใช้เพลงประกอบจากทางแกรมมี่หรือไม่ ดูๆ ไปเหมือนละครช่อง3 ทั้งที่เวฟฯเองก็หุ้นกับช่อง3 (กลัวจะซ้ำซ้อนเอา)
ล่าสุด ทองสุก 13 เอาชนะอาถรรพ์เลขเด็ดจนได้ ด้วยรายได้ทะลุ 30 ล้านบาทภายในสองสัปดาห์ และกำลังเก็บสะสมอยู่ต่อไป
อีกทั้งเตรียมส่งไปฉายนอกประเทศ โดยมี "ไฟว์สตาร์" ที่ไม่ได้ร่วมควักเงินสร้าง แต่รับหน้าที่ดูแลการตลาดต่างประเทศ รองรับ AEC ไว้ได้เลย
ด้าน "คู่ซี้ดีแต่ฝัน" งานชิมลางแบบบัดดี้ ที่ขายชื่อ "แบงค์ แคช"-"เวย์ ไทเทเนียม" อย่างเด่นชัด ทั้งแสดงนำ ยังกำกับฯเอง ดำเนินงานสร้างด้วยตัวเอง..และล้อเรื่องตัวเองในหนังด้วย จนเรียกว่าเป็นงานซุปเปอร์เซฟของทั้งคู่ไปแล้ว แถมยังได้ดาวเด่นของวงการหนัง เพลง ทีวี มาร่วมแสดงไว้คับคั่งแบบไม่แยกค่าย จนบางคนก็พลางคิดอีกว่า คงจะเดินตาม เท่งโหน่งคนมาหาเฮีย บวก ผู้หญิง 5 บาป นั่นแหละ
เรื่องล่านี้กำลังเก็บเงินอยู่เช่นกัน แต่เพิ่งเบิกโรงเพียงไม่กี่วัน เดี๋ยวค่อยทราบว่าเก็บได้สักเท่าไรดี และจะขายให้ต่างชาติชมด้วยไหม รายได้เพียงตัวเลข
ก้าวนี้เพียงหนึ่ง ย่อมเจอข้อบกพร่องเป็นธรรมดา ซึ่งเราอาจจะต้องจับตาก้าวต่อไปของผู้สร้างรายใหม่เหล่านี้ โดยเฉพาะผู้ที่มีแบ็คอัพระดับช่องดังอย่าง "เวฟ พิคเจอร์ส" ที่อาจจะลุยหนังอีกสัก 2 เรื่องไว้ให้ติดตามภายในปีเดียวกัน ไม่แน่ว่าอาจจะเตรียมขึ้นแ่ท่นเป็นค่ายหนังอันดับต้นๆ ก็ได้ ส่วนน้องเล็ก "เซย์แคช ฟิล์ม" หวังว่าในเรื่องถัดไปอาจมีชื่อ แบงค์ หรือ เวย์ เป็นพระเอกอยู่อีกก็เป็นได้
แม้คนเราจะหวั่น จะเกรง จะมอง จะกดดันอย่างไรที่คิดเป็นเรื่องสำคัญ แล้วสักวันก็ไม่เป็นเรื่อง แต่เหนืออื่นใดที่สำคัญกว่าคือ..ในเมื่อเราควรให้โอกาสคนที่เรียกว่า "หน้าใหม่" บ้าง พยายามนะ ทำสิ่งที่ฝันให้ดี ให้เสร็จ ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ ก่อนจะสายไปและเป็นที่ก่นว่ากันจนเยอะ
มีอะไรจะชม มีอะไรจะชัง เชิญตามสบาย สวัสดี