ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนนี้ วงการบันเทิงไทยมีหลายข่าวที่เรา ๆ ต้องสะดุดด้วยความยินดีและสูญเสีย

ฝั่งสูญเสีย เห็นจะเป็นการจากไปไม่กลับของคุณทองก้อน ศรีทับทิม ผู้กำกับคู่ใจของบัณฑิต ฤทธิ์ถกล ด้านดนตรีก็เสียคุณป๊อป จักรกฤษณ์ และอาหมู-เดชา อินทาภิรัต ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักร้องชื่อดังหลายท่าน ด้านคอลัมนิสต์ข่าวก็เสียคุณโสภณ องค์การณ์

ส่วนที่เป็นห่วงก็คือน้าต๋อย เซมเบ้ นักพากย์หนังและการ์ตูนขวัญใจเด็ก ๆ หลายรุ่น ซึ่งกำลังนอนป่วยอยู่

และที่ต้องขออวยพรวันเกิดในวัยเข้าเลขแปด ก็คือคุณสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือ "เสี่ยเจียง" ประธานใหญ่ "สหมงคลฟิล์ม" นั่นเอง

ซึ่งในงานฉลองวันเกิดเมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา มีแขกเหรื่อไปร่วมอวยพรอย่างคับคั่ง รวมถึงบรรดาผู้กำกับรุ่นเก๋าทั้งที่เคยและยังเกาะเกี่ยวบ้านหลังนั้นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นพี่ปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้กำกับอินเตอร์  พี่อุ๋ย-นนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับหนังร้อยล้านคนแรกของไทย พี่อ๊อด-บัณฑิต ทองดี น้าอังเคิล-อดิเรก วัฏลีลา เป็นต้น

เห็นบรรยากาศวันนั้นแล้วก็อดเป็นห่วงความเป็นอยู่ของค่ายหนังเก่าแก่ตราใบโพธิ์ไม่ได้ เพราะวันนี้คอหนังทั่วไปอาจไม่ค่อยสนใจมากนักหรืออาจจะลืมพะยี่ห้อนี้กันไปแล้ว

ทั้งที่เป็นค่ายหนังที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงทศวรรษ 2000 ถือเป็นเบอร์หนึ่งของตลาดหนังไทย เพราะเคยทำสถิติหนังไทยเข้าฉายมากที่สุด ถ้าจำไม่ผิด ในปีหนึ่งมีหนังจากค่ายนี้ฉายเกือบ 20 เรื่อง

แถมยังเคยได้สมญานาม "มหาวิทยาลัยหนังไทย" เพราะมีคนทำหนังและผู้กำกับมือเก๋าระดับชาติเดินเข้าเดินออกค่ายนี้เป็นว่าเล่น นับชื่อได้ไม่หมดจริง ๆ

แต่ปัจจุบันสถาบันแห่งนี้กลับต้องเสียแชมป์ ด้วยปัจจัยรายล้อมเปลี่ยนไป สังขารค่อย ๆ โรยรา ผู้ร่วมสร้างและผู้กำกับดี ๆ จึงหนีไปซบที่อื่นกันเยอะ เหลือแค่เหล่าหัวกะทิบางท่านที่ยังภักดีมิแปรเปลี่ยน จึงทำให้จำนวนผลงานที่ฉายในแต่ละปีลดลงแค่ไม่กี่เรื่อง

ไหน ๆ ใกล้จะเข้าปีหน้า เราในฐานะผู้ติดตามอยู่ห่าง ๆ นอกจากจะอวยพรต่อชีวิตเสี่ยเจียงแล้ว ยังหวังจะให้ "สหมงคลฟิล์ม" ในยุคผลัดใบได้กลับมายืนสง่าให้คนไทยและชาวโลกจับจองมากกว่านี้ แม้จะไม่ใช่ที่ 1 แต่ก็ทยอยผลิตหนังดี ๆ เด่น ๆ ออกมาเรื่อย ๆ ให้คนไม่ลืม 

ว่าแล้วต้องวานพวกเวิร์คพอยท์ หรือ หม่ำ เท่ง โหน่ง กลับที่เก่าซะบ้าง มีสิทธิ์โกยเงินระดับร้อยล้านหรือพันล้านก็เป็นได้

ขอให้บ้านใบโพธิ์หลังนั้นแข็งแรงสืบไป สวัสดี.