ดาบิด เด เกอามักจะตกเป็นข่าวพาดหัวใหญ่ให้สื่อผู้ดีอังดฤษได้รุมยำอยู่เสมอถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะใหญ่โตหรือเล็กน้อย แต่สำหรับค่ำคืนที่สนามเบร์นาบิว ชื่อของเขาได้ถูกนำไปพาดหัวในรูปแบบที่ต่างออกไป

นั่นก็คือพาดหัวใหญ่เพื่อ 'ยกย่อง' ฟอร์มการเซฟประตูของเขานั่นเอง



ตำแหน่งผู้รักษาประตูเหมือนจะเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับเฟอร์กูสันมาตลอด นับตั้งแต่ปีเตอร์ ชไมเคิ่ลแยกทางออกไป เฟอร์กี้ต้องใช้เวลา 6 ปีกว่าที่จะแก้ปัญหาหนักอกในการดึงเอาเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ที่เข้ามาช่วยทีมซิวทั้งแชมป์พรีเมียร์ ลีกและแชมป์เปี้ยนส์ ลีกได้

และดูเหมือนว่าปัญหานั้นจะยังคงหลอกหลอนกุนซือเฒ่าอยู่ไม่จาง เพราะเขายังเลือกไม่ได้เลยว่าจะให้เด เกอาหรืออันเดอร์ส ลินเดการ์ดเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งดี แม้ว่าจะทุ่มเงินสูงถึง 17 ล้านปอนด์ดึงนายด่านกระทิงมาร่วมทีมก็ตาม

นับแต่ย้ายมาเล่นให้กับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในช่วงปลายเดือนมิถุนายน ปี 2011 เส้นทางของดาบิด เด เกอาเหมือนกราฟที่ไม่มีวันนิ่งขึ้นลงตลอดเวลา โดยเฉพาะในซีซั่นที่แล้วที่บางส่วนพูดเลยว่าความผิดพลาดของเขาในแต่ละเกมส่งผลไม่มากก็น้อยต่อเส้นทางการลุ้นแชมป์ของแมนฯยูไนเต็ดที่โดนแมนเชสเตอร์ ซิตี้แซงดราม่าในนาทีสุดท้ายเข้าวินไป

แต่หลังจากหลายเกมที่ผ่านพ้น ช่วยเพิ่มทั้งความมั่นใจและการปรับตัวให้กับเด็กหนุ่มที่ต้องจากบ้านตัวเองมาไกลด้วยวัยเพียง 20 ต้นๆแล้วมันก็ทำให้เขาแข็งแกร่งมากขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ

แม้ว่าจะมีการถกเถียงมากเพียงใดระหว่างกลุ่มแฟนบอลในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดหรือสโมสรอื่นถึงความความสามารถของเด เกอาที่ข้องใจว่า 'ของจริง' หรือเปล่า แต่แน่นอนเลยว่าเกมที่ "ปีศาจแดง" บุกไปควักความได้เปรียบมาจากบ้านของ "ราชันชุดขาว" ในเกมนัดแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้ายแชมป์เปี้ยนส์ ลีกนั้นทุกคนย่อมพูดออกมาเป็นเสียงและทิศทางเดียวกัน



เพียงแค่ 5 นาทีแรก เด เกอาก็โชว์ลูกเซฟระดับโลกปฏิเสธจังหวะยิงของฟาบิโอ โคเอ็นเทราที่เติมขึ้นมาเอียงตัวปั่นบอลพร้อมเสียบเสาอยู่แล้ว แต่เขาก็พุ่งไปบินปัดเอาไว้ได้ปลายนิ้วจนทำให้บอลเปลี่ยนวิถีไปชนเสาแทน



เวลาล่วงเลย แมนฯยูไนเต็ดยิ่งขยับถอยหลังไปยืนต่ำกันมากขึ้น เป็นเหมือนการร่างบททดสอบสำคัญที่จะทำให้เด เกอาได้สร้างชื่อของตัวเองในบิ๊กแมตช์ที่สุดเกมหนึ่งที่ทุกสายตาทั่วโลกจับจ้องอยู่ แม้ว่าเฟอร์กูสันจะให้คำมั่นก่อนเกมว่านัดนี้ลุยไม่มีอุด พร้อมส่งโรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เวย์น รูนี่ย์, แดนนี่ เวลเบ็คและชินจิ คากาวะลงพร้อมพรั่ง แต่จากการที่ประตูเบิกร่องของตัวละครลับอย่าง 'โก๋แดน' โดนคริสเตียโน่ โรนัลโด้เด็กเก่าตีเจ๊าเอาคืนภายในช่วงเวลาแค่ 10 นาที ทำให้ "ปีศาจแดง" ไม่มีทางเหลืออื่นนอกจากต้องเล่นให้รัดกุมและแน่นอนเข้าไว้



แต่แผนที่ว่าจะไม่มีทางสำเร็จแน่นอน หากเกมเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาไม่มีชื่อของ 'เด เกอา' ลงเฝ้าเสา

หลังจากซูเปอร์เซฟแรกไปแล้ว นายด่านกระทิงดุก็จัดการโชว์หนึบอีกหลายจังหวะตลอดทั้งเกม รวมทั้งจังหวะการใช้เท้าสกัดบอลที่โคเอ็นเทราพุ่งเข้ามาโฉบสไลด์ยิงกำลังจะเบียดเสาเข้าไปแล้วอีกรอบที่ทำให้หลายคนต้องปรบมือให้

ลูกเซฟดังกล่าวหากจะให้มาดูกันจริงๆแล้วนั้นเด เกอาตัวถลำจากการต้องไล่ดูบอลที่เปิดโยกมาจากอีกฝั่งหนึง ทำให้เขายืนบนเส้นประตู หากตัดสินใจใช้มือปัดก็สุ่มเสี่ยงเหลือเกินที่บอลจะปลิ้นข้ามเส้นไปได้ จึงต้องชื่นชมการตัดสินใจใช้ 'เท้า' ของเขาที่เราๆไม่ค่อยได้เห็นกันมากนักในตัวของผู้รักษาประตูยุคปัจจุบัน





คำถามที่หลายคนเคยสงสัยถึงจังหวะที่เด เกอามักจะเซฟได้แต่ไม่สามารถเคลียร์บอลให้พ้นพื้นที่อันตรายได้นั้น กับเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมานั้นไร้ซึ่งข้อสงสัยอย่างแน่นอน

เกมนี้หากจะให้ชมเด เกอาฝั่งเดียวก็กระไร เพราะดิเอโก้ โลเปซนายด่านของเรอัล มาดริดเองก็โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน เขาปัดป้องจังหวะยิงของนักเตะแมนฯยูไนเต็ดได้หลายครั้ง โดยเฉพาะจังหวะการยิงของฟาน เพอร์ซี่เน้นๆ 2 ดอกที่ลงเอยด้วยการไม่เป็นประตู

เกมใหญ่เช่นนี้มันเป็นเรื่องง่ายที่เราจะโฟกัสไปที่โคตรแข้งของทั้งสองทีมอย่างโรนัลโด้, ฟาน เพอร์ซี่หรือสตาร์คนอื่นๆ แต่เห็นได้ชัดเลยว่าผลการแข่งขันของเกมนี้ถูกตัดสินด้วย 2 มือของผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยม

ปีเตอร์ เช็กโชว์ฟอร์มหนึบให้กับเชลซีพาทีมคว้าแชมป์ยุโรปได้เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์, เจอร์ซี่ย์ ดูเด็คพ่อปลาหมึกช่วยสร้างปาฏิหารย์ให้ลิเวอร์พูลคัมแบ็คสุดช็อกคว้าถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ ลีกเหนือมิลานในปี 2005 ที่จะถูกจดจำไปอีกนานแสนนาน

ฉะนั้นมันคงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้หากนายด่านที่โดนวิจารณ์มากที่สุดบนเกาะอังกฤษอย่าง 'ดาบิด เด เกอา' จะมีส่วนช่วยให้ทีม "ปีศาจแดง" ลงเอยซีซั่นนี้ด้วยการเป็นเจ้ายุโรปอีกใช่ไหมล่ะครับทุกท่าน ...



credit : www.soccersuck.com