ในความทรงจำ 'ประตูแห่งศตวรรษ' ของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก่อนที่จะกลับไปเยือน แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อีกครั้ง


โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ จะได้กลับไปเยือน โอล แทรฟฟอร์ด อีกครั้ง หลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โคจรมาพบกับ เฟเนร์บาห์เช่ ในฟุตบอลรายการ ยูโรป้าลีก ในสัปดาห์นี้

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันยกย่องว่ามันเป็น "ประตูแห่งศตวรรษ" จากการโหวตจาก ผู้เล่นที่ทำได้เกิน 100 ประตูที่จบสกอร์ได้ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีกตลอด 25 ปี ซึ่ง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังชื่นชอบเขาเป็นการส่วนตัวอีกด้วย

ประตูนี้เป็นประตูที่สอง ที่ฟาน เพอร์ซี่ยิงแอสตัน วิลล่าในปี 2013 ซึ่งเป็นปีที่นำถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 20 มาให้กับยูไนเต็ด

โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ จะกลับมาอีกครั้งในวันพฤหัสนี้ แต่ครั้งนี้ เขากลับมากับกับเฟเนร์บาห์เช่ สโมสรใหม่ของเขา

มีการเปลี่ยนแปลงไปมากมายทั้งกับ ยูไนเต็ดและดาวยิงวัย 33 ปีคนนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2013 วันที่เขายิงประตูแอสตัน วิวล่า หลังจากแยกย้ายกันไป ทั้งสโมสรและผู้เล่นต่างก็ยังไม่ประสพความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม

หลังจากกันสามปี, แต่ในสัปดาห์นี้ ช่วงเวลาแห่งความมหัสจรรย์จะกลับมาอีกครั้ง

"สิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับประตูนั้นก็คือ เรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังมัน" ฟาน เพอร์ซี่กล่าว และมันก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาว

หลังจากที่เสียแชมป์พรีเมียร์ลีกไปให้กับแมนเชสเตอร์ซิตี้เมื่อปีก่อนนั้น, เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสันไม่พอใจเป็นอย่างมากและกำลังมองหาวิธีการแก้ปัญหา "ไม่มีอะไรที่น่าเจ็บใจ เท่ากับเสียแชมป์ไปให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้อีกแล้ว" เขาเขียนไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติของเขา

ลูกยิงในตำนานที่ยิง แอสตัน วิลล่า ในฤดูกาล 2012/2013

ซึ่งการดึงตัวฟาน เพอร์ซี่ ก็คือวิธีแก้ปัญหา  สัญญาของเขาที่อาร์เซนอลกำลังจะหมดลง เฟอร์กูสันยื่นข้อเสนอ £24 ล้าน เพื่อขอซื้อตัวเขา หลังการย้ายตัวเกิดขึ้น เจมี่ เรดแนปป์ ผู้บรรยายของสกายสปอร์ตกล่าวว่า "เขาจะทำให้ยูไนเต็ดมีความเฉียบคมขึ้น"

หลังแปดปีที่อาร์เซนอล, ฟาน เพอร์ซี่ได้เพียง แชมป์ เอฟเอคัพในปี 2005 และถ้วยแชริตีชีลด์ 12 เดือนก่อนหน้านี้เท่านั้น แต่ในฤดูกาล 2012/13 เขายิงประตูพายูไนเต็ดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก

โดยกลางเดือนกุมภาพันธ์ ฟาน เพอร์ซี่ยิง 23 ประตูจากทุกรายการ และทำแต้มทิ้งห่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับสองถึง 12 คะแนน

ฟาน เพอร์ซี่ ฉลองประตูกับ ไรอัน กิ๊กส์

แม้จะทำประตูไม่ได้สองเดือน แต่ยูไนเต็ดกลับเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง ฟาน เพอร์ซี่ยิงประตูอีกครั้งในเกมส์กับสโต๊คและเวสต์แฮม ทำให้ทีมขยับเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์

แอสตันวิลล่า ทีมที่ต้องการคะแนนเพื่อดิ้นรนหนีการตกชั้น ส่วนเจ้าบ้านได้รับการสนับสนุนจากกองเชียร์ ถ้าพวกเจาชนะ จะเป็นการนำถ้วยแชมป์กลับคืนสู่สโมสร

บรรดาแฟนบอลต้องรอเพียงแค่ 83 วินาทีเท่านั้นสำหรับประตู  ไรอัน กิ๊กส์ เปิดจากเสาแรก ผ่านหน้าประตูและ ฟาน เพอร์ซี่ ยิงง่ายๆเข้าไป - แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง

นาฬิกาเดินมาถึงนาทีที่ 13 เป็นช่วงเวลาที่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ คงไม่มีวันลืม

เวนน์ รูนีย์ ซึ่งวันนั้นเล่นในตำแหน่งกองกลาง ได้บอลบริเวณกลางสนาม จากนั้นรูนีย์จัดการโยนบอลไปข้างหน้า เป้าหมายอยู่ที่ ฟาน เพอร์ซี่ เขาวอลเลย์เต็มแรงนอกกรอบเขตโทษบอลพุ่งแรงราวกับลูกกระสุน เข้าประตูทางด้านซ้ายมือของ แบรด กูซาน ผู้รักษาประตู

"มันคือเทคนิคที่มหัศจรรย์ ดวงตาของเขาจ้องไปที่บอล เมื่อบอลลอยข้ามมา มันเป็นจังหวะเวลาในการยิงที่สมบูรณ์แบบมันเป็นลูกยิงที่น่าเหลือเชื่อ"

"สำหรับผม มันเป็นการจบสกอร์ที่ดีที่สุดในศตวรรษ" เฟอร์กูสันกล่าวหลังเกม "มันคือเทคนิคความสามารถที่มหัศจรรย์ เขาก้มลงมามองบอล ลูกบอลลอยข้ามมา มันเป็นจังหวะเวลาในการยิงที่สมบูรณ์แบบมันเป็นลูกยิงที่มหัศจรรย์.."

อดีตผู้จัดการทีมยังยกย่อง รูนีย์สำหรับผ่านบอลไกล 40 หลา ที่สมบูรณ์แบบทั้งน้ำหนักและทิศทาง ทำให้ ฟาน เพอร์ซี่ วอลเลย์เข้าไปในจังหวะเดียว

"เวย์นจะสร้างสิ่งที่พิเศษเกิดขึ้นในเกมส์เสมอ" เฟอร์กูสันเขียนไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติของเขา "ในปีสุดท้ายของผม มีสองสามครั้งเมื่อเขาถูกเปลี่ยนตัวลงมาในเกม ผมก็รู้สึกว่าเขาต้องการต่อสู่เพื่อพิสูจน์ตัวเองกับคนที่สูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเขา  และเขาสามารถสร้างผลงานได้ไม่ธรรมดา การผ่านบอลให้ ฟาน เพอร์ซี่ ทำประตูในชัยชนะเหนือแอสตันวิลล่านัดนั้น เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราคว้าแชมป์เอาไว้ได้ มันคือความมหัศจรรย์"

ในเกมส์นั้น ฟาน เพอร์ซี่ไม่ได้ยิงแค่สองประตู แต่ก่อนพักครึ่งเวลา เขาทำแฮตทริก, จากการสวนกลับ เขาทำอีกประตูจากการจ่ายบอลของ ไรอัน กิ๊กส์ ดาวเตะทีมชาติฮอลแลนด์เกือบทำได้อีกประตูในครึ่งหลัง แต่เป็น อันเดียส ไวมันด์ ที่เคลียร์ลูกออกไปได้ก่อนที่จะข้ามเส้นประตู ทำให้จบเกมส์ด้วบสกอร์ 3-0

หลังเสียงนกหวีดยาว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฉลิมฉลองแชมป์ลีกสมัยที่ 20 - และเป็นแชมป์ลีกครั้งที่ 13 และครั้งสุดท้ายของเซอร์อเล็กซ์เฟอร์กูสัน - แม้จะเหลืออีกสี่นัดก่อนปิดฤดูกาล

ฟาน เพอร์ซี่ ชูถ้วยพรีเมียร์ลีก ในปี 2015

"ผมต้องรอแชมป์แรกมานานมาก มันเป็นความรู้สึกที่ดี" ฟาน เพอร์ซี่ กล่าวหลังเกม

เขาได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับ MUTV เขากล่าวเสริมว่า "บางทีถ้าคุณมองย้อนไปวันนั้น โอกาสและความสำคัญของประตูนั้น มันคือประตูที่ดีที่สุดของผม มันเป็นการเปิดบอลที่ดีจากเวย์น เขามองเห็นผมขยับและเริ่มวิ่ง เพราะตอนแรก ผมอยู่ข้างหน้า รอน ฟลาร์ จากนั้น สิ่งเดียวที่ผมต้องทำก็คือกะจังหวะให้ดีและรักษาสมดุลร่างให้ตรงและอยู่ในระดับเดียวกันกับลูกฟุตบอล

"คุณจำเป็นต้องเป็นมีโชคนิดหน่อย เพราะส่วนใหญ่มันจะข้ามคานหรืออกข้าง ผมโล่งใจที่มันเข้าประตูไป "

แฮตทริกของ ฟาน เพอร์ซี่ หลังจบเกมส์ที่ชนะแอสตันวิลล่า ส่งผลให้เขาได้ตำแหน่งรองเท้าทองคำในฤดูกาลนั้น เอาชนะ หลุยส์ ซัวเรส ของลิเวอร์พูล โดยเขายิงไปทั้งสิ้น 26 ประตู เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน พึงพอใจมากกับการเซ็นต์สัญญากับเขาในช่วงฤดูร้อนมันคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง

ประตูนั้นคือประตูที่ดีที่สุดของผม

"ผมไม่สามารถจินตนาการได้ว่า จะมีผู้เล่นคนไหนสร้างผลกระทบ ได้มากเท่ากับเขา" ผู้จัดการทีมกล่าว"ปีที่ผ่านมา เขาเล่นได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากที่เราตกลงเรื่องการย้ายทีมเรียบร้อยแล้ว อาร์แซน เวนเกอร์ บอกกับผมว่า เขาเก่งกว่าที่ผมคิด และ ใช่ เวนเกอร์ พูดถูก เขาไม่เคยสร้างความผิดหวังให้เรา เขาเล่นดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ  ฟอร์มของเขายอดเยี่ยมมาก เขาอาจต้องพักมากกว่ากองหน้าส่วนใหญ่ แต่เมื่อเขากลับมา เขาจะมีค่ำคืนอันเหลือเชื่อ"

ขณะที่กุนซือชาวสก๊อตพูดคุยถึงความสามารถของผู้เล่นเยาวชนในทีมและ ฟาน เพอร์ซี่ ได้พูดถึง"การสร้าง มาตรฐาน" ของความสำเร็จเพื่อที่จะปฏิบัติตาม แต่ในช่วงฤดูร้อนนั้น อเล็ก เฟอร์กูสันกลับเกษียณอายุ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง

ถูกขายให้กับ เฟเนร์บาห์เช่ ในลีกตุรกี ในปี 2015

ยูไนเต็ด ไม่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้ตั้งแต่นั้น ส่วน ฟาน เพอร์ซี่ ถูกขายให้กับ เฟเนร์บาห์เช่ ในลีกตุรกี ในปี 2015

ฟาน เพอร์ซี่  ทำ 16 ประตู จาก 31 นัด ในฤดูกาลแรกของเขาในลีกตุรกี แต่ปีนี้ เขาได้ลงตัวจริงแค่ 1 นัด และเป็นตัวสำรอง อีก 4 นัด หนังสือพิมพ์เริ่มตีข่าวว่าเขาจะย้ายทีม

เขาจะกลับมาที่ โอล แทรฟฟอร์ด ในสัปดาห์นี้ เพื่อผชิญหน้ากับทีมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย จากทีมที่คว้าแชมป์ ซึ่งเขาได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ดจะได้พบกับบุคคลที่ เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน บรรยายไว้ในปี 2013 ว่าเป็น "เพชรฆาต" ที่ไร้ความปราณี

ความทรงจำที่สวยงามในการจบสกอร์ในเกมส์กับ แอสตัน วิลล่า- และสิ่งที่ ฟาน เพอร์ซี่ สร้างขึ้นที่ยูไนเต็ด

จะยังคงอยู่ตลอดไป

Stromwriter แปล

All Credit
ที่มา http://www.skysports.com/football/news/15115/10614833/robin-van-persies-goal-of-the-century-remembered-as-he-returns-to-manchester-united


อ่านบทความที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://www.facebook.com/Stromwriter/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่